ไอ้นู วิญญาณ…ผีเร่ร่อน ตอนจบ

ไอ้นูตอนจบ

ทั้งสามสาว​ ได้ยินเหมือนกันคือคำว่า​  ….”. สร้อย”  เป็นเสียงที่เยือกเย็นมากกก​ ใครได้ยินต้องชวนขนลุกจริงๆ

“สร้อยยยยย… สร้อยยยยย…

คืนนั้นทั้งคืน​ สามสาว​ อันมี​ ไหม/แป้ง/เนียน​ ต้องนอนคลุมโปง​เบียดกันอยู่จนแจ้ง​ ยิ่งเนียนด้วยแล้วกลัวจนไข้ขึ้น   เพราะทั้งสามคิดว่าต้องเป็นผีของไอ้นูแน่ๆ​ เพราะเป็นเสียงของผู้ชาย​ ที่พูดคำว่า​ “สร้อย” ทั้งที่ไม่มีใครชื่อสร้อยเลย​ 

พอรุ่งเช้า​ เป็นวันหยุด​ ทั้งหมดนัดรวมพลกันทันที​ ที่ใต้ต้นจามจุรี(ต้นฉำฉา)​อันร่มรื่น ที่สูงใหญ่​ แผ่กิ่งก้านสาขา​ ให้ร่มเงา​ริมสนาม​ ภายในโรงเรียน

เนียน​ ที่ยังจับไข้ตัวร้อนอยู่​ แต่ก็ต้องมาร่วมฟังด้วย​  ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็น​ เรื่อง​  สร้อย​  ว่ามันคืออะไรกันแน่​ จะว่าเป็นชื่อใครหรือก็ไม่ใช่

มวง: เป็นความจริงหรือวะแป้ง​ ที่พวกแกได้ยินเสียงเรียกน่ะ​ แต่ว่ามันจะเรียกใครวะ​ มีใครชื่อว่าสร้อยอีกชื่อหรือเปล่าวะ

แป้ง:  จะมีได้ไงละแก​ พวกเราก็ใช้ชื่อเรามาตลอดนี่

ไหม:  แกมีความคิดเห็นว่าไงวะยศ​ พวกชั้นนะกลัวจริงๆ​ ไม่กล้าปิดไฟนอนเลย​ คืนนี้แกต้องไปนอนกับพวกเราอีกคนนะไอ้มวง(หันไปพูดกับไอ้มวงสาวหล่อ)​

มวง:  เอ่อน่า​ ไอ้มวงไปได้อยู่ล้าว (ยกมือขึ้นเสยผมรองทรงสั้น​แหกกฏ​ ที่ครูบางท่านเกลียดนักหนา)​

ยศ:  เอางี้มั้ยวะ​  ถ้าพวกแกอยากรู้​ ว่าอะไรเป็นอะไร​  พวกเรามาเล่นผีถ้วยแก้วกันมั้ย​  ตอนนี้ที่ในเมืองกำลังฮิตกันมากเลยนะเว้ย​ …และก็ทายแม่นมากๆเลยหว่ะ

เนียน: ว้าย… ม่ายเอาน๊าา.. ชั้นกลัว.. ขึ้นชื่อว่าผี… แค่นี้ก็ขี้จะขึ้นสมองอยู่แล้ว​  อะบรื๋อออออ..

มวง: เอาๆๆ.. เล่นๆๆ​.. มันเป็นยังไงวะไอ้ผีถ้วยแก้วเนี่ย​ เคยได้ยินมาเหมือนกันแหละ​ 

แป้ง: ว้าย… เล่นไปเรื่อย​ เดี๋ยวก็โดนดีหรอก​ ชั้นเคยได้ยินมาว่า​ ถ้าเล่นไม่ดี​ ผีจะโกรธเอา​นา… 

ไหม: ลองดูก็ได้นะ​ ไปๆ​ เล่นกันเดี๋ยวนี้เลย

ยศ:  เห้ย.. ไม่ด้ายยย​ … ผีถ้วยแก้ว​ เค้าต้องเล่นตอนกลางคืน​ ยิ่งดึกยิ่งดี​  ผีที่ไหนจะออกมาตอนกลางวันวะอีบ้า..

