ป๊อบ ปองกุล เจอผีข้างทางต่างช่วงเวลา ถนนเส้นหนองจอก

ผีเกาะหลังคารถ

ป๊อบ ปองกุล ถือเป็นนักร้องคุณภาพคนนึงในวงการเพลงบ้านเรา โดยนอกจากการร้องเพลงแล้วเขายังไปทำรายการอีกมากมาย รวมทั้งเป็นดารารับเชิญเล่นภาพยนตร์ด้วย

ส่วนประสบการณ์ชวนขนหัวลุกนั้น ป๊อบ ปองกุล ก็เคยเล่าออกทางรายการมาบ้าง วันนี้แอดมินจึงขออนุญาตนำมาเล่าต่อให้เพื่อนๆได้ฟังกันครับ..

เรื่องนี้เกิดในสองช่วงเวลาแต่บนถนนเส้นเดียวกัน โดยต้องย้อนกลับไปเมื่อสมัยคุณป๊อบ ยังเป็นเด็กๆ ตอนนั้นคุณป๊อบยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นประถมศึกษาที่นึงใน จ.ปราจีนบุรี

ระหว่างนั้นก็มีโอกาสเดินทางมากรุงเทพกับที่บ้านบ้าง ซึ่งเวลาจะมากรุงเทพก็จะเอารถส่วนตัวมา ส่วนมากใช้เส้นทางหนองจอก ซึ่งถือเป็นทางที่ลัดที่สุดแล้วสมัยนั้น

อย่างที่รู้กันว่าเมื่อ 10-20 ปีก่อน ถนนเส้นหนองจอกนั้นทั้งมืดและก็เปลี่ยว พอดึกๆ ถนนเส้นนี้จะว่างมาก นานๆ จึงจะเห็นมีรถวิ่งสวนมาสักคัน

วันนั้นคุณป๊อบ ได้นั่งรถมากรุงเทพกับแม่ตอนกลางดึก โดยที่คุณป๊อบนั่งเบาะหลัง ระหว่างทางก็หลับๆ ตื่นๆ บ้าง เหตุการณ์ทุกอย่างก็ดูเป็นปกติดีไม่มีอะไร

จนกระทั่งมีอยู่ช่วงนึงที่คุณป๊อบ หลับไป แล้วตื่นขึ้นมาอีกทีเขาก็มองออกไปนอกหน้าต่างด้านข้าง รู้สึกว่ามีรถวิ่งมาข้างๆ

เท่าที่สังเกตรถที่วิ่งมานั้นเป็นรถโฟร์วิวธรรมดาๆ แต่ที่มันน่าขนลุกก็ตรงที่บนหลังคารถคันนั้น กลับมีร่างของชายคนนึงกำลังเกาะอยู่ บางจังหวะก็ทำท่าเหมือนกับโต้ลม..!

ซึ่งเท่าที่ดูคุณป๊อบ บอกว่า ร่างนั้นไม่เหมือนคนเท่าไร ดูตัวลอยๆ พิกล แล้วชายคนนั้นก็ยังหันหน้ามายิ้มให้กับคุณป๊อบด้วย..!!

ด้วยความสงสัยว่าที่เห็นนั้นเป็นอะไร และทำไมมาเกาะรถแบบนั้น คุณป๊อบจึงถามคุณแม่ที่กำลังขับรถอยู่ว่า “แม่..นั่นอะไร ?”

แต่คุณแม่ของคุณป๊อบกลับไม่ตอบอะไร บอกแค่ว่าให้นั่งเฉยๆ อย่าพูด แล้วคุณแม่ก็รีบเร่งความเร็วรถแซงทิ้งรถคันนั้นไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นผ่านไป เป็นเวลาสิบกว่าปี คุณป๊อบก็แทบจะลืมเรื่องนั้นไปแล้ว จนคุณป๊อบเริ่มเข้าสู่วงการ กลายมาเป็นนักร้องที่มีคนรู้จัก

วันนั้นคุณป๊อบ ได้มีโอกาสไปงานบวชเพื่อนคนนึงที่ปราจีนบุรี เขาจึงตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพพร้อมกับเพื่อนอีกจำนวนนึงไปร่วมงานบวชกัน โดยขับรถออกจากกรุงเทพในช่วงกลางคืน คุณป๊อบใช้เส้นทางหนองจอกอีกเช่นเคย เวลานั้นเพื่อนเป็นคนขับส่วนคุณป๊อบเป็นคนนั่ง

ระหว่างที่นั่งรถมา คุณป็อบก็เกิดนึงถึงเรื่องที่ตัวเองเคยเจอบนถนนเส้นนี้ จึงได้นำมาเล่าให้เพื่อนฟังในรถ

โดยระหว่างที่เล่า เพื่อนก็ลุ้นไป เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดชึ้นบนถนนเส้นเดียวกัน และจุดที่ใกล้เคียงกัน แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม

และจู่ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อรถที่คุณป๊อบและเพื่อนนั่งมาเกิดมีอาการผิดปกติ จนทำท่าจะดับให้ได้

คุณป๊อบเลยบอกให้เพื่อนขับรถประคองไปจอดตรงที่ๆ มันสว่างหน่อย แล้วช่วยกันลงไปดูว่ารถเป็นอะไร

