บ้านขังวิญญาณ!!  เรื่องจริงสุดสยอง ณ.บ้านหลังนึง ใน กทม. ที่เคยถูกนำไปสร้างเป็นหนัง.. 

บ้านขังวิญญาณ

เรื่องราวนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง  แต่คงต้องย้อนหลังไปเมื่อประมาณสามสิบกว่าปีก่อน  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนึงที่ได้ไปซื้อบ้านมือสองอยู่  แล้วปรากฎว่าเจอเรื่องอาถรรพ์มากมาย  เขาจึงได้ให้ อ.แบงค์  (ผู้เล่าเรื่อง) ไปช่วยดู..  

โดยระหว่างนั้น อ.แบงค์ ยังได้พบเจอเรื่องราวสยองขวัญมากมายในบ้านหลังนี้  ต่อมาจึงได้นำมาเขียนลงในเว็บพันทิปและลงเฟซบุ๊คของเขาเอง

หลังจากเรื่องราวนี้ดังขึ้นมา  ก็มีค่ายหนังนำบทไปสร้าง  ใช้ชื่อเรื่องว่า  ( My House บ้านขังวิญญาณ )  ที่นำมาจากเรื่องจริง ของ อ.แบงค์ ที่ช่วยเหลือลูกศิษย์  ซึ่งโดนวิญญาณร้ายตามรังควานในบ้านหลังหนึ่ง 

ต่อมามีหลายท่านอยากรู้ว่าบ้านหลังนี้มีอยู่จริงไหม   แต่ก็มีภาพยืนยันจาก อ.แบงค์  ซึ่งไปถ่ายมากับมือ  โดยเป็นภาพถ่ายติดวิญญาณหน้าผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย  ซึ่งใบหน้านั้นขาวซีด ไร้ลูกตา  และเหตุการณ์สยองมากมายที่ได้รับรู้มา  ทั้งจากที่ประสบเองและเจ้าของบ้านเล่าให้ฟัง..

โดยว่ากันว่าตัวหนังสร้างจากเหตุการณ์จริง 80% ที่เหลือคงต่อเติมเพื่ออรรถรส  เนื้อหาในหนังตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหลายครั้งหลายหนในบ้านหลังนี้  ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปอ่านกันเลยดีกว่าครับ..

เรื่องเริ่มต้นจากมีครอบครัวนึง  ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ ลูก คือ อินกับแอนและเชอร์รี่  โดยครอบครัวนี้ได้ไปซื้อบ้านมือสองหลังนึง จากธนาคารในราคาที่แสนถูก  ที่อยู่ย่านหนองแขม  แต่บ้างก็ว่าอยู่แถวบางแค (ซึ่งคาดเคลื่อนจากความเป็นจริง)

และในระหว่างที่ครอบครัวดังกล่าวอยู่ในบ้านหลังนี้  กลับพบเจอเรื่องราวแปลกๆ และเหตุการณ์สยองขวัญมากมาย  

เช่น ตกดึกคนในบ้านจะได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินขึ้นลงบันไดบ้าน   บางทีเห็นเป็นเงาดำของชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่เดินไปมาในบ้านแม้แต่ตอนกลางวันก็ตาม..!!

รวมไปถึงเสียงตึงตังที่เกิดขึ้นตรงกำแพงบ้าน  และราวบันได  ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นสักคน  แม้แต่กระจกบ้านก็เหมือนมีคนเอามือไปทุบเล่นปึงปังๆ  ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น..!! 

ไหนจะเสียงเด็กวิ่งเล่นในบ้าน  เสียงหัวเราะยามค่ำคืนของหญิงสาวปริศนา  อาหารและน้ำดื่มที่เน่าเสีย  บูดเร็วผิดปกติ  จนเจ้าของบ้านในตอนนั้นตัดสินใจทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปให้  แต่ก็ได้ยินเสียงตะโกนลั่นว่า  “กูไม่เอา..!!”  

เรื่องนี้เกิดมานานพอควรแล้ว  ซึ่งปัจจุบันสมาชิกยังมีชีวิตอยู่  แต่ยาย(ที่เข้ามาอยู่ภายหลัง) ได้เสียชีวิตในบ้านหลังนี้  ในระหว่างกวาดบ้าน  

โดยก่อนตาย  ยายได้ชี้ไปตรงห้องเก็บของหน้าบ้านก่อนสิ้นใจตายด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก  ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน  

นี่คือเรื่องจริง!  แอน.เล่าให้ อ.แบงค์ ฟังว่าก่อนหน้าแม่ตนเองจะเสียไม่กี่วัน  เธอฝันเห็นแม่ตนเองกวาดบ้านอยู่ตรงหน้าห้องเก็บของ  ก่อนจะเปิดไปเห็นผีในห้องเก็บของนั้นจนช็อก  พอแอน.เข้าไปจับตัวแม่  ร่างแม่ก็แตกละเอียดเป็นผง  หายไปกับอากาศ  

เธอฝันแบบนี้ติดกัน 3 คืน ก่อนที่แม่จะตายจริง  และแม่ก็มาตายตรงตำแหน่งเดียวกับในความฝันไม่มีผิดเพี้ยน  ยิ่งทำให้แอน.เชื่อสนิทใจว่าบ้านหลังนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ..!!

ผ่านมาปีกว่า ตั้งแต่ย้ายเข้าบ้านหลังนี้มา  สามีภรรยาตกงานพร้อมกันในวันเดียวกัน  ทั้งๆ ที่ทำงานคนละบริษัทกัน   ถูกแรงกดดันจากหัวหน้าให้ออก และยังโดนเพื่อนร่วมงานแกล้งใส่ความอีก ซึ่งอาชีพของแอน.ในเรื่อง คืออาชีพจริง  ส่วนอิน.ไม่ได้เหมือนในหนัง 

ต่อมาอิน.ได้ขายรถและเปลี่ยนมาขับแท็กซี่รับจ้างหาเงินปะทังชีพ  เงินทองก็ใช้หมดไปๆ ทุกๆ เดือน  วิ่งแท็กซี่ก็ไม่มีใครขึ้น..

ที่ไม่มีคนกล้าขึ้นเพราะเหมือนผู้โดยสารจะเห็นอะไรบางอย่างนั่งอยู่ด้วย  จะขึ้นก็ไม่ขึ้น  เปลี่ยนไปขึ้นคันอื่นอยู่หลายครั้ง  พอให้พระไปเจิม  พระก็บอกว่าจริงๆ แล้ววิญญาณไม่ใช่อยู่ในรถแต่อยู่ในบ้าน..!!

ต่อมาทุกอย่างจึงเฉลย  เมื่อแอน.รู้ความจริงจากเพื่อนบ้านว่าบ้านนี้  เธอเป็นครอบครัวที่ 5 แล้ว  ที่มาอยู่ที่นี่.. โดยก่อนหน้าทุกครอบครัวที่มาอยู่ล้วนมีอันเป็นไปกันหมด  และส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้หญิงด้วย..!!

แอน.รู้จากเพื่อนบ้านคนนึงที่เล่าให้ฟังว่า  ครอบครัวแรกมาอยู่ที่นี่  คือต้นเหตุที่ทำให้บ้านเกิดเรื่องราวอาถรรพ์  โดยเหตุเกิดเมื่อ 20 กว่าปีก่อน 

วันเกิดเหตุผัวกินเหล้าจนเมา  จากการที่โกรธแค้นว่าเมียไปมีชู้  และทิ้งลูกชายไว้ให้เขาเลี้ยง  ตอนนั้นภรรยาไปทำงาน  เขาโมโหเลยทำลายข้าวของทุกอย่างในบ้านกระจัดกระจาย  ไม่เว้นกระทั่งศาลเจ้าที่ไม้ก็ยังพังทิ้ง  ทั้งกระทืบและบ้วนเหล้าใส่  ก่อนจะไปฆ่าลูกชายโดยการกดอ่างน้ำในห้องน้ำ  และยังแทงร่างลูกชายจนพรุนอีก..  

เมื่อเมียกลับมาจึงตามหาลูกชาย  แต่พบศพลูกลอยอืดในห้องน้ำ  ฝ่ายผัวสบโอกาสจึงฆ่าปาดคอเมียตายตามไป  และเจาะลูกตาสองข้าง  ก่อนจะฆ่าตัวเองตายไปอีกศพตรงราวบันได  จนศพอืดบวมส่งกลิ่นเหม็น..!!

เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ  เพื่อนบ้านได้เล่าให้ฟังว่าแอบดูเหตุการณ์อยู่  เห็นเจ้าของบ้านเมาอาละวาดทำลายศาล  ได้ยินเสียงทะเลาะกัน  และเสียงกรีดร้องของผู้หญิงภรรยาเจ้าของบ้าน  ไม่คิดเลยว่าจะฆ่ายกครัวแบบนี้..!!

เมื่อแอน.รู้ความจริงเกี่ยวกับประวัติบ้านตัวเองก็เครียดมาก  และไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร  จึงมาปรึกษากับ อ.แบงค์  และ อ.แบงค์ ก็แนะนำอะไรไม่ได้มากไปกว่า  การให้ย้ายออกจากบ้านเร็วๆ  เพราะถ้าขืนอยู่ต่อไป  อาจพบหายนะตามมาก็ได้

เพราะเท่าที่ดูวิญญาณเจ้าของบ้านคนเก่า  เขาก็ไม่ต้องการบุญใดๆ ทั้งสิ้น  แต่เขาต้องการบ้านของเขาคืน  

นอกจากนี้ อ.แบงค์ ยังสื่อจิตได้ว่าพวกเขาอาฆาตมาก  และดวงวิญญาณมากมายยังคงติดอยู่ที่บ้านหลังนั้น  

นอกจากนี้ครอบครัวที่ 2-4  ที่เคยมาอยู่บ้านหลังนี้ก่อน  ก็ต่างเคยพบกับหายนะมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นประสบอุบัติเหตุในบ้านตาย  และบาดเจ็บแปลกๆ ไม่ทราบสาเหตุกันถ้วนหน้า  ไม่ป่วยตายก็ฆ่ากันตาย  หรือไม่ก็ตกบันได  ลื่นในห้องน้ำจนแท้งลูก (เรื่องจริงตรงกับที่ในหนังนำเสนอ)

โดยเฉพาะครอบครัวที่ 4 ก่อนที่คุณอินและแอนจะย้ายมาอยู่  ครอบครัวนี้เป็นร่างทรงทั้งผัวทั้งเมีย  มีการทำคุณไสย  เล่นมนต์ดำด้วย  แถมยังเลี้ยงกุมารไว้เต็มบ้านรวมถึงยังกักขังวิญญาณไว้ด้วยวิชามืดไม่ให้ไปไหนอีก  

แต่อยู่ได้ไม่ถึง 3 ปี  ฝ่ายผัวร่างทรงก็ฆ่าเมียตนเองตายคาบ้านด้วยมีด..!!  แต่ในหนังไม่ได้แสดงรายละเอียดตรงครอบครัวร่างทรงมากนัก  เนื่องด้วยเวลาจำกัด ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวที่เล่ามาอาจดูเหมือนเกินจริง  แต่คือความจริงจากปากเพื่อนบ้านเอง

ระหว่างอยู่ที่บ้าน อินกับแอนทะเลาะกันบ่อย  เพราะเรื่องเพี้ยนๆ ที่เกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้  ตามเรื่องจริงที่หนังเอามาสร้าง  นี่ยังไม่รวมเรื่องที่เชอร์รี่. ลูกสาวคนเดียวของบ้าน  ชอบเดินละเมอไปเข้าห้องน้ำและลงไปเปิดน้ำในอ่างนอนเล่นตอนกลางคืนอีกด้วย  แล้วพอตื่นขึ้นมาก็บอกว่ามีเด็กผู้ชายพามานอนเล่นในน้ำด้วย..!!

เจ้าของบ้านตัวจริงยืนยันว่า  เรื่องทั้งหมดที่เล่ามาคือเรื่องจริง  และ อ.แบงค์ เองหลังจากเข้าไปสัมผัสบ้าน  ก็เห็นว่าบ้านหลังนี้มีวิญญาณร้ายจริงๆ   

ผู้หญิงที่ถูกฆ่าตายเขาบอกว่า เขาชื่อ “จันทร์”  เขาทรมานมากเพราะถูกวิญญาณสามีขังไว้ไม่ให้ไปผุดไปเกิด  หาทางออกไปไหนไม่ได้เพราะไร้ลูกตา  

และขณะเข้าไปในบ้าน  วิญญาณร้ายหลายดวงยังได้ออกมาด่า  ขับไล่ อ.แบงค์ ด้วยคำหยาบๆ คายๆ  ว่าไม่ให้เข้าไปช่วย  “อย่ายุ่ง  เพราะกูไม่เอาบุญใดๆ ทั้งนั้น  กูไม่ไป  กูไม่ออก..!!”  

โดยหลังจากที่เข้าไปช่วยบ้านหลังนี้  ทำให้ อ.แบงค์ ต้องป่วยหนักมากโดยไม่มีสาเหตุ  เรื่องทั้งหมดจริง  ยังมีใบรับรองแพทย์อยู่เลย  มานอนที่บ้านก็ยังถูกตามมารังควานอีก..

เรื่องนี้จบลงด้วยคำแนะนำของ อ. แบงค์ ว่าให้ย้ายออกดีกว่าเพราะเกินเยียวยาจริงๆ เนื่องจากเฮี้ยนเหลือเกิน

ปัจจุบันบ้านหลังนี้ร้างแล้ว  เพราะตั้งแต่ครอบครัวล่าสุดย้ายออกไป  ก็ยังไม่มีใครไปอยู่  แต่ยังติดประกาศขายมาเป็นเวลาหลายปีแล้วก็ยังขายไม่ออก  

ทางคุณอินกับแอน  ผู้เชิญ อ.แบงค์ไปช่วย  จึงไม่อยากเปิดเผยตัวตนจริงออกสื่อใดๆ เพราะเกรงว่าบ้านจะขายไม่ได้..

สำหรับตัว อ.แบงค์ ในฐานะที่เป็นเจ้าของเรื่องราว และเป็นอาจารย์ที่แอน.มาหาในเรื่อง  บอกได้คำเดียวว่าประสบการณ์จริงหลอนมาก  ยิ่งมาสร้างเป็นหนังแบบนี้ยิ่งน่ากลัว  กระตุกขวัญ  สั่นประสาท  ดีไม่น้อย  

สุดท้ายเราคงต้องขอขอบคุณบทความดีๆ จาก อ.แบงค์ ด้วย  หากใครอยากดูภาพถ่ายติดวิญญาณจาก”บ้านขังวิญญาณ” หลังจริง  ให้เข้าไปดูในเฟส อ.แบงค์ ได้นะครับ (ไม่รู้ปัจจุบันยังอยู่ไหม)

ส่วนตัวหนังเรื่อง บ้านขังวิญญาณ นั้นคิดว่าน่าจะยังพอหาดูได้  ถ้าใครอยากรู้ว่ามันจะหลอนสมกับที่เล่าไหม  ให้ลองไปพิสูจน์กันดูครับ…

ขอบคุณข้อมูลจาก อ.แบงค์ ,ภาพจากหนังบ้านขังวิญญาณ

ถ่ายทอดขัดเกลาและเรียบเรียงโดย : ลุงเชิงโกดังหลอน | สยองขวัญวาไรตี้

Previous articleเด็กวัด
Next articleเรื่องสุดหลอนคนแชร์เกือบ 3,000 ครั้ง หนุ่มขับรถผ่านโค้งร้อยศพ เจอผีตัดหน้ารถ จ.ชุมพร!!