Home Uncategorized อาจารย์ใหม่ เหตุเกิดที่โรงเรียนแห่งนึง จ.กาญจนบุรี”

อาจารย์ใหม่ เหตุเกิดที่โรงเรียนแห่งนึง จ.กาญจนบุรี”

อาจารย์ใหม่ เหตุเกิดที่โรงเรียนแห่งนึง จ.กาญจนบุรี”

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 7-8 ปี ที่ผ่านมา ใน รร.ประจำอำเภอที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงแห่งนึงใน จ.กาญจนบุรี (ชื่อ รร.เป็นชื่อเดียวกับอำเภอเลยครับ) ต้องบอกก่อนว่าโรงเรียนนี้มีเรื่องเล่าเยอะเหมือนกัน แต่เรื่องราวที่ผมจะเล่าต่อจากนี้เกิดขึ้นในห้องเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ครับ

ขอพูดถึงรายละเอียดก่อนนะครับ คือห้องนี้จะเป็นห้องที่ใช้สอนวิชาคณิตศาสตร์ เดิมทีเป็นห้องประชุมเก่า ตั้งแต่สมัย รร.เริ่มก่อตั้งแรกๆ โดยห้องนี้จะอยู่ชั้นบนสุดของตัวอาคารคือชั้นสาม ส่วนห้องวิชาการจะอยู่ชั้นสอง แนวตรงกันพอดีครับ

เรื่องเกิดขึ้นกับอาจารย์คนใหม่ที่เพิ่งจะย้ายเข้ามารับราชการใน รร.แห่งนี้ ด้วยความที่อาจารย์ท่านเป็นครูใหม่ไฟแรง แล้วยังเข้ามารับราชการในตำแหน่งครูที่ทาง รร.เว้นว่างมานาน ทำให้งานของท่านค่อนข้างจะเยอะจึงต้องกลับบ้านเย็นตลอด

จนกระทั่งวันหนึ่งซึ่งเป็นวันสอบวันสุดท้ายของนักเรียน และวันรุ่งขึ้นทาง รร.จะจัดงานจบการศึกษาให้กลับ นร.ชั้น ม.3 และม.6 ทุกคน

ทำให้อาจารย์ท่านอื่นๆ และนักเรียนหลายคนต้องกลับบ้านเย็นหน่อย เพราะอยู่ช่วยกันจัดสถานที่ อาจารย์ท่านนี้ได้ทีจึงกะว่าจะเคลียร์งานให้เสร็จทั้งหมด เนื่องจากมีคนอื่นอยู่เป็นเพื่อน โดยโต๊ะประจำของอาจารย์จะอยู่ที่ห้องวิชาการชั้นสอง แต่คนอื่นๆ ช่วยจัดสถานที่กันอยู่ที่โรงยิม

เวลาประมาณหกโมงกว่าๆ อาจารย์เขาก็เห็น นร.กลุ่มหนึ่งกำลังขนย้ายเก้าอี้จากชั้นสามไปยังโรงยิม ซึ่งอาจารย์แกก็ไม่เอะใจอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติที่ นร.จะขึ้นมาเอาเก้าอี้ไปจัดสถานที่กันแบบนี้

จนกระทั่งทุ่มกว่าๆ อาจารย์แกก็ยังเห็นมี นร.ขนเก้าอี้อยู่ แต่แปลกตรงที่ นร.คนนี้กำลังลากเก้าอี้ขึ้นไปยังชั้นสาม ซึ่งบันไดขึ้นชั้นสามจะตรงกับหน้าห้องวิชาการพอดี

เวลาผ่านไปจนกระทั่งสามทุ่ม นร.คนเดิมก็ลากเก้าอี้ตัวเดิมขึ้นลงอยู่อย่างนั้นอีกเป็นระยะๆ จนอาจารย์แกเริ่มแปลกใจ อีกทั้งเสียงพื้นห้องด้านบนที่ตรงกับหัวของอาจารย์ก็มีเสียงลากเก้าอี้ไปมาดัง โครม..!! ฟังดูเหมือนเก้าอี้ล้ม

เสียงดังอยู่แบบนี้จนถึงประมาณสี่ทุ่ม อาจารย์เริ่มไม่มีสมาธิที่จะทำงานต่อแล้ว ชักสงสัยว่าใครมันจะมาลากเก้าอี้อะไรไปมาตอนนี้

อาจารย์จึงทำใจดีสู้เสือ ส่องไฟฉายจากโทรศัพท์ เดินขึ้นไปดูบนชั้นสาม เดินจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งประตูห้องนี้จะเป็นกระจกเงาสีดำ ที่สามารถมองออกมาจากด้านในได้เพียงด้านเดียว

อาจารย์แกก็พยายามเปิดประตูเพื่อที่จะเข้าไปดูต้นตอของเสียงลากเก้าอี้นั้นให้ได้ แต่ประตูกลับล็อค.. แกจึงส่องไฟฉายมาดูที่รูล็อคกุญแจ แล้วก็ต้องตกใจเพราะประตูมันถูกล็อคจากด้านนอกด้วยแม่กุญแจอยู่..!

ไม่นานเสียงก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง เสียงดังมาจากบันได เป็นเสียงลากเก้าอี้ที่ค่อยๆ ดังขึ้นมาทีละขั้นๆ ดัง ครื้ดด ด ด ด.. 

เสียงนั้นค่อย ๆ เข้ามาหาตัวอาจารย์เรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ใกล้ตัวแกที่ยืนอยู่หน้าห้องวิชาคณิตศาสตร์ จากนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น แกร๊กๆ.. ทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่าประตูมันปิดอยู่แท้ๆ แต่ประตูก็ไม่ได้เปิดออกเเม้เเต่น้อย..!

อาจารย์แกบอกว่าตอนนั้นกลัวจนตัวเย็นเฉียบ หน้าซีดไปหมด ก้าวขาไม่ออกเลย อาจารย์จำได้ว่าตอนที่มีเสียงเปิดประตู อาจารย์รู้สึกได้ว่ามีลมตีมาปะทะกับหน้า พร้อมกับกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณไปหมด

จากนั้นเสียงที่อาจารย์ได้ยินเมื่อตอนนั่งทำงานอยู่ที่ห้องด้านล่างก็เริ่มดังขึ้น แล้วสักพักก็มีร่างของ นร.หญิงผมสั้น ค่อยๆ คืบคลานดันประตูออกมาด้วยสภาพที่น่าสยดสยองมากๆ.

อาจารย์บอกว่าร่างนั้นแขนขาหักบิดเบี้ยวผิดรูปไปหมด ค่อยๆ ยันร่างคลานตัวออกมาแล้วก็ลงไปตรงบันไดอย่างช้าๆ

พออาจารย์เห็นแบบนั้น แกก็ไม่สนใจอะไรแล้ว รีบวิ่งลงจากอาคารโดยไม่คิดชีวิต จนลงมาพบกับภารโรงที่กำลังขึ้นมาดูว่าทำไมไฟในห้องวิชาการถึงเปิดทิ้งไว้พอดี

แล้วอาจารย์ก็เล่าเรื่องที่เจอให้ภารโรงฟัง ภารโรงก็เลยบอกว่า อย่าทำงานดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้อีกนะ ยิ่งอาคารนี้ด้วยแล้วที่ผ่านมาเจอดีทุกราย

อาจารย์จึงถามถึงพวกที่จัดสถานที่ที่โรงยิมว่าไปไหนกันแล้ว? ภารโรงก็ตอบว่า พวกนั้นหน่ะเขากลับกันไปตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ แล้วหล่ะอาจารย์

แล้วภารโรงยังเล่าต่อว่า..ครูเก่าๆ กับเด็กที่นี่เขารู้กันดี ไม่มีใครกล้าอยู่ดึกๆ กันหรอก คนเก่าๆเขาบอกว่าเมื่อก่อนที่นี่เคยมีคนแอบขึ้นไปผูกคอตาย แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเท็จจริงประการใด 

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น อาจารย์ท่านนี้ก็ไม่เคยกลับบ้านเกินหกโมงอีกเลย แกเล่าให้ผมฟังและยืนยันว่าเจอมากับตัวจริงๆ ครับ โดยทุกวันนี้อาจารย์ก็ยังมีชีวิตอยู่นะครับ แต่ไม่ได้สอนที่นี่แล้ว..

ส่วนอีกเรื่องผมเจอมากับตัวเองและคนอื่นๆ เป็นเรื่องของ รร. นี้เหมือนกันครับ ไม่ได้เจอที่ห้องวิชาคณิตศาสตร์นะ แต่เป็นเรื่องของห้องสมุดที่น่ากลัวไม่แพ้กันครับ

ซึ่งห้องสมุดของ รร. จะอยู่ใต้ห้องวิชาการอีกที คืออยู่ชั้นล่างสุดเลยครับ ซึ่งในอดีตเคยมีคนเล่ากันหนาหูว่าเจอเด็ก นร.มาเดินไปเดินมาในห้องสมุด ตอนประมาณห้าโมงเย็นไปแล้ว ทั้งที่ห้องสมุดปิดให้บริการไปตั้งแต่โรงเรียนเลิกแล้ว..!

และอาจารย์ประจำห้องสมุดเองก็ล็อคห้องจากด้านนอกแล้วด้วย จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ใครจะเข้าไปในห้องสมุดได้

รวมถึงอีกเหตุการณ์แปลกๆ ที่ครูเวร มักแจ้งว่าห้องสมุดมีคนใช้งานอยู่ในยามวิกาล แต่พอเข้าไปตรวจสอบกลับพบว่าไม่มีใครเลย รวมไปถึงมักถูกตำหนิอยู่บ่อยๆ ว่าชอบมีคนเปิดไฟหรือเปิดแอร์ทิ้งไว้บ้าง ทั้งที่อาจารย์ประจำห้องก่อนจะกลับบ้านก็ได้ตรวจเช็คดีแล้ว..! จนทาง รร. ต้องคอยสับคัทเอาท์ลงทุกครั้งหลัง 6 โมงเย็น เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว..

เรื่องราวทั้งหมดก็มีเท่านี้ครับ ส่วนชื่อ รร.อะไรนั้น ผู้เล่าได้บอกข้อมูลมาหมดแล้ว แต่ไม่ขอบอกตรงนี้ดีกว่า แต่ถ้าหากคนที่อยู่ในอำเภอนี้ จังหวัดนี้ ก็น่าจะเคยได้ยินเรื่องเล่านี้มาบ้างไม่มากก็น้อยครับ

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here