หน้าที่ของแม่

หน้าที่ของแม่
หน้าที่ของแม่

เรื่องราวและเหตุการณ์ทั้งหมดต้องย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นกับลูกพี่ลูกน้องของอาร์ม น้องคนนี้ชื่อว่าอี๊ด อี๊ดทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว จะเข้างานช่วง ตีห้าถึงหกโมงเช้า กว่าจะเลิกงานอีกทีก็สามถึงสี่ทุ่ม 

อี๊ดจะอยู่บ้านกับแม่แค่สองคน แม่ของอี๊ดนั้นอายุ 60 กว่าๆ แม่เป็นคนขยันชอบทำงานอยู่ตลอดเวลา บริเวณรอบบ้านของอี๊ดนั้น แม่ก็ปลูกผักสวนครัวและก็ดูแลบ้านทำงานบ้านแทบทุกอย่าง อี๊ดมีหน้าที่แค่ไปทำงานหาเงินเข้าบ้านอย่างเดียว 

ในทุกๆวันก่อนที่อี๊ดจะไปทำงานนั้น แม่ของอี๊ดจะตื่นมาทำกับข้าวให้อี๊ดก่อนไปทำงานทุกวัน รวมไปถึงทำรอเอาไว้หลังเลิกงานอีกด้วย จนกระทั่งช่วงหลังๆ แม่อี๊ดนั้นไม่ค่อยสบายเข้าโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ แต่ว่าแกก็ไม่เคยทิ้งหน้าที่ ที่แม่นั้นทำอยู่ทุกวัน  ผักที่อยู่ข้างบ้านแกก็ยังคงรดน้ำตลอดไม่เคยขาด มีแค่เพียงหญ้าที่ขึ้นมาใหม่ แกถอนไม่ไหวก็ปล่อยทิ้งไว้ ทำให้สวนนั้นดูค่อนข้างรกไปบ้าง 

แล้วก็มีอยู่ช่วงหนึ่งอาร์มสังเกตว่า แม่ของอี๊ดนั้นเงียบๆไป ไม่ค่อยออกจากบ้านสักเท่าไหร่ พอดีวันนั้นเป็นวันพระใหญ่ แม่ของอาร์มก็ได้ทำของไปที่วัดหลายอย่าง ก็เลยแบ่งพวกของกินที่เหลือจากการไปวัด  แล้วให้อาร์ม เอาไปให้แม่ของอี๊ดที่บ้าน 

พอตามไปถึง เข้าไปในบ้านอี๊ด อาร์มก็เห็นแม่ของอี๊ดนั้นนอนเหมือนคนหมดแรง หายใจแบบเหนื่อย ๆ อาร์มก็พูดขึ้นว่า ป้า…แม่ผมให้เอากับข้าวมาให้ จะให้เอาวางไว้ตรงไหน แม่ของอี๊ดค่อยๆหันมาอย่างช้าๆเหมือนกับคนเหนื่อย แล้วก็ใกล้จะหมดแรงเต็มทน แกค่อยๆตอบออกมาว่า เออ…เอาไปวางไว้บนโต๊ะกับข้าวนะ ใส่ถ้วยไว้ให้ด้วย พออี๊ดเลิกงานมันจะได้มากิน พอพูดจบแกก็เหมือนจะนอนต่อ ภาพที่เห็นตอนนั้นก็คือ เหมือนแกเหนื่อย เหนื่อยมาก แล้วก็หอบหายใจเร็วมากด้วย 

อาร์มจึงถามไปว่า ป้า ป้าไม่สบายหรอครับ เป็นอะไรมากหรือเปล่า แกตอบมาแค่เพียงว่า ไม่ได้เป็นอะไรมาก ช่วงนี้ความดันขึ้นสูง กินยาแล้วเดี๋ยวก็น่าจะหาย อาร์มก็พูดว่า ว่าแล้ว…ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นป้าออกไปดูสวนข้างบ้านเลย หญ้าขึ้นสูงรกหมดแล้ว พออาร์มพูดจบก็เดินกลับบ้านไป 

