Tag: กระทู้ผี
เจ็ดวันสืบตาย ความลับของสมุดสีน้ำตาล
เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราถึงต้องตั้งศพคนตายไว้นานถึง 7 วัน... เขาว่ากันว่า เพราะคนเรา หลังจากที่ตายจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย วิญญาณจะยังคงล่องลอยไปทั่ว กว่าจะค่อยๆระลึกได้ และกลับคืนสู่ร่างเดิมในที่สุด
วันที่ 1 เราเดินทางไปงานศพลูกหอคนหนึ่ง ที่เคยอาศัยอยู่ในห้อง 307 เธอตายกะทันหันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เราไปพบกับพ่อแม่เธอที่งานศพ และนัดแนะวันที่จะพวกเขาจะมาขนข้าวของเธอออกไปจากห้อง
บรรยากาศงานศพดูเงียบเหงา ระหว่างกำลังนั่งฟังพระสวด ก็รู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องเราอยู่ เป็นความรู้สึกแรงวาบ จนเราต้องหันไปมองหาสายตาคู่นั้นทั่วศาลา และก็พบผู้ชายคนหนึ่ง นั่งอยู่ในมุมอับบริเวณงานศพ เราจ้องเขา... เขาก็จ้องเราตอบ...
ท ำ ไ ม ไ ม่ ไ ป ง า น...
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แม่เราเจอกับตัวเอง แม่เล่าให้ฟังว่า..
สมัยที่แม่ยังสาวเพิ่งคลอดเราได้ 2-3 เดือน ก็ย้ายจาก กทม. มาอยู่ลำปาง ซึ่งบ้านที่อยู่จะเป็นบ้านที่แม่อาศัยอยู่ตั้งแต่เด็ก
อยู่มาวันนึงยายวิ่งมาบอกทุกคนที่บ้านว่า อุ๊ย (พี่ของยาย) แกตกลงมาจากยุ้งข้าว ญาติทุกคนก็พากันไปเยี่ยมแก แม่ก็พาเราไปเยี่ยมด้วยเพราะอยู่บ้านคนละหลัง บ้านจะห่างกันไม่มาก แต่ในหมู่บ้านเดียวกัน
แม่อุ้มเราไปแนะนำให้อุ๊ยรู้จัก แกก็ได้แต่มองเรา พูดอะไรก็ไม่ได้ แต่ด้วยความที่อุ๊ยแก่แล้ว อาการป่วยจากอุบัติเหตุบวกกับโรคคนแก่ ทำให้อาการแย่ลงเรื่อยๆ แกจะลุกไปไหนไม่ได้ ต้องนอนอยู่ตรงกลางบ้านทั้งวัน
ทุกครั้งที่อุ้ยรู้สึกเจ็บหรือทรมานมากๆ แกจะใช้ส้นเท้ากระทืบพื้นไม้ที่นอนอยู่เป็นจังหวะ ตึก..ตึก..ตึก.. ...
“แฝด” แด่….กอและติ
กอกับติเป็นฝาแฝดที่หน้าคล้ายกันมาก ทั้งสองคนเกิดและโตที่ต่างจังหวัด เมื่อถึงเวลาเข้ามหาวิทยาลัยทั้งสองเลือกเรียนที่เดียวกันแต่คนละคณะ กอเรียนเศรษฐศาสตร์ ติเรียนจิตวิทยา ทั้งคู่พักอยู่หอห้องเดียวกัน
กอเป็นคนไม่ชอบแต่งหน้าและเกลียดเครื่องสำอางค์ ผิดกับติที่เป็นคนรักสวยรักงาม เมื่อก่อนติพยายามจะช่วยแต่งหน้าให้กอเสมอ แต่ก็โดนโกรธทุกครั้ง เธอจึงเลิกวุ่นวายเรื่องนี้ เมื่อทั้งคู่เดินด้วยกันติจึงดูโดดเด่นกว่าเสมอ
เย็นวันนึงติบอกกับกอด้วยความตื่นเต้นว่าเธอมีแฟนแล้ว เป็นนักกีฬาว่ายน้ำชื่อพี่ฟอ ทั้งคู่กอดกันใหญ่เพราะก่อนหน้านี้ถึงจะมีหนุ่มๆเข้ามาจีบอยู่เรื่อยๆแต่ติไม่เคยคบใครเป็นแฟนเลย กอเองก็ยินดีกับติและบอกว่าถึงเวลาที่ตัวเองต้องหาแฟนบ้างแล้ว…
ติเลยพูดว่าถ้าเธอแต่งหน้าล่ะก็เธอจะต้องสวยมากๆแน่ แต่กอก็ปฏิเสธอยู่ดี แถมบอกว่าเราจะไม่แต่งหน้าจนกว่าจะเจอคนที่ชอบเราตอนเราหน้าสด
ติหัวเราะดังลั่นแล้วก็เม้าท์เรื่องพี่ฟอให้ฟังต่อว่าเจอกันได้ยังไง จีบกันยังไง พี่เค้าซ้อมอยู่ที่สระไหน ซ้อมกี่โมง
จากวันนั้นไม่นานกอก็มีแฟนบ้าง แต่แฟนของเธอเป็นคนเจ้าชู้ กอจะจับได้ทุกครั้งที่แฟนมีผู้หญิงคนอื่น ต้องมานั่งปลดทุกข์กับติอยู่เสมอ คิดน้อยอกน้อยใจว่าทำไมแฟนไม่ดีเท่าครึ่งของพี่ฟอบ้าง จนกอทนไม่ไหวเลิกกับคนนั้นแล้วกลับมาโสดอีกครั้งโดยมีติคอยให้กำลังใจเสมอมา
หลังจากวันนั้นก็ใกล้วันเกิดของทั้งคู่...
