สวัสดีครับพี่ชบาแก้ว วันนี้ผมมีเรื่องมาเล่าให้พี่และเพื่อนๆฟังครับ มันเป็นประสบการณ์ตรงของผมกับแฟน ที่หลอนที่สุดในชีวิตของผม เรามาเริ่มกันเลยนะครับ…
เรื่องนี้ผ่านมาได้ประมาณ 7-8 ปีแล้ว วันนั้นแฟนผมประสบอุบัติเหตุ เจ็บหนักพอสมควร แล้วทางครอบครัวก็นำตัวแฟนผมไปส่งโรงพยาบาล ในเวลานั้น ทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด ทั้งเรื่องอาการของแฟน และความรู้สึกที่เป็นห่วง ผมนั่งรอฟังผลการรักษานานมาก มันนานจนผมเผลอหลับไป แล้วผมตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงล้อรถเข็นเตียงกำลังจะเข็นผ่านตรงที่ผมนอน พอผมลืมตาขึ้นมา ผมก็เห็นว่า บุรุษพยาบาลกำลังเข็นเตียงของแฟนผมออกมา
ผมรีบลุกไปดูอาการของแฟน ทุกอย่างเรียบร้อยครับ หมอได้ทำการรักษาและกำลังจะพาแฟนผมไปห้องพักที่โรงพยาบาล ผมเดินตามเตียงของแฟนที่เค้าเข็นไป พอไปถึงหน้าห้องผู้ป่วยเตียงก็หยุดเข็น แล้วผมก็ถามพยาบาลว่า “แฟนผมพักห้องนี้หรือครับ” พยาบาลตอบว่า “ค่ะ”
พยาบาลตอบสั้นๆ แล้วผมก็มองสำรวจในห้องนั้นว่ามันเป็นยังไง ถ้ามองจากหน้าประตู ห้องนั้นจะมี 10 เตียง คือ ฝั่งซ้าย 5 เตียง ฝั่งขวา 5 เตียง ในตอนนั้นเตียงทางฝั่งขวาจะเต็มหมดทุกเตียง ส่วนฝั่งซ้าย จะมีว่างอยู่ 2 เตียง คือเตียงที่ 1 และเตียงที่ 2 แฟนผมเลือกที่จะนอนเตียงที่ 2 ในตอนนั้นเท่าที่ผมสังเกตคนไข้ในห้องนั้น จะอาการหนักเกือบทุกคน บางเตียงก็จะมีสายน้ำเกลือ สายถ่ายเลือดเสีย คือผมดูแล้วไม่ค่อยสบายใจและสบายตาเลย แต่มันก็จำเป็นต้องนอนไปก่อน
คืนแรกผมก็นอนเฝ้าแฟนอยู่ใต้เตียง อย่างที่เรารู้ๆกันว่า โรงพยาบาลรัฐแถวต่างจังหวัดมันจะแออัด ถ้าจะนอนเฝ้าคนป่วย ต้องลงไปนอนใต้เตียง แล้วคืนนั้นผมก็เอาเสื่อที่โรงพยาบาลจัดมาให้ ไปปูนอนใต้เตียงแฟน แต่การนอนของผม ผมจะไม่ปูเสื่อเข้าไปด้านในมาก เพราะผมคิดว่า ถ้าเข้าไปลึกเกินไป เวลาที่แฟนผมจะลงจากเตียงผมจะไม่เห็น คืนแรกผมก็นอนเฝ้าแฟนตามปกติ หลับบ้าน ตื่นบ้าง เพราะมันมีเสียงคนป่วยร้องบ้าง เสียงเครื่องดังบ้าง เหตุการณ์ผ่านไปได้หนึ่งวัน แฟนผมก็ทำการรักษาไป แล้วช่วงบ่ายของวันที่สอง
ในขณะที่ผมนั่งเฝ้าแฟนอยู่ ผมก็ได้เห็นพยาบาลเข็นเตียงเข้ามาหนึ่งเตียง แล้วก็จะมีคนเดินตามเตียงนั้นมาหนึ่งคน คนนั้นเป็นผู้ชาย แล้วบุรุษพยาบาลก็เดินตามเข้ามา แล้วทุกคนก็ช่วยกันยกยายแก่ๆคนนั้นขึ้นเตียง รวมทั้งผมก็เข้าไปช่วยเค้าด้วย….สรุป ยายคนนั้นเค้าเดินไม่ได้ครับ พูดไม่ได้ ขยับได้แต่ลูกตา ผู้ชายที่มากับคุณยายคือลูกชายของแกเอง วันนั้นคุณยายต้องมานอนที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว แต่ผมก็ไม่กล้าถามว่ายายแกเป็นอะไร รู้แค่ว่าแกเดินไม่ได้ แล้วเตียงที่แกนอนก็เป็นเตียงที่หนึ่ง ที่ยังว่างอยู่]
