“คน ผี ปีศาจ” วิดีโอในวัยเด็กของผมในห้องใต้หลังคาของพ่อแม่

คน-ผี-ปีศาจ

พ่อที่ผมรักมากเพิ่งจากไป สำหรับผมและแม่มันยากที่จะทำใจ แม่ผมร้องไห้แทบขาดใจตอนที่พ่อจากไป พ่ออายุ 75 ปี และแม่ตอนนี้อายุ 70 ​​แล้ว ดังนั้นแม่จึงแก่เกินไปที่จะจัดการเรื่องของพ่อเอง อีกทั้งแม่ยังเป็นคนพิการ ไม่สามารถเดินได้ตั้งแต่อายุ 62 ปี ในฐานะที่เป็นลูกคนเดียว ผมจึงต้องรับหน้าที่ทุกอย่างต่อจากพ่อ แน่นอนว่ามันเป็นงานใหญ่ แต่ผมคิดว่าการพยายามทำมันให้ดีที่สุด

ผมเริ่มคัดแยกของต่าง ๆ ในบ้าน หาว่าควรเก็บอะไร อะไรควรทิ้ง และอะไรควรบริจาค เป็นเรื่องที่ดีมากที่ผมได้เห็นของเก่าและของโบราณจากหลายทศวรรษที่พ่อแม่ผมเก็บไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ผมเริ่มขนย้ายสิ่งของออกจากห้องใต้หลัง กระทั่งไปเจอหีบเก่าๆ ที่มีแม่กุญแจล็อกอยู่ ผมไม่แปลกใจเลยเพราะพ่อแม่ของผมมักจะมีความลับอยู่เสมอ ผมลากมันออกมาตรวจสอบดู สภาพมันทั้งเก่าและเป็นสนิม 

แทนที่ผมจะหาลูกกุญแจมาไข ผมคิดว่าหาค้อนดี ๆ สักอันมาทุบมันออกดูจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะการที่พ่อซ่อนของไว้ในที่แบบนี้ พ่อคงไม่อยากให้มีใครได้พบมัน อีกอย่างผมก็ไม่มีอารมณ์และเสียเวลาที่จะตามหากุญแจดอกนั้น 

ผมรื้อหาอุปกรณ์ที่จะมาทุบแม่กุญแจออก จนพบกล่องเครื่องมือเก่าๆ ของพ่อ ผมคว้าค้อนอันใหญ่ขึ้นมา แล้วทุบไปที่แม่กุญแจอันเก่านั้น จนมันหลุดออก 

ผมค้นดูสิ่งของในหีบมันมี รูปภาพ เทปวิดีโอ หนังสือเด็ก เสื้อผ้าเก่าๆ และสิ่งอื่น ๆ ที่ผมไม่คุ้นตาเลย กระทั่งผมไปสะดุดตากับเทปเก่า ๆ จำนวนหนึ่ง  ผมหยิบเทปตลับนึงมันขึ้นมาดู มันมีข้อความเขียนว่า 

“วันเกิดอีวาน 1988” 

ผมยิ้มและหัวเราะกับตัวเอง ผมจำได้ว่าพวกเขามีกล้องวิดีโอตัวเก่าอยู่ พ่อมักจะพูดว่า พ่อชอบที่จะหวนคิดถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพ่ออยู่บ่อยครัง ผมตัดสินใจหยิบเทป 3 ตลับ ไปที่ทีวีในห้องทำงานของพ่อที่อยู่ด้านล่าง ผมรู้สึกดีใจที่พ่อไม่เคยฟังผมเลย เพราะผมเคยบอกให้พ่อทิ้งเครื่องเล่นวีดีโอเทปตัวเก่านี้

ผมใส่เทปสีดำลงในเครื่องเล่นและนั่งดูวิดีโอที่กำลังเล่น ผมเห็นตัวเองอยู่ในหน้าจอ ใช่..ผมอยู่ที่นั่น ผมในตอนที่อายุแค่ 2 ขวบ กำลังเล่นน้ำในแอ่งน้ำเล็กๆ ที่สวนสาธารณะใส่รองเท้าบูทกันฝนสีฟ้าเล็กๆ แม่ของผมจับมือผมและหัวเราะ และได้ยินพ่อของผมพูดว่า “กระโดดไปเล๊ย” 

ทุกครั้งที่ผมเล่นน้ำในแอ่งน้ำ แม่จะลูบหัวของผมด้วยความรัก เพียงช่วงเวลาอันเงียบสงบที่บันทึกไว้ในเทปนี้ ผมยิ้มให้ตัวเองเมื่อนึกถึงพ่อและได้ยินเสียงของเขา ผมนั่งยิ้มอยู่หน้าจอ แล้วผมก็สะดุ้งเมื่อเห็นบางอย่าง…!!

ห่างออกไปจากสวนสาธารณะประมาณ 100 เมตร อาจจะน้อยกว่านั้น ที่ริมแนวต้นไม้ มีผู้หญิงคนหนึ่งหันหน้าหนีกล้อง ยืนนิ่งอยู่คนเดียว เธอผมสีดำยาวถึงพื้น รูปร่างผอมแห้ง และผิวของเธอก็ดูซีด  ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สวมเสื้อผ้าใดๆ เลย นอกจากชุดชั้นในสีครีม 

พ่อซูมกล้องเข้าไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของแม่ และเมื่อพ่อซูมกลับออกอีกครั้ง ผู้หญิงคนนั้นก็หายไปแล้ว 

“อี๋… ตัวประหลาดอะไรอย่างนี้” ผมพึมพำกับตัวเองขณะกดปุ่มดีดเทปออก

ผมลองหยิบเทปตลับอื่นขึ้นมาดู มีอยู่ตลับนึงเขียนว่า “4 กรกฎาคม 1989” วันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันหยุดที่ผมชอบมาก ผมเสียบเทปเข้าไป และนั่งดูมัน ผมเกือบลืมท่านไปแล้ว  ยายของผม ภาพของผมที่กำลังนั่งอยู่บนตักของยาย และยายก็กำลังช่วยผมแกะเปลือกกุ้งให้ผม นี่เป็นอาหารที่ผมชอบที่สุดในโลก ผมรู้สึกสบายใจที่พ่อกับยายได้อยู่ด้วยกันตอนนี้

ผมรู้สึกสนุกสนานไปกับชีวิตวัยเด็กที่ไร้กังวล พ่อหมุนกล้องไปรอบๆ งานปาร์ตี้ในลานอันกว้างใหญ่ของปู่ย่าตายายของผม เด็กๆ วิ่งเล่นด้วยกันสนุกสนาน ผู้ใหญ่พูดคุยกันขณะกินหมูย่าง ในบ้านหลังใหญ่ที่พวกเขา ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ปู่ย่าตายายของผมเป็นศูนย์รวมของความสุข 

ขณะที่พ่อเลื่อนถ่ายดูบรรยากาศรอบ ๆ งาน ผมรู้สึกหวาดกลัวอีกครั้ง เมื่อกล้องเลื่อนผ่านหน้าต่างกระจกบานเลื่อน

“ไม่มีทางหรอกน่า” 

ผมพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่มือก็กระแทกไปที่ปุ่มกรอกลับ เพื่อย้อนกลับไปที่หน้าต่างอีกครั้ง และผมก็กดหยุดชั่วคราว เธออยู่ที่นั่นอีกแล้ว ในบ้านหลังนี้ ผู้หญิงคนเดิม ยืนนิ่งไม่กระดุกกระดิก หันหน้าหนีกล้องและพิงประตูกระจกบานเลื่อนอยู่ คราวนี้เธออยู่ใกล้แค่ประมาณ 10 เมตร แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครสนใจเธอ หรือพวกเขามองไม่เห็นเธอกันนะ

บางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกกลัวขึ้นมา ผมตัดสินใจดึงเทปออกแล้วหยิบอันที่ใกล้ที่สุด ใส่เข้าไป

“อีสเตอร์ 1991” ผมใส่มันเข้าไปในเครื่องเล่นและกดเล่นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเหงื่อผมเริ่มซึมออกฝ่ามือ  ฉากนี้ผมจำได้ว่ามันเป็นวันอาทิตย์ ในมือผมกำลังถือตระกล้าใส่ขนมวิ่งเล่นไปมา ความนี้ผมพยายามจะไม่มองหาผู้หญิงคนนั้น แต่ เธออยู่ที่นั่น!!

