ตัวแสดงแทน นศ.ถ่ายทำหนังจนเสร็จ แต่เพื่อนที่แสดงเป็นผีพึ่งมาถึง

ตัวแสดงแทน

“นักแสดงแทน” เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณปอนด์ที่ได้ไปประสบพบเจอพร้อมกับกลุ่มเพื่อนเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นคุณปอนด์กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ที่มหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง โดยเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย 

กลุ่มเพื่อนคุณปอนด์ที่เรียนด้วยกันจะมีด้วยกันอยู่ทั้งหมด 8 คน แต่เนื่องจากทุกคนต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเหมือนกัน เวลาเข้าเรียนจึงไม่ค่อยจะตรงกัน คุณปอนด์กับกลุ่มเพื่อนๆ จึงคุยกันว่าจะลงเรียนภาควิชานี้ซึ่งมันเป็นวิชาปฏิบัติด้วยกัน 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าคุณปอนด์เรียนสื่อสารมวลชน ซึ่งในแต่ละภาคเรียน เทอมแรกจะเรียนเกี่ยวกับภาคทฤษฎี ส่วนเทอมสองจะเรียนภาคปฏิบัติ แล้ววิชาที่คุณปอนด์ลงเป็นวิชาที่ต้องทำหนังสั้น 

หลังจากที่ทั้งหมดได้พูดคุยกันและตัดสินใจว่า โอเคงั้นเดี๋ยวเราลงวิชานี้แหละ จะได้เรียนด้วยกันและทำงานด้วยกันได้ 

ทุกคนตกลงกันว่าจะทำเป็นหนังสั้นแนวเกี่ยวกับ คู่รักมหาลัย…อกหักฆ่าตัวตาย  เป็นพ็อตเรื่องง่ายๆ เหตุผลเพราะเห็นว่าเราสามารถใช้สถานที่ของมหาลัยในการถ่ายทำได้ และงบประมาณจะได้ไม่บานปลาย 

หลังจากที่หนังเริ่มถ่ายทำกันไปได้ประมาณเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ทีนี้ทุกคนในกลุ่มก็มาคุยกันว่า จะให้ฉากจบออกมาเป็นแบบไหนดี เพื่อนคนนึงจึงเสนอมาว่า 

“งั้นเอาแบบนี้ไหม จริงๆ เราอ่ะ ไม่เคยรู้เลยว่าเวลาคนที่คิดจะฆ่าตัวตาย เขาคิดยังไง…” 

เพื่อนก็เลยบอกว่า “งั้น…เราเอาความรู้สึกตรงนี้ใส่เข้าไปดีกว่า เราจะได้รู้เหตุผลว่าทำไมตอนนั้น เขาถึงตัดสินใจกระโดดตึกเพื่อจะฆ่าตัวตาย…” อะไรประมาณนี้

ทุกคนจึงตกลงกันว่าจะใช้สถานที่เดิมของตึกที่ถ่ายฉากแรก ซึ่งตึกที่จะใช้ถ่ายทำนี้เป็นตึก 4 ชั้น อยู่ติดกับถนนหน้ามหาวิทยาลัย โดยเลือกใช้ชั้นบนสุดและห้องหลังสุด เพราะว่าห้องด้านหลังมันอยู่ติดกับห้องน้ำ สะดวกต่อการแต่งตัวหรือทำธุระส่วนตัวของทีมงานและเพื่อนๆ และจะเลิกกองประมาณ 22:00 น. 

หลังจากพูดคุย สรุปคิวงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็นัดหมายกันว่าพรุ่งให้มาเจอกันที่ตึก เพื่อทำเรื่องขอใช้สถานที่กับทางมหาวิทยาลัย 

ภาพประกอบห้องที่ใช้ถ่าย

วันรุ่งขึ้นคุณปอนด์ก็ดำเนินการทำเรื่องของใช้ตึกกับทางมหาลัยจนเสร็จ หลังเลิกเรียนประมาณ 18:00 น. ทุกคนก็เจอกันที่สถานที่ถ่ายทำ โดยห้องที่เลือกใช้เป็นโลเคชั่น ถ้าหันหน้าเข้าหน้ากระดาน ทางซ้ายมือจะเป็นหน้าต่างแบบเปิดออก ส่วนทางขวามือจะมีประตู 2 บาน คือประตูหน้าและหลัง เป็นประตูทางเข้าและออก 

