เปิดเรื่องหลอน ม.ขอนแก่น มหาลัยที่เก่าแก่แห่งภาคอีสาน

เปิดเรื่องหลอนม.ขอนแก่น

เมื่อวานตอนเย็นระหว่างที่กำลังขับรถกลับบ้าน แอดมินเปิดเรื่องผีในยูทูปฟังไปเรื่อยเหมือนทุก ๆ วัน จนมาสะดุดหูกลับเรื่องเล่าผีเรื่องนึงในช่องยูทูป DODI ดูดิ ซึ่งเขาได้เล่าถึง 7 เรื่องผีในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีความเก่าแก่มาก และอาจจะเก่าแก่ที่สุดในภาคอีสานเลยก็เป็นได้ ไม่ต้องเอ๋ยชื่อก็รู้ว่าที่ไหน หลายคนคงเคยอ่านตาหรือฟังผ่านหูกันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ยิน เชิญอ่านกันเลยดีกว่าครับ…

เรื่องหลอนในวันนี้เราจะพาไปทัวร์เรื่องราวภายในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เชื่อว่าทุกมหาวิทยาลัยในประเทศไทยจะต้องมีเรื่องราวที่ทำให้นักศึกษาต้องขนลุกหรือเกรงกลัวแน่นอน แม้แต่มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนจบมาก็ยังมีเเรื่องขนหัวลุกเรื่องผี ซึ่งเล่าให้นักศักษาฟังกันมารุ่นต่อรุ่น ซึ่งบางเรื่องเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกเรื่อง เพราะบางเรื่อง มันก็เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยนั้นเอง 

สำหรับเรื่องหลอน ๆ ในมหาวิทยาลัยที่จะมานำเสนอในวันนี้คือเรื่องราวของมหาวิทยาลัยขอนแก่นนั่นเอง ซึ่งมหาวิทยาลัยของแก่น เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเก่าแก่ที่สุดในภาคอีสาน  แน่นอนแหละครับ ที่ไหนที่ยิ่งมีความเก่าแก่มาก ที่นั่นย่อมจะมีเรื่องราวชวนขนหัวลุกตามมากมาย 

ซึ่งเรื่องราวที่ได้หยิบยกมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังในวันนี้ จะมีด้วยกันทั้งหมด 7 เรื่องครับ แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่า มันเป็นเพียงเรื่องที่เล่าต่อ ๆ กันมาเท่านั้น บางเรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องแต่ง บางเรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์จริง โปรดใช้วิจารณญานณในการรับชมกันนะครับ 

เรื่องแรก ตำนานสะพานขาว

สะพานขาว ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น บริเวณโดยรอบเป็นป่าทั้งหมด ช่วงหน้าหนาวอากาศจะเย็นยะเยือกดูวังเวงเอามาก ๆ เนื่องจากบริเวณนั้นมีต้นไม้เยอะมาก โดยเรื่องราวนี้ต้องเล่าย้อนไปไกลก่อนที่จะเกิดมหาลัยเสียอีก  แต่ก่อนพื้นที่ของมหาวิทยาลัยนี้ เป็นที่อยู่ของพวกคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีการรบกันระหว่างคอมมิวนิสต์กับตำรวจทหาร ทำให้บริเวณตรงนี้มีคอมมิวนิสต์ล้มตายเป็นจำนวนมาก ศพที่เกิดจากการสู้รบกันก็ไม่มีที่เผาจึงทำการฝังแทน 

หลังจากนั้นก็ได้มีการก่อตั้งมหาลัยขอนแก่นขึ้นมา ซึ่งได้มีการสร้างถนนตัดผ่านช่วงบริเวณหลุมฝังศพเยอะแยะมากมาย แล้วมักจะเกิดอุบัติเหตุบริเวณนี้บ่อยครั้งมาก และมีคนตายเป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดเรื่องราวหลอน ๆ ตามมาเยอะแยะมากมาย อย่างเช่น เรื่อง ชายหนุ่มกับหญิงสาวที่ขี่มอเตอร์ไซค์

