คืนหลอน ห้อง 504 หญิงข้างโดดตึกต่อหน้า!!

คืนหลอนห้อง504

เรื่องนี้เคยถูกนำเสนอผ่านรายการ คืนหลอน ทางช่อง Amarin TV ที่ห่างหายไปนานแล้ว ซึ่งเล่าโดย คุณแต๊ก เมื่อครั้งที่เขาไปร่วมงานบุญที่ต่างจังหวัด และได้ไปเจอกับรุ่นน้องคนนึง ชื่อว่า เอ็ม  แล้วรุ่นน้องคนนี้จำเสียงของคุณคุณแต๊กได้ ก็เลยถามว่า คุณแต๊ก เคยไปเล่าเรื่องผีออกรายการใช่ไหม ผมจำเสียงพี่ได้ คุณแต๊กก็บอกรุ่นน้องไปว่า ใช่ครับใช่ แล้วคุณแต๊กก็พูดติดตลกว่า ทำไมหรอ เอ็งมีเรื่องผีจะเล่าให้พี่ฟังหรอ??  

รุ่นน้องก็บอกว่า ครับพี่ ผมเคยเจอครับ เรื่องนี้มันทำให้ผมเชื่อว่าผีนั้นมีจริง พี่แต๊ก อยากฟังไหม คุณแต๊ก ก็บอกว่า เอาสิ งานยังไม่เริ่มยังพอมีเวลา ทั้งสองคนจึงไปนั่งคุยกันที่โต๊ะหินอ่อนตรงมุมบ้าน แล้วรุ่นน้องก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า…. 

เรื่องมันย้อนไปตอนที่ผมเรียนจบมหาลัยใหม่ ๆ สมัยเด็กจบใหม่เวลาหางาน มักจะไปกรอก resume ไว้ตามเว็บไซต์หางาน ปรากฏว่ามีบริษัทบริษัทนึง โทรมาเรียกผมให้ไปสัมภาษณ์ โรงงานแห่งนี้อยู่ที่ชลบุรี ส่วนบ้านของผมนั้นอยู่ที่สะพานใหม่ 

รุ่งขึ้นเช้าวันพฤหัสผมก็เดินทางไปสัมภาษณ์งานที่ชลบุรี หลังจากสัมภาษณ์ สอบปฏิบัติอะไรเสร็จ ผลออกมาเป็นที่น่าประทับใจ หัวหน้างานถูกใจผม เขาจึงตัดสินใจรับผมเข้าทำงาน และบอกว่าให้เริ่มงานวันจันทร์หน้าได้เลย 

ต้องบอกก่อนว่า เจ้าของบริษัทเขามีธุรกิจหลายอย่าง นอกจากธุรกิจโรงงาน ยังมีธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าอีกด้วย ซึ่งปกติราคาสำหรับคนทั่วไปที่มาเข้าพัก ราคาจะตกอยู่ที่ 2,500 บาทต่อห้อง แต่ถ้าทำงานในโรงงานนี้เจ้าของจะคิดแค่ 700 บาทต่อห้องเท่านั้น โดยตัดจากเงินเดือน  แต่ก็มีข้อแม้ว่า เราจะไม่สามารถเลือกห้องพักได้ ได้ห้องไหนต้องอยู่ห้องนั้น 

ช่วงเย็นผมจึงกลับมาเตรียมตัวเก็บเสื้อผ้าข้าวของที่จำเป็น พอวันอาทิตย์ก็เดินทางมาที่หอพัก ไปถึงก็เข้าไปติดต่อคนดูแลหอพัก ที่พักอยู่ห้องด้านล่าง ซึ่งมันจะมีช่องกระจกบ้านเล็กๆให้สไลด์เปิดเพื่อคุยกัน 

ผมได้ยื่นเอกสารเข้าไปในช่องกระจก แล้วบอกว่า ผมทำงานที่โรงงานนี้ จะมาขอเข้าพักที่นี่ จะเริ่มงานพรุ่งนี้แล้วครับ 

พอมองผ่านช่องกระจกเข้าไป ด้านท้ายห้องจะมีคุณลุงคนหนึ่งท่าทางใจดี นั่งโยกตัวไปมาอยู่บนเก้าอี้หวาย คุณลุงเห็นผมแกก็ทักว่า “อ้าว สวัสดีไอ้หนุ่ม ตอนนี้คนแจกกุญแจยังไม่มา เดี๋ยวค่อยมาใหม่ได้ไหม ทิ้งใบไว้ตรงนี้นี่แหละ ไปนั่งรอตรงนู้นก่อนก็ได้ พอเห็นเขามาเอ็งค่อยเดินมาคุยกับเขา 

ผมนั่งรออยู่พักใหญ่ ก็มีพี่คนนึงดูแล้วอายุน่าจะมากกว่าผม 3-4 ปี ตะโกนถามว่า ใบของใคร ผมก็บอกว่า ขอใบของผมครับ ผมจะเข้าทำงานพรุ่งนี้ พี่คนดูแลหอก็บอกว่า น้องได้ห้อง 503 นะ นี่คือกุญแจห้อง ถ้าน้องเป็นคนชอบทำอะไรดึกๆ น้องอยู่ที่นี่น้องสบายเลย เงียบสงบดี แต่ถ้ามีอะไร เห็นอะไรหรือเจออะไรแปลก ๆ ก็ปล่อยผ่านไม่ต้องไปสนใจ คิดซะว่าไม่ใช่เรื่องของเรา  และอีกอย่างชั้น 5 ทั้งชั้นมีห้องน้องพักอยู่ห้องเดียวเลยนะ  

พอพี่คนดูแลหอพูดจบ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร รับกุญแจมาแล้วก็เดินไปขึ้นกดลิฟท์ ขึ้นไปชั้น 5 เลย ลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้นไปเรื่อยๆ ไฟบอกชั้นแสดงเลข 1…2…3…4 และหยุดลงที่ชั้น 5 ประตูลิฟท์ค่อยๆเลื่อนเปิดออกอย่างช้า ๆ  ผมรู้สึกขนลุกเล็กน้อย  เมื่อก้าวออกจากฟลิฟท์ไปมองโถ่งทางเดิน มีไฟนีออนสามดวง แต่มีแค่ดวงกลางดวงเดียวเท่านั้นที่ยังส่องสว่างอยู่ โชคดีที่หลอดไฟดวงนั้นมันอยู่ระหว่างห้อง 503 ของผม และห้อง 504 พอดี  

ห้องของผมอยู่ทางด้ายซ้าย ผมค่อยๆเดินไปยังห้องตัวเอง ผ่านห้อง 501 502 พอมาถึงห้อง 503 บางสิ่งบางอย่างทำให้ผมพูดกับตัวเองว่า “อ้าว! พี่กับลุงโกหกนี่หว่า ไหนบอกว่าทั้งชั้นมีเราอยู่คนเดียว” เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนไขประตูอยู่ที่หน้าห้อง 504 แต่ลักษณะการไขประตูของผู้หญิงคนนี้ดูผิดแปลกจากคนปกติทั่วไป เธอสะบัดมือไปมาอย่างรุนแรง เหมือนจะพยายามไขให้แม่กุญแจพังกันไปข้าง

ด้วยความที่ผมอยากสร้างมิตรผูกสัมพันธ์กับห้องข้างๆ ก็เลยปากถามเธอไปว่า “ขอโทษนะครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม แต่เธอก็ไม่สนใจอะไรผม เอาแต่ก้มหน้าไขกุญแจ กระชากประตูเสียงดัง กึงกัก กึงกัก ต่อไป 

ผมพยายามคิดไปในทางที่ดีกว่า เอ๊…หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะสติไม่ดีหรือเปล่า หรือว่าที่คุณลุงกับพี่คนดูแลหอเขาโกหกผม เพราะรู้ว่าผมจะพักข้างห้องคนสติไม่ดี เลยกลัวว่าผมจะไปทำอะไรเธอหรือป่าว 

พอคิดได้ดั่งนั้นผมก็ไม่ได้สนใจเธอต่อ ไขกุญแจเปิดประตูเข้าห้องของตัวเอง จัดแจงข้าวของเสร็จ ก็เข้าไปอาบน้ำ เสร็จแล้วก็มานอนเล่นทำอะไรไปเรื่อย จนเผลอวูบหลับไปตอนไหนไม่รู้ 

ผมหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ตื่นลืมตาขึ้นมา เวลาน่าจะประมาณ 4 ทุ่ม ผมมองไปที่ระเบียง ก็เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ที่ระเบียงห้องของเธอ ซึ่งระเบียงของเธอและผมมันจะใกล้กันมาก จนสามารถปีนข้ามไปหากันได้เลย แล้วเธอก็พูดกับผมว่า “ออกมาชมวิวที่ระเบียงด้วยกันไหมคะ” 

