Home กระทู้ผีพันทิป ผีกะแฝงป้าทอ เจอผีกะตัวแม่  ไล่ยังไงก็ไม่ไป..! เหตุเกิดที่จังหวัดนึงทางภาคเหนือ ” 

ผีกะแฝงป้าทอ เจอผีกะตัวแม่  ไล่ยังไงก็ไม่ไป..! เหตุเกิดที่จังหวัดนึงทางภาคเหนือ ” 

ผีกะแฝงป้าทอ เจอผีกะตัวแม่  ไล่ยังไงก็ไม่ไป..! เหตุเกิดที่จังหวัดนึงทางภาคเหนือ ” 

ภาคเหนืออย่างที่รู้ๆ กันดีว่ามีเรื่องเล่าผีๆสางๆ ค่อนข้างจะเยอะ  แต่จะมีผีอยู่ชนิดนึงที่เรียกว่า “ผีกะ”  คำว่า ผีกะ ของภาคเหนือจะอารมณ์คล้ายๆ กับผีปอบของภาคอีสาน  แต่น่าจะมีที่มาจากผีบรรพบุรุษที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้แล้วเลี้ยงไม่ดี  จึงหันมากินเครื่องในลูกหลานแทน  

คนที่เลี้ยงผีกะจะมีสิ่งให้จับสังเกตได้ก็คือ กลางวันจะหน้าตาธรรมดาไปถึงขั้นแย่  แต่พอตกดึกเท่านั้นแหละจะหน้าตาหล่อสวยขึ้นมาทันที  

และอีกสิ่งหนึ่งตามที่ได้ยินเขาเล่าๆ สืบกันมาคือ  คนที่เลี้ยงผีกะจะมีวอก (ลิงขนาดเล็ก) นั่งอยู่บนบ่าคอยเลียหน้าตาเจ้าของด้วย  และเวลาไปไหนมักจะมีนกแสกบินนำหน้าเสมอ  นึกแล้วสยองดีชะมัด..!

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า  เรื่องเล่านี้นำมาจากญาติผู้ใหญ่ของเราที่ท่านเจอมาด้วยตัวเอง   ด้วยความที่อยู่บ้านนอก ในยุคก่อนๆ คงจะเดากันได้ว่าป่าจะค่อนข้างเยอะ  และพื้นที่ในการปลูกบ้านสมัยก่อนต้องอาศัยการจับจองและแผ้วถางกันเอาเอง  ดังนั้นบริเวณรอบบ้านของเราเลยเป็นทุ่งนาที่ติดกับภูเขา  อยู่กันแค่ในเครือญาติเท่านั้น  ไม่มีคนนอกสายเลือดเลย

บ้านใกล้เรือนเคียงที่เป็นเครือญาติเราตอนนั้น  มีป้าสะใภ้อยู่คนหนึ่ง  แกแต่งงานแล้วเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ (สมัยนั้นเรายังไม่เกิดเลยจ๊ะ) ป้าเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดาบ้านๆ ตัวเล็กๆ ผิวสองสี  ขอเรียกแทนแกว่า “ป้าท้อ” ละกันนะคะ

ป้าทอเป็นคนที่ขวัญอ่อนและปากไว  ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ไม่มีใครรู้ว่าแกไปทำอะไรอีท่าไหน  ถึงได้ไปถูกตาต้องใจเข้ากับ “ผีกะ” ตัวหนึ่งเข้า..

ด้วยความที่พื้นที่แถวบ้านป่าค่อนข้างเยอะ  บวกกับเป็นพื้นที่จังหวัดที่เปิดทำเฟอร์นิเจอร์ไม้สักอย่างถูกกฎหมาย  ป่าสักจึงมหาศาลทุกข้างทางถนน

หลังจากออกไปข้างนอกกลับมา  ป้าท้อก็เริ่มมีอาการแปลกๆ ดูลุกลี้ลุกลน  ปากก็พร่ำบอกแต่ว่ามีคนตามมาไม่หยุดปาก..

