เมื่อราวๆ 10 กว่าปีที่แล้ว ถนนหมายเลข 304 ตรงบริเวณ หมู่บ้านทับลาน ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเชื่อมต่อไปยังเขาปักธงชัย ก่อนข้ามไปยังจังหวัดนครราชสีมา ในสมัยก่อนมีถนนเพียงแค่ 2 เลนให้รถสวนทางกันไปมา และเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างคดเคี้ยว มีโค้งมากมายประมาณ 7-8 โค้ง ซึ่งแต่ละโค้งเป็นโค้งหักศอก ค่อนข้างอันตราย ทำให้มีอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นบ่อยมาก จนชาวบ้านในระแวกนั้นเรียกถนนเส้นนี้ว่า “โค้งท้องแตก”
ด้วยความที่ฉันเป็นคนในพื้นที่ จึงได้ยินชาวบ้านเล่าต่อๆ กันมาว่า ที่มาของ โค้งท้องแตก สืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับสองสามีภรรยาที่ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับจากที่ทำงาน ช่วงเวลา 1 ทุ่มตรงโดยประมาณ ซึ่งคนขับก็คือสามี ส่วนภรรยาเป็นคนซ้อนที่ตั้งครรภ์ ท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อรถมอเตอร์ไซค์เกิดเสียหลักพุ่งเข้าข้างทาง ร่างของสามีกระเด็นออกไปกลางถนนและถูกรถสิบล้อพับร่างเสียชีวิต ส่วนร่างของภรรยากระเด็นไปอัดกับต้นงิ้วข้างทางทำให้ท้องแตกใส้ทะลัก ตายอย่างน่าอนาถ ท่ามกลางความสยดสยองต่อสายตาผู้ที่พบเห็น
หลังจากนั้นชาวบ้านที่เดินทางสัญจรผ่านไปผ่านมาบริเวณโค้งท้องแตก ก็มักจะได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของหญิงสาว ตามมาด้วยเสียงเด็กทารกแรกเกิด และตลอดระยะเวลา 5 ปีหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ ก็มีอุบัติเหตุบริเวณโค้งท้องแตกเกิดขึ้นติดต่อกันมากมาย มีผู้เสียชีวิตนับไม่ถ้วน
ตามความเชื่อของชาวบ้านในระแวกนั้น เชื่อว่าวิญญาณของผู้ที่ตายไปแล้วจะมาหาตัวตายตัวแทน เพื่อให้ดวงวิญญาณตนเองได้ไปผุดไปเกิด
โดยส่วนตัวแล้ว ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างกลัวผีมาก ทุกครั้งที่ขับรถผ่านโค้งท้องแตกตอนกลางคืน ก็มักจะใช้ความเร็วสูง เพื่อให้ผ่านตรงนั้นไปเร็ว ๆ แม้จะไม่เคยมีเหตุการณ์หลอนๆ เกิดขึ้นกับตัวฉัน แต่มันได้เกิดขึ้นกับญาติพี่น้องของฉัน ซึ่งก็คือ คุณลุง ของฉันนั่นเอง
โดยคุณลุงเล่าว่ามีวันหนึ่ง เวลาประมาณเกือบ 2 ทุ่มเห็นจะได้ ในขณะที่ลุงเลิกงานและกำลังขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านมาคนเดียว
ต้องยอมรับว่าถนนเส้นนี้เมื่อหลายปีที่แล้ว มันมืดมาก เพราะไม่มีไฟสองข้างทาง และไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านไปมา นานๆ ทีจะผ่านมาสักคันสองคัน แต่ในจังหวะที่คุณลุงกำลังจะเข้าโค้งหักศอกข้างหน้า ไฟจากรถยนต์ที่สวนมาก็สาดเข้าไปในป่าพอดี ทำให้คุณลุงเหลือบไปเห็นหมวกกันน็อคอันใหม่เอี่ยมที่ตกอยู่ข้างถนน