ไหม: อ้าว..ก็ใครจะไปรู้ละวะ​ เล่นตอนกลางคืนด้วยเหรอ​ ตายละสิ​ จะไปเล่นที่ไหนกันละ​ เดี๋ยวพ่อชั้นเอาตายเลย

เนียน: ไม่เอานะ… ชั้นไม่เอากะพวกแกด้วยนะ… ชั้นกล้ววว​… ฮือๆๆๆ​   (พูดจบก็ผวาเข้ากอดไอ้มวงทันที)​

มวง: เห้ย.. ไอ้เนียน.. อย่ามาทำเป็นเนียนสมชื่อสิวะ​ ถอยไป​ กูจั้กจี้หว่ะ..  (พูดพร้อมกับผลักตัวไอ้เนียนออก)

ยศ:  อืม.. .. (ทำท่าคิด​ เอามือมาลูบคาง)​  นึกออกละ​ เอางี้นะ​  พวกเราไปเล่นในโรงสีดีกว่า​ ไม่มีใครรู้ใครเห็นดี​  พ่อกูปิดโรงสีหนึ่งทุ่ม​  พอสามทุ่ม​ พวกเรา​ ไปเจอกันที่นั่นนะ​ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง

ทุกคนต่างอยากรู้อยากเห็นกันหมด  ยกเว้นไอ้เนียน​ แต่เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว​ มันจึงจำเป็นต้องยอม แต่ติดที่ว่า​ มันเป็นเวลากลางคืน​   ทุกคนจึงจะใช้เป็นข้ออ้างกับพ่อแม่ว่า​ มีงานกลุ่มเร่งด่วนต้องส่งครูวันจันทร์​ จึงนัดกันไปทำที่บ้านของไอ้มวง  ไม่บอกว่าบ้านไอ้ยศ​ เพราะมันเป็นผู้ชาย​ พ่อแม่คงไม้ให้ไปแน่

หลังจากนัดแนะเวลากันเรียบร้อยแล้ว​ ต่างก็แยกย้ายกันไป​ เพื่อรอเวลามาพบกันคืนนี้ที่โรงสีข้าวของไอ้ยศ

ไอ้ยศไปจัดการ​  นำกระดาษแข็งที่มันตัดดัดแปลงมาจากลังกระดาษใส่ของ​  ตัดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส​ ตีตารางเล็กๆ​ แล้วเขียนตัวอักษร​ พยัญชนะ​ สระ​  ตัวเลข​ ลงไปในแต่ละช่อง​  เหมือนที่มันเคยเล่นกับเพื่อนๆในเมือง

โดยหนึ่งช่องขีดเส้นทะแยงมุม​ ใส่พยัญชนะหนึ่งช่อง​ และสระหนึ่งช่อง​  ตัวเลขก็ใส่ช่องใหญ่​ จนครบทุกช่องทุกตัว

แล้วเตรียมถ้วยแก้วเล็กขนาดเท่าถ้วยใส่น้ำพริก​ หนึ่งใบ​  ธูปหนึ่งห่อเล็ก  เทียนไขหนึ่งห่อ​  และไฟแช้ค  เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ​ มันก็เอาวางไว้บนตียง​ เอาผ้าห่มคลุมไว้​  ป้องกันแม่มันเข้ามาเห็น​  ต่อจากนั้น​ มันก็ทำตัวปกติ​ ไปช่วยงานพ่อมันในโรงสี

ตกค่ำ​ เมื่อสีข้าวให้ลูกค้ารายสุดท้ายเสร็จ​  พ่อไอ้ยศก็ปิดโรงสีล็อคกุญแจ​  เดินกลับบ้านใหญ่​ทางด้านหลัง  และนำพวงกุญแจไปห้อยไว้ที่ผนังบ้าน​ เป็นอันรู้กันว่า​  เป็นที่เก็บกุญแจไว้ตรงนี้

หลังจากกินข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว​ ประมาณสองทุ่ม​  พ่อกับแม่ของไอ้ยศ​  ก็นำเงินที่ได้จากการสีข้าว​ และขายข้าวในวันนี้​ มานับรวมยอด  ไอ้ยศ​ จึงทำทีนั่งดูทีวี​ เพื่อรอเวลา​  แต่มันนั่งกระสับกระส่าย​ มีพิรุธ

