เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องลี้ลับ สยองขวัญ ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผมและเพื่อนที่ทำงานตอนที่ผมยังอยู่บริษัทเดิม
เรื่องมีอยู่ว่าผมทำงานในตำแหน่งช่างกะกลางวันอยู่บริษัทเดิมมาเป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะย้ายมาทำงานที่ใหม่ เป็นช่วงเวลาที่ผมได้สัมผัสกับเรื่องเร้นลับ โดยเฉพาะเวลาผมอยู่กะดึก คือว่าเวลาที่ผมเข้ากะ ผมจะทำงานแค่คนเดียว และก็มีเพื่อนร่วมงานที่เป็นฝ่ายผลิตอยู่เยอะเหมือนกัน ช่วงแรกๆที่ผมจะมาเข้ากะดึก ทุกคนก็จะบอกว่าระวังโดนรับน้องนะ ซึ่งผมก็ไม่คิดอะไร
ช่วงเวลาที่ผมเข้ากะดึกผมก็จะอยู่ที่ออฟฟิศคนเดียว ทำงานคนเดียวบ้าง ถ้าเครื่องจักรไม่เกิดพัง ก็จะนั่งๆ นอนๆ อยู่แบบนั้นยันเช้า
ทำงานอยู่ที่นี่ได้สักพักเริ่มได้ยินเรื่องเล่าของผู้หญิงใส่ชุดไทย สีออกแดงๆ ชมพูๆ เดินไป เดินมาเข้าออฟฟิศผมบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง เพราะช็อปของผมจะอยู่ติดกับไลน์ผลิต ซึ่งพนักงานฝ่ายผลิตก็จะมองเห็นช็อปของผมอย่างชัดเจน
เอาจริง ๆ นะ ส่วนตัวผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มากนัก เพราะเป็นคนเห็นอะไรแบบนี้ตลอดอยู่แล้ว
วันนั้นผมเข้ากะดึกเป็นวันแรก แต่มาทำโอทีคือ เข้างาน 1 ทุ่ม ออกเช้า แต่ผมมาเข้างานสายนิดนึง จึงโทรบอกพี่ที่อยู่กะก่อนผมว่าให้กลับไปก่อนได้เลย พอผมมาถึงออฟฟิศเห็นไฟเปิดอยู่ ผมก็คิดว่าพี่เค้าคงยังไม่กลับก็เลยเดินเข้าไปในออฟฟิศ
ทางเดินออฟฟิศเดินตรงเข้าไปและมีตู้เอกสารกั้นเอาไว้ สำหรับประชุมแผนก และก็จะมีคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ เหลื่อมๆ กับของตู้
ภาพที่ผมเห็นคือ ผู้หญิงผมยาวนั่งหันข้าง ถ้าผมมองตรงไปเค้าจะนั่งหันข้างไปทางขวา ผมก็คิดว่าคงมีพวกพนักงานเข้ามาทำงานตรงคอมของเรามั้ง ก็เลยเดินเข้าไป ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคน มีแต่ความว่างเปล่า แล้วผมก็ฉุดคิดขึ้นได้ว่า ประตูทางเข้าก็ล็อคกุญแจด้านไว้อยู่ ถ้าเป็นคนจริง ๆ จะเข้ามาได้ไง
แต่ก็ไม่คิดอะไรมากครับ เดินออกไปไลน์ผลิตเพื่อไปดูว่ามีงานค้างอะไรหรือไม่ และได้คุยกับพี่ไลน์ผลิต พี่เค้าก็ทักผมว่า “อ้าว QO แบงค์ ยังไม่กลับอีกเหรอ” ( QO แบงค์ ก็คือ วิศวกร ผู้หญิง ครับ ) พี่เห็นเดินเข้าออฟฟิศไปเมื่อกี้นี้ ผมก็เลยบอกว่า “ไม่เห็นมีเลย ผมก็พึ่งออกมาจากออฟฟิศมาเนี่ยแหละ”
อ้าวพี่แกหน้าเสียครับ แล้วแกก็ทำงานของแกต่อไป ผมก็ไม่ได้บอกอะไรให้แกฟังเพราะ กลัวว่าแกจะทำงานไม่ได้ แล้วคืนแรกก็ผ่านไป
วันต่อมาก็เข้ากะดึกตามปกติเหมือนเดิม แต่มีพี่ฝ่ายผลิตเข้าไปกินข้าวนั่งเล่นในช็อปของผมอยู่ ตามเดิมครับผมออกมาคุยกับพี่ฝ่ายผลิต ปล่อยให้เพื่อนผมอยู่ในช็อปคนเดียว แกกำลังนั่งกินข้าวอยู่ของแกอยู่ ครับผมก็ยืนคุยกับพี่แก คุยเล่นกันไป สักพักเสียงเปิดประตูช็อปและปิดอย่างดัง!! (คือประตูช็อปจะเป็นประตูเลื่อนอะครับ) เท่านั้นแหละ พี่แกตกใจวิ่งหน้าตั้งออกมาหาผมเลยครับ ข้าวยังเต็มปากแกอยู่เลย
แกบอกว่าแกไปนั่งกินข้าวตรงโต๊ะประชุม ตรงนั้นจะมีตู้เอกสารจัดเรียงให้เหมือนเป็นโซน ขณะที่แกกำลังกินข้าวอยู่ จู่ ๆ มีผู้หญิงคนนึงโผล่มาจากทาไหนไม่รู้ ยืนหน้าออกมาครึ่งหน้า มองแกนั่งกินข้าว แกก็เลยตกใจและวิ่งออกมาเนี่ยแหละ
นั่นทำให้ผมเริ่มจะสงสัยละครับว่าที่นี่มันมีอะไรแน่ ๆ จนถึงวันที่ผมเข้ากะเช้า ผมก็ไล่ถามคนที่แผนกของผมทีละคนเลยครับ ว่าเคยเจอเหตุกาณ์แบบนี้ไหน ทุกคนบอกว่าโดนกันมาหมดแล้ว ที่ผมโดนน่ะยังเด็กๆ
เมื่อก่อนมีพี่คนนึงชื่อพี่อ้อม แกอยู่มาก่อนผม แกบอกว่าตอนที่แกเข้ากะดึก แกจะนอนตรงหน้าคอม ในท่านอนพิงเก้าอี้และยกเท้าขึ้นไปพาดบนโต๊ะคอม แกนอนไปได้สักพักก็รู้สึกตัวเริ่มอึดอัด ขยับตัวไม่ได้ แต่ยังลืมตาเห็นทุกอย่าง
ด้านหน้าตรงโต๊ะคอมจะมีตู้แร็คเก็บของเป็นชั้นๆ แกบอกว่ามีผู้หญิงผมยาวใส่ชุดไทยสีชมพู นั่งห้อยขาและมองมาและยิ้มให้แกที่กำลังนอนอยู่ แต่เห็นแค่รอยยิ้ม เพราะผมปิดหน้า ปิดตาหมด แกตกใจแต่ร้องไม่ได้ ก็เลยนอนหลับตาอยู่นาน สักพักแกก็ขยับตัวได้ จึงิว่งออกมา ไม่เข้าไปในช็อปอีกเลยยันเช้า หรือถ้ามีความจำเป็นต้องเข้าก็จะให้คนเข้าไปเป็นเพื่อนด้วย ผมนี้อึ้งเลย ดีนะที่ไม่เจอแบบนั้น
อีกครั้งกะการเข้าดึกคนเดียวเอาเป็นว่าตอนนี้ ไม่มีใครกล้าเข้ามาในช็อปแผนกผมอีกแล้ว แต่พวกผมชินกันแล้ว จนแบบว่าพวกผมนอน แบบสบายใจอ่ะ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเข้ามาตรวจตอนกลางคืน เพราะกิติศัพท์ล้ำลือ
มีอยู่ครั้งนึงผมไม่สบายมาก ตัวร้อนเป็นไข้ แต่ผมไม่ได้ลานะครับ เพราะกลัวพวกพี่เค้าต้องต่อกะเหนื่อยกัน ก็เลยมาทำงานกะดึกตามปกติ แต่เหมือนร่างกายจะไม่ไหว ร้อนๆหนาวๆ ตกดึกตัวผมร้อนมากไปห้องพยาบาลกินยาก็ดีขึ้น
ผมจะต้องนอนพักผ่อน เลยนำเก้าอี้มาต่อๆกันเป็นแนวยาวเพื่อทำเป็นที่นอน และเอาผ้า Use ที่ยังไม่ได้ใช้งานมาปูๆ และก็เทิร์นให้เป็นหมอนมีเสื้อคลุมอยู่เป็นผ้าห่ม ผมหนาวมากครับ นอนไม่ได้เลยเพราะในโรงงานเป็นห้องแอร์
นอนไปได้สักพัก ประมาณ 5 ทุ่มกว่า ๆ ผมก็ลุกขึ้นไปเช็คดู จนแน่ใจว่าไม่มีงานค้างแน่นอน แต่ผมกลัวงานที่จะ BreakDown มากกว่าเพราะผมต้องทำงานคนเดียว
ประมาณเที่ยงคืนกว่า ๆ ผมก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวละ หนาวสั่น ด้วยความไม่รู้จะทำยังไงผมจึงพนมมือพูดในใจบอกว่า “ ผู้หญิงคนที่อยู่ที่นี่ ผมขอนอนนะครับผมไม่ไหวจริงๆ ขออย่าให้เครื่องจักรพังเลยขอให้ผมนอนพักผ่อนยันเช้าเลยนะครับ” และผมก็เอาโทรศัพท์ มือถือมาวางไว้ข้างหูเพื่อมีใครโทรมาแจ้งงานจะได้ๆยิน จากนั้นผมก็ล้มตัวลงนอน เคลิ้มๆเหมือนคนนอนหลับไม่สนิท
ผมตื่นขึ้นมาอีกที มองดูเวลาตลอดตอนนั้น ประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ทุกอย่างเงียบสงบ แต่เอาอีกแล้ว ผมขยับตัวไม่ได้ แต่ตายังมองเห็นทุกอย่างรอบตัว แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกเหมือนมีลมปัดยุงให้แบบใกล้ๆ ตรงหน้าจากซ้ายไปขวา จากขวาไปซ้าย แถมอาการหนาวก็หายไป แล้วผมก็เคลิ้มหลับไป
ตื่นมาอีกทีก็ 6 โมง ก่อนออกกะ ผมเดินออกไปดูไลน์ผลิต เชื่อมั้ยว่าคืนนั้นไม่มีเครื่องจักรเครื่องไหนพังหรือเสียเลยครับ
ยังมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแต่ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวผม แต่เป็นพนักงานฝ่ายผลิต คือเรื่องนี้ก็ดังเปรี้ยงป้างเลยครับรู้กันทั้งหน่วยงาน ถึงขั้นเข้าถึงหูนายใหญ่ด้วย พอดีตรงข้างช็อปของผมมันเป็นชั้นเก็บวัตถุดิบ ประมาณ 3 ชั้นใหญ่ๆ ทางฝ่ายก็ต้องมาเอาวัตถุดิบตรงนี้เป็นประจำ คืนนั้นรู้สึกผมอยู่กะเช้าหรือบ่ายไม่แน่ใจ และเค้าเล่าให้ฟังว่ามีพี่คนนึงไปเอารถ Hand Lift มาเพื่อยกของเติม ขณะที่เค้าเอารถเสียบกับพาเลทวางของ เพื่อที่จะลากออกมา เขาหันหน้าเข้าชั้นวางของ และเสียบรถ Hand Lift เข้าไป ในขณะลากรถออก แกเห็นเหมือนผู้หญิงคนนึงนั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น ผมปิดหน้าใส่ชุดสีแดง ชมพูๆ นั่งจ้องหน้าแกอยู่ แกเลยทิ้งรถ ตะโกนโวยวายวิ่งออกมาจากตรงนั้น จนพนักงานคนอื่นต้องวิ่งมาดูแก
พี่แกหน้าซีด เหงื่อท่วมตัว ตัวสั่นไปหมด และบอกว่าผีหลอกๆ จนวันนั้นแกทำงานไม่ได้ ผมมารู้ว่าแกโดนหรอกก็ตอนกลางวันของอีกวันนึง เพราะมีพี่มาเล่าให้ฟัง และเรื่องนี้เข้าถึงหูเจ้านายใหญ่ แกบอกว่าจะต้องมีการทำบุญกันแล้วแหละ แต่เจ้านายฝรั่งบอกว่า งมงาย ให้หยุดพูดถึงเรื่องนี้ ไร้สาระ
ต่อมาครับ ผมเข้ากะเช้าวันเสาร์ ทุกคนหยุดกันหมด แต่เหลือผมกับพี่ที่เป็นเวรประจำวันเสาร์ 2 คน รวมเป็น 3 คน ที่มาทำงานวันเสาร์ พอถึงเวลาเที่ยงไปกินข้าวกันเรียบร้อย ก็พากันกลับมาที่ช็อป
พอดีวันหยุด นายไม่อยู่ หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อนเป็นธรรมดาครับ ผมเผลอหลับไปน่าจะตอนเที่ยงกว่าๆ หลับแบบนั่งก้มหน้าฟุบกับโต๊ะ แล้วฝันว่าเดินอยู่ในออฟฟิศ พอเดินยังไม่ถึงประตูหน้าออฟฟิศ มีผู้หญิงคนนึง นั่งขวางหน้าผมอยู่ เธอใส่ชุดไทยสีชมพูเข้มๆ ผมยาวๆประมาณบ่า นั่งสะอึกสะอื่นอยู่ ผมก็ตกใจสิครับ
แล้วเธอก็ลุกขึ้น เดินนำหน้าผมไป แต่ไม่รู้ทำไมในฝันผมต้องเดินตามเค้าไปด้วย และก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตูช็อป แล้วเธอยืนหันหลังให้ผมอยู่ และใช้นิ้วชี้มือซ้ายชี้ลงไปที่พื้น จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงเข้ามาในหูว่า “ ใต้พื้นนี้มีศาลอยู่นะ ใต้พื้นนี้มีศาลอยู่นะ” ประมาณ 3 -4 รอบ แล้วผมก็เลยสะดุ้งตื่น เพราะพี่มาปลุก
ตอนนั้นเวลา เกือบบ่าย 2 โมงแล้ว ให้ตายสิ ผมนอนไปชั่วโมงกว่าได้ยังไง พี่เค้าบอกว่าเรียกยังไงผมก็ไม่ตื่น แกเลยออกไปกินกาแฟข้างนอก และก็กลับเข้ามาในช็อปอีกครั้ง ก็ยังเห็นผมนอนอยู่ท่าเดิม เหงื่อแตกเต็มไปหมด ทั้งๆที่ในห้องแอร์เย็นเจี๊ยบ
แล้วก็เล่าให้พี่ทั้งสองคนฟัง แกก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่พวกผมไม่มีอำนาจขนาดนั้นที่จะไปรื้อ เจาะพื้นโรงงาน เพื่อดูว่ามีศาลจริงหรือไม่ ผมก็เลยพูดในใจว่า พวกผมไม่มีอำนาจขนาดนั้น เพราะผมก็มาทำงานเป็นลูกน้องเค้าเหมือนกันไม่สามารถทำอะไรกับบริษัทได้ แต่จะทำบุญไปให้บ่อยๆและกันนะครับ และก็บอกต่างคนต่างอยู่อย่มาปรากฏให้ใครเห็นเลย เค้าจะทำงานกันไม่ได้ ถ้าอยากได้อะไรกินอะไรก็มาเข้าฝันผมก็ได้นะครับ
หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเห็น ผญ. คนนั้นอีกเลยแต่ก็เวลาทำบุญ ก็จะอุทิศบุญกุศลให้เค้าเสมอ จนผมย้ายมาทำงานอีกที่นึง ขอบคุณที่อ่านและติดตามนะครับ