คนร้าย…ผีดี โดนดีทั้งผีและคน..!!  เหตุเกิดแถววัดโคกมะยม  จ. พระนครศรีอยุธยา”

คนร้ายผีดี

เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่เรา(ตัวผู้เล่า) กับเพื่อนอีกคนได้ไปเที่ยวสถานที่บันเทิงแห่งนึงใน จ.อยุธยา กันค่ะ

ด้วยความที่สนุกสนานกันจนเพลิน  กว่าจะกลับบ้านได้เวลาก็ล่วงเลยจนดึกมากๆ  ราวๆ เที่ยงคืน

ขากลับเรากับเพื่อนพากันขี่รถมอเตอร์ไซค์ซ้อนกันมาตามทาง โดยที่เราเป็นคนขี่ส่วนเพื่อนนั้นซ้อนท้ายมา  ซึ่งถนนเส้นทางกลับบ้านนั้นค่อนข้างเปลี่ยว  ข้างทางมีแต่ป่า ไฟถนนก็ไม่ค่อยมีแถมยังมืดเอามากๆ ด้วย

ระหว่างทางที่ขี่รถมา จู่ๆ ก็มีรถมอเตอไซค์คันนึงขี่ตามหลังเรามา  จากที่เห็นตอนแรกขี่ห่างๆ  รถคันนั้นก็เร่งขึ้นมาเรื่อยๆ  ด้วยความสงสัยเราจึงหันไปดู  ก็เห็นว่าเป็นผู้ชายสองคนนั่งซ้อนท้ายกันมา

เมื่อรถคันนั้นขี่ปะกบมาใกล้ ผู้ชายคนที่ซ้อนท้ายเขาก็ถีบให้รถของเราล้ม  ซึ่งพอรถเสียหลักก็ล้มลงข้างทางตรงสนามหญ้า

จากนั้นพวกเราก็แกล้งทำเป็นสลบไป  เพราะตอนนั้นกลัวว่าพวกคนร้ายสองคนนั้นมันจะมาทำร้ายอะไรเรา  คิดซะว่ายังไงเอาตัวรอดไว้ก่อนดีกว่า  ส่วนทรัพย์สินที่มีค่ามันจะเอาอะไรไปก็ให้มันไป

ซึ่งระหว่างนั้นคนร้ายก็เดินมาพร้อมเอาไฟส่องดูที่พวกเรา  แล้วก็เอามือล้วงกระเป๋าสตางค์ไป  เอาสร้อยเอาแหวนไป  แล้วมันก็ขี่รถมอเตอไซต์หนีไป

เวลาผ่านไปชั่วครู่  ขณะที่พวกเราเห็นว่าปลอดภัยแล้วก็เลยลุกขึ้นมาเพื่อจะไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านแถวนั้น  เพราะรถมอเตอไซต์มันพังจะขี่ต่อก็ไม่ได้

แต่ก็ปรากฎว่าไม่นาน  ไอ้คนร้ายสองคนนั้นมันก็ขี่รถย้อนกลับมาอีกรอบ  คราวนี้เราสองคนต่างกลัวมากค่ะ  คิดว่าหรือมันจะกลับมาทำอะไรไม่ดีกับเราแน่ๆ เลย  จึงรีบวิ่งหลบเข้าไปตรงพงหญ้า ซึ่งจังหวะนั้นคิดว่าคงไม่น่ารอดแล้วหล่ะค่ะ  

ทีนี้สายตาเราเกิดเหลือบไปมองข้างทางที่มันเป็นเหมือนโรงงาน  และตรงจุดนั้นก็มีศาลาไม้เก่าๆ อยู่หลังนึง  คล้ายศาลาพักคอยรถ

แล้วภาพที่เรากับเพื่อนเห็นก็แทบช็อคเลยค่ะ  เมื่อมีผู้ชายคนนึงเขานั่งอยู่ตรงศาลาแห่งนั้น ที่น่ากลัวก็คือชายคนนั้นไม่มีหัว..!!

ตอนนั้นเรากับเพื่อนทั้งกลัวก็กลัว  แต่ก็กลัวไอ้คนร้ายสองคนนั้นมากกว่า  ไม่รู้จะทำไงดี  จึงยกมือพนมแล้วพูดลอยๆ ไปว่า

“ขอให้พี่ช่วยหนูด้วยเถอะ  หนูคิดว่าพี่ก็คงจะโดนคนร้ายทำร้ายมาเหมือนกันถึงได้เป็นสภาพแบบนี้  ถ้าพี่ช่วยพวกหนู แล้วเดี๋ยวหนูจะทำบุญไปให้..”