คืนที่สองของการเฝ้าไข้แฟน ในขณะที่ผมนอนหลับอยู่นั้น กลางดึกผมก็ได้ยินเสียงเตียงดัง แก๊ก แก๊ก ผมตกใจลืมตาขึ้นเพราะคิดว่าแฟนผมคงจะเข้าห้องน้ำ แต่ในขณะที่ผมลืมตาอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงนั้นอีก แต่ผมยังไม่ทันได้ลุกออกไปดู ผมก็ต้องตกใจ เพราะเสียง แก๊ก แก๊ก ที่ผมได้ยินนั้น มันไม่ใช่เสียงที่มาจากเตียงแฟนผม แต่มันเป็นเสียงที่มาจากเตียงของยายคนนั้น ตอนนั้นผมค่อยๆหรี่ตามองว่ายายแกจะทำอะไร สิ่งที่ผมเห็นคือ ยายแกลุกขึ้นนั่ง แล้วมองไปรอบๆห้อง ทำตาขวางแลบลิ้นออกมายาว แล้วเลียปาก แกทำท่าจะลงมาจากเตียง แต่แกลงมาไม่ถนัด เพราะมันมีที่กั้นเตียงขวางไว้อยู่ แล้วผมก็ตัดสินใจส่งเสียงพูดทักแกออกไปว่า…ยาย ยายจะทำอะไร ยายจะไปไหน พอแกได้ยินเสียงผมแกรีบล้มตัวนอนกับเตียงทันที ตอนนั้นผมรู้สึกตกใจ งง ปนๆกันไปหมด….เอ๊ะ??ไหนลูกเค้าบอกว่า ยายแกเดินไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ หรือผมตาฝาด ฝันไป
แล้วเช้าวันนั้นของวันที่สาม ผมก็เล่าให้แฟนผมฟัง แต่แฟนผมบอกไม่ต้องพูด มีอะไรค่อยกลับไปคุยที่บ้าน แล้ววันนั้นทั้งวัน ผมรู้สึกหวาดระแวง และแปลกใจทั้งวัน ตาผมก็คอยที่จะเหลือบมองยายแกเรื่อยๆ วันนั้นทั้งวันแกนอนนิ่งไม่ขยับตัวเลย นอนนิ่งเป็นผักเลย ผมเห็นลูกเค้ามาผมก็ไม่กล้าพูดให้เค้าฟัง กลัวเค้าไม่เชื่อ
คืนที่สามของการเฝ้าไข้แฟนของผมมันเริ่มตื่นเต้นขึ้นทุกวัน คืนนั้นผมปูเสื่อเข้าไปด้านในใต้เตียงแฟนผมมากขึ้น เพราะผมรู้สึกกลัวและหลอน คืนนั้นผมนอนอยู่ใต้เตียง ผมไม่กล้าที่จะนอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่ง เพราะกลัวไปหมด ถ้าหันหน้าหาแก ก็กลัวจะเห็นแก ถ้าหันหลังให้แก ก็กลัวแกจะมาจับหลัง โอ่ยยยยผมจะทำยังไงดี ผมเลยตัดสินใจนอนหงายไปเลยทั้งคืน แล้วคืนนี้มันก็เริ่มขึ้น
ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ กลางดึกเหมือนเดิม ผมก็ได้ยินเสียงดัง แก๊ก แก๊ก ผมสะดุ้งตื่นแล้วค่อยๆหรี่ตามองไปทางเตียงของยายแก คุณพระช่วย!! ยายแกไม่ได้อยู่บนเตียง ผมค่อยๆกวาดตามองไปรอบๆห้อง แต่การมองของผม ผมจะมองจากใต้เตียง แล้วสิ่งที่ผมเห็นก็คือ..ยายแกเดินมาที่ข้างเตียงของแฟนผม แล้วแกก็ก้มลงมาดมตามแผลของแฟนผม ตอนนั้นผมใจจะขาด แล้วสักพักยายแกก็เดินไปที่เตียง สาม สี่ ห้า แล้วก็เดินข้ามไปเตียงอีกฝั่ง แกเดินดมตามแผลของทุกเตียง ถ้าเตียงไหนแผลมีเลือดซึมออกมาแกก็จะเลียกิน ตอนนั้นผมทนไม่ไหว เลยแกล้งส่งเสียงดังออกไป เพื่อให้คนในห้องนั้นตื่น แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องช็อคอีกรอบก็คือ…พอแกได้ยินเสียงผม แกตกใจแล้วรีบเคลื่อนตัวมาอย่างเร็วมาก แป๊บเดียวแกขึ้นมานอนอยู่บนเตียงของแก เพียงแค่ผมกระพริบตาเท่านั้น!