หลังจากวันนั้นประมาณสัก 4-5 วัน เวลาประมาณสักเก้าโมงเช้า อาร์มได้ยินเสียงอี๊ดมาตะโกนโวยวายอยู่หน้าบ้าน เรียกแต่ชื่อแม่ของอาร์ม พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย แม่ของอาร์ม ตัวอาร์มรวมไปถึงแฟน ออกมาดู ต่างก็แตกตื่นตกใจ ที่เห็นอี๊ดมาร้องไห้อยู่หน้าบ้าน พออี๊ดเปิดประตูบ้านได้ก็วิ่งเข้าไปกอดแม่ แล้วพูดว่า  “น้า น้า แม่ผมตายแล้ว แม่ผมตายแล้ว” 

แม่ก็บอกอี๊ดให้ค่อยๆเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น อี๊ดก็เล่าว่า แม่ของอี๊ดนั้นนอนอยู่บนเตียงในห้อง แต่พออี๊ดเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าแม่ไม่หายใจแล้ว จึงตกใจ แล้วก็รีบวิ่งมาบอกน้านี่แหละ 

แม่ก็เลยหันไปบอกกับอาร์มว่า ให้โทรตามเจ้าหน้าที่รวมไปถึงตำรวจด้วย เนื่องจากอี๊ดนั้นกำลังขวัญเสีย ไม่น่าจะแจ้งเองได้ไหว 

หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่รวมถึงตำรวจก็มาถึงที่บ้าน แล้วก็นำศพแม่ของอี๊ดไปที่โรงพยาบาล เพื่อรอการชันสูตร ทุกคนก็ไปที่โรงพยาบาลกันหมด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาสอบปากคำไป หลังจากนั้นก็ไปนั่งรอผลการชันสูตรศพ แม่ก็พยายามติดต่อทางญาติๆ เพื่อจะบอกข่าวเศร้าว่าป้านั้นเสียแล้ว 

ในระหว่างที่รอผลอยู่นั้น อาร์มก็ถามกับอี๊ดว่า เออ…แล้วรู้ได้ยังไงว่าแกเสียตอนไหน แล้วป้าเป็นอะไรถึงเสีย อี๊ดบอกกับอาร์มว่า ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน… แล้วก็ไม่รู้ว่าเสียตอนไหน แต่ว่าน่าจะเสียวันนี้แหละ เพราะว่าเมื่อวานตอนเช้า แกยังลุกมาหุงข้าว ทำกับข้าวให้กินอยู่เลย พอเลิกงานตอนดึก แกก็ทำกับข้าวไว้ให้กินอยู่บนโต๊ะที่เดิม เมื่อเช้านี้แกก็ลุกมาหุงข้าว ทำกับข้าวให้กินเหมือนเดิม ก่อนออกจากบ้านยังตะโกนไปถามแกว่า แม่..หมอนัดไปตรวจอีกวันไหน  แม่ก็ตอบกลับมาว่า ไม่ต้องไปแล้วล่ะ แม่หายแล้ว พอเลิกงานกลับบ้านมาตอนเย็น ก็ยังมีกับข้าววางอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิม ถ้าเกิดแกจะเสีย ก็คงจะเสียวันนี้นี่แหละ แต่ว่าตัวแก่นั้นดูบวมๆ แล้วก็ยังมีน้ำอะไรไม่รู้ใสๆ ไหลออกมาจากปากแก ก็รอฟังผลอยู่เนี่ย แต่คิดว่ายังไงแกก็น่าจะเสียวันนี้  

หลังจากนั้นไม่นาน อี๊ดก็วุ่นวายกับคำถามของญาติแต่ละคนที่มาที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งต้องเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง เวลาก็ผ่านไปครู่หนึ่ง แม่ของอาร์มก็บอกให้อาร์มกลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนแฟนก็แล้วกัน  เหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านพ้นไป 

เช้าวันต่อมา พ่อของอาร์ม แล้วก็อี๊ด รวมไปถึงอาร์มนั้น ไปที่วัดเพื่อจะยืมของแล้วก็ขนมาที่บ้าน ตอนนั้นญาติ  ๆ หลายคนก็มารวมตัวกันแล้ว เพื่อเตรียมตัวจัดงานที่บ้านของอี๊ด ปล่อยให้ศพของแม่อี๊ดนั้นอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะเดี๋ยวเจ้าหน้าที่มูลนิธิก็จะนำศพมาส่งให้ที่บ้าน หลังเสร็จทุกอย่างตามขั้นตอนแล้ว 

ตอนนั้นเวลาประมาณสักบ่ายสองโมง รถของมูลนิธิก็มาส่งศพพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  แม่ของอาร์มและอี๊ดก็ได้ไปฟังสาเหตุของการเสียชีวิต คุณตำรวจก็บอกว่า เสียชีวิตเนื่องจากถูกงูกัดบริเวณใต้ขาหนีบข้างขวา เสียชีวิตก่อนนำส่งโรงพยาบาล ไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นแน่นอน ทุกคนเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่มองหน้ากันโดยเฉพาะอี๊ด แล้วอี๊ดก็ร้องไห้  

ถ้าเกิดแม่ของอี๊ดเสียชีวิตนานขนาดนั้น แล้วใครกันล่ะ ที่ทำกับข้าว หุงข้าว รออี๊ดกลับมาจากทำงาน แต่ว่าตอนนั้นทุกคนต้องรีบจัดงานศพ ก็เลยเก็บความสงสัยนี้เอาไว้ในใจก่อน ช่วงวันเวลาที่จัดงานก็วุ่นจนลืมไปในที่สุด แล้วเวลาก็ผ่านไปงานศพก็เสร็จสิ้นลงเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก 

หลังจากนั้นได้สักพักหนึ่ง อี๊ดก็กลับไปทำงานตามปกติ แต่ว่าสิ่งที่แปลกไปก็คือ อี๊ดกำลังจะออกไปทำงานในช่วงเวลาหกโมงเช้า อี๊ดมองไปที่สวน สังเกตเห็นแปลงผักของแม่ จากที่เคยมีหญ้ารกสูง แต่ว่าเช้าวันนี้หญ้ากับถูกถอนออกจนโล่งเตียน  รวมไปถึงยังมีร่องรอยของการดูแลผักอีก ตอนนั้นอี๊ดก็คิดว่าแม่ของอาร์มน่าจะมาดูแลให้ จึงไม่ใส่ใจอะไร 

จนกระทั่งวันหนึ่ง วันนั้นอี๊ดไม่ทำโอทีก็เลยเลิกงานเร็ว ช่วงเวลาประมาณสักสามถึงสี่โมงเย็น อี๊ดสังเกตเห็นว่าแปลงผักพึ่งจะถูกลดน้ำใหม่ๆ เนื่องจากดินบริเวณนั้นยังเปียกอยู่ และที่น่าแปลกใจเพิ่มขึ้นก็คือ ภายในบ้านดูสะอาดเรียบร้อยเหมือนตอนที่แม่ของอี๊ดยังมีชีวิตอยู่ทุกประการ อี๊ดก็คิดว่าถ้าเกิดเป็นแม่ของอาร์มรดน้ำ ก็น่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้าเกิดมาเก็บบ้านให้ไม่น่าจะใช่แน่ๆ เนื่องจากอี๊ดล็อคบ้านเองกับมือ!! 

อี๊ดก็เลยรีบเดินไปถามแม่ของอาร์มให้หายสงสัย อี๊ดถามว่า ป้าๆ ป้าไปรดน้ำถอนหญ้าแปลงผักที่บ้านให้หรอ แม่ก็ทำหน้างงๆ แล้วบอกไปว่า ป้าเปล่านะ ไม่เคยไป ป้าต้องเฝ้าร้านขายของ (เนื่องจากบ้านเขาห้ามนั้นเป็นร้านขายของชำ) อี๊ดก็เลยเล่าเรื่องทุกอย่างให้กับแม่ของอาร์มได้ฟัง แม่ก็เลยบอกว่า แกคงยังเป็นห่วงและก็ยังไม่ไปไหน ตอนมีชีวิตอยู่แกทำแบบนี้มานานจนกลายเป็นหน้าที่ไปแล้ว น่าจะเป็นความเคยชิน ถ้าเกิดว่าอยากจะให้แกไปสบายจริงๆ คืนนี้ก่อนนอนก็จุดธูปกราบพระ แล้วก็จุดธูปอีกชุดนึง แล้วบอกกับแกว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอี๊ดอยู่ได้  ให้แกไปเถอะ ไปสบายได้แล้ว 

คืนนั้นอี๊ดก็ทำตามคำที่แม่ของอาร์มบอกไว้ แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่นก็เลยอยากรู้ตัวตนของวิญญาณ ก่อนปักธูปอี๊ดได้บอกไปว่า แม่… ถ้าเกิดแม่รับรู้ และแม่ยังไม่ได้ไปไหนจริงๆ หนูอยากเห็นแม่สักครั้งหนึ่ง คืนนี้มาหาหน่อยนะ ในความฝันก็ได้ พออี๊ดพูดจบก็ปักธูปลง แล้วอี๊ดก็เข้านอน 

มารู้สึกตัวอีกทีตอนนั้นเวลาสักตีสามจะได้ อยู่ๆ อี๊ดก็ได้ยินเสียงของคนกำลังล้างจาน แล้วก็เดินไปเดินมาทำอะไรสักอย่างอยู่ในครัว อี๊ดก็เลยลุกจากที่นอนแล้วก็เดินออกมาดู ตอนนั้นคิดว่าน่าจะเป็นแมว พอไปถึงที่ครัว อี๊ดถึงกับหงายหลังทั้งยืน แขนไปฟาดกับจานข้าวบนโต๊ะกินข้าว หล่นกระจายไปทั่วพื้น ภาพที่เห็นก็คือ แม่ของอี๊ดกำลังนั่งหันหลังล้างจาน แล้วก็พูดขึ้นมาว่า แม่มาให้เห็นแล้วนะ แล้วก็มาดูบ้านให้เป็นวันสุดท้ายแล้ว อย่าลืมดูแลบ้านแล้วก็แปลงผักล่ะ แม่พูดกับอี๊ดแต่ไม่ได้หันหน้ามา พออี๊ดเห็นแบบนั้นก็รู้สึกจุกแล้วก็แน่นหน้าอก ก่อนที่จะหมดสติไป พอรู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่ง อี๊ดยังคงนอนอยู่บนที่นอนเหมือนเดิม 

อี๊ดลุกขึ้นมานั่งทบทวน แล้วก็คิดว่าน่าจะแค่ฝันไป แต่ว่าอี๊ดนั้นรู้สึกเจ็บบริเวณท่อนแขน แต่ว่าตอนนั้นคิดแค่เพียงว่า อาจจะนอนทับแขนจนเจ็บ ก็เลยรีบลุกไปอาบน้ำเพื่อจะไปทำงาน พอออกมานอกห้องก็ต้องผงะอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากบริเวณครัวก่อนถึงห้องน้ำ มีเศษข้าวรวมไปถึงกับข้าว กระจายอยู่เต็มพื้นเลย อี๊ดถึงกับทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ กว่าจะได้สติกลับมาก็พักใหญ่ แล้วก็รีบเดินมาเล่าให้แม่ของอาร์มฟัง 

เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้ อี๊ดยังบอกอีกว่า อยากให้เป็นข้อคิดดีๆสำหรับคนที่ยังมีแม่อยู่ ว่าแม่รักและห่วงเราแค่ไหน ขนาดเสียชีวิตไปแล้ว ยังไม่วายมาดูแล

ถอดเรื่องจากเดอะโกศสตอร์รี่

ติดตามอ่านเรื่องเล่าผีต่อได้ที่ คลังหลอน

Previous articleใครเป็นปอบ อีนี่มันเลี้ยงกู มันผิดข้อสัญญา มันคะลำมันตายแล้วร่างนี่เป็นของกู
Next articleยุติการเผยแพร่