เธออยู่ด้านนอกหน้าต่างห้องอาหาร และยังคงหันหน้าไปทางอื่น เธอยืนอยู่ใกล้พอที่ผมจะเห็นว่าตัวเธอตัวเปียกโชก หนังหุ้มกระดูก แขนของเธองอผิดรูปไปด้านหลัง และใช้ฝ่ามือกดไปกับกระจก นิ้วมือของเธอหงิกงอ กดจิกลงไปที่กระจก

ขณะที่ฉากนั้นเคลื่อนไปรอบๆ เธอ โดยที่แม่ของผมกำลังช่วยผมแกะโถ่ช็อกโกแลตชิ้นหนึ่ง และสุนัขตัวน้อยของครอบครัวเราก็วิ่งไปรอบๆ มันหวังจะได้เศษอาหาร ส่วนเธอก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ขณะนั้นลมหายใจของผมเริ่มเร็วขึ้น…ก่อนที่เทปจะตัดจบไป

และผมก็หยิบเทปตลับสุดท้ายขึ้นมา นั่นคือ “คริสต์มาส 1991” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ และใส่มันเข้าไป ฉากนั้นปรากฏขึ้นบนหน้าจอ และนั่นคือเทศกาลคริสต์มาสของเราที่ผมจำได้เสมอ

ต้นคริสต์มาสตรงมุมห้องนั่งเล่น แสงไฟอันอบอุ่นเล็กน้อยจากโคมไฟสะท้อนให้เห็นถึงความสวยงามในช่วงเช้าตรู่ ผมเฝ้าดูตัวเองในอดีตที่เปิดของขวัญและถือไว้ด้วยความดีใจ แม่ของผมยืนอยู่ข้างผมในชุดคลุมสีชมพูคลุมผม แม่ถือกาแฟ และมองดูความตื่นเต้นของผม ครั้งนี้ผมถอนหายใจโล่งอกเมื่อไม่เห็นผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้น

แต่ทันใดนั้น หัวใจของผมก็เต้นระรัว ลมหายใจติดอยู่ในลำคอ เธออยู่ที่นั่น!! ผมเห็นเธออยู่ตรงหัวมุมหลังคริสต์มาส เธอยืนหันหน้าหนีกล้องเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้เธออยู่ห่างจากผมเพียงเมตรกว่า ๆ ผมมองดูผู้หญิงคนนี้ผ่านหน้าจอด้วยความหวาดกลัวจนตัวเกร็งไปหมด  

ผมรู้สึกได้ถึงความโกรธและความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาจากในวิดีโอ เธอยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีใครสังเกตเห็น จากนั้นผมก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหว เธอค่อยๆหันหัวของเธออย่างช้าๆ แต่ก่อนที่ผมจะเห็นใบหน้าของเธอ ผมดันใจไม่ถึง กดปุ่มเครื่องเล่นทันที จนเทปดีดออกมาอย่างแรง 

ผมเริ่มหายใจไม่ออก ร่างกายของผมมันชาไปหมด บางสิ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มันรู้สึกถึงความผิดหวัง น่ากลัว และชั่วร้ายในเวลาเดียวกัน จากนั้นผมก็รีบคว้าเทปแล้ววิ่งกลับขึ้นไปที่ห้องใต้หลังคา

ผมกลับมาเพื่อหาของในหีบเพิ่มเติม มันจะต้องมีคำตอบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ทำไมเธอถึงอยู่ใกล้เราเสมอ กระทั่งผมไปสะดุดตาเข้ากับเทปตลับหนึ่ง ผมหยิบมันขึ้นมาและลงบันไดกับไปที่ห้องทำงานของพ่ออย่างไม่ลังเล

ผมเดินไปที่เครื่องเล่นวิดีโอ และสิ่งที่เขียนบนเทปคลับสุดท้ายคือ “เกิดอีวาน” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วใส่เทปเข้าไปในเครื่องเล่นวิดีโอ ภาพเบื้องหน้าผมคือแม่ที่อุ้มผมตอนเป็นเด็กไว้ พวกเขาอยู่ที่บ้าน ผมจำห้องน้ำได้จากบ้านในวัยเด็กของผม นี่คงเป็นเหตุการณ์หลังจากที่พวกเขาพาผมกลับมา แล้วไม่กี่วินาทีเทปก็จบลง ผมจึงกดกรอเทปกลับไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงจุดเริ่มต้น

“ถึงเวลาแล้ว จอห์น (จอห์น คือชื่อของพ่อผม) ” แม่พูดกับกล้องด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเมื่อเริ่มเทป 

“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันมาถึงแล้ว ลูกของเรากำลังจะกลับบ้าน” พ่อพูดแต่ไม่ได้อยู่ในมุมกล้อง แต่ผมรู้สึกได้ถึงความหวิวในจิตใจของเขาผ่านน้ำเสียงของเขา แม่ของผมเริ่มเดินขึ้นบันไดเข้ามาในมุมกล้อง ผมรู้สึกทึ่งกับความผอมของแม่ แม่บอกว่าตอนที่ท้องผม แม่แทบจะไม่ออกไปไหนให้ใครเห็นเลย 

ขณะที่ทั้งสองขึ้นบันได แม่จูบพ่อและพ่อก็พูดว่า “ตาคุณแล้ว” ตามด้วยเสียงหัวเราะ และเอื้อมมือไปเปิดประตูห้องน้ำ แม่เปิดมันช้าๆ และเหตุการณ์สุดสยองที่ผมจะได้ดูต่อจากนี้ ผมไม่ได้เตรียมใจมาก่อนเลย

ในอ่างอาบน้ำมีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอซีดเซียว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ และเธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้า นอกจากเสื้อชั้นในและกางเกงชั้นในสีครีม สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความรู้สึกเจ็บ มันดูน่ากลัว จมูกของเธอเป็นสีม่วงและเบี้ยวผิดรูป ริมฝีปากของเธอดูแตกและบวม 

เธอร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด แขนของเธอถูกมัดไขว้หลังไว้ น้ำในอ่างเป็นสีแดงเพราะมันเต็มไปด้วยเลือด และที่แย่ที่สุดคือเธอกำลังท้องแก่มาก ๆ 

“ถึงเวลาแล้วเอมิลี่ เขากำลังมา”

แม่พูดกับผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นเริ่มสะอื้น และส่ายหัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับส่งเสียง “เอ่อ เอ่อ อื้อออ!” 

ด้วยเหตุผลบางอย่างผมไม่สามารถละสายตาจากความสยดสยองบนหน้าจอได้ ไม่ว่าผมจะพยายามเมินเฉยแค่ไหนก็ตาม ราวกับว่าดวงตาของผมถูกดึงดูดไปที่หน้าจอ ทั้ง ๆ ที่จิตใจของผมกำลังกรีดร้องบอกให้ปิดมัน แต่ผมทำไม่ได้

แม่ดึงมีดแกะสลักเล่มใหญ่ออกมาจากเอวของแม่ “ระวัง แมรี่แอน (นั่นชื่อแม่ของผมเอง)” พ่อพูดเตือนแม่ แม่หันมายิ้มและพูดกับพ่อว่า “อย่ากังวลไปเลยจอห์น ฉันจะทำมันอย่างระวัง ลูกของเราต้องสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน” แม่พูดพร้อมกับใช้นิ้วลูบคมมีด

จากนั้นแม่ก็เอามือข้างหนึ่งปิดปากผู้หญิงคนนั้น และพูดกับเธอว่า “ขอบคุณนะเอมิลี่ นี่คือสิ่งที่ถูกต้อง เราจะมอบชีวิตให้ลูกคนนี้ตามที่เขาสมควรได้รับ ชีวิตที่คนอย่างเธอไม่มีวันทำให้เขาได้” จากนั้นแม่ก็เริ่มกรีดหน้าท้องของผู้หญิงนั้นอย่างช้าๆ เธอกรีดร้องและบิดตัวด้วยความเจ็บปวด 

“เราควรหุบปากเธอไหม” พ่อผมถามแม่ 

“รำคาญทำไม? เพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปตั้ง 2 กิโล และดึกดื่นแบบนี้พวกเขาคงหลับนอนกันหมดแล้ว ” แม่พูดอย่างสบายใจพร้อมกับยักไหล่

พระเจ้า ผมไม่เคยเห็นเลือดมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ผู้หญิงคนนั้นพยายามร้องไห้และกรีดร้อง แต่เพราะมือของแม่ที่ปิดปากเธอไว้แน่นจนแทบจะไม่มีเสียงใดผ่านออกมาได้ 

มีดค่อย ๆ กรีดผ่านผิวหนัง แม่จดจ่อกับงานของแม่มาก จนผู้หญิงคนนั้นร้องไห้และดิ้นทุรนทุรายไปมา แต่แม่ก็ไม่ได้สนใจเธอ เธอเริ่มกลิ้งไปด้านข้าง แม่ก็เลยตบหน้าเธอไปหนึ่งที เปี๊ย!!

“อย่าดิ้นสิ เธอต้องการให้ฉันทำร้ายเด็กคนนี้หรือไม่? ถ้าเขาถูกมีดบาดเธอต้องรับผิดชอบ”

ขณะที่แม่ตัดผ่านเนื้อชั้นถัดไป กล้องก็หันไปที่หน้าของผู้หญิงคนนั้น เธอกรีดร้องดังขึ้น แม่จึงจัดจับหัวของเธอโขกกับอ่างน้ำอย่างแรง เธอยังมีชีวิตอยู่ แต่เสียงกรีดร้องคร่ำครวญความเจ็บของเธอก็ดังขึ้นเรื่อยๆ เลือดสีแดงเข้มไหลออกจากหัวเธอ

“เขาอยู่กับเราแล้ว” 

ผมได้ยินแม่พูดในเทป มันดึงความสนใจของผมกลับมา แม่ของผมดึงทารกออกจากท้องของผู้หญิงคนนี้ เลือดไหลท่วมแขนของแม่จนถึงข้อศอก ในอ้อมแขนของแม่มีเด็กชายตัวเล็ก ๆ สงเสียงร้องไห้เบา ๆ 

“เราจะตั้งเรียกเขาว่า อีวาน ใช่ไหม? ตามชื่อพ่อผมเหรอ” พ่อถาม 

“แน่นอนที่รัก” แม่ของผมพูดขณะที่แม่ล้างคราบเลือดของทารกและแขนของเธอเองในอ่าง แล้วแม่ก็ห่มผมด้วยผ้าห่มสีฟ้าผืนเล็กๆ 

“แล้วเราจะทำยังไงกับเธอดี” 

พ่อของผมขอให้ชี้กล้องไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่กำลังอ่อนแอและขาดเลือด เธอกำลังมองไปทางกล้อง ดวงตาของเธอดูแดงก่ำ ดูร่องรอยและว่างเปล่า

แม่ของผมมองไปที่เธอและพูดว่า “มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะต้องทนทุกข์อีกต่อไป” แม่มอบทารกตัวน้อย ๆ ให้พ่ออุ้ม แล้วแม่ก็เดินไปหาผู้หญิงคนนั้นแล้วกดหัวของเธอลงน้ำโดยคว่ำหน้าลง ผู้หญิงคนนั้นดิ้นรนอย่างสุดแรง แต่เนื่องจากการสูญเสียเลือดไปมาก เธอจึงไม่มีเรี่ยวแรงและยอมจำนนในที่สุด 

ร่างของเธอจมอยู่ในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยเลือดของเธอเอง จากนั้นแม่ก็อุ้มผมมาจากพ่อ หันไปที่กล้องและจูบหัวผม และนี่คือภาพที่ผมเห็นตอนที่ผมใส่เทปเข้าไปตอนแรก

ผมนั่งนิ่งอยู่สักครู่ สูดลมหายใจเข้าและออกแรง ๆ  ร่างกายของผมแข็งไปหมด นี่มันเรื่องจริงหรือเนี่ย ผมมองขึ้นไปที่หน้าจอสีดำเพื่อดูภาพสะท้อนของตัวเอง คราวนี้ผมหน้าซีดเลย!! ผู้หญิงคนนั้นเธออยู่ข้างหลังผม แสงสลัวของโคมไฟตั้งโต๊ะ เผยให้เห็นผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่เหนือไหล่ของผม!! 

