Home เรื่องหลอนจากทางบ้าน คุณไสยพรายดำ พูดไม่เข้าหูข้างห้อง เลยโดยทำของใส่

คุณไสยพรายดำ พูดไม่เข้าหูข้างห้อง เลยโดยทำของใส่

คุณไสยพรายดำ พูดไม่เข้าหูข้างห้อง เลยโดยทำของใส่

ผมขอบอกนิดนึงว่าเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ แล้วแต่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อครับ แต่ถ้าใครลองมาเจอด้วยตัวเองแบบผมก็จะเข้าใจ โดยไม่ต้องตั้งคำถามหรือสงสัยอะไรทั้งสิ้นครับ

เรื่องนี้เกิดกับแม่ผมเมื่อประมาณปี 2560 หรือเมื่อราว ๆ 4 ปีก่อน หครับ ต้องบอกก่อนว่าเดิมทีพ่อกับแม่ผมแยกทางกันตั้งแต่ผม 2 ขวบ ผมได้กลับมาเจอแม่อีกทีก็ตอนที่ผมโตเป็นหนุ่มแล้ว

เวลานั้นผมได้มาช่วยแม่ทำงานพร้อมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน ซึ่งตอนนั้นแม่ผมก็ยังร่างกายปกติแข็งแรงดีทุกอย่าง โดยนิสัยแม่จะเป็นคนจิตใจดีมาก ชอบทำบุญเข้าวัดไปปฏิบัติธรรม และชอบช่วยเหลือคนอื่นๆ

ผมมาอยู่กับแม่ผมแค่ 1 เดือน ซึ่งตอนที่อยู่กับแม่ ผมได้เจอกับเรื่องราวลึกลับที่หาคำตอบไม่ได้มากมาย เอาเป็นว่าเราเข้าเรื่องกันเลยนะครับ

ช่วงที่ผมกลับมาบ้าน หลังจากที่ไปช่วยแม่ทำงานได้ช่วงนึง แม่ผมเล่าว่าแม่รู้อดีตว่าตนเองเป็นใคร ระลึกชาติได้ และเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น

ในห้องแม่ผมจะมีพระเยอะมาก แม่บอกว่าอดีตชาติแม่เคยเป็นพญานาคมาก่อน ซึ่งอันนี้มันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อไปหน่อยแต่เป็นเรื่องจริงครับ แม่บอกกับผมเสมอให้ผมทำแต่สิ่งดีๆ เพราะคนสมัยนี้ไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น ก็เลยไม่เชื่อว่าบาปกรรมนั้นมีจริง

มีวันนึงแม่โทรมาบอกผมว่าอาการแม่แย่มาก โดยไม่รู้สาเหตุ แม่เล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ได้ไปมีปากเสียงกับคนข้างห้อง ตอนนั้นแม่กำลังซักผ้าอยู่ คนข้างห้องเขาฉีดยากันยุงเยอะมาก จนกลิ่นมันฟุ้งเข้ามาในห้องของแม่ ทำให้แม่ผมรู้สึกหน้ามืด จนเหมือนจะเป็นลม

แม่เลยออกไปบอกกับคนข้างห้องว่าค่อยๆ ฉีดหน่อยได้ไหม ฉันแพ้ยาฉีดยุง และฉันไม่ค่อยสบายเป็นภูมิแพ้ แต่เหมือนคนข้างห้องจะไม่พอใจในสิ่งที่แม่พูด

พอถึงจังหวะที่แม่ออกจากห้องเพื่อจะไปทำธุระข้างนอก คนข้างห้องคนนั้นซึ่งดักรอแม่อยู่แล้ว เมื่อเห็นแม่ออกมาเลยใช้น้ำมันอะไรสักอย่างป้ายที่แขนของแม่

ตอนนั้นแม่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่มาสะดุดใจเมื่อเห็นผู้ชายคนที่ป้ายน้ำมันใส่ เขายิ้มแบบมีเลศนัย ราวกับว่ากำลังสะใจอะไรสักอย่าง

และคืนนั้นเองเรื่องแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับแม่ผม แม่เล่าว่าขณะที่นอนอยู่ดีๆ ก็มีเงาดำ ๆ เดินเข้ามาหาแม่เหมือนจะมาทำร้ายแม่ แต่แม่ก็คิดว่าคงฝันร้ายมากกว่า ก็เลยไม่ได้คิดอะไร

มาคืนที่ 2 ก็ยังคงเห็นเงาดำนั้นมาหาอีกครั้ง แต่ทีนี้เข้ามาบีบคอแม่เลย แม่บอกว่ามันเหมือนจะฆ่าแม่ให้ได้ แต่แม่พยายามมีสติและระลึกถึงหลวงพ่อโสธรก็เลยหลุดจากเงาดำนั้นมาได้..

ตอนนั้นอาการแม่เริ่มจะไม่ดี แม่บอกผมว่ามันหนักๆ ตรงหลังและก็ปวดคอ พอผมได้ยินแม่บอกอย่างนั้น ผมเลยบอกแม่ว่าผมมีอาจารย์ที่ผมนับถืออยู่คนหนึ่ง เขาเป็นร่างทรง (ผมลืมบอกไปว่าผมก็เป็นคนมีองค์ครับ อดีตผมเคยไปรับขันครูกับพ่อปู่มาครับ) จากนั้นก็ได้นัดแนะ ผมบอกให้แม่ขึ้นรถมาหาผมที่บ้าน เดี๋ยวผมจะพาแม่ไปรักษาเอง

พอแม่มาถึง ภาพที่ผมเห็นคือแม่ดูโทรมมากๆ หน้าตาแกดูหมองคล้ำเหมือนกับคนไม่มีชีวิตชีวา ผมจึงรีบพาแม่ไปหาพ่อปู่โดยเร็ว

พอไปถึงพ่อปู่ท่านได้ทักว่า มีสิ่งไม่ดีคอยติดตามแม่มานะ เขาจะเอาเราให้ถึงตายเลย เป็นพวกพรายดำ สิ่งเหล่านี้จัดเป็นพวกอวิชาและมันจะกินแม่ไห้ตายทั้งเป็นเลย

พ่อปู่บอกว่าเดี๋ยวพ่อปู่จะเอาออกให้ แต่พ่อปู่ย้ำว่าต้องมารักษา 3-7 วัน ติดต่อกันนะ ถึงจะดีขึ้น เพราะตอนนี้มันกินข้างในไปแล้ว

ระหว่างที่พ่อปู่ทำพิธีให้ แม่ผมมีอาการเหมือนเป็นคนละคนเลย ดวงตาแม่ดูขวาง ดุดัน อาฆาต จ้องเขม็งไปที่ทุกคน แม้กระทั้งพ่อปู่เองก็เถอะ 

พ่อปูบอกว่า “ทางใครทางมันเถอะ จะทำร้ายเขาทำไม ?”

และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ แม่ก็พูดขึ้นมาว่า “กูจะฆ่ามัน จะกินมัน ยังไงกูก็จะไม่ออก..!” ซึ่งเสียงนั้นมันไม่ใช่เสียงของแม่

พอพ่อปู่บอกว่า “อย่าให้ต้องใช้กำลังกันเลย”

มันก็จ้องพ่อปู่ เมื่อพ่อปู่เห็นท่าไม่ดีก็เลยใช้มีดกริชพญานาคกดหัวเเม่ไว้ และท่องคาถาอะไรสักอย่างของพ่อปู่ จากนั้นแม่ก็ส่งเสียงร้องดังลั่น ดิ้นทุรนทุรายเหมือนเจ็บปวดปานจะขาดใจให้ได้

สักพักพ่อปูก็ให้แม่กินน้ำมนต์ พอหลังจากกินน้ำมนต์เข้าไป แม่ก็เริ่มค่อยๆ อาการดีขึ้น จากที่เหมือนคนหมองคล้ำจะตาย ก็กลับมามีชีวิตชีวาหน้าใสเหมือนกับเป็นคนละคนเลย 

พอแม่ผมเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ผมกับแม่ได้กราบลาพ่อปู่กลับ แต่พ่อปู่ยังย้ำอีกว่าต้องมารักษาติดต่อกันจนกว่าจะหายนะ ผมก็รับคำพ่อปู่ไป..

ผมดีใจมากที่แม่ผมอาการดีขึ้นจนเหมือนจะหายแล้ว ผมกับแม่ก็คุยกันปกติครับ หลังจากนั้นก็พาแม่กลับไปส่งที่พัก เพราะแฟนใหม่แม่เค้ารออยู่

หลายวันต่อมา ผมได้ข่าวมาว่าแม่ทะเลาะกับแฟนใหม่บ่อย ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีเวลาจะกลับไปรักษากับพ่อปู่อีก ตามที่ได้นัดไว้..

วันนึงแม่โทรมาบอกผมว่าจะย้ายห้องใหม่ แต่ห้องที่จะย้ายไปมันอยู่ในสถานที่ๆ พวกนับถือศาสนาอิสลามเขาอยู่ ซึ่งตอนนั้นผมยังนึกในใจ ในเมื่อแม่นับถือพุทธ แต่จะไปอยู่ในสุเหร่าของอิสลาม มันดูขัดต่อแม่มาก

พอวันแรกที่แม่เข้าไปอยู่ที่หอใหม่ แม่ก็เจอดีเลยครับ แม่บอกว่าตอนกลางคืนเจอเงาดำๆ ร่างใหญ่ๆ มายืนอยู่บนยอดสุเหร่า

ตอนดึกๆ แม่ก็ยังฝันอีกว่ามีชายร่างใหญ่มาบีบคอแม่ แม่ดิ้นรนยังไงก็ไม่หลุด จนแฟนแม่แกตื่นมาเห็นก็เลยปลุกแม่ให้ตื่น แต่แม่ก็ยังอยู่ที่นั่นต่อไป ไม่คิดจะย้ายไปไหน แม่ยังบอกอีกว่าผีเจ้าที่ที่นั่นเค้าแรงและเกลียดเนื้อหมูมาก

จากนั้นแม่ผมก็เริ่มอาการแย่ลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ไปหาหมอก็ไม่เจออะไร จนแม่อาการเริ่มไม่สู้ดีถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลไปนอนอยู่หลายวัน

ระหว่างนั้นแม่ก็อาการทรุดลงๆ โดยไม่มีสาเหตุ มันเร็วมากครับ ภายในระยะเวลาแค่ 2 เดือน ทำให้แม่ผมจากคนร่างกายแข็งแรงก็มากลายเป็นคนไข้ติดเตียง ลุกเดินไม่ได้เลย และชอบเพ้อบอกว่าเห็นโน่นเห็นนี่ตลอดเวลาด้วย

พอผมไปหาแม่ที่โรงพยาบาล สิ่งแรกที่ผมเจอ เป็นอะไรที่ผมรับไม่ได้จริงๆ คือแม่ผอมมาก และแม่ก็ยังจำผมไม่ได้อีกด้วย

ผมต้องคุยกับแม่นานมาก แม่ถึงจะจำได้ บางทีแม่ก็มองผมเป็นอีกคน แม่มองเห็นผมเป็นผีก็มี… 

แม่มีอาการกลัวจึงไม่ไห้ผมเข้าใกล้ แม่เพ้อหนักมาก จนผมทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ผมกราบเท้าแม่แล้วบอกกับแม่ว่า “ผมขอโทษครับแม่ที่ผมดูแลแม่ไม่ดี..” ผมเห็นแม่ผมร้องไห้ออกมา ผมรู้ว่าแม่คงทรมานมาก

ผมดูแลแม่ตลอด 6 วัน ผมบอกกับแม่ว่า “แม่ครับ รีบๆหายนะครับ ผมจะพาแม่ไปเที่ยวหลายที่ และยังมีสิ่งที่ผมอยากทำให้แม่อีกหลายอย่างครับ” แม่ก็ตอบกลับมาว่า “จ้าลูก..แม่ก็รักลูกนะ”

ผมน้ำตาไหลและกอดแม่ ตั้งแต่ผมมาเฝ้าแม่ ผมไม่เคยเห็นแม่พูดแบบนี้เลย แม่บอกผมว่า “เป็นลูกผู้ชายไม่ร้องไห้นะ ต้องเข้มแข็งนะ ถ้าแม่ไม่อยู่ก็ดูแลตัวเองด้วยนะ” แล้วแม่ก็ร้องไห้ออกมา คำที่แม่พูดออกมานั้นทำเอาผมตกใจมาก ทำให้รู้สึกว่าผมกำลังจะเสียแม่ไปแล้วจริงๆ หรือ ?

พอวันที่ 7 ตอนประมาณตี 3 แม่ผมก็ไม่หายใจแล้ว ผมรีบตามหมอมาจะให้หมอปั้มหัวใจ หมอบอกผมว่าแม่ไปดีแล้ว ปล่อยคนไข้ไปแบบสงบๆ เถอะ

ผมโกรธมาก ผมด่าหมอไปเยอะเลย ผมร้องเหมือนคนจะขาดใจตายให้ได้เวลานั้น.. 

หมอบอกว่าแม่ผมเป็นมะเร็ง ที่ผ่านมาแม่อดทนมาก ไม่เคยเจอคนไข้ที่อดทนได้นานเท่านี้มาก่อนเลย

ในทางวิทยาศาสตร์ให้สาเหตุการตายของแม่ว่าแบบนั้น แต่สำหรับผมที่อยู่กับแม่ตลอดมาในช่วงหลัง อยากบอกว่ามันไม่ใช่ แม่ผมโดนสิ่งที่มองไม่เห็นเล่นงาน..!

เรื่องราวทั้งหมดก็มีเท่านี้ครับ ก่อนจบผมอยากขอเตือนเพื่อนๆทุกคน ว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ และต้องระมัดระวังตัวไว้ด้วย เรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำนั้นมันมีอยู่จริง หลายคนที่ไม่เชื่อและท้าทาย ต่างพบจุดจบมาแล้วมากมาย ขอเตือนไว้เท่านี้ครับ…..

ประสบการจริงของแฟนเพจจากบ้านหลังเก่า

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here