ตำนานสะพานรักสารสิน เรื่องจริงของความรักสุดรันทดโศกนาฎกรรมความรักต่างฐานะ

ตำนานรักสะพานสารสิน

ขึ้นชื่อว่า “ความรัก” ก็จะมีทั้งคนที่สมหวังและผิดหวัง ไม่มีรักไหนที่ดีทุกวันหรอก และปัญหาหลายสิ่งอย่าง ก็เป็นเหตุทำให้คู่รักบางคู่ต่างพรากจากกันไป

ดั่งเช่นตำนานที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ ซึ่งถูกโพสไว้ใน Blockdit โดยผู้ใช้ Red Diary เป็นรักที่ไม่มีวันตาย รักที่รันทด และยังเป็นตำนานที่สะเทือนใจเรื่องหนึ่ง เรื่องราวของหนุ่มสาวที่ต่างฐานะ ถูกพ่อแม่กีดขวางเส้นทางรัก และถูกต่อต้าน จึงเป็นที่มาของ “ตำนานสะพานรักสารสิน” เรื่องราวจะเป็นเช่นไรนั้น เชิญติดตามได้เลยครับ

45 ปี แห่งโศกนาฎกรรมของโชเฟอร์สองแถวกับแม่พิมพ์ของชาติ และนี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต ของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่ตัดสินใจจบชีวิตด้วยผ้าขาวม้าผูกต่อกันแล้วมัดกับร่างกายทั้งสองพุ่งดิ่งลงกลางสะพานสู่พื้นน้ำอันสงบนิ่งและเยือกเย็น แล้วเหลือไว้เพียงตำนานที่เป็นอมตะไว้เป็นตำนานคู่เมืองภูเก็ตชั่วนิรันดร์ . . .

จุดเริ่มต้นความรักของโชเฟอร์หนุ่ม นามว่า “โกดำ แซ่ตัน” อายุ 23 ปี และ นศ.วิทยาลัยครู “กิ๋ว กาญจนา แซ่หงอ” อายุ 19 ปี

โกดำขับรถรับส่งกิ๋วเป็นประจำ จนทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมและเกิดความรักผลิบานในใจทั้งสอง พวกเขาตกเป็นของกันและกัน ในช่วงประมาณ 2 เดือนก่อนเกิดเหตุ 

และเมื่อพ่อแม่ของฝ่ายหญิงทราบ จึงสั่งให้กิ๋วเลิกติดต่อกับโกดำ เพื่อหวังให้เธอได้แต่งงานกับคนที่ฐานะดีและเป็นคนที่คู่ควรกับเธอ

อุปสรรคของสังคมในขณะนั้น คือ ความแตกต่าง ซึ่งโกดำ เป็นเพียงชายหนุ่มที่ฐานะไม่ได้ดี เขาเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำ ส่วนกิ๋วเป็นว่าที่แม่พิมพ์ของชาติ ผู้ที่พรั่งพร้อมไปด้วยชาติตระกูลและฐานะทางสังคมที่ดีกว่าโกดำ

ทั้งสองพยายามทุกวิถีทางเพื่อเป็นบทพิสูจน์ให้พ่อและแม่ได้เห็นถึงความรักที่เขาทั้งสองมีให้แก่กัน แต่ไม่ว่าจะทำเช่นไร ก็ไม่เป็นผล

เมื่อผู้เป็นพ่อของฝ่ายหญิงไม่ยอมเปิดใจ หลายครั้งที่กิ๋วจะถูกพ่อของตน กักขังและทุบตีเยี่ยงทาส เพราะแอบลักลอบไปพบกับโกดำ แต่พ่อของเธอยังไม่ลดละความพยายามที่จะยัดเยียดลูกสาวให้กับเศรษฐีผู้มีเงิน ที่พ่อและแม่ของเธอเห็นว่า เหมาะสมและคู่ควรแก่เธอ

ความรักและการฝ่าฝันอุปสรรคของโกดำและกิ๋ว ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้พ่อของเธอเปิดใจได้ หากแต่พวกเขาสามารถชนะใจชาวบ้านท่าฉัตรไชยได้ เพราะเห็นถึงความมุ่งมั่น และพยายามของทั้งสอง ซึ่งพวกเขารักกันมากจริง ๆ

ชาวบ้านหลายคนที่สนิทกับบ้านฝ่ายหญิง พยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมพ่อของกิ๋วให้ยอมรับโกดำ ในฐานะลูกเขย หากแต่พ่อของเขาก็ไม่ยินยอม ไม่ว่าชาวบ้านจะช่วยพูดหรือทำวิธีใดก็ตาม พ่อของกิ๋วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดใจให้โกดำสักนิดเดียว

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2516 โกดำตัดสินใจพาสาวคนรัก หนีออกจากบ้านไปอยู่ที่บ้านของญาติเขาเอง เมื่อพ่อแม่ฝ่ายหญิงทราบเรื่อง จึงทำการแจ้งความให้ตำรวจติดตามทั้งคู่ไป

โกดำทราบเรื่องว่ามีตำรวจกำลังติดตามพวกเขาอยู่ เขากลัวว่าจะมีความผิด โกดำเลยพากิ๋วหนีต่อ เพื่อไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ของเขาเอง ในภูเก็ต

แต่พ่อแม่ของโกดำก็รังเกียจกิ๋ว เนื่องจากไม่พอใจการกระทำของลูกชาย ทำให้ โกดำและกิ๋วเริ่มหมดหนทาง และ กลัดกลุ้มใจมาก ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2516 เมื่อความรักมาถึงทางตัน และไม่สามารถสมหวังในความรักได้ ทั้งสองจึงนัดพบกัน และได้เตรียมผ้าขาวม้าผูกมัดทั้งสองเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการสื่อว่า จะไม่มีอะไรพรากจากพวกเขาสองคนได้อีก

ทั้งสองก้าวย่างขึ้นสู่บนราวสะพาน และตัดสินใจดิ่งลงไปในน้ำเพื่อต้องการปลิดชีวิตทั้งคู่ เป็นอันปิดฉากความรักสุดรันทดของพวกเขาทั้งสองลง

มีการค้นหาศพ ใช้เวลา 42 ชั่วโมง แต่ไม่มีใครพบศพหรือหาศพเจอเลย จนกระทั่ง เช้า วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2516  ชาวประมงคนหนึ่งกำลังออกหาปลา จู่ ๆ ก็พบร่างไร้วิญญาณของทั้งสองลอยอยู่ ซึ่งห่างจากสะพานสารสินประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากฝั่งราว 300 เมตร โดยสภาพศพของทั้งคู่ยังมีผ้าขาวม้าผูกติดตัวแน่นหนา โดยไม่คลายแยกออกจากกัน…

ทางผู้เขียนได้รวบรวมบทสัมภาษณ์ของผู้ที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นแล้วสรุปสั้นๆ ว่าหลังจากเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว ทุกคนที่เคยเกี่ยวข้องกับเขาทั้งสอง รู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวความรักของทั้งสองที่กลายเป็นตำนานตราบจนทุกวันนี้

บทสัมภาษณ์คุณแม่ “หยี กมลโกศลจิต” (คุณแม่ของกิ๋ว) โดยปัจจุบันคุณแม่กิ๋ว อายุ 86 ปีแล้ว คุณแม่กิ๋วให้สัมภาษณ์ว่า  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เสียคุณกิ๋วไป เธอยังคงแบกรับความรู้สึกที่ได้สูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไป เรื่องนี้ยังคงค้างคาใจเธออยู่ตลอด

คุณแม่หยี บอกว่า เธอยอมเอาทรัพย์สินในบ้านไปขาย  เพื่อให้ลูกมีโอกาสได้เรียนต่อในวิทยาลัย หวังให้ลูกเป็นครู เป็นที่พึ่งในยามแก่เฒ่า แต่กิ๋วก็ชิ่งฆ่าตัวตายไปซะก่อน 

ในช่วงแรก ๆ คุณแม่หยียังคงทำใจไม่ได้ แม้แต่รูปถ่าย ของกิ๋ว คุณแม่หยี ก็เก็บหมด ใส่ลิ้นชักแล้วล็อคไว้ทั้งหมด เพราะเธอเห็นแล้ว เธอจะอดคิดถึงลูกสาวและเหตุการณ์ครั้งก่อนไม่ได้

คุณแม่หยี กล่าวไว้อีกว่า หากเธอตายเมื่อไหร่ นั่นแหละ คือจบแล้ว . . . (คุณแม่หยีหมายถึงความรู้สึกผิดภายในใจของตนเอง)

คุณแม่หยี กล่าวเพิ่มอีกว่า ละคร หรือ ภาพยนตร์เรื่อง “รักสะพานรักสารสิน” คุณแม่ไม่กล้าจะเปิดดู หากเปิดเจอคุณแม่หยี จะปิดทีวีทันที เพราะแม่หยีบอกว่า มันไม่สบายใจทุกครั้งที่เห็นภาพยนตร์เรื่องนี้ เธอไม่ต้องการรับรู้เรื่องราวที่ผ่านมา ถึงแม้ระยะเวลาจะผ่านมานานมากแล้วก็ตาม

คุณลุงปรีชา ศรีอร่าม (มีศักดิ์เป็นลุงของกิ๋ว) อายุ 78 ปี มีอาชีพขับรถจ้างประจำทางท้องถิ่น เขาเห็นโกดำมาตั้งแต่เด็ก ๆ คุณลุงปรีชา กล่าวว่า โกดำเป็นเด็กขยัน เขามองเห็นถึงความตั้งใจของโกดำ หากแต่ก็มิสามารถไปเปลี่ยนใจพ่อของกิ๋วได้

คุณธรรมนูญ วรรณวิชัยกุล (เพื่อนของโกดำและกิ๋ว) เขาได้เล่าให้ฟังว่า เขาแซวโกดำและกิ๋วบ่อยครั้ง เมื่อยังมีชีวิตอยู่ “ว่ามีแฟนสวยจังนะ” “มีรถมารับถึงที่เลย”

คุณธรรมนูญ บอกว่า ทั้งคู่เป็นคนน่ารัก พูดจาดี เป็นที่รักใคร่ของทุกคน แล้วทั้งสองยังรักกันมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโกดำดูแลกิ๋วได้อย่างดีมาก และเขาในฐานะเพื่อนสนิทของทั้งสองคน เขารู้สึกดีใจที่ได้รู้จักกับทั้งสองเพราะทั้งคู่เป็นคู่ที่เหมาะสมกันดี และดูรักกันมากจริง ๆ

คุณลุงนวล สาริกา (เพื่อนสนิทโกดำ) เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ โกดำ พูดคุยกับเขาเหมือนเป็นลางสังหรณ์ โกดำบอกกับเขาว่า “วันนี้จะขับรถวันสุดท้ายแล้วนะ ต่อจากนี้จะไม่ได้ขับอีกแล้ว” นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่โกดำพูดกับลุงนวล

ในเวลาต่อมาลุงนวลก็ได้ทราบข่าวว่า โกดำได้กระโดดน้ำเสียชีวิตพร้อมกับแฟนสาวแล้วนั่นเอง ซึ่งคุณลุงนวล บอกว่า ตอนนั้นเขาตกใจมาก ไม่คิดว่าการเจอกันครั้งนั้น จะเป็นครั้งสุดท้าย

และหนึ่งในหลักฐานที่เป็นการยืนยัน ว่าพวกเขาได้ตัดสินใจจบชีวิต คือ จดหมายลาตายที่เขียนด้วยลายมือของโกดำ จดหมายถูกพบในบ้านสวนหลังเก่าของโกดำ เนื้อความในจดหมาย แสดงถึงความรักอย่างเหลือล้นของคนทั้งคู่ และ คำสั่งเสียสุดท้าย ที่เขาได้เขียนไว้ คือ การนำศพของทั้งคู่ไว้ในโลงเดียวกัน

ในปัจจุบัน สะพานสารสิน ไม่ให้รถสัญจรข้ามผ่านแล้วนะคะ แต่กลายเป็นจุดชมวิวแทน สะพานเทพกระษัตรี โดยมีสะพายสารสิน 2 ที่ยังคงให้รถสามารถวิ่งได้อยู่ โดยที่สะพานสารสินเดิม หรือ สะพานสารสิน 1 ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นสะพานคนเดินและมีการปรับปรุงสร้างเป็นหอชมวิวทิวทัศน์ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่า ว่ากันว่า ถ้าหากนั่งรถขึ้นสะพาน ในระหว่างทาง ให้เรากลั้นหายใจและปิดตาไปด้วย จนกว่ารถจะลงสะพาน พร้อมกับอธิษฐานในเรื่องความรัก จะสมหวังในสิ่งที่เราขอ 

เรื่องนี้ก็เป็นเพียงความเชื่อของคนเก่าคนแก่นะคะ อย่างไรแต่ ก็ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ

ตำนานรักนี้ ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย โดย คุณเปี๊ยกโปสเตอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ชื่อเรื่องว่า “สะพานรักสารสิน” ออกฉายในปี พ.ศ. 2530 และได้รับการยกย่องให้เป็นหนังไทย 1 ใน 100 เรื่องที่คนไทยควรดูกันเลยทีเดียว ท่านใดเคยรับชมแล้วบ้างเอ่ย? หรือท่านใดมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม มาร่วมพูดคุยกันได้

Cr.ความจริงไม่ตายThaiPBS , tnews  , mgronline , pkcd

เรียบเรียงโดย : Red Diary.Blockdit

Previous articleเจ๊ใหญ่​ไม่ชอบ เมื่อพนักงานชอบอู้งาน เลยโดนผีเจ๊ใหญ่สังสอน
Next articleผีเต็มบ้าน ผู้หญิงพาแฟนเข้ามาอยู่บ้าน แต่กับเจอเรื่องแปลก ๆ ทุกคืน จนอยู่แทบไม่ได้