ตอนนั้นไม่รู้คิดยังไง ผมลุกขึ้นจากเตียง เดินตรงไปที่ระเบียง เพื่อออกไปหาเธอ แต่จังหวะที่ผมกำลังจะเปิดประตูบานกระจกสไลด์ จู่ๆผมก็ได้ยินเสียงเรียกดังก้องขึ้นมาในหูว่า “เอ็มกลับมานอนลูก ไม่ต้องไปสนใจ”  ซึ่งผมจำได้ว่ามันเป็นเสียงของคุณปู่ผม  

เสียงเรียกของปู่ ทำให้ผมสะดุ้งหัวไปชนกับประตูกระจก สรุปคือผมฝันแล้วละเมอจะเดินออกไปนอกระเบียง พอตั้งสติได้ ผมก็กลับมานั่งคิดดูว่า อ้าวคุณปู่ผมตายไปตั้ง 5 ปีแล้วนี่หว่า ผมนอนคิดกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอยู่พักนึง จนเผลอหลับไปอีกครั้ง คราวนี้หลับยันเช้าเลย 

วันรุ่งขึ้น ผมตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเริ่มไปทำงานวันแรก การทำงานวันแรก ผมได้เจอกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่เป็นเทรนเนอร์คอยสอนงาน ชื่อว่าพี่ดล ระหว่างที่สอนงาน พี่ดลก็ชวนผมคุยไปด้วย

“เป็นไงล่ะเอ็งอยู่หอพักบริษัท อยู่ห้องอะไรล่ะ หลับสบายไหม” 

“อ่อ ผมอยู่ห้อง 503 ครับพี่ หลับไม่ค่อยสบายเลย อากาศมันร้อนอบอ้าวหน่อยๆ” 

“เออๆ อยู่ดีๆละกัน ถ้ามีอะไรก็มาบอกพี่ มาคุยกับพี่ได้นะ” 

วันต่อมา วันอังคารหลังเลิกงาน จะมีการจัดเลี้ยงสังสรรค์กัน กว่างานจะเลิก กว่าจะกลับถึงห้องพักก็เที่ยงคืนเกือบตีหนึ่ง หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็เห็นผู้หญิง 504 มายืนอยู่ที่ตรงระเบียงอีกแล้ว เธอเอ่ยปากถามผมว่า “วันนี้ออกมาไหมคะ เดี๋ยวฉันจะให้ดูอะไร” 

ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกอยากจะออกไปคุยกับเธอมาก จึงเดินไปเปิดประตูกระจกออกไปยืนอยู่ที่ระเบียงกับเธอ ด้วยความระเบียงของห้องทั้งสองมันใกล้กัน ทำให้ผมและผู้หญิงคนนั้นยืนใกล้กัน

ผู้หญิงคนนั้นก็ถามผมว่า “อยากดูอะไรไหม ลองไหม สนุกนะ”  ด้วยความสงสัยผมก็ถามเธอกลับไปว่า “อยากดูอะไรครับ ลองอะไร  ผมไม่เข้าใจ” ผมพูดจบยังไม่ทันขาดคำ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผม เมื่ออยู่ดีๆเธอก็ก้าวขากระโดดข้ามราวระเบียง ตกลงไปข้างล่างต่อหน้าต่อตาผมเลย  

เฮ้ย!! คนโดนตึก ตอนนั้นผม ช็อกมาก  ด้วยความตกใจ ผมจึงวิ่งไปเกาะระเบียง ก้มหน้ามองลงไปข้างล่าง แต่กับไร้ร่างของผู้หญิงคนนั้น ไม่มีใครโดดลงไป 

ผมถอยหลังกลับเข้ามาในระเบียง คิดว่าตัวเองต้องโดนผีหลอกแล้วแน่ๆ จึงหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง ปิดประตูกระจก ตอนนั้นในหัวคิดแต่ว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ลงไปข้างล่างดีกว่า แต่พอเปิดประตูห้องออกไป ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้น มายืนอยู่ที่หน้าห้องของผมแล้ว เธอพุ่งตรงเข้ามาใส่ผม แล้วก็ร้อง ฮึก!! ทะลุผ่านร่างผมเข้าไปในห้อง 

ด้วยความกลัวสุดขีด ผมวิ่งออกจากห้อง ด้วยความทุลักทุเล หกล้มคลุกคลาน ลงไปทางบันไดหนีไฟ จากชั้น 5 ลงไปถึงชั้น 1 อย่างไว ไปถึงก็ไปเคาะห้องพี่คนดูแลหอ เพื่อถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พี่คนดูแลหอก็เปิดประตูออกมา และบอกกับผมว่า “อย่าพึ่งพูดอะไรน้อง รีบเข้ามาในห้องก่อน” 