ผัวแกหรือก็คือ “ลุงราม” ก็วิตกว่าเมียจะเป็นอะไรรึเปล่า  ทำไมพูดจาประหลาดๆแบบนั้น แต่ด้วยความไม่เชื่อเลยนิ่งเฉย  และปล่อยให้ป้าท้อแกเพ้ออยู่อย่างนั้นจนฟ้าเริ่มมืดแล้วเข้านอน  แต่คืนนั้นป้าท้อก็ยังไม่ยอมสงบ  เลยนอนไม่ได้  ร้องหวาดกลัวทุกสิ่ง จนกระทั่งรุ่งเช้า..

ลุงรามเลยนำเรื่องนี้ไปปรึกษาแม่ของแก  นั่นคือยายสา  ตัวของยายสานั้นนับถือศาสนาคริสต์  และเป็นเพียงคนเดียวในบ้านตอนนั้นที่ไม่นับถือศาสนาพุทธตามลูกผัว  เพราะตระกูลของแก (หรือก็คือตระกูลเดียวกับเรานี่แหละ)  นับถือศาสนาคริสต์กันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว

ยายสาแกจึงบอกให้พิสูจน์เสีย  ด้วยการนำแป้งฝุ่นไปโรยที่ตรงขั้นบันไดบ้าน  ซึ่งบ้านของลุงรามและป้าท้อเป็นบ้านไม้  บันไดจึงเป็นซี่ๆ โปร่งๆ คงพอนึกกันออกนะคะ

หลังจากโรยแป้งเสร็จก็ให้ป้าท้อเดินขึ้นไปบนบ้านชั้นสองเพียงคนเดียว  แล้วก็เกิดสิ่งประหลาดที่ทำให้ทุกคนแทบหยุดหายใจ  นั่นคือมีรอยเท้าขนาดใหญ่  ปรากฏตามหลังป้าท้อไปติดๆ..!!

พอแกหันมาเห็นก็ทรุดฮวบลงด้วยความกลัว..แล้วป้าท้อปากก็พร่ำแต่พูดว่า “มันจะมาเอากูไปๆๆ”  

จนลุงรามอยู่ไม่สุข  ต้องรีบพาแกไปหาพระแถวบ้าน  แต่จนแล้วจนรอด  เจ้าผีตัวดีก็ไม่ยอมออกไป  ทั้งยังสำแดงเดชอาละวาด  เข้าสิงไม่หยุดหย่อน

เจ้าผีกะตัวปัญหามีการแอบอ้างเท้าความไปว่า  ป้าท้อเมื่อชาติที่แล้วเคยอยู่เป็นคู่ผัวตัวเมียกับมันมาก่อน  มันตามหามานานแสนนาน  และวันนี้มันเจอแล้ว  มันจะเอาป้าท้อไปอยู่ด้วย…!

ซึ่งอาการของคนผีเข้าก็จะมีลักษณะที่ต่างกันออกไป  บ้างร้องไห้  บ้างคำราม  หรือกรีดร้องก็มี..แต่ของป้าท้อแสดงออกมาในลักษณะอาการขึงขัง  บึ้งตึง  มีตีอกชกหัวตัวเอง  จนร่างกายแกบอบช้ำไปหมด  เดือดร้อนผัวแกกับบรรดาญาติๆ ที่ต้องพากันกดจับแกไว้กับที่

พระประจำวัดในหมู่บ้านทราบความ  ท่านก็ทั้งพรมน้ำมนต์ สวดคาถา ใช้สารพัดวิธีต่างๆ ขับไล่  แต่ยิ่งกลับทำให้มันอาละวาดหนักขึ้น  จากท่าทีบึ้งตึงเปลี่ยนเป็นกราดเกรี้ยวดูถูก

เสียงหัวเราะเย้ยหยันของผู้ชายดังออกมาจากปากของป้าทอสนั่นไปทั่วลานวัด  “กูไม่กลัวหรอก  เป็นแค่พระกระจอกๆ คิดจะมาไล่กู..!”

ด้วยจนปัญญา  พระท่านเลยสุดจะทานทน  ท่านเลยแนะนำให้พาไปหาพระเกจิดังๆ ท่านอื่นน่าจะดีกว่า ลุงรามเลยต้องพาร่างป้าท้อที่มีผีกะแฝงอยู่ย้ายไปยังอีกวัด

แต่จนแล้วจนรอดก็เหมือนเดิม  ยิ่งพระเก่งมากเท่าไหร่  มันยิ่งสำแดงเดชมากเท่านั้น  ถ้อยคำท้าทายมากมายถูกพ่นออกมาไม่หยุดหย่อน  จนวันทั้งวันนั้นลุงรามจำใจต้องพาป้าท้อกลับบ้านมาก่อน

พอมาถึงบ้านได้มันก็ยอมออกแต่โดยดี  แต่ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ป้าท้อนั่นแหละ  ทั้งทำเสียงโครมคราม  เสียงกระทืบเท้า  และหนักข้อขึ้นเมื่อลุงรามมาอยู่ใกล้ๆ แก…เมื่อพึ่งพระไม่ได้  ลุงรามเลยเบนเข็มไปทางหมอผีแทน…

เช้าวันถัดมา  ลุงรามพาป้าท้อเดินทางข้ามอำเภอไปหาหมอผีชื่อดังเจ้านึง  ตลอดทางป้าท้อก็บ่นพึมพำแต่ว่า  มันอยู่ตรงนั้น  ตรงนี้  จนทุกคนพากันขวัญผวาไปหมด จากร่างกายที่เคยเต็มอิ่ม  ตอนนี้ป้าทอผอมซูบทั้งๆ ที่ผ่านไปยังไม่ถึง 3 วันด้วยซ้ำ

เมื่อมาถึงบ้านหมอผี  ตาหมอผีก็ใช้วิชาอาคมสารพัดรวมถึงของขลังนานาชนิด เริ่มด้วยงาช้างนำมาทิ่มแทงตามร่างกายป้าท้อ  แค่พอกะทบผิวหนังมันก็ส่งเสียงร้องโหยหวน  แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นเสียงหัวเราะแหบห้าวกังวานแทน  มันท้าทายอาจารย์หมอผีท่านนี้ทันที..!

จากนั้นสารพัดของขลังจึงประโคมใส่ร่างป้าท้อไม่หยุด  หากแต่ผลก็ยังเหมือนเดิม  คือมันไม่ออก  และไม่ยอมไปไหน

เมื่อหมอผีเจ้าแรกปราบไม่ลง  เจ้าที่สองสามและสี่จึงตามมา แต่ทุกครั้งผลลัพท์ก็ออกมาแบบเดิมอีก

จนเจ้าสุดท้ายถึงกับเอ่ยออกมาว่า “ตอนมีชีวิตเป็นคน มันก็คงมีวิชา  ไม่งั้นไอ้ผีกะตัวนี้มันคงทนไม่ไหวหรอก..”

ราวกับคำสรรเสริญเยินยอ  มันตีอกชกมือพอใจ  บอกว่าอย่าพยายามมาขัดขวางทางรักของมัน  เพราะยังไงซะมันก็จะเอาป้าท้อไปเป็นเมียมันเสียให้ได้…ลุงรามที่จนปัญญา  เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็เลยจำใจต้องพาป้าท้อและผีกะตัวนี้กลับบ้านอีกครั้ง 

พูดถึงยายสาที่รออยู่บ้าน  หลังจากลูกชายพาสะใภ้แกหายไปเกือบทั้งวัน  แกก็นั่งคิดนอนคิดไม่ตก  จากนั้นเลยมาหายายของเราที่บ้านเพื่อขอคำแนะนำปรึกษา  

ซึ่งอย่างที่เคยเกริ่นไว้ว่าบ้านของเรานับถือศาสนาคริสต์กันหมด  ยายเลยเอ่ยแนะนำให้พาป้าท้อไปที่โบสถ์  (ที่ประกอบพิธีของศาสนาคริสต์  บ้านเรานับถือนิกายโปเตสแตนท์นะคะ  เป็นคริสเตียน)