แม่: เอ็งเป็นอะไร… ไอ้ยศ​ ลุกลี้ลุกลนพิกลจริง​  ไอ้ลูกคนนี้

ยศ: เปล่าแม่… ไม่มีอะไร​้ .. งั้นผมขึ้นห้องก่อนนะ.. ..(เกือบไปแล้วมั้ยละกู​  โกหกไม่เก่งซะด้วยสิ)

พอได้เวลาสามทุ่ม​ ไอ้ยศก็เปิดประตูห้อง​ ค่อยๆย่องลงไปข้างล่าง​ เมื่อมันเห็นไม่มีใครแล้ว​ และไฟมืดหมดแล้ว​  เหลือแต่ที่นอกบ้านหนึ่งดวง​  มันจึงกลับขึ้นไป​ เอาของที่เตรียมไว้ แล้วย่องออกทางประตูหลังบ้าน​ เดินไปยังโรงสีข้าวด้านหน้าบ้าน​  ที่อยู่ห่างออกไปประมาณห้าสิบเมตร

มันไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจของโรงสีมาด้วย​ เมื่อเปิด​เข้าไปภายใน​ มันเดินไปด้านหลังของเครื่องจักร​  จัดการ​ ปูเสื่อ​  และเอาอุปกรณ์ที่เตรียมมา​ วางไว้ให้ดูเห็นชัด

หลังจากนั้นก็ไปยืนรอพรรคพวก​ ที่ประตูรั้วด้านข้าง​ ที่เป็นประตูเล็ก​   มันรออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง​  ทุกคนจึงมาพร้อมกัน

ไอ้ยศ:  ทำไมมาช้ากันนักละวะ​  ยุงล่อกูจนอิ่มละมั้งเนี่ย

ไหม:  ก็รอไอ้เนียนนะสิ​  นึกว่ามันจะมาไม่ได้ซะแล้ว

เนียน:   ยังไงก็ต้องมา​สิ  ถึงชั้นจะกลัวแค่ไหน​  แต่มีพวกแกอยู่ด้วย​  ก็… โอเค้..

ยศ:  พวกแก ตามกูมาเลยเว้ย​ เงียบๆล่ะ​ อย่าเสียงดัง

เมื่อทุกคนอันมี​ ยศ/ไหม/แป้ง/มวง/เนียน​ เข้ามาในโรงสีแล้ว​ ไอ้ยศก็ปิดประตูทันที​   มันไม้ได้เปิดไฟแต่จุดเทียนไข​แทน กลัวพ่อมันเห็นแสงไฟ

มวง: เห้ย.. ทำไมไม่เปิดไฟละวะ​ มืดจัง

ยศ: ไม่เปิ้ด… เปิดไม่ได้… เดี๋ยวพ่อกูตื่นมาเห็น​  และอีกอย่างนะ​ เป็นการเพิ่มความขลังเว้ย… 

เอาล่ะ​ ทุกคนนั่งลง​ กูจะอธิบายให้ฟังถึงวิธีเล่นนะ​…ขั้นแรกกูจะจุดธูป​ เชิญวิญญาณของไอ้นู​ มาอยู่ในถ้วยแก้วนี้ก่อน​   เมื่อวิญญาณของไอ้นูมาแล้ว​   เราถึงจะเล่นได้

มวง:  เล่นยังไงวะ​  แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าผีไอ้นูมาแล้ว

เนียนเริ่มขยับเข้ามานั่งเบียดกับไหมและแป้ง​  ซึ่งแต่ละคนก็ออกอาการกลัวและอยากยกเลิก​  แต่ความอยากรู้อยากลองมีมากกว่า

ยศ: รู้สิวะ​   พวกแกต้องตั้งคำถามทีละคน​  แล้วเอานิ้วชี้ของทุกคนข้างไหนก็ได้​ มาแตะลงบนก้นถ้วยที่คว่ำอยู่นี่นะ​ 

เมื่อถามคำถามแล้ว​    ถ้วยก็จะขยับไปที่ตัวหนังสือทีละตัว​ เป็นคำตอบ​  เราก็จะรู้ว่าไอ้นูมาจริงก็ทีนี้ล่ะวะ… หึ  หึ.. 

แป้ง: เห้ย.. เอาจริงหรือวะ..

พูดพร้อมกับ​ หันมองทุกคน​ ท่ามกลางแสงเทียนที่วับๆแวมๆ

มวง: เอาน่า… มาถึงขั้นนี้แล้ว​ ต้องลองซักตั้งละวะ​ จัดการตามนั้นเลยไอ้ยศ​ เร็วๆ​ กูอยากลองเต็มแก่แล้วหว่ะ  พูดพร้อมกับ​ซู้ดปาก​ และ เอามือถูกันไปมา

ยศ: ทุกคนเงียบๆนะ​ กูจะเริ่มละนะ… 

ว่าแล้ว​  ไอ้ยศก็หยิบธูปขึ้นมาหนึ่งดอก​  จัดการจุดไฟ​  พอธูปติดไฟ​  มันก็ยกมือขึ้นพนม​ ทำปากขมุบขมิบสักพัก

ทันใดนั้นเอง​   ลมไม่รู้มาจากไหน​  พัดวูบข้ามาทางช่องลมด้านข้างและด้านบนหลังคาที่เป็นสังกะสี พัดวนลงมา​ จนทำให้​ เศษฝุ่นจากแกลบที่สีข้าวแล้วปลิวว่อน สามสาวไหม/แป้ง/เนียน​  ขยับตัวกอดกันทันที

ทุกคนต่างตกตะลึง​  กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้า​ต่อตา  ลมหมุนที่เกิดขึ้นภายในโรงสีข้าว​ หมุนวนติ้วๆเป็นวงกลม​ พัดพาเอาเศษผงแกลบ​ ปลิวว่อน

จนทุกคนต่างก็พากัน​ หลับหูหลับตา​ ไอจามออกมา​ เพราะสำลักฝุ่นระคายข้าว​ หนำซ้ำ​ เทียนก็มาดับเพราะแรงลมอีก  ​ จนต้องจุดขึ้นใหม่หลังลมสงบ

ยศ:  เห้ย.. เบาๆกันหน่อยสิวะ​  อย่าไอดัง​ เดี๋ยวพ่อกูก็ตื่นหรอก​ ต้องเป็นผีไอ้นูแน่ๆเลย​ เอาล่ะพวกแก​ นั่งดีๆนะ​ ขยับเข้ามาใกล้ๆแผงกระดาษนี่​

ไม่ต้องให้ไอ้ยศบอกซ้ำสอง​  ทุกคนต่างก็รีบขยับมานั่งเบียดกันทันที​ ไอ้มวงเห็นว่าเป็นสาวหล่อ​ยังงั้นก็เถอะ​  ใจปลาซิว ชักปอดๆเหมือนกันแหละ

ยศ: กูจะเป็นคนถามคนแรกนะ​  พวกแกเอานิ้วชี้มาจิ้มที่ถ้วยนี้รอไว้เลย

“แกคือไอ้นูใช่ไหมวะเพื่อน”

สิ้นเสียงถามของไอ้ยศ​  ถ้วยแก้วที่มีนิ้วของทุกคนแตะอยู่​  ก็เริ่มขยับ​    มันขยับวนไปมา​ เดี๋ยวเร็ว​ เดี๋ยวช้า​  และไปหยุดที่​   ใ​   และขยับไปมาอีกครั้ง​   จนไปหยุดที่​  ช​   และ​   ไม้เอก

มวง:  เห้ย.. แกดันถ้วยหรือเปล่าวะไอ้ยศ​ หรือใครดันวะ

ไหม:  หึ.. ชั้นเปล่าดันนะ

แป้ง:   ชั้นก็ไม่ได้ดัน​ เหมือนมันขยับไปเองเลย

ยศ:  ก็ไอ้นูไง…

เนียน: ชั้นนน​  กลัว.. อ่ะ..

ยศ:  เราต้องรู้ให้ได้​ แกอย่ากลัวไปเลยเนียน​ ไอ้นูมันเป็นเพื่อนเรา​ มันไม่ทำอะไรเราหรอก​  ต่อไปใครจะถาม

มวง:  ชั้นเอง.. ชั้นจะถาม   เห้ย.. ถ้าแกเป็นไอ้นูจริง​  ทำไมแกไม่ไปไหนวะ​ ไปที่ชอบ​ ที่ชอบสิวะเพื่อน

ถ้วยเริ่มขยับไปตามอักษรทีละตัว​ ทีละตัว ทุกคนก็คอยลุ้นอ่านตามไปด้วย​  จนสะกดคำครบถ้วน​  ได้คำว่า​  เร่ร่อน

ไหม:  ฮือๆๆๆ​ ไอ้นู​  ชั้นคิดถึงแกเหลือเกิน​ แกไม่น่าจะด่วนตายจากพวกเราไปเร็วยังงี้เลย​  แกอยากได้อะไรเหรอ​  แกยังห่วงแม่ของแกอยู่ใช่มั้ย​  ฮะ.. ไอ้นู​ บอกพวกเรามาซิแก

ถ้วยหมุนวนๆๆๆ​ จนได้คำครบ​ คือคำว่า​  “สร้อย”

มวง: นั่นไง.. กูว่าแล้ว.. แล้วมันคืออะไรละวะ​ ไอ้สร้อยเนี่ย​   หรือว่าาา…

ทุกคนหันมามองหน้ากัน​  เหมือนจะบิงโกพร้อมกัน  และแล้วเทียนไขก็ดับพรึบ​อีกครั้ง​  เหมือนมีใครมาเป่าลมให้ดับ​  เนียนร้องกริ้ดทันที​ ผวาเข้ากอดแป้งที่นั่งข้างๆอย่างแรง​  จนหงายหลังลงไปทั้งคู่

ยศ: จุ้ๆๆ.​… เบาๆหน่อยสิวะ​.. เดี๋ยวกูเลิกเล่นซะเลย.. ดีมั้ยวะ​  ยกเลิก…

มวง: เห้ย.. ได้ไงวะ​.. ยังไม่ทันจะรู้เรื่องอะไรเลย​  นี่อีเนียน​  ชั้นว่า​ แกนั่งหลับตาเฉยๆก็ได้วะ​  เอ้าไอ้ยศ​ มึงจุดเทียนซะทีสิวะ

หลังจากที่ไอ้ยศจุดเทียนขึ้นมาใหม่​ ทุกคนก็เล่นต่อ​  โดยใช้คำถามเดิมของไหมคือ​ ไอ้นูต้องการอะไร ปรากฏว่า​ ถ้วยหมุนวนไปทั่ว​ สะเปะสะปะ​ จนไม่รู้ความหมาย 

ไอ้ยศเลย​ ทำการจุดธูปอีกหนึ่งดอกบอกกล่าวกับวิญญาณของไอ้นูอีกครั้ง​ คราวนี้มันเอ่ยวาจาออกมาเสียงดัง​  ให้ทุกคนได้ยินด้วย

ไอ้นูเอ้ย.. พวกเราอยากช่วยแกนะ​  แกยังมีห่วงอะไร​ แกอยากให้พวกเราทำอะไรให้​ ก็บอกมาเถอะวะวิญญาณของแกจะได้ไปสู่ที่ดีๆ​  อย่าได้เร่ร่อนอีกต่อไป​เลย  แล้ว​  สร้อยน่ะมันคืออะไร​  แกบอกมา   พวกเราจะจัดการให้

พูดจบ​ ไอ้ยศ​ ก็เอาธูป​ ใส่ลงไปในขวดลิโพที่มันเตรียมมา  เพราะพื้นโรงสี​ ไม่มีที่ปักธูป

ทุกคนรีบเอามือแตะที่ก้นถ้วย​ รวมทั้งเนียนด้วย​ ที่เริ่มควบคุมสติได้บ้างแล้ว​  แต่ถ้วยหยุดนิ่ง​ ไม่ยอมขยับ

แป้ง: เห้ย… ทำไมไม่ขยับล่ะ

มวง: เห้ยไอ้ไหม… แกลองพูดกับไอ้นูดูซิ… เพราะไอ้นูมันชอบแกนี่​  มันอาจอยากได้ยินเสียงแกอีกครั้งก็ได้นะ​ พูดเลยๆ