ตอนนั้นพี่คนดูแลหอเขากำลังนั่งดูบอลอยู่ พี่เขาบอกให้ผมนั่งสงบสติอารมณ์ก่อน พอผมกำลังอ้าปากจะเล่าเรื่องที่เจอมาให้พี่เขาฟัง พี่เขาก็พูดขัดขึ้นมาก่อนเลยว่า “มีอะไร เดี๋ยวตอนเช้าค่อยเล่า” 

คงเพราะความเพลียจากการทำงานวันแรก ทำให้ผมจึงหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกทีเวลาประมาณตีสี่ ตีห้า ผมบอกพี่คนดูแลหอว่า ผมนอนไม่ค่อยหลับเลย พี่เขาก็ถามว่าอยากรู้ใช่ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วพี่เขาก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า 

“เมื่อก่อนน่ะ ที่ห้อง 504 เคยมีคนโดดตึกตาย แล้วรู้ไหมว่าหลังจากที่เธอตายใหม่ๆได้วันสองวัน โทรศัพท์ติดต่อภายในที่ห้องพี่ ดังตลอดทั้งคืน จนพี่แทบจะอยู่ที่นี่ไม่ได้เลย เพราะว่าหลังจากที่พี่ยกหูรับสาย ก็จะมีเสียงคนพูดว่า ฉันอยู่ห้อง 504 ตามด้วยเสียงกรี๊ดร้องดังยาววว

ด้วยความตกใจ พี่ก็เลยวางสายไป นอนหลับไปได้สักพัก โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง พอยกหูรับสาย ก็เป็นเสียงพูดว่า ฉันอยู่ ห้อง 504 แล้วก็ตามด้วยเสียงจี๊ดเหมือนเดิม” 

ด้วยความสงสัยผมก็ถามว่า “แล้วพี่ทำไงต่อ” พี่เขาก็บอกว่า “พี่ก็ยกหูโทรศัพท์ออกเลยน่ะสิ” ผมก็ถามต่อว่า “อ้าว…แล้วถ้าลุงพี่มายกหูโทรศัพท์กลับไปที่เดิมล่ะ” พี่คนดูแลหอทำหน้างงๆนิดหน่อย และถามผมว่า “ลุงที่ไหน” ผมก็บอกว่า “ก็ลุงที่นั่งเก้าอี้หวายโยกไปมาตรงนั้นไงพี่  ในวันแรกก่อนที่ผมจะเจอพี่ ผมก็เจอแกก่อนเป็นคนแรก” 

พี่คนดูแลหอจึงบอกผมว่า  “รอก่อน เดี๋ยวรอพี่แป๊บนึง” พี่เขาเดินหายเข้าไปหลังห้องแล้วออกมาพร้อมกับกระเป๋าหนังใบนึง พี่เขาหยิบรูปใบนึงออกมา ยื่นให้ผมดูแล้วถามว่า ใช่ลุงในรูปนี้ไหม?? ผมก็บอกว่า ใช่!!  พี่เขาก็บอกว่า “ลุงคนนี้คือลุงของพี่เอง ชื่อว่าลุงใจ แกตายไปได้ประมาณ 8 เดือนแล้ว เมื่อก่อนแกก็เป็นคนคุมหอพักแบบพี่นี่แหละ แต่หลังจากที่แกตายไป พี่ก็ต้องมาทำหน้าที่ตรงนี้ต่อจากแก่” 

พอพี่คนดูแลหอพูดจบ ผมก็เลยบอกกับพี่เขาเลยว่า “โอ้โหพี่ ถ้าจะขนาดนี้ ผมคงอยู่ที่ห้องนี่ไม่ได้แล้วววว” 

เราทั้งสอง นั่งคุยกันยันเช้า จน 7 โมงกว่าๆ ผมจึงชวนพี่คนดูแลหอขึ้นไปบนห้อง พี่เขาก็ยังใจดี ยอมขึ้นไปเป็นเพื่อนด้วย เข้าไปในห้องได้ ผมก็รีบเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ลงมาอาบน้ำที่ห้องติดต่อของพี่เขา แล้วก็ไปทำงานตามปกติ 

ผมได้รบกวนพี่ดลขอยืมตังค์เพื่อจะย้ายออกจากหอนี้แล้วไปหาห้องเช่าใหม่อยู่  พี่ดลก็บอกกับผมว่า โอเค ในฐานะที่มึงจะไม่อยู่ที่หอนั่นแล้ว กูก็จะเล่าอะไรให้มึงฟัง เมื่อก่อนห้อง 503 มีเพื่อนกูอยู่ มันชื่อ มานพ ส่วนห้อง 504 น่ะ  เป็นหัวหน้าของคนนั่งเครื่องพักอยู่กับแฟน สองคนนี้จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดเวลา  เพราะแฟนของหัวหน้าเขาจะเป็นสายรักแฟนมาก แต่เขาชอบทะเลาะกันเรื่องหึงหวงเรื่องผู้หญิง  ทะเลาะกันที่แฟนเขาก็จะร้องห่มร้องไห้ที ส่วนพี่มานพจะเป็นสายเมา หลังเลิกงานก็เมาได้ทุกวี่ทุกวัน  

พอพี่มานพกลับมาถึงห้อง ก็มักจะได้ยินผู้หญิงคนนี้ร้องไห้ทะเลาะกับแฟนเป็นประจำ จนอยู่มาวันหนึ่งพี่มานพเกิดความรำคาญ เลยตะโกนออกไปว่า “เว้ยยยย รำคาญ!!  จะทะเลาะอะไรกันนักหนา” เธอถึงเงียบไป 

จนมีอยู่คืนหนึ่ง พี่มานพได้ยินผู้หญิงคนนี้ร้องไห้หนักมาก ร้องเหมือนใจจะขาดเลย ด้วยความที่พี่นพรำคาญเป็นทุนเดิม บวกกับความเมา ก็เลยตะโกนบอกไปว่า “โอ้ย ถ้าจะร้องขนาดนี้ ก็โดดลงไปเลยไป จะได้จบเรื่องจบราวสักที!! ” 

ปรากฏว่ารุ่งเช้ามา ก็ได้มีรถกู้ภัยมาจอดที่ด้านล่างหอพัก ผู้หญิงห้อง 504 โดดตึกลงมาเสียชีวิต แต่ทางหอพักปิดข่าวเงียบ พี่มานพก็ออกไปทำงานปกติ หลังจากเลิกงานกลับมาตอนกลางคืน แกบอกว่าแกนอนไม่ได้เลย เพราะขณะที่แกกกำลังนอนอยู่ มีก้อนหินจากไหมไม่รู้ เขวี้ยงมาใส่ประตูกระจกระเบียงห้องดัง ปัง ปัง ปัง!!  

อะไรวะ!! แกหันมองไปที่ระเบียงครู่นึง แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงพูดว่า “อยากให้กูตายนักใช่ไหม อยากให้กูตายนักใช่ไหม ตามเสียงกรีดร้องยาวววววว เท่านั้นแหละ แกมุดผ้าห่มนอนคุมโปรงทั้งคืนยันเช้าเลย

วันต่อมาพี่มานพต้องเอาพี่ดลมานอนเป็นเพื่อนที่ห้องด้วย ปรากฏว่าคืนนั้นโดนทั้งคู่เลย มีเสียงผู้หญิงพูดว่า “มึงอยากให้กูตายนักใช่ไหม ตามเสียงกรี๊ดดดดด ดังมาจากระเบียงด้านนอกห้องข้างๆ จนทั้งคู่ทนไม่ไหว ต้องขับมอเตอร์ไซค์ออกไปนอนกันที่ห้องพี่ดล ตอนตีสามแทน …และนี่คือเรื่องราวทั้งหมด

คุณ แต๊ก เผยเรื่องเล่าสุดหลอน “ห้อง 504” เป็นประสบการณ์ตรงของรุ่นน้องชื่อ “เอ็ม” ที่ต้องเข้าพักที่ห้อง 503 สวัสดิการพนักงาน หญิงสาวข้างห้องกระโดดตึกต่อหน้า!!! ดูน้อยลง

ขอขอบคุณที่มาเรื่องเล่าจากรายการ คืนหลอน  ช่อง Amarin TV เรื่องเล่าสุดหลอน “ห้อง 504″ หญิงโดดตึกต่อหน้า!! 

บทความ Rewrite ห้ามคัดลอก หรือนำไปเล่าลง Youtube หรือ พอดแคสต์

Previous articleสีกาดาวเรือง กุฏิร้าง กับ พระบวชใหม่
Next articleเส้นทางหลอนที่เขาใหญ่