ด้วยคำพูดเพียงเจ็ดพยางค์ มีแขกมาขโมยลูกแม่
เรื่องนี้เราได้ฟังมาจากแม่ เรื่องมีอยู่ว่า...ตอนแม่สาวๆ แม่ยังไม่รู้จักพ่อ แม่ทำงานเป็นพนักงานขายเสื้อผ้าในห้างในกรุงเทพฯ วันนั้นแม่กับเพื่อนไปทำบุญกันที่วัดแถวพระโขนง หลังจากทำธุระอะไรเสร็จกำลังเดินออกจากวัด มีพระท่านหนึ่งเรียกแม่เข้าไปหา
"โยม มีคนชอบ เค้าอยากอยู่ด้วย"
แม่เราเข้าใจทันทีว่าคืออะไร แต่แม่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนเลยบอกท่านไปว่าแม่ไม่รู้จะดูแลเค้ายังไง พระท่านยิ้มแล้วก็ตอบว่า
"ถ้าเค้าอยากได้อะไร เดี๋ยวเค้าบอกโยมเอง"
แม่ตอบตกลงทันทีเพราะแม่อยากรู้ว่าถ้าเลี้ยงแล้วจะเป็นยังไง พระท่านก็ให้ไม้ 2 ท่อนที่มีผ้าพันไว้ส่งให้แม่แล้วบอกทิ้งท้ายว่า..
"โยมไม่ต้องห่วง..เด็กๆน่ารัก"
หลังจากกลับมาจากวัด แม่ตื่นเต้นกับลูกคนใหม่มาก ทุกครั้งที่จะทำอะไรแม่จะบอกลูกๆก่อนเสมอ
"แม่ไปทำงานแล้วนะ อยู่บ้านรอแม่นะลูก"
เวลาทานข้าวแม่ก็จะเรียกลูกๆมาทานด้วย
"กินข้าวกับแม่นะ"
"ช่วยเรื่องงานของแม่ด้วยนะลูก"
เป็นอย่างนี้จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ แม่ก็พูดกับลูกว่า
"แม่อยากเห็นหนูจังเลย"
แล้วคืนนั้นแม่ก็ฝันทันที แม่เล่าว่า เห็นเด็กผู้ชาย 1...
วิญญาณหญิงสาวที่…โค้งผา
มีเรื่องเล่ากันมานานเกี่ยวกับโค้งผาที่มีวิวสวยสดงดงาม ที่จังหวัดชายทะเลแห่งหนึ่ง บริเวณนั้นเป็นถนนเลียบผาริมทะเล และอีกฝั่งเป็นภูเขา เวลาเช้าพระอาทิตย์ขึ้นและเย็นๆ ตอนพระอาทิตย์ตกดิน ทิวทัศน์ที่นี่จะสวยมาก ข้อเสียคือไม่มีจุดพักชมวิวหรือถ่ายรูป คนที่ผ่านไปมาเลยทำได้แค่ขับรถผ่านและลอบชมวิวอย่างระมัดระวังเพราะทางค่อนข้างแคบ
ตามมารยาทแล้วก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แล้วมันก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรต่อมา หากไม่มีคนที่เริ่มเอาคลิปจากกล้องหน้ารถที่ขับผ่านจุดนี้ในช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กแล้วได้รับความสนใจแชร์ต่อๆ กันเป็นจำนวนมาก ทำให้คนที่ได้เห็นต่างพากันหลงใหลวิวสวยงามของที่นี่และพากันแห่มา
แรกๆ ก็ใช้เทคนิคขับชะลอเพื่อให้คนที่นั่งมาด้วยเก็บภาพ ก็ยังพอจะผ่านไปกันได้ แต่มาหลังๆ บางคันนึกว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พากันจอดรถบนถนนแล้วลงมาเดินถ่ายรูปกันครึกครื้นจนรถติดยาวเป็นกิโลๆ วันสองวันยังไม่เท่าไหร่ แต่การณ์นี้ชักจะต่อเนื่องยาวนานเป็นสัปดาห์
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถบนั้นและจำเป็นต้องสัญจรไปมาผ่านถนนเส้นนั้นต่างพากันเดือดร้อน บางคนพยายามโพสต์แจ้งตามเพจหรือเว็บต่างๆ ที่เคยแนะนำให้มาที่โค้งนี้ว่าไม่ใช่จุดชมวิวหรือสถานที่เที่ยว และตอนนี้นักท่องเที่ยวนักถ่ายรูปทั้งหลายต่างแห่กันมาจนบางวันไม่สามารถใช้ถนนได้
แต่ก็เท่านั้น...
พ่ อ จ ะ เ อ า เ มี ย…ลู ก...
สมัยประถมเราเรียนโรงเรียนอยู่ในอำเภอนึงในภาคเหนือ เป็นโรงเรียนเอกชน มีสระว่ายน้ำ 2 สระสำหรับเด็กอนุบาลและโต ทำให้ที่โรงเรียนมีวิชาว่ายน้ำสอนด้วย
ครูที่สอนวิชานี้ไม่แก่มากนัก อายุราวๆ 24-29 ปี กำลังวัยรุ่นเลยในสมัยนั้น เป็นผู้ชาย 1 คน หญิง 1 คน พวกเด็กๆสนิทกับครูทั้ง 2 คนมากเพราะครูหน้าตาดีและใจดีทั้งคู่
ช่วงฤดูหนาวทางโรงเรียนจัดกิจกรรมให้นักเรียนนำของมาบริจาคให้ชุมชนแห่งหนึ่งที่อยู่บนดอยของ จ.เชียงราย
ครูประกาศว่าจะเปิดกล่องรับบริจาคเป็นเวลา 1 อาทิตย์ เรากับพวกนักเรียนคนอื่นก็เริ่มทะยอยขนเสื้อผ้า ผ้าห่ม...
ทวงของคืนตอนจบ สาเหตุของผีทางคืน
เช้าวันหนึ่งตอนที่ขมกำลังขึ้นมาที่ห้องบัญชีเพื่อเริ่มงานอยู่นั้น ในจังหวะที่กำลังเปิดประตูเข้ามานั้น ขมเห็นเหมือนเงาผู้ชายกำลังยืนจ้องหน้าพี่แอนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ข้างๆ แวบแรกขมตกใจมากจนเกือบร้องทัก แต่ยังดีที่ตั้งสติไว้ได้ พอหันกลับไปดูอีกทีเงานั้นก็หายไปแล้ว
พี่แอนเงยหน้าขึ้นมามองขมพลางทักทายและถามว่า “มีอะไรรึป่าวขม” ขมเลยเฉไฉไปว่า “วันนี้พี่แอนมาทำงานเช้าจัง” พี่แอนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะบอกว่า “ก็ปกติของพี่นะ” ขมยิ้มแห้งๆ ให้ก่อนจะรีบเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเตรียมเริ่มงาน
ในระหว่างที่รอคอมพิวเตอร์เปิดอยู่นั้น ด้วยความที่ยังติดใจ ขมเลยแอบหันไปมองพี่แอนอีกครั้งเพราะขมจำได้แม่นเลยว่า เงาที่ยืนจ้องหน้าพี่แอนคือเงาเดียวกันกับที่ขมเห็นยืนเฝ้าหน้ากล่องกระดาษวันนั้น แล้วทำไมเงานั้นถึงมายืนจ้องหน้าพี่แอน...?
พี่แอนเหมือนรู้สึกว่าขมแอบมองเป็นระยะ เลยอดที่จะถามไม่ได้
“ขมมีอะไรจะถามพี่รึป่าว”
ขมที่พอถูกถามแบบนี้ก็ทำตัวไม่ค่อยถูก จะบอกพี่แอนไปตรงๆ ว่าเห็นเป็นเงาผู้ชายยืนจ้องหน้าอยู่ก็ใช่เรื่อง พี่แอนคงได้แจกบทด่าให้เป็นชุด เพราะส่วนตัวแล้วพี่แอนเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ที่สุด ใครมาเล่ามาอะไรให้แกฟัง...
ทวงของคืน หัวหน้าเอาของลูกค้ามาขาย เจอเจ้าของตามมาทวงคืน
ตัวของขมนั้นเป็นพนักงานบัญชีให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทนั้นมักจะเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งเหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นอีกหนึ่งในเหตุการณ์ที่ขมจำได้ดีและไม่มีวันลืม...