ไหมมองหน้าทุกคน​  น้ำตาเริ่มไหลริน​  ตอนนี้ทุกคนยกมือออกจากถ้วย​ มาพนมมือตามไหม

ไหม: ไอ้นู.. ฮือๆๆ.. เราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน​  พวกเรารักแกนะ​  แกอย่าได้ห่วงอะไรอีกเลย​  แม่ของแกน้าผันน่ะ​  พวกเราจะหมั่นไปเยี่ยม​ ไปดูแลให้

ขอให้แกไปเกิดที่ดีๆนะ​  ชาตินี้​ เรามีวาสนาต่อกันแค่นี้​  เอาไว้ชาติหน้า​  เราค่​อยมาพบกันใหม่อีกนะ​  ฮือๆๆ​  ไอ้นู…

เมื่อไหมพูดจบ​  ถ้วยแก้วเริ่มขยับเองได้   ทุกคนตกตะลึง​  รีบเอามือแตะทันที​   ถ้วยหมุนวน​ ไปตามตัวอักษร​  ทุกคนลุ้นตาม ..ไปจบที่คำว่า​  เสาไฟฟ้า​ หลังจากนั้นก็ไม่ขยับอีกเลย​  ไม่ว่าใครจะถามอะไรต่อ

เวลาผ่านไป​ชั่วโมงกว่า…

ยศ: พรุ่งนี้วันอาทิตย์​  พวกเราลองไปดูที่เสาไฟฟ้า​ ที่ไอ้นูมันตายดูนะ​  พบกันสิบโมงนะ

ทีนี้พวกแกเชื่อหรือยังล่ะว่า​ ผีถ้วยแก้วมีจริง​  ทั้งนี้ทั้งนั้น​  เราต้องมีความเชื่อและศรัทธาด้วยนะ​ ไม่งั้น​ ไม่มีวันสำเร็จหรอก​ ไปเว้ย.. แยกย้าย… สลายตัว.. 

วันต่อมา​  ทุกคนไปดูที่เสาไฟฟ้าต้นนั้น​   ค้นหาดูจนทั่ว​ ก็ไม่เห็นมีอะไร​  แดดก็เริ่มร้อน​ ทันใดนั้น​  มีอีกาตัวหนึ่ง​ บินมาเกาะ​ ที่สายไฟตรงหัวเสา มันร้อง​ กา​  กา​  กา​  จนทุกคนแหงนมอง​   เอามือบังหน้าผากดู

ไหม:  เห้ยนั่น.. อะไรห้อยอยู่ตรงน้อตที่เสียบรูเสาน่ะ​ พวกแกดูสิ

ทุกคนมองตามมือไหมที่ชี้ตรงกึ่งกลางเสาไฟ   มีสร้อยห้อยอยู่ตรงนั้น​   ที่แท้ก็เป็นสร้อยพระของไอ้นูที่มันเคยใส่อยู่นั่นเอง​ เป็นสายร่มสีดำ​ แขวนพระที่ทุกคนไม่รู้จัก

ระหว่างที่มันขี่รถโหม่งเสาไฟด้วยความแรง​  จนทำให้สร้อยหลุดจากคอ  กระเด็นขึ้นไปแขวนบนน็อตที่ยื่นออกมาจากรูเสาไฟได้พอดิบพอดี​  จึงไม่มีใครมองเห็น​ ช่างบังเอิญแท้

เมื่อความจริงที่ทุกคนสงสัยเผยออกมา​  ต่างก็ดีใจและโล่งอกที่ช่วยไอ้นูได้​  ไหมได้จัดการเอาสร้อยพระของมัน​  ไปให้คืนน้าผัน​ ตั้งแต่นั้นมา​ ไม่ว่าทุกคนจะเล่นผีถ้วยแก้วกันใหม่​ เรียกหาไอ้นูยังไง​  มันก็ไม่มาอีกเลย​ 

ไอ้นูคงไปสู่ภพภูมิตามบุญกรรมที่ทำมาแล้วล่ะ

**จบบริบูรณ์**

ขอบคุณ คุณ Soontaree AT

Previous articleไอ้นู ผีเร่ร่อน
Next articleพิธีตัดสายผัวเมีย วันเผาให้ขึ้นรถกลับไปรอที่บ้าน ห้ามหันกลับมามองโลง!!