ในเวลานั้นผมเก็บความกลัวไม่ไหวแล้ว ผมลุกออกมาจากใต้เตียง แล้วก็ไปปลุกแฟนของผมให้ตื่น แต่แค่ผมเอามือแตะที่ตัวแฟนของผมนิดเดียว แฟนผมก็ลืมตา แล้วจับมือผมไว้ เธอส่งสายตาให้ผมเหมือนจะบอกอะไรบางอย่างกับผม….สรุปคืนนั้น ผมก็ไม่นอนเลย ผมหยิบนาฬิกาดู มันเป็นเวลาตีสามพอดี ผมเลยนั่งอยู่กับแฟนจนเช้า…
คืนที่สี่ที่ทรมานใจที่สุด ช่วงกลางวันทุกอย่างก็เป็นปกติ ผมพยายามจะแอบบอกกับพยาบาล แต่ก็ไม่กล้า กลัวเค้าจะหาว่าผมบ้า แล้วกลางดึกคืนนั้นความหลอนก็เริ่มขึ้น ในขณะที่ผมนอนอยู่ใต้เตียงแฟนนั้น ผมก็ได้ยินเสียงดัง ซู๊ด ซู๊ด ลักษณะของเสียงมันเหมือนคนกำลังดูดน้ำหรือดูดอะไรสักอย่าง ตอนนั้นผมก็ค่อยๆหรี่ตามองไปที่เตียงของยายแกเหมือนเดิม…คุณพระช่วย! ยายแกไม่ได้อยู่บนเตียงอีกแล้วครับ ตอนนั้นผมกลัวมาก แต่ผมก็ห่วงแฟนด้วย ผมไม่กล้าทิ้งแฟนแล้ววิ่งออกจากห้องไป ผมก็มองหาแกรอบๆห้อง ผมกลัวแกจะมายืนข้างเตียงแฟนผมอีก โชคดีที่เตียงฝั่งนี้ไม่มีแกครับ แล้วผมก็ค่อยๆกระดกหัวเบาๆเพื่อมองหาแก…เห้ย!!
ผมเห็นแกนั่งยองๆอยู่ข้างตียงคนป่วยที่อาการหนักคนนึง ผมพยายามองว่าแกทำอะไร แล้วสิ่งที่ทำให้ผมช็อคจนต้องวิ่งออกจากห้องไปก็คือ…ยายแกนั่งยองๆแล้วดูดเลือดเสียที่ถ่ายออกมาจากตัวคนป่วยคนนั้น!
พอผมเห็นแบบนั้น ผมไม่ไหวแล้วครับ ผมลุกออกจากใต้เตียงแล้ววิ่งสุดชีวิต ออกไปที่เค้าเตอร์พยาบาล ไปเล่าสิ่งที่ผมเห็นให้เค้าฟัง พยาบาลบอกให้ผมสงบสติอารมณ์ก่อน
พยาบาล: ใจเย็นๆนะคะ ค่อยๆพูด มันไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณยายแกเดินไม่ได้นะคะ
ผม: ผมพูดจริงๆครับ ผมไม่ได้โกหก ผมเห็นกับตา
แต่ในขณะที่ผมพูดกับพยาบาลคนนั้นอยู่ ก็มีพยาบาลคนนึงมองหน้าผมแปลกๆ แล้วเธอก็พูดกับผมว่า…
พยาบาล: คุณคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณหมอมา คุณไปเล่าและคุยให้คุณหมอฟังนะคะ แต่ตอนนี้คุณไปนอนเฝ้าแฟนคุณก่อนนะคะ
แล้วผมก็ตั้งสติได้ แล้วก็เดินกลับไปหาแฟนผม คืนนั้นผมนั่งเฝ้าแฟนผม ไม่หลับไม่นอน แฟนผมกระซิบบอกผมว่า….
แฟน: ตัวเอง ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เค้าเชื่อที่ตัวเองพูด เพราะเค้าก็เห็นเหมือนกัน เอาไว้ไปคุยที่บ้านนะ
แล้วคืนนั้นผมก็นั่งหลับอยู่ข้างเตียงแฟนจนถึงเช้า
คืนที่ห้าของความอดทน เช้าของวันที่ห้า ลูกชายของยายแกก็มา ปกติเค้าไม่ค่อยจะมาทุกวัน แต่ผมก็ไม่เคยได้คุยกับเค้า ได้แต่มองๆ แต่วันนี้ผมตัดสินใจที่จะคุยกับคุณหมอถึงสิ่งที่ผมเจอมาตลอดสี่คืน พอคุณหมอตรวจแฟนผมเสร็จ ผมก็เดินไปคุยกับคุณหมอเป็นการส่วนตัว พอผมเล่าทุกอย่างให้คุณหมอฟัง ท่านก็ทำหน้าแปลกๆ แล้วท่านก็บอกกับผมว่า….
หมอ: คืนนี้คุณนอนอีกสักคืนนะครับ ถ้ามีอะไรพรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน
ผม:เออออออ…ครับ
ผมไม่รู้จะพูดยังไงครับตอนนั้น อาการของแฟนผมก็ยังไม่หายดี แล้วผมก็ไม่รู้ต้องอยู่ที่นี่อีกกี่คืน ผมตัดสินใจคุยกับแฟนว่า “พรุ่งนี้ผมจะขอย้ายห้อง” แล้วแฟนผมก็ตกลง สรุป คืนนี้ผมต้องนอนที่ห้องนี้อีกหนึ่งคืน
แล้วกลางดึกคืนนั้น ผมก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิม ผมนอนเฝ้าแฟนใต้เตียง แต่สถานการณ์ในคืนนี้มันดูแปลกๆ มันเงียบๆ ผมคิดว่าคืนนี้มันคงไม่มีอะไร คืนนี้ผมคงนอนหลับสนิทได้ แล้วผมก็หลับสนิทจริงๆ คืนนั้นผมจำได้ว่า ผมนอนหลับตะแคงข้างหันหลังให้กับเตียงของยาย แล้วในขณะที่ผมหลับสนิทอยู่นั้น ผมต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เพราะว่า ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่าง ผ่านหลังผม วูบ วูบ ผมรู้สึกเอะใจ! แล้วนึกถึงยาย เลยลืมตามองไปด้านหน้าสำรวจมองทั่วๆใต้เตียงของห้องนั้น ผมไม่เห็นยายครับ แต่ผมกลับรู้สึกว่า มันมีอะไรมาเขี่ยที่หลังของผม แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆครับ
ผมค่อยๆหันหลังกลับไปมองที่เตียงของยาย แล้วสิ่งที่ผมเห็นและช็อคโลกแตกก็คือ ยายแกเอามือที่มีเล็บยาวมาก เอื้อมมาข่วนที่หลังของผม แล้วแกก็ยื่นหน้าที่เหี่ยวๆ ตาลึกโบ๋ ลงมาใกล้หน้าผม แลบลิ้นออกมายาวมากเหมือนจะมาเลียที่หน้าของผม ผมอยู่ไม่ได้แล้วครับอย่างนี้ มันมาครบ หน้า เสียง กลิ่น มันมีกลิ่นเหม็นเน่าๆออกมาจากตัวของยายแก ตอนนั้นผมร้องสุดเสียง ผมไม่สนใจอะไรแล้ว ผมวิ่งออกจากห้องนี้ไปที่เค้าเตอร์พยาบาล แล้วก็เล่าทุกอย่างให้พวกเค้าฟัง แต่ครั้งนี้พยาบาลเชื่อผม ไม่ว่าผมเลยสักคำ แถมยังพูดกับผมอีกว่า…. “ดิฉันก็เห็นเหมือนกันค่ะ แต่ดิฉันพูดไม่ได้”
สรุปคืนนั้น ผมและพยาบาลก็ช่วยกันเดินไปดูแฟนผมเป็นระยะๆ พอเช้ามาผมก็ไปคุยและเล่าทุกอย่างให้คุณหมอฟัง และผมก็ขอเปลี่ยนห้องทันที คุณหมอไม่คัดค้านใดๆ อนุญาตให้เปลี่ยนห้องแบบง่ายๆ
แล้ววันนั้น ลูกชายของยายแกก็มา แล้วผมก็ขอไปคุยกับเค้าแบบส่วนตัว
ผม: พี่ครับ ผมขออนุญาตคุยด้วยหน่อยครับ
ลูก: ได้ครับ มีอะไรครับ
ผม: พี่รู้มั้ยครับว่า คุณยายแกเดินได้นะครับ
ลูก: ห๊ะ!! แม่ผมเดินได้ คุณเห็นหรือครับ
ผม: ครับ ผมเห็น ผมเห็นแกเดินไวมาก
ลูก: คุณเห็นกี่ครั้ง
ผม: ผมเห็นตั้งแต่ยายแกมานอนที่นี่แล้วครับ
แล้วผมก็เล่าทุกอย่างให้พี่เค้าฟัง……
ลูก: ครับ ผมรู้ แม่ผมเป็นปอบ
ผม: ห๊ะ!!!!! อะไรนะ พี่รู้ แล้วพี่จะทำยังไงล่ะครับ แล้วคุณยายแกเป็นได้ยังไงครับ
แล้วพี่เค้าก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง…..
ลูก: คือ แม่ผมเป็นคนสุรินทร์ ตอนที่แกอยู่ที่นั่นแกเป็นแม่หมอ ใครๆก็นับถือแก ให้แกรักษา แล้วแกก็เล่นของ เลี้ยงผี พอถึงเวลาแกก็ต้องเอาเลือด เอาของสดไปเซ่นไหว้ผี แล้วผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผีพวกนั้นมันมาเข้าร่างและอยู่กินร่างแม่ผม ก่อนหน้านี้ผมเอาแม่ผมมาเลี้ยง มาดูแล เพราะคิดว่ามันคงไม่มีเรื่องผีเรื่องสางแบบนี้หรอก แต่พอผมเอาแม่มาอยู่ด้วย แล้วจ้างคนมาดูแล เค้าก็อยู่ไม่ได้กัน พอตกดึกแม่ก็จะออกเดิน หาของสดหาเลือดกิน บางทีก็จะไปเลียหน้าพี่เลี้ยงจนเค้ากลัว อยู่กันไม่ได้ แม่เป็นอย่างนี้มาระยะหนึ่ง จนต้องเปลี่ยนพี่เลี้ยง สี่คนแล้ว เพราะเค้ากลัว แล้วตอนนี้ผมกับแฟนก็ดูแลแกไม่ไหว ไม่รู้จะแก้ยังไง เลยคิดว่าจะเอามาอยู่ที่โรงพยาบาล มันอาจจะดีกว่าอยู่ที่บ้าน แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องที่นี่อีก
“ผมขอโทษครับ แม่ผมเป็นปอบ”
หลังจากนั้น ผมก็ขอย้ายห้องทันที เรื่องนี้ มีผม แฟน คุณหมอ พยาบาล เท่านั้นที่รู้ เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผมเจอมาจริงๆครับ
ขอบคุณคุณเดียร์
ติดตามอ่านเรื่องเล่าผีต่อได้ที่ คลังหลอน