คุณปอนด์ใช้ประตูด้านหลังเป็นทางออก เพราะว่าเวลาเพลนกล้องให้ผีมันหายไป เพื่อนๆ จะได้วิ่งหลบกันทัน เสร็จแล้วก็เริ่มทำการซ้อมคิวกัน วางมาร์คจุดกันที่หน้าต่างบานที่ 1 2 3 4 ผีก็จะโผล่ขึ้นมา 5 6 7 บานที่ 8 9 10 ผีก็จะหายไป ประมาณ 20:00 น. ซ้อมเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ 

วันรุ่งขึ้นก็มาใหม่ เพื่อที่จะถ่ายทำจริง วันนั้นเพื่อนคุณปอนด์ที่เป็นช่างแต่งหน้าฝ่ายคอสตูมไม่มา เพราะว่าติดงานกะทันหัน แต่ด้วยสปิริต เขาได้ไปยืมตัวเพื่อนอีกกลุ่มมาแทน ซึ่งเพื่อนคนนี้จะไม่รู้จักเพื่อนในกลุ่มเลย มาถึงทุกคนก็แนะนำตัวกันหมด ยกเว้นเพื่อนอีกคนนึงที่แสดงเป็นผีนางเอกยังไม่มา 

พวกเราก็นั่งคุยงานกันว่าบทจะเป็นแบบนั้นแบบนี้นะ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปเกือบจะ 18:00 น. บรรยากาศเริ่มได้ทุกอย่างเริ่มได้ ทุกคนก็ต้องขนของทั้งหมดขึ้นไปเตรียมงานข้างบนตึก  คุณปอนด์ก็เลยโทรไปตามเพื่อนที่เป็นรับบทเป็นผีนางเอก จะเริ่มถ่ายทำแล้วนะ ว่าถึงไหนแล้ว ใกล้ถึงหรือยัง

เพื่อนก็พูดเหมือนเชิงกระซิบกระซาบ คุณปอนด์ก็เลยคิดว่า เพื่ออาจจะติดเรียนอยู่ จึงบอกไปสั้นๆว่า “งั้นเดี๋ยวเราขึ้นตึกกันก่อนนะ เธอรู้คิวอยู่แล้วใช่ไหม” จากนั้นทุกคนก็ขนของเดินขึ้นตึกไป

หลังจากขึ้นมาบนตึก ต่างคนก็ต่างเตรียมงาน ซึ่งนัดถ่ายทำกันตอน 20:00 น. จนเวลาประมาณ 19:40 น. สถานที่พร้อมบรรยากาศได้ เพื่อนที่ผู้กำกับก็เรียกรวมถามว่ามากันครบหรือยัง ปรากฏว่าเพื่อนที่เป็นนางเอกยังไม่มา 

คุณปอนด์จึงโทรตามเพื่อนอีกครั้ง “เธอมาหรือยัง” แล้วเพื่อนก็ตอบมาด้วยน้ำเสียงหอบๆหน่อยว่า “เออเนี่ยฉันเพิ่งเรียนเสร็จ กำลังไป” พอเพื่อนบอกแบบนั้นคุณปอนด์เลยบอกผู้กำกับว่า “เพื่อนกำลังมาแล้ว”

ระหว่างนั้นทุกคนก็กำลังจัดเตรียมของและนั่งกันไปเรื่อย ในจังหวะที่ผู้กำกับเงยหน้าขึ้นมาพอดี เห็นเพื่อนที่แสดงเป็นผีนางเอกมานั่งอยู่ตรงจุดที่มาร์คเรียบร้อย จึงบอกทุกคนว่า “เฮ้ย ๆ นางเอกเรามาแล้ว เตรียมพร้อมทำการแสดง” คุณปอนด์ก็แซวอยู่เลยว่า สงสัยนางมาสายก็เลยรีบไปประจำที่…

แต่เหมือนกล้องมันเหมือนจะมีปัญหา ผู้กำกับก็เลยบอกเพื่อนที่เป็นคอสตูม ให้เดินไปดูย้ำคิวและเช็คหน้านางเอกและเสื้อผ้าด้วยว่าเรียบร้อยหรือยัง ไม่ถึง 5 นาทีคอสตูมก็เดินกลับมาบอกว่า “พร้อมแล้ว”

ผู้กำกับจึงเริ่มดำเนินการถ่ายทำ จนกระทั่งการถ่ายทำเสร็จลง ผู้กำกับสั่งคัท ทุกคนก็รีบมารุมเทปในกล้องกัน  ปรากฏว่ายังไม่ทันจะได้เปิด ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนวิ่งมาอย่างเร็ว ทุกคนก็เงยหน้าขึ้นไปมอง  ปรากฏว่าเป็นเพื่อนเราที่รับบทเป็นผีนางเอกกำลังวิ่งมาด้วยท่าทีเร่งรีบ 

ตอนนั้นคุณปอนด์ได้แต่คิดในใจ อ้าว…จะต้องวิ่งมาประตูหน้าเพื่ออะไร เดินอ้อมเข้ามาทางประตูหลังก็ถึงแล้ว 

พอนางวิ่งมาถึง นางก็พูดจาไม่รู้เรื่อง คงเพราะหอบจากการที่รีบวิ่งขึ้นตึกมา จนผู้กำกับบอก “ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด มีอะไร…” เพื่อนพูดกลับมาคำนึงว่า “ขอโทษนะ ที่มาช้า…” 

ทุกคนนีหน้าเหวอกันหมดเลย อ้าว…แล้วเมื่อกี้ใครเป็นคนแสดงล่ะ!! 

ทุกคนต่างหันมองหน้ากันแล้วก็พูดขึ้นว่า “เดี๋ยว!! เธอแน่ใจนะว่าเพิ่งมา” นางก็ตอบว่า “ก็ใช่สิ เราเพิ่งขึ้นมาเมื่อตะกี้ พึ่งยื่นเอกสารให้กับ รปภ แล้วก็รีบขึ้นมานี่แหละ ทำไมหรอ” เท่านั้นแหละทุกคนพากันหันมามองหน้าคอสตูมทันที 

ปรากฏว่า คอสตูมเริ่มเหงื่อแตก มือสั่น เหมือนจะเป็นลม ผู้กำกับเห็นถ้าไม่ดีก็เลยเลิกกอง บอกให้ทุกคนเก็บของแล้วลงไปเช็คเทปกันข้างล่าง ทุกคนก็เห็นช้วย เพราะตอนนั้นไม่มีใครมีอยากอยู่ในห้องนี้อีกแล้ว

ระหว่างที่ทุกคนเดินลงไป เพื่อนที่รับบทเป็นนางเอกก็ได้แต่งงว่า มันเกิดอะไรขึ้น พอตอนที่ลงมาถึงชั้นล่าง ปรากฏว่า พี่ รปภ ไม่อยู่ ซึ่งพวกเราต้องแจ้งพี่ รปภ ว่าถ่ายทำกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เขาปิดสถานที่

คุณปอนด์ก็เลยโทรไปหาพี่ รปภ ว่า “พี่ค่ะ…พี่อยู่ไหน พอดีว่าหนูไม่เห็นพี่” พี่ รปภ ก็ตอบมาว่า “กำลังกินข้าวอยู่ หนูวางเอกสารไว้ที่ป้อมแหละ ” 

คุณปอนด์จึงวางเอกสารเลยแล้วรีบเดินไปหาที่สว่างๆ เพื่อยืนคุยกัน ทุกคนมองหน้ากันแล้วก็เล่าเหตุการรืทั้งหมดก่อนที่เพื่อนที่เป็นผีนางเอกจะมาฟัง 

สักพักก็มีเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “เช็คเทปไหม” คุณปอนด์ก็เลยหันไปบอกเพื่อนว่า “ก่อนจะเช็คเทป ไปเช็คอาการคอสตูมก่อนไหม ว่าตอนนี้เค้าเป็นไงบ้าง ไปเจออะไรมา” ซึ่งเพื่อนที่เป็นคอสตูมก็ดูเหมือนจะยังไม่พร้อมเล่า ดูนางอยู่ในอาการตื่นกลัวหรือยังช็อคกับอะไรอยู่ 

ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจว่า เช็คก็เช็ค งั้นเช็คเลย เช็คเทปก่อนเลย  ปรากฏว่าตั้งแต่เริ่มถ่ายทำยันจบ มีแต่ความว่างเปล่า…ไม่มีใครอยู่ในกล้องเลยสักคน… 

ซึ่งมันมีจังหวะก่อนเริ่มถ่ายทำ ตากล้องได้ตั้งกล้องบันทึกไว้ก่อนแล้ว ในคลิปจะเห็นว่าคอสตูทเขาเดินเข้าไปคุยอยู่คนเดียวตรงนั้น แต่ไม่มีใคร จากนั้นก็เดินกลับมา เห็นแค่นั้นเลย…

ซึ่งซีนนั้นเป็นซีนอารมณ์ประมาณว่า ผีนางเอกจะนั่งยืดขา หลังพิงผนัง ก้มหน้า ผมยาวปิดใบหน้า แค่นั้นเลย พอทุกคนดูเทปจบก็เลยกลับมาถามคอสตูมว่าเกิดอะไรขึ้น คอสตูมก็เล่าให้ฟังว่า… 

ตอนที่เขาเดินเข้าไปดูผีนางเอกไป แสงไฟจากตึกฝั่งโน้นมันสาดเข้ามาพอให้เห็นเป็นเสื้อเหมือนผ้าดิบสีเหลืองๆ เก่าๆ แล้วก็กลิ่นเหม็นสาบที่รุนแรงมาก เขาก็เลยคิดว่า เออ…สงสัยนางคงไปขุดเสื้อเก่าๆ ที่ไหนมาใส่  แล้วก็เดินเข้าไปหานาง

ซึ่งจริงๆ คอสตูมจะต้องเข้าไปแต่งหน้าเพื่อนด้วย แต่เมื่อเดินไปถึงเห็นว่าหน้าเพื่อนซีดอยู่แล้ว ปากซีดอยู่แล้ว ก็คิดว่าสงสัยนางคงเตรียมตัวมาดี คอสตูมก็เลยถามเพื่อนว่า “ได้ซ้อมบทกับผู้กำกับมาไหม” แล้วนางก็ตอบกลับมาว่า …อืม… สั้นๆ ตอนนั้นคอสตูมรู้สึกขนลุกแปลกๆ ก็เลยรีบเดินกลับมา 

หลังจากที่ถ่ายทำเสร็จ แล้วพอคอสตูมเห็นว่าเพื่อนที่รับบทเป็นผีนางเอกตัวจริง พึ่งวิ่งเข้ามา แล้วคุณปอนด์ก็ทักว่าจะวิ่งมาทำไม คอสตูมก็เริ่มสงสัยแล้วก็ถามทันทีว่า “ใครวิ่งมา” แล้วเพื่อนอีกคนก็ตอบว่า “ก็คนที่เล่นเป็นผีไง นางเอกเรานี่แหละ จะวิ่งมาทำไม” 

เท่านั้นแหละเพื่อนที่เป็นคอสตูมกลัวมาก เพราะหน้าคนที่เห็นในตอนแรกมันคนละหน้ากันเลย 

ความซวยของคอสตูมแท้ ๆ โดนหนักสุดอยู่คนเดียวเลย ถ้าหากคอสตูมคนเดิมไม่ติดธุระ เรื่องแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะว่าเพื่อนคนนั้นเค้าจะรู้ว่าคนไหนที่จะต้องแสดงเป็นผีนางเอกจริงๆ แต่นี่เป็นเพื่อนที่มาจากกองอื่น มาแทนคอสตูมอีกคนที่ติดงานกระทันหัน ซึ่งไม่ได้รู้จักกันมาก่อน โดนไปเลยเต็มๆ 

สรุปทุกคนก็เลยตัดสินใจมาถ่ายทำกันใหม่ในรุ่งขึ้นของวันถัดมา แต่ว่าเปลี่ยนตึกไม่ใช้ตึกเดิมแล้ว ไปถ่ายอีกตึกนึงแทน 

แต่ด้วยความที่ทุกคนยังค้างคาใจว่า ผู้หญิงคนเมื่อคืน เค้าคือใคร ก็เลยไปหาคำตอบ โดยการไปถามพี่ รปภ คนที่เรายื่นเอกสารให้เมื่อคืน 

พี่ รปภ บอกว่า “อ้าว…เจอกันแล้วหรอ” พี่แกพูดเหมือนกับว่าแกเจออยู่เป็นประจำ… 

สรุปเรื่องนี้ถูกแบ่งออกเป็น  2 ความคิดเห็น 

ความคิดเห็นแรกคือทุกคนลงความเห็นว่า อาจจะเป็นเจ้าที่ ที่สิงสถิตอยู่ ณ ที่ตึกนั้น

ส่วนความคิดเห็นที่ 2 เป็นคำบอกเล่าจากรุ่นพี่ชมรมต่างๆ ที่อยู่แถวนั้นบอกว่า เหมือนจะเป็นนักศึกษาที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีต 

ส่วนตัวแล้วคุณปอนด์คิดว่าเขาคงจะมาให้เห็นมากกว่า เพราะสมัยก่อนมักมีข่าวว่ามีขโมยขึ้นตึกแห่งนี้อยู่บ่อยๆ เขาก็เลยออกมาดูว่ามาทำอะไรกันมากกว่า…

จบ…

ขอขอบคุณเรื่องเล่าจาก อังคารคลุมโปง  เรื่อง นักแสดงแทน | คุณปอนด์  

บทความนี้ถูกเรียบเรียงจาก Youtube ห้ามนำไปทำซ้ำ หรือคัดลอกเนื้อหาไปลงที่อื่นใด

Previous articleยังไม่อยากตาย เมื่อคนตายยังไม่อยากตาย เรื่องสุดหลอนจึงเกิดขึ้น
Next articleคริสต์มาสสีเลือด