ด้วยความอยากได้ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวผี เพราะข้างทางมันมืดมาก จนลุงขับเลยหมวกในนั้นไปหน่อยนึง ก็เลยชะลอรถ และคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดลุงก็ตัดสินใจวนรถกลับไปเอามัน
หมวกกันน็อคใบนั้นวางคว่ำอยู่ในป่า อยากที่บอกว่าลุงกลัวมาก จึงรีบวิ่งไปหยิบ และรีบวิ่งกลับมาสตาร์ทรถ ก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงบ้านคุณลุงอาบน้ำนอนปกติ
ด้วยความลืมและเหนื่อยล้ามาจากที่ทำงาน จึงลืมหยิบเอาหมวกกันน็อคใบนั้นมาเก็บไว้ในบ้าน ลุงวางมันไว้บนตะกร้าหน้ารถ
กระทั่งตกดึกลุงฝันอะไรแปลกๆ ฝันว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาขอหมวกกันน็อคคืน ในความฝัน ลุงพยายามจ้องหน้าชายคนนั้น เพราะอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร ซึ่งก็เห็นแต่ภาพเลือนราง จึงไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใครกันแน่
ชายหนุ่ม : ลุงครับ ผมขอหมวกกันน็อคคืนนะครับ
ลุง : เอ็งเป็นใครวะ ไอ้หนุ่ม
ชายหนุ่ม : ผมจะกลับบ้านไปหาแม่
ลุง : บ้านเอ็งอยู่ไหน
ชายหนุ่ม : บ้านผมอยู่โคราช พาผมกลับบ้านหน่อย
ลุง : เอ้า…แล้วทำไมเอ็งไม่กลับเอง
ชายหนุ่ม : ผมกลับไม่ได้ ผมมองไม่เห็นทาง มันมืดไปหมดเลย (ลุงพยายามหรี่ตามองชายหนุ่มที่คุยด้วย แต่ก็มองไม่เห็นเพราะภาพมันช่างเลือนรางเหลือเกิน)
จนในที่สุดลุงก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตีสี่ ด้วยความงง พร้อมกับตั้งคำถามทำไมตัวเองฝันอะไรแปลกๆ แบบนี้ และที่สำคัญคือ มันเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก เมื่อนึกถึงหมวกกันน็อค ลุงก็นึกได้ว่ามันวางอยู่ในตระกล้าหน้ารถ ลุงจึงตัดสินใจเดินออกมายังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่หน้าบ้าน โดยหวังว่าจะเอามันเข้าไปเก็บไว้ในบ้าน
แต่แล้ว…เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทันทีที่ลุงจับหมอกกันน็อคขึ้นมา ลุงก็รู้สึกว่าทำไมมันหนักๆ ผิดปกติ จึงพลิกมันขึ้นดู คุณลุงถึงกลับผงะ!! เพราะสิ่งที่เห็นคือ…หัวคน ที่อยู่ข้างใน…!!
ด้วยความตกใจลุงโยนหมวกกันน็อคทิ้ง ก่อนจะแหกปากร้องลั่นบ้าน ทำเอาชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน รวมถึงภรรยาของลุง พากันแตกตื่นไปหมด
เมื่อทุกคนรู้ว่าในหมวกกันน็อคที่ลุงเก็บมามีหัวคนอยู่ข้างใน จึงรีบโทรแจ้งหน่อยกู้ภัยและตำรวจให้มาดู สืบสาวราวเรื่องจนไปยังจุดเกิดเหตุที่คุณลุงพบหมวกกันน็อคใบนี้ ก็ต้องช็อกคูณสอง เพราะตำรวจไปพบซากรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง มันคว่ำอยู่ข้างทางก่อนถึงทางโค้ง ถัดจากป่าหญ้าออกไปเพียงนิดเดียว เป็นร่างของชายที่ไร้หัว นอนจมกองเลือด
ตำรวจจึงสันนิษฐานว่า น่าจะเสียชีวิตประมาณ 1 ทุ่ม ของเมื่อวาน หลังจากเหตุการ์ณวันนั้นลุงบอกว่า จำจนตายเลย ต่อไปนี้จะไม่เก็บของข้างทางมาอีกแล้ว
Cr. Mi_Miwhahaha