มันจะมีข่าวอยู่ช่วงหนึ่งที่โด่งดังมากๆ คือหนุ่มสาวคู่หนึ่งขับรถมอไซค์มาด้วยความเร็ว แต่ดันมาชนกับลวดสลิงที่มีใครไม่รู้เอาไปขึงไว้ตรงช่วงบริเวณกลางสะพานเลย จนทำให้คอผู้หญิงขาด ส่วนผู้ชายก็ยังไม่รู้ตัวว่าแฟนของตัวเองเสียชีวิตแล้ว เพราะผู้ชายได้ก้มหน้าขับรถแบบเร็ว ๆ เหมือนพวกนักแข็ง ทำให้ตัวเขาไม่โดนสลิง เมื่อขับไปถึงปั้มน้ำมัน พอลงจากรถ ตัวผู้ชายถึงกับต้องเข่าอ่อน เพราะว่าเมื่อเขามองไปที่ร่างของแฟน กับพบว่าร่างของแฟนไม่มีหัวนั่นเอง.. 

หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ยังไม่จบเท่านั้น ยังคงมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้งบนสะพานขาวแห่งนี้ จึงได้มีการอันเชิญซินแสมาทำพิธีบนสะพานแห่งนี้ และซินแสก็ได้บอกว่า ให้ทำการสร้างเสาสะพานขึ้นเพื่อไม่ให้มีการไม่เหยียบหลุมศพซึ่งเป็นการลบหลู่อีกต่อไป 

จากแหตุการณ์ทั้งหมดนี้เอง จึงเกิดเป็นตำนานสะพานขาวเกิดขึ้นมา แต่ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะยังมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมาอีก ซึ่งในรั้วมหาลัยจะรู้จักกันในชื่อเรื่อง “ชายหนุ่มขับรถ เปิดวิทยุในรถ”

ชายหนุ่มขับรถ เปิดวิทยุในรถ

ซึ่งในเรื่องเล่าเรื่องนี้จะเล่าว่า มีชายคนหนึ่ง ขับรถเข้าไปในมหาวิทยาลัยในช่วงกลางดึก ประมาณเที่ยงคืนถึงตี 1 โดยที่เขาได้เปิดวิทยุฟังเพลงไปด้วย ซึ่งเส้นทางที่จะเข้าไป เขาต้องผ่านสะพานขาว พอใกล้ๆ ถึงสะพานขาว วิทยุเขาก็ดับไปเฉยๆ เขาก็เลยปิดวิทยุ แล้วลองเปิดใหม่ จนเกิดเรื่องที่น่าตกใจขึ้น เมื่อเสียงเพลงที่ดังขึ้นมันคือเพลง ธรณีกรรแสง เขาตกใจมาก คิดในใจว่า ใครมันมาเล่นตลกปิดเพลงธรณีกรรแสงกลางดึกแบบนี้ เขาก็เลยปิดวิทยุไปเลย 

หลังจากที่ปิดวิทยุแล้ว เขาก็ขับรถไปต่อเรื่อยๆ แสงไฟหน้ารถสาดส่องไปทางข้างหน้า ขับไปได้สักพักเขาก็สังเกตุเห็นคนสองคนเดินอยู่ไกล ๆ  แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แล้วจังหวะนั้น จู่ ๆ เสียงเพลงธรณีกรรแสงก็ดังขึ้นมาอีก ซึ่งรถของเขาก็ยังคงวิ่งไปเรื่อย ๆ 

แต่ก่อนที่รถเขาจะวิ่งไปถึงคนทั้งสอง จู่ ๆ เครื่องยนต์ก็ดับลง ทำให้รถของเขาหยุดอยู่กลางสะพานเลย เสียงเพลงธรณีกรรแสงก็ยังดังอยู่แบบนั้น  ไม่นานสองคนนั้นก็เดินเข้ามาใกล้รถของเขามากขึ้น มากขึ้น สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ผู้ชายไม่มีแขน และผู้หญิงที่กำลังหิ้วหัวตัวเองอยู่ ทั้งสองคนส่งยิ้มให้เขา เขาได้แต่คิดอยู่ในใจว่า นั้นมันผีหรือคน ทั้งสองเป็นใคร? ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านไปก็ได้นำไปสู่เหตุการณ์ที่ 3… คือเรื่อง หนุ่มวิศวะ สาวคณะพยาบาล นั่นเอง

สำหรับเรื่องราวของ หนุ่มวิศวะ สาวคณะพยาบาล มีอยู่ว่า เมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว สมัยนั้นมหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังเป็นป่า มีต้นไม้อยู่มาก และยังมีนักศีกษาน้อยมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน  ซึ่งในตอนนั้นได้มีหนุ่มคณะวิศวะคนหนึ่ง มีแฟนเป็นสาวคณะพยาบาล ทั้งคู่รักกันมาก หนุ่มคณะวิศวะคนนี้จะขับมอเตอร์ไซค์ไปรับแฟนสาวที่หอพักเป็นประจำ และเดินทางกลับหอพักของตัวเองผ่านทางสะพานขาวในช่วงดึกๆ ทุกวัน

แต่มีอยู่คืนหนึ่ง ฝ่ายชายขับมอเตอร์ไซค์ไปรับแฟนสาวที่หอพัก เพื่อไปเที่ยวในเมืองกัน  แต่ดันเกิดเหตุมีผู้ร้ายปล้นชิงทรัพย์ขึ้น โดยคนร้ายได้ขึงลวดสลิงไว้กลางสะพานขาว ทำให้ผู้ชายขับรถชนลวดสลิงอย่างจัง จนเสียชีวิตทั้งคู่เลย  

ซึ่งการตายแบบนี้จะเรียกกันว่า “ตายโหง” และด้วยสภาพการตายที่น่าอนาถ จึงทำให้วิญญาณของทั้งคู่เฮี้ยนเอามากๆ โดยวิญญาณของทั้งคู่ยังค่อยวนเวียนหลอกหลอนนักศึกษา และผู้คนทั่วไปที่ขับรถผ่านสะพานขาวเป็นประจำ พอมีคนพบเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ อยู่บ่อยครั้ง ทางมหาลัยจึงได้ทำพิธีกรรม อัญเชิญอัฐิของทั้งคู่ฝังไว้ที่เสาสะพาน โดยแยกไว้คนละด้าน 

ซึ่งภายหลังเหตุการณ์นี้เอง จึงทำให้เกิดพิธีรับน้องใหม่ โดยรุ่นพี่จะให้เฟรชชี่จับคู่กันมาในกลางดึก แล้วเดินนับเสาสะพานมาจากคนละด้าน ซึ่งพอนับเสร็จก็ต้องแปลกใจ เมื่อเสาสะพานที่นับได้นั้นไม่เท่ากัน  (ใครที่เคยเป็นเฟรชชี่ ม.ขอนแก่นแล้วเคยทำพิธีกรรมนี้แล้ว เจอเหมือนกันไหม ลองมาคอมเม้นบอกกันนะครับ ) 

ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า ถ้ากลั้นหายใจระหว่างที่นั่งรถข้ามสะพานไปจนสุดสะพานได้ โดยที่ไม่ผ่อนลมหายใจเลย จะอธิษฐานขอพรอะไรก็ได้  

ซึ่งนี้ก็เป็นเพียง 3 เรื่องที่มีความเชื่อมโยงกันในมหาวิทยาลัยขอนแก่นเท่านั้น ต่อไปคือเรื่องราวสุดหลอนเรื่องที่ 4 …เรื่อง “หลอนของนักศึกษาแพทย์”

เรื่องนี้ได้เล่าต่อ ๆ กันมาว่า มีนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งขึ้นลิฟท์ที่โรงบาลศรีในตอนกลางคืน โดยในลิฟท์จะมีนักศึกษาแพทย์กับลุงแก่ ๆ อีกคนนึงที่ลงลิฟท์มาพร้อมกัน พอลิฟท์เคลื่อนลงไปเรื่อยๆ ลิฟท์ก็เปิดออก ด้านนอกลิฟท์ปรากฎให้เห็นหญิงแก่คนนึงถือไม้เท้ากำลังจะเดินมาที่ลิฟท์ แต่นักศึกษาแพทย์กลับ มีอาการตกใจ รีบกดปิดลิฟท์ทันที ชายแก่ที่ขึ้นมาด้วยกันเลยพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “ไอ้หนุ่ม จะรีบปิดทำไม ไม่เห็นคุณยายหรอ” 

นักศึกษาแพทย์ก็เลยรีบบอกทันทีว่า “ลุงไม่เห็นหรอ ที่มือของยายแกมีด้ายแดงอยู่” (นักศึกษาแพทย์จะรู้กันดีว่า คนที่มีด้ายแดงผูกอยูู่ที่มือคืออาจารย์ใหญ่ ร่างไร้วิญญาณที่มีไว้เพื่อให้นักศึกษาแพทย์ทุกคนได้ศึกษา ) แต่มันยังไม่ใช่จุดพีคที่สุด เพราะจุดพีคมันอยู่ที่ว่า ตอนที่นักศึกษาพูดถึงด้ายแดงให้ลุงแกฟัง ลุงแกก็ได้พูดกลับมาว่า  “ใช่ด้ายแดงแบบนี้หรือเปล่า ไอ้หนุ่ม” พร้อมกับชูแขนให้ดู… โดนแล้วไง!!

มาต่อกันเรื่องต่อไปเลยดีกว่า “ห้องน้ำชั้น 4 และนักศึกษาแพทย์”

เรื่องมันก็เกิดขึ้น เมื่อนักศึกษาแพทย์คนนึงได้ฟังเรื่องเล่ามาจากรุ่นพี่ ว่าชั้น 4 ของคณะมีผีอยู่ แต่นักศึกษาแพทย์คนนี้ก็ไม่เชื่อ เลยชวนเพื่อน ๆ ไปพิสูจน์ด้วยกัน แต่ไม่มีใครกล้าไปด้วยสักคน เพราะกลัว นักศึกษาปี 1 คนนี้ก็เลยไปคนเดียว 

เขาได้เดินสำรรวจทีล่ะห้องแล้วทำทุกวิธีที่เชื่อว่าจะทำให้เห็นผีได้ ไม่ว่าจะเป็นมองลอดหว่างขา ตัดเล็บ ฯลฯ ทำห้องแล้วห้องเล่า แต่ก็ไม่เห็นผีเลย  

เขาก็เลยรู้ศึกเบื่อจึงเดินไปที่ห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าล้างตา ด้วยความรู้สึกเซ็งและเจ็บใจ คิดว่ารุ่นพี่น่าจะแต่งเรื่องมาหลอกรุ่นน้อง เขาก็เลยได้ทำหน้าตาทะเล้นแลบลิ้นปลิ้นตาใส่กระจกในห้องชั้น 4 นั่นแหละ จนสุดท้ายเขาก็กลับหอพักไป 

วันต่อมา นักศึกษาแพทย์คนนี้ก็ได้เล่าให้เพื่อนๆ ฟัง ว่าเมื่อคืนไปสำรวจมาเรียบเรื่อยแล้ว ไม่เห็นจะเจอผีเลยสักตัว นู้นนี่นั่น จนกระทั่งเขาเล่ามาถึงเรื่องห้องน้ำชั้น 4 เท่านั้นแหละ เพื่อนเขาถึงกับทำหน้าตกใจ และเลยบอกเขาว่า “มึงโดนแล้วหล่ะเพื่อน มึงรู้หรือเปล่าว่าห้องน้ำชั้น 4 ไม่มีกระจกแม้แต่บานเดียว!!  แล้วคนที่แลบลิ้นปิ้นตาในกระจก ที่เห็ยนเมื่อคืนล่ะใคร? หลอนจริง!!

แล้วก็มาถึงเรื่องที่ 6 นั่นก็คือเรื่องราวของหอ 9 หลัง

สำหรับเรื่องราวของหอ 9 หลังเป็นเรื่องที่ถูกล่าต่อ ๆ กันมาในรั้วมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งบริเวณที่ป่ารกข้างหอ 9 หลัง เป็นจุดที่ไม่มีใครกล้าผ่านไปเท่าไร เพราะมันมีเรื่องเล่าว่า เคยมีผู้หญิงถูกข่มขืนจนเสียชีวิตบริเวณป่าตรงแห่งนั้น ทำให้บางคืน หากมีใครขับรถผ่านมา มักจะเจอเรื่องราวแปลก ๆเกิดขึ้น  อย่างเช่น  จู่ๆ รถที่ขับมาปกติ เครื่องก็กระตุกแล้วก็หยุดไปเลยซะงั้น บางคนขับมอเตอร์ไซท์มาอยู่ดี ๆ ก็เหมือนมีใครดึงรถอยู่ข้างหลัง แล้วถ้าเกิดใครหันไปดูก็ตกใจ เมื่อเห็นผู้หญิงหน้าขาวๆ ซีดๆ มาดึงรถเอาไว้นั่นเอง 

เอาล่ะ มาถึงเรื่องสุดท้ายกันแล้ว เรื่องที่ 7 คