คุยกับผี

คุยกับผี

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว บนถนนหมายเลข 304 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี มันเกิดขึ้นกับพี่ชายคนข้างบ้านของฉันเอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง และทุกครั้งที่ฉันผ่านมายังจุดเกิดเหตุนั้น ก็มักจะนึกถึงเรื่องเล่าที่พี่ชายข้างบ้านเล่าให้ฟังเสมอ เกี่ยวกับประสบการณ์ชวนขนหัวลุกที่เคยเกิดขึ้นกับเขาในตอนนั้น

เรื่องมันมีอยู่ว่า พี่เอก นามสมมติของพี่ชายข้างบ้าน ตอนนั้นพี่เอกอายุได้ประมาณ 25 ปี พี่แกทำงานในนิคมอุสาหกรรมแห่งหนึ่ง โดยปกติแล้วแกจะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานทุกวัน ระยะทางจากบ้านไปนิคมฯ ประมาณ 40 กิโลเมตร และพี่แกจะทำงานล่วงเวลาหรือทำโอที ทำให้ต้องเลิกงานประมาณ 2 ทุ่มในทุกๆ วัน 

พี่เอกเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งพอเลิกงานมา เพื่อนๆ ก็ชวนไปกินเลี้ยงสรรสรรค์กันเป็นเรื่องปกติ จนเวลาล่วงเลยมาประมาณ 4 ทุ่ม แกเห็นว่าดึกแล้ว จึงขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะรู้ว่าตัวเองต้องขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านคนเดียว ถ้าดื่มมากไปกว่านี้กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ

พี่เอก: เฮ๊ย..กลับก่อนนะเว๊ย พรุ่งนี้ต้องเข้างานแต่เช้าว่ะ

เพื่อน : อะไรวะ รีบกลับจัง นี่พึ่งจะ 4 ทุ่มเอง

พี่เอก : เนี่ย เมียโทรตามแล้ว เดี๋ยวกลับไปโดนด่าอีก (พี่เอกเอาเมียมาอ้าง)

เพื่อน : เออๆ ไปเถอะ เบื่อจริงๆ คนกลัวเมียเนี่ย

พี่เอก : ไปแล้วนะเว๊ย วันหน้าค่อยว่ากันใหม่

เพื่อน : ขับรถดีๆ นะเว๊ย ระวังมีคนมานั่งซ้อนท้าย (พี่เอกส่ายหน้าเพราะรู้ว่าเพื่อนอำ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก)

ต้องบอกก่อนว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ความเจริญยังเข้าไม่ถึง ทำให้สองข้างทางมืดสนิทเพราะไม่มีไฟฟ้า แถมยังเป็นถนน 2 เลน พอให้รถวิ่งสวนกันไปมา หนำซ้ำยังมีโคกหักศอกค่อนข้างเยอะ เส้นทางนี้จึงมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยมาก 

พี่เอกต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง แต่พอขับมาได้แค่ครึ่งทาง เริ่มเข้าหุบเขา อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ โชคดีที่พี่แกเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย

พี่เอกขับมาเรื่อยๆ ก็ต้องหยุดชักงักเมื่อภาพที่เห็นอยู่ข้างหน้าคือชายคนหนึ่ง รูปร่างใหญ่ ผิวขาว แต่อายุน่าจะ 30 ต้นๆ  เขาใส่เสื้อสีส้มกางเกงยีนส์ขายาว กำลังเดินจูงรถมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างทางที่เต็มไปด้วยความมืด พี่เอกเดาว่าคงจะน้ำมันหมดหรือไม่ก็รถเสีย ด้วยความปรถนาดี พี่เอกจึงชะลอรถก่อนจะเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือ

พี่เอก : พี่ครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม

ชายเสื้อส้ม : รถพี่เสียอ่ะ

พี่เอก : ป่านนี้ร้านซ่อมน่าจะปิดหมดแล้ว ให้ผมช่วยประคองรถพี่ไปให้ไหม

ชายเสื้อส้ม : พี่ว่าจอดทิ้งไว้ในป่าดีกว่า รถพี่เก่าแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเอาไปซ่อม

พี่เอก : บ้านพี่อยู่แถวไหนครับ เดี๋ยวผมไปส่ง

ชายเสื้อส้ม : ขอบใจมากน้อง พี่อยู่แถวๆ ทุ่งโพธิ์ พอดีเลยมาทำธุระนิดหน่อย แต่รถดันมาเสียซะก่อน (หมู่บ้านทุ่งโพธิ์อยู่ก่อนถึงจุดที่พวกเขายืนอยู่ ดังนั้นหมายความว่าพี่เอกจะต้องวนรถกลับไปเพื่อไปส่งพี่เขา)

พี่เอก : ได้ครับพี่ เดี๋ยวผมวนรถไปส่งเอง ขึ้นมาเลยครับ

ในระหว่างที่พี่เอกกำลังขับรถมอเตอร์ไซร์ไปส่งพี่เสื้อส้มที่เป็นคนซ้อนอยู่ด้านหลัง เขาทั้งคู่ก็ชวนกันคุยไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง ถามไปถามมาก็รู้ว่าพี่เขาชื่อ “พี่พงษ์” 

พี่พงษ์บอกว่าพึ่งทะเลาะกับแฟน แฟนแกหนีกลับบ้าน พี่พงษ์เลยว่าจะตามไปง้อ แต่รถมอเตอร์ไซร์ดันมาเสียระหว่างทาง ทั้งสองคนพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเหมือนสนิทสมกันมาก่อนและพูดคุยกันอย่างถูกคอ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

พี่เอกถึงกับต้องชะลอรถมอเตอร์ไซค์เพราะดูเหมือนว่าข้างหน้านั้นมีบัติเหตุเกิดขึ้น แสงไฟวิบวับจากรถโรงพยาบาล และเสียงไซเรนของรถหน่อยกูภัยดังมาแต่ไกล 

พอพี่เอกขับมาถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นรถมอเตอร์ไซร์คันเก่าตกลงไปในคลองน้ำ โดยกู้ภัยกำลังยกขึ้นมาไว้ข้างถนน ข้างๆ กันมีศพของผู้ที่เสียชีวิตนอนคลุมด้วยผ้าสีขาว มีเลือดเปื้อนเต็มไปหมด

พี่เอก : เกิดอะไรขึ้นครับพี่ (พี่เอกจอดรถถามกู้ภัยที่คอยยืนเคลียเส้นทางให้ ด้วยความสงสัย)

กู้ภัย : รถมอไซร์เสียหลักน้อง น่าจะโดนสิบล้อเบียดเลยตกลงข้างทาง

พี่เอก : ตายไหมครับ

กู้ภัย : จะไปเหลือหรอ…

พี่เอกมองไปที่รถเมอร์เตอร์ไซค์คันที่พังยับเยิน ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เพราะรู้สึกคุ้นๆ เหมือนก่อนหน้านี้เคยเห็นมาก่อน และแล้วเหตุการณ์สุดช๊อคก็เกิดขึ้น!!

ในขณะที่กู้ภัยกำลังยกร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถ จู่ๆ ผ้าขาวก็หลุดออกมา เผยให้เห็นใบหน้าของผู้ที่เสียชีวิตอย่างจัง เท่านั้นแหละพี่เอกก็ขนลุก ถึงก็ขาแข็งจนไปไม่เป็น บวกกับมือที่ชาจนไม่มีแรงบิดรถมอเตอร์ไซค์ไปต่อ เพราะชายคนนั้นคือ พี่พงษ์!! นั่นเอง 

อ่าวววแล้วชายที่นั่งมาด้วยคือใครกัน พี่เอกรีบหันควักกลับไปดูคนที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยทันที แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า….

Cr. Mi_Miwhahaha เรื่อง คุยกับคนตาย

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here