ผมรีบหันไปมอง แต่ก็ไม่เห็นอะไร ผมวิ่งขึ้นไปชั้นบนอีกครั้งอย่างเร็ว และค้นดูของในหีบอีกครั้ง กระทั่งเจอสมุดเล่มหนึ่ง

“สมุดลูกของผม” 

ผมรีบเปิดมัน หน้าแรกเป็นรูปถ่ายของแม่ที่ดูเหมือนจะตั้งครรภ์และรูปถ่ายของผมเมื่อยังเป็นทารก มีรูปถ่ายของแม่และผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์อีกหลายคน และมีข้อความที่ระบุว่า ‘คลาสคลอดบุตร’ ผมพลิกหน้าถัดไป มีเศษผมจากการตัดผมครั้งแรก รอยเท้าของผม ผมพลิกหน้าอีกครั้ง และผมก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ผมพบ

มีคลิปหนีบกระดาษข่าว  “แฟนหนุ่ม รอความหวัง ผู้หญิงจาก เมือง เฟรสโน หายตัวไป” พาดหัวข่าวว่า

เอมิรี่ จีน วัย 19 ปี หายตัวไปจาก เฟรสโน แคลิฟอร์เนีย เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ตอนนี้น่าจะท้องได้ 6 เดือนแล้ว มีรายงานว่าพบเห็นครั้งสุดท้ายตอนเธอโบกรถข้างทางระหว่างรัฐ แต่ไม่รู้ว่าเธอจะไปไหน ครอบครัวของเธอขอให้เธอโทรกลับบ้าน และเสนอรางวัล 100,000 ให้ใครก็ตามที่พบเห็นเธอหรือพาเธอกลับได้มาอย่างปลอดภัย

ข้างใต้มีรูปถ่ายของหญิงสาวคนนี้ และผมเห็นดวงตาสีเขียวของเธอที่มองกลับมาที่ผม เห้ย!! เธอดวงตาสีเดียวกับผม เธอมีผมสีน้ำตาลเข้มแบบผม ผมเคยคิดว่ามันแปลกเพราะทั้งพ่อและแม่ไม่มีใครผมสีน้ำตาลเลย แม่ของผมหรือผู้หญิงที่ผมคิดว่าเป็นแม่มาโดยตลอด บอกผมว่าสีผมของผมเหมือนของยาย แต่ท่านเสียชีวิตก่อนผมเกิด 

ผมพลิกหน้าถัดไป พาดหัวข่าวว่า “พบศพหญิง เอมิลี่ จีน ในสระน้ำ”

เอมิลี่ จีน วัย 19 ปี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่เดือนกันยายน ถูกพบศพแล้วในวันจันทร์นี้ ตำรวจบอกว่าพวกเขายังไม่มีความคิดเห็นในขณะนี้

หัวใจของผมไม่เคยเต้นแรงขนาดนี้ ตัวผมเริ่มร้อนเหงื่อเริ่มไหลเต็มตัว ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของผมเหรอ? พ่อแม่ของผมเป็นฆาตกรเหรอ? นี่มันคือความฝันใช่ไหม? มันไม่ใช่ความจริงใช่ไหม? ผมตบหน้าตัวเองไปหนึ่งที โอ้ย!! เจ็บ ผมสับสนไปหมด พ่อแม่ของผมจะเป็นปีศาจได้อย่างไร

แล้วความคิดของผมก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงวิ่งขึ้นบันไดมาอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง 

“ลูกไม่ควรจะเห็นสิ่งนั้น อีวาน”

ผมได้ยินเสียงเปิดประตูดังเอี๊ยด ดังมาจากข้างหลังของผม ผมหันหลังกลับไปมอง  เห็นเป็นผู้หญิงที่ผมเรียกว่าแม่มาโดยตลอด ยืนอยู่ที่ประตูซึ่งมีแสงไฟส่องมาจากห้องโถง เป็นไปไม่ได้แม่ผมเดินไม่ได้มานานแล้วนิ แต่นี่เธอวิ่งขึ้นบันไดเลย และที่แย่ที่สุด ในมือเธอถือมีดแกะสลักเล่มเดียวกับในเทปวิดีโอเก่าๆที่ผมพึ่งดูไป……

Story by : r/nosleep

Original Story :I found some home videos from my childhood in my parents attic.

แปลเนื้อหาทั้งหมดโดย : คลังหลอน

Previous articleอาจารย์ใหม่ เหตุเกิดที่โรงเรียนแห่งนึง จ.กาญจนบุรี”
Next articleย้อนรอยคดีดัง คดีฆาตกรรมจิ๊กซอว์มนุษย์