เช้าวันรุ่งขึ้น..ยายสาเลยพาลุงรามและป้าท้อเดินทางไปที่โบสถ์ใกล้บ้าน  ซึ่งทางนั้นเองก็ได้รับการติดต่อมาแล้วว่ายายสาจะพาสะใภ้มาเนื่องจากโดนผีเข้า 

พอไปถึงทุกคนไม่รอช้า  พาป้าท้อเข้าไปด้านในตรงแท่นพิธีจากนั้นศาสนาจารย์ (คล้ายๆ บาทหลวง แต่ไม่ใช่นะคะ) ท่านก็เริ่มทำการอธิษฐาน  อย่างที่รู้ๆ กันมานั่นแหละค่ะ  ว่าชาวคริสต์จะมีการอธิษฐานกันอยู่เนื่องๆ  ทั้งสารภาพบาป  อ้อนวอน  และต่างๆนาๆ ก็คงจะคล้ายๆ การสวดมนต์ของชาวพุทธ  ซึ่งในครั้งนี้ศาสนาจารย์ทุกคนพากันอธิษฐานช่วยป้าท้อในการขับไล่ผีกะอย่างเต็มที่ 

หลายๆ คนอาจจะงงๆ ว่ามันเกี่ยวอะไร  ช่วยได้ตรงไหน  เราขออธิบายแบบรวดรัดเลยนะค่ะว่าในศาสนาคริสต์จะไม่มีการนับถือผี  แต่เรียกสิ่งเหล่านั้นว่าวิญญาณค่ะ  เมื่อเรานับถือพระเจ้า  ผีจะไม่กล้ามายุ่งเกี่ยวค่ะ 

เล่าแบบนี้หลายคนอาจขัดแย้งเพราะเห็นในหนังฝรั่งก็ยังโดนผีเข้ากันโครมๆ.. นั่นไม่ใช่ผีนะคะ  สิ่งเหล่านั้นคือ สาวกและซาตานค่ะ

การอธิษฐานขับไล่เริ่มต้นขึ้น  และถูกแทรกด้วยเสียงร้องของป้าท้อเป็นระยะ  เสียงใหญ่แหบแผดร้องอย่างกับเจ็บปวด  ร่างของป้าท้อดิ้นทุรนทุราย  ปากก็บอกพอแล้วกลัวแล้วไม่หยุด..

ลุงรามที่ยืนดูอยู่ก็พยายามจะเข้าไปช่วยเมีย  แต่ยายสาก็รั้งลูกชายแกเอาไว้  บอกให้ทนหน่อย  ถ้าอยากให้ป้าท้อรอด

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่  สุดท้ายผีกะตัวนี้มันเริ่มพ่ายแล้วก็ถอยออกไป.. ป้าท้อที่ได้สติกลับมาก็พรั่งพรูน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย และด้วยความศรัทธา  นับจากนั้นป้าท้อแกเลยขอเปลี่ยนศาสนา  แล้วหันเข้าหาพระเจ้าไปเลย และหลังจากนั้นจนถึงวันนี้ป้าท้อแกก็ไม่เคยโดนผีเข้าอีกเลยค่ะ

ป.ล. ที่ออกมาเล่า เราไม่ได้มีเจตนาหมิ่นศาสนาใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ เพราะแต่ละความเชื่อ แต่ละศาสนา ล้วนสอนให้คนเป็นคนดีกันทั้งสิ้นค่ะ บางครั้งคนนับถือศาสนาคริสต์ก็หันไปนับถือศาสนาพุทธ ในขณะที่ศาสนาพุทธก็ยังมีคนเบนมานับถือคริตส์ได้เช่นกัน จากเรื่องนี้เลยอยากให้มองว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังค่ะ เอาไว้กระทู้หน้าเราจะมาเล่าความฝันของแม่ ที่แม้แต่เราเป็นผู้ฟัง ยังกลัวจับใจ

ขอบคุณเรื่องเล่าจาก “พันทิป

ขัดเกลาและเรียบเรียงโดยลุงเชิงโกดังหลอน สยองขวัญวาไรตี้

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here