ย่าบาหยัน ไม่มีอยู่จริง แต่สร้างจากเชื่อเรื่อง ผีปู่ย่า ของชาวล้านนา

ย่าบาหยัน

ย่าบาหยันคือผีบรรพบุรุษที่คอยคุ้มครองชาวบ้านในหมู่บ้านมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งจะสืบทอดมาจากคนในเครือญาติเดียวกัน และจะต้องเป็นเพศหญิงเท่านั้น หากเป็นผู้ถูกเลือกแต่ไม่ยอมรับ พี่ก็จะบังคับโดยการทำให้เจ็บป่วยหรือมีอันเป็นไป จนต้องยอมรับในที่สุด 

อีกหนึ่งความเชื่อที่หน้าสนใจของคนไทย ถึงถูกนำเสนอผ่านทางช่องยูทูป DODI ดูดิ ได้กล่าวถึงเรื่องผีที่เล่าในหนังร่างทรง นั่นก็คือ “ย่าบาหยัน” นั่นเองครับ ย่าบาหยันมีอยู่จริงหรือไม่ แล้วถ้ามีอยู่จริง ย่าบาหยันเป็นใครมาจากไหน มีเรื่องราวหรือตำนานใดบ้างที่เชื่อมโยง ย่าบาหยัน ได้ เรามาลองอ่านกันในบทความนี้แหละครับ 

ย่าบาหยันที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องร่างทรงนั้น คือผีบรรพบุรุษที่คอยคุ้มครองชาวบ้านในหมู่บ้าน มาตั้งแต่โบราณ เป็นผีฝ่ายดีที่มีความลึกลับมากๆ ไม่มีใครรู้ว่าย่าบาหยันเป็นใครมาจากไหน หรือจะเริ่มบูชามาตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่เพียงว่าชาวบ้านนับถือบูชายาบาหยันกันมานานมากแล้ว 

ซึ่งการติดต่อกับย่าบาหยันนั้น จะต้องติดต่อผ่านผู้สืบทอด หรือร่างทรงที่ย่าบาหยันเลือก ซึ่งจะสืบทอดมาจากคนในเครือญาติเดียวกัน และจะต้องเป็นเพศหญิงเท่านั้น โดยเรียงตามลำดับจากความอาวุโส สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น 

ในทุกๆปีจะมีการทำพิธีบูชา ย่าบาหยัน คนในหมู่บ้านทุกๆครัวเรือนก็จะเตรียมเครื่องไหว้เหมือนกันมาบูชาย่าบาหยัน และสอบถามความเป็นอยู่ของชุมชนว่าปีนี้หมู่บ้านของเราหรือชุมชนของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง จะมีเหตุร้ายหรือมีเหตุอะไรที่ต้องระมัดระวังหรือไม่ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนในชุมชน หรือถ้าหาก ย่าบาหยัน เตือนในสิ่งร้ายๆที่จะเกิดขึ้นในชุมชน ผู้คนในชุมชนก็จะได้เตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์นั้นๆได้ 

ซึ่ง ย่าบาหยัน นั้นเป็นเพียงชื่อที่ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องร่างทรงสร้างขึ้นมาจากการทำวิจัยโดยการลงพื้นที่ ที่มีความเชื่อเกี่ยวกับร่างทรง และได้พบว่าในแต่ละพื้นที่มีความเชื่อเรื่องผีและร่างทรงที่แตกต่างกันไป หลายรูปแบบ 

และเรื่องราวที่ผู้กำกับจะนำมาเล่าก็คือเรื่องราวของการสืบทอดร่างทรงจากรุ่นสู่รุ่น และอยากจะได้ร่างทรงที่มีรูปเคารพด้วย ซึ่งได้พบว่าในหลายๆพื้นที่ก็จะมีการสร้างสิ่งที่เคารพบูชาเป็นตัวแทนของผีบรรพบุรุษ ตัวอย่างเช่นศาลผีปู่ตาของชาวอีสาน  จึงกลายเป็นที่มาของการสร้างเทพบาหยัน และรูปปั้นเทพบาหยันขึ้น เทพที่คุ้มครองหมู่บ้าน สรุปได้ว่าเทพบาหยัน เป็นเทพที่สมมุติขึ้น เพื่อใช้ในภาพยนตร์นั่นเองครับ 

แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ ถึงแม้ ย่าบาหยัน จะเป็นเทพที่สมมติขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวของ ย่าบาหยัน จะเป็นเรื่องแต่งไปซะทั้งหมด เพราะถ้าหากอ้างอิงจากข้อมูลที่ระบุในหนังแล้ว ย่าบาหยันนั้นมีเรื่องราวและลักษณะคล้ายกับ “ผีปู่ย่า” ของชาวล้านนามากๆเลยละครับ ซึ่งเหมือนขนาดไหนนะเดี๋ยวเราลองไปอ่านกันดูครับ 

ผีปู่ย่า เป็นตำนานผีของชาวล้านนาที่กำลังจะเลือนหายไป ซึ่งนอกเหนือจากชาวล้านนาแล้วยังมีชาติพันธ์เผ่าไทยอีก 7 เผ่า ที่มีการนับถือผีปู่ย่าด้วย ในอดีตก่อนที่จะมีการนับถือศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ แถบดินแดนประเทศไทยนั้น ยังมีความเชื่อเรื่องผีวิญญาณ เรื่องลี้ลับและโลกหลังความตายเป็นอย่างมาก  โดยเชื่อกันว่าเมื่อญาติผู้ใหญ่เสียชีวิตไปแล้ว จิตวิญญาณของท่านนั้นจะยังมีความห่วงหาอาลัยลูกหลานอยู่  วิญญาณเหล่านั้นจึงกลายเป็นพลังงานที่คอยวนเวียนดูแลลูกหลานอยู่ตลอดเวลา 

ด้วยความเชื่อดังกล่าวนี้แหละครับ จึงเกิดเป็นวิธีการเลี้ยง ผีปู่ย่า ขึ้นมา โดยผีปู่ย่านั้นเป็นผีหรือวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นผีประจำตระกูลที่มีการนับถืออยู่ในวงศ์ญาติเดียวกัน โดยจะมีบทบาทและหน้าที่เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ในหมู่เครือญาติ เป็นผีที่เชื่อว่าคอยปกปักคุ้มครองรักษาคนในเครือญาติให้พ้นภัย เป็นที่พึ่งทางใจให้กับลูกหลาน และเป็นการรักษาความสัมพันธ์ของเครือญาติ ที่มีบรรพบุรุษร่วมกันให้แน่นแฟ้นอยู่เสมอ  

ซึ่งลูกหลานในสายเลือดเดียวกันจะต้องมาพบปะกันในงานเลี้ยงผีปู่ย่าที่จะต้องจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงของเดือนดจ็ดถึงเดือนเก้า หรือในช่วงที่ลูกหลานมีปัญหาหรือมีเหตุทุกข์ร้อน เจ็บไข้ได้ป่วยโดยหาสาเหตุไม่ได้ ก็จะต้องมาขอให้ผีปู่ย่าช่วยเหลือ ซึ่งผีปู่ย่าจะอยู่กับญาติฝ่ายหญิงเท่านั้น เรียกว่า “เก๊าผี”  เป็นผู้คอยประกอบพิธีกรรมในการเลี้ยงผีปู่ย่า และคอยดูแลรักษาหอผีปู่ย่า ซึ่งจะสร้างไว้ในห้องนอนของลูกสาวคนโต ที่เป็นร่างทรงของผีปู่ย่า 

เมื่อผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงที่ทำหน้าที่เลี้ยงผีปู่ย่าอยู่ได้เสียชีวิตลง ผีปู่ย่าก็จะต้องมีผู้รับเอาไปเลี้ยงต่อ ซึ่งเป็นหน้าที่ของลูกสาวคนโตของบ้าน หากลูกสาวคนโตของบ้านเสียชีวิต ก็จะมอบผีปู่ย่าให้กับลูกสาวคนรองต่อกันไปเป็นขั้นๆ หรือถ้าหากคนในครอบครัวนั้นไม่มีลูกสาวเหลืออยู่เลย ก็จะต้องหาจากบ้านอื่นในเครือญาติเดียวกันที่มีลูกสาว โดยเรียงลำดับตามความอาวุโส 

หากเป็นผู้ที่ถูกเลือกโดยผีปู่ย่าแล้ว แต่ไม่ยอมรับ ผีปู่ย่าก็จะบังคับโดยทำให้เจ็บป่วยหรือมีอันเป็นไป จนต้องยอมในที่สุด ซึ่งก็จะเหมือนเรื่องราวของ ย่าบาหยัน ในหนังเรื่องร่างทรงนั่นแหละครับ นอกจากนี้แล้วในหนังเรื่องร่างทรงยังมีการพูดถึงการผิดผีด้วย ซึ่งการผิดผีนั้นก็เป็นข้อห้ามหลักของการนับถือผีปู่ย่า โดยมีข้อห้ามอยู่ 6 ข้อด้วยกัน นั่นคือ…

ข้อที่ 1 ลูกผู้หญิงจะต้องห้ามให้ผู้ชายร่วงเกิน ไม่ว่าจะจับมือถือแขน จะในที่ลับหรือที่แจ้ง จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม จะถือว่าเป็นการผิดผีหรือเสียผี

ข้อที่ 2 คือห้ามหวีผมหรือส่องกระจกดูหน้าตัวเองในเวลากลางคืน หากใครทำก็ถือว่าผิดผีเช่นเดียวกัน 

ข้อที่ 3 ห้ามไม่ให้ชายอื่นใช้ได้ที่ไม่ได้อยู่ในวงศ์ญาติเดียวกัน เข้าไปเกินธรณีประตูห้องผู้หญิงเด็ดขาด ถ้าหากเข้าไปก็ถือว่าผิดผีทันที 

ข้อที่ 4 หาคู่สามีเกิดทะเลาะวิวาทและหย่าร้างกันไป หากจะกลับมาคืนดีกันใหม่ก็ถือว่าผิดผีเช่นกัน 

ข้อที่ 5 ในวงศ์ญาติเดียวกัน หากมีการทะเลาะวิวาทกัน ก็จะถือว่าผิดผีเช่นเดียวกัน 

ข้อที่ 6 หากลูกผู้หญิงมีชายอื่นใดมาทำให้ท้อง ก็ถือว่าผิดผี แม้ว่าจะหาตัวผู้ชายที่ทำไม่ได้ก็ตาม และคนที่ท้องก็จะต้องมีคนเสียผีเอง โดยการเสียผีก็จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ ใส่ผีเอา หมายถึงการเสียผีแล้วยอมขอขมา ยอมมัดมือแต่งงานเป็นผัวเมียกันไปเลย 

กับอีกแบบหนึ่งก็คือ ใส่ผีบ่เอา หมายถึงยอมเสียผีตามธรรมเนียมแต่ไม่ยอมแต่งงานด้วย  ซึ่งจะต้องเสียผีเป็นค่าปรับสินไหมที่มากกว่าปกติ เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิง ลบหลู่ทำให้ได้รับความอับอาย 

ซึ่งหากมีการผิดผีเกิดขึ้น แต่ไม่ยอมมาขอขมา หรือเสียผีตามธรรมเนียม เชื่อกันว่าผีปู่ย่าจะดลบันดาลให้เกิดความวิบัติแก่ผู้นั้น ถึงขั้นอาจเสียชีวิตได้เลยละครับ 

จากที่กล่าวมาทั้งหมด เรื่องราวของผีปู่ย่าตามความคิดเห็นของผมเอง ผมมองว่ามีความคล้ายคลึงกับเรื่องราวของ ย่าบาหยัน มากๆ แล้วเพื่อน ๆ ละครับมีความคิดว่าอย่างไรบ้าง คิดว่า ย่าบาหยัน เป็นใครมาจากไหน ก็ลองแสดงความคิดเห็นกันได้เลยนะครับ 

เครดิต : ช่อง Youtube DODI ดูดิ เล่าเรื่องหลอน ผีปู่ย่าของชาวล้านนา เหมือนกับย่าบาหยันในหนังร่างทรง?

กดฟัง : https://youtu.be/cboHmeCBPGw

🚫บทความ Rewrite ห้ามคัดลอก หรือนำไปเล่าลง Youtube หรือ พอดแคสต์

Previous articleเส้นทางหลอนที่เขาใหญ่
Next articleผู้หญิงบน Office ผู้หญิงที่ไหนมานั้งข้างไอ้เอวะ