สรุปคือรถเสีย ไปต่อไม่ได้ จังหวะนั้นจึงต้องมายืนโบกรถเพื่อขอความช่วยเหลือ โชคดีที่มีแท็กซี่คันนึงขับผ่านมาพอดี คนขับเป็นลุงแก่ คุณป๊อบจึงขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยลากรถไปที่สถานีตำรวจซึ่งอยู่ใกล้ๆ หน่อย ลุงคนขับแท็กซี่ก็ตอบตกลง

พอรถมาที่สถานีตำรวจ พวกคุณป๊อบก็ลองสตาร์ทรถดูใหม่อีกที ปรากฏเที่ยวนี้รถติดเฉยเลย ราวกับไม่ได้เสียมาก่อน ซึ่งมันแปลกมากๆ

ทุกคนก็เลยตกลงกันว่า จะขับรถไปปราจีนต่อเลยดีกว่า และคราวนี้พวกคุณป๊อบก็ยังนึกสนุกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นต่ออีก

และเชื่อมั๊ย พอรถขับออกมาได้ไม่เท่าไร ก็มีหมาดำขนาดใหญ่ซึ่งมาจากไหนไม่รู้ วิ่งตัดหน้ารถเฉยเลย..! จนเพื่อนที่เป็นคนขับต้องเหยียบเบรคหัวแทบทิ่ม

แล้วระหว่างนั้นรถที่ขับมาก็เกิดเสียงแตรดังลั่นขึ้นมาเองอีก เสียงดังค้างลากยาวอยู่แบบนั้น ทั้งๆ ที่เพื่อนไม่ได้กด หรือกระทั่งเอามือจับพวงมาลัยเลยด้วยซ้ำ..!

คุณป๊อบรู้สึกว่าตัวเองและเพื่อนน่าจะโดนอะไรให้แล้ว ระหว่างทางที่มาได้ทำอะไรไม่ดีรึเปล่า การที่เล่าถึงสิ่งที่มองไม่เห็น อาจทำให้บางสิ่งบางอย่างไม่พอใจเอาก็ได้

พอคิดแบบนั้น เพื่อความสบายใจจึงยกมือไหว้ขอโทษอะไรก็ตามที่มองไม่เห็น และจากนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย จนขับรถไปถึงปราจีนบุรีอย่างปลอดภัย

เรื่องยังไม่จบแค่นี้ วันนั้นหลังจากร่วมงานบวชเพื่อนเสร็จ คุณป๊อบก็มีงานที่จะต้องกลับกรุงเทพเพื่อไปร้องเพลงต่อในตอนค่ำ.. แต่เพื่อนที่ไปด้วยตอนขามา ไม่มีใครกลับด้วย ทุกคนค้างอยู่ที่นั่นต่อ.. ก็เท่ากับว่าเขาต้องขับรถกลับบ้านแค่เพียงคนเดียว

ขากลับคุณป๊อบ ยังใช้เส้นทางเดิม ระหว่างทางก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จนกระทั่งขับรถมาถึงจุดที่เมื่อคืนรถเสีย

คุณป๊อบตัดสินใจชะลอรถและยกมือไหว้ พร้อมกับบีบแตร คล้ายเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานที่อะไรแบบนั้น

รถวิ่งผ่านจุดนั้นไปนิดนึงก็จะเจอทางโค้ง คุณป๊อบกวาดสายตามองด้วยความอยากรู้ แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อคุณป๊อบสังเกตเห็นตรงโค้งนั้นมีศาลขนาดใหญ่ตั้งอยู่.. มันทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมา และก็ขนหัวลุกแบบบอกไม่ถูก นึกในใจว่าหรือเหตุการณ์ที่เจอเมื่อคืน เราคงจะโดนอะไรเข้าให้แล้วแน่ๆ..!

เรื่องเล่าจากดาราเรื่องนี้ แอดมินอ่านแล้วทำให้เชื่อเลยว่าเรื่องราวของสัมภเวสีที่อยู่ตามท้องถนนนั้นน่าจะมีอยู่จริง โดยเฉพาะพวกศาล ที่เวลาคนขับรถผ่านไปผ่านมามักจะบีบแตรแสดงความเคารพ

ส่วนศาลขนาดใหญ่ในเรื่องที่คุณป๊อบ เจอมา บนถนนเส้นหนองจอกทางที่จะไปปราจีนบุรีนั้น ก่อนหน้านี้ก็เคยมีแฟนเพจท่านนึงเขียนเรื่องเข้ามาเล่าให้ฟังเหมือนกัน เรียกว่าถือเป็นอีกจุดที่น่ากลัว และก็น่าสนใจเลยทีเดียว.

ขอบคุณข้อมูลจาก” ป๊อบ ปองกูล เล่าไว้ในรายการ camp ปลิ้น “

เรียบเรียงโดยลุงเชิงโกดังหลอน สยองขวัญวาไรตี้

Previous articleศาลาผีเฮี้ยน สัปเหร่ออุตริลองคาถาอาคม จนกลายเป็นบทจองจำผีตายโหง
Next articleยังไม่อยากตาย เมื่อคนตายยังไม่อยากตาย เรื่องสุดหลอนจึงเกิดขึ้น