ในกลางเดือนกันยายนวันหนึ่ง เจ้านายซึ่งเป็นคนอังกฤษของขมเดินยกกล่องกระดาษสีน้ำตาลกล่องใหญ่ขึ้นมาวางไว้ที่หน้าห้องบัญชี ก่อนจะเปิดประตูเข้ามาเรียกให้คนในห้องลงไปช่วยกันขนของ ด้วยความที่ถูกเจ้านายสั่ง ขม พี่ยา และพี่แอนก็รีบลงไปช่วย โดยของที่ช่วยกันขนขึ้นมานั้นก็เป็นกล่องกระดาษสีน้ำตาลกล่องใหญ่เหมือนกับกล่องแรกที่เจ้านายยกขึ้นมา
แต่ละกล่องค่อนข้างหนัก ขมและพี่ยาเลยช่วยขนกันสองคน ส่วนพี่แอนก็ช่วยเจ้านายขนขึ้นมา หลังจากขนมาวางรวมกันเสร็จ โทรศัพท์ของเจ้านายก็มีสายเข้ามา เจ้านายหันมาพูดขอบคุณที่ช่วยขนของ ก่อนจะรีบรับสายที่โทรเข้ามาและเดินกลับไปยังห้องทำงานตัวเอง
ขม พี่ยา และพี่แอน มองดูบรรดากล่องใหญ่ที่ขนขึ้นมาวางด้วยความสงสัย แต่เพราะเป็นของที่เจ้านายขนมา เลยไม่กล้าที่จะแอบเปิดดู ทั้งสามคนเลยเลิกสนใจและเดินกลับไปทำงานต่อ
ซึ่ง...
เย็นในวันนั้น ตอนที่เลิกงาน...
บ้านขังวิญญาณ!! เรื่องจริงสุดสยอง ณ.บ้านหลังนึง ใน กทม. ที่เคยถูกนำไปสร้างเป็นหนัง..
เรื่องราวนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่คงต้องย้อนหลังไปเมื่อประมาณสามสิบกว่าปีก่อน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนึงที่ได้ไปซื้อบ้านมือสองอยู่ แล้วปรากฎว่าเจอเรื่องอาถรรพ์มากมาย เขาจึงได้ให้ อ.แบงค์ (ผู้เล่าเรื่อง) ไปช่วยดู..
โดยระหว่างนั้น อ.แบงค์ ยังได้พบเจอเรื่องราวสยองขวัญมากมายในบ้านหลังนี้ ต่อมาจึงได้นำมาเขียนลงในเว็บพันทิปและลงเฟซบุ๊คของเขาเอง
หลังจากเรื่องราวนี้ดังขึ้นมา ก็มีค่ายหนังนำบทไปสร้าง ใช้ชื่อเรื่องว่า ( My House บ้านขังวิญญาณ ) ที่นำมาจากเรื่องจริง ของ อ.แบงค์ ที่ช่วยเหลือลูกศิษย์ ซึ่งโดนวิญญาณร้ายตามรังควานในบ้านหลังหนึ่ง
ต่อมามีหลายท่านอยากรู้ว่าบ้านหลังนี้มีอยู่จริงไหม ...
แม่ชีที่ถูกไล่
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในจังหวัดมหาสารคาม เมื่อประมาณ 17 ปีที่ผ่านมา คุณย่ารับคุณปางมาเลี้ยงดูที่หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ทุกๆเย็น คุณปางและเพื่อนๆมักจะรวมกลุ่มเตะบอลกันเป็นประจำ
เย็นวันหนึ่ง หลังจากเล่นบอลกันจนเหนื่อย คุณปางและคนอื่นๆก็ได้ไปหาซื้ออะไรมานั่งทาน ในกลุ่มจะมีเพื่อนรุ่นพี่สามคน และเพื่อนรุ่นเดียวกับคุณปางสามคน แต่วันนั้น มีรุ่นพี่คนหนึ่งนึกพิเรนทร์ ซื้อเหล้ามานั่งดื่มด้วย
พอเมาได้ที่ รุ่นพี่ก็นึกคะนอง เขียนชื่อของตนเองที่ข้างขวดเหล้า แล้วท้าพวกคุณปาง ให้เอาเหล้าขวดนี้ ไปวางไว้ที่ต้นฉําฉาหลังโรงเรียนเก่า ถ้าทำได้จะให้เงินห้าร้อยบาท ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีใครกล้ารับคำท้า
แต่คุณปางก็พูดกล่อมกับเพื่อนว่า…
"เงินตั้งห้าร้อยนะเว้ย"
คุยกันไปคุยกันมา สรุปว่าเพื่อนทั้งสองคนก็เอาด้วย จึงตอบรับคำท้าของรุ่นพี่...