พอเราพูดจบก็เห็นคนร้ายนั้นส่องไฟมา  แต่มันน่าแปลกตรงที่พวกนั้นกลับส่องเลยเราไป  ทำราวกับว่าไม่เห็นพวกเรายังไงยังงั้นเลยค่ะ  จากนั้นสักพักพวกมันสองคนก็ขี่รถออกไป

ตอนนั้นหนูกับเพื่อนสองคนโล่งใจเลยค่ะ  แต่พอหันกลับไปดูที่ศาลาใหม่  ปรากฎชายไม่มีศรีษะร่างนั้นก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเหมือนเดิม..!! 

พวกเราเลยรีบวิ่งออกไปแบบไม่รู้จะไปขอความช่วยเหลือจากใครดี  จนสักพักก็ไปเจอรถพ่วงคันนึงจอดอยู่และก็มีผู้ชายเป็นคนขับนั่งอยู่ในรถด้วย

ตอนแรกก็นึกหวั่นๆ ว่าจะไปขอความช่วยเหลือเขาดีไหม  เกิดเจอคนไม่ดีเข้าอีกจะยุ่ง  แต่สุดท้ายเราก็เข้าไปขอความช่วยเหลือค่ะ  และก็โชคดีที่พี่คนนั้นเขาช่วยพวกเราไว้และยังพาเราไปแจ้งความกับตำรวจที่ สน. อีกด้วย

พอไปถึงที่ สน.  เราก็ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ตำรวจฟัง  รวมไปถึงเรื่องที่เจอชายไม่มีหัวนั่งอยู่ตรงศาลาแห่งนั้นด้วย 

เราถามคุณตำรวจว่าตรงจุดนั้นก่อนหน้านี้เคยมีอุบัติเหตุ  หรือมีเรื่องราวอะไรรึเปล่า ? คุณตำรวจเขาก็เล่าว่าก่อนหน้านี้เคยมีผู้ชายขี่รถมอเตอไซต์มาทางนี้คนเดียวดึกๆ  และเกิดมีคู่อริขี่รถตามมา  แล้วเอามีดฟันซะจนหัวขาด  เหตุเกิดตรงใกล้ๆ กับที่พวกเราโดนคนร้ายจี้นั่นแหละค่ะ..!

พวกเราสองคนพอได้ฟังนี่ถึงกับขนลุกซู่เลย  และพอตอนเช้า เราสองคนก็เลยชวนกันไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้กับดวงวิญญาณของชายหัวขาดผู้นั้น  ที่อย่างน้อยเขาก็มาช่วยเรา  ซึ่งถ้าในวันนั้นเขาไม่ช่วย  พวกเราอาจจะเจออะไรที่มันเลวร้ายไปกว่านั้นรึเปล่าก็ไม่มีใครทราบค่ะ  เรื่องราวทั้งหมดก็มีเท่านี้..

ส่วนตัวคิดว่าเรื่องแบบนี้มีจริง  ดวงวิญญาณของชายหัวขาดผู้นั้นเขาอาจมาช่วย  และทำให้น้องผู้หญิงสองคนรอดมาจริงๆก็ได้  แต่อีกส่วนนึงอาจเป็นเพราะดวงของทั้งคู่จะยังดีอยู่ก็ได้เช่นกัน  ก็เลยไม่เจออะไรที่หนักกว่านี้..

ท้ายสุดอยากจะบอกทุกคนว่า มิจฉาชีพมันน่ากลัวกว่าเรื่องผีเยอะ เวลาเดินทางไปไหนมาไหนก็ใช้ความระมัดระวังกันด้วยนะครับ

ขอขอบคุณเรื่องเล่าที่คัดสรรจาก”เดอะช็อค”

ถ่ายทอดขัดเกลาเป็นงานเขียนโดยลุงเชิงโกดังหลอน เพจสยองขวัญวาไรตี้

Previous articleคำสัญญาเป็น…..ปากผี ระวังคำสัญญาตอนเป็น เพราะไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน
Next articleเหตุเกิดตอนบวช กุฎิหลังนี้เคยมีเจ้าของ..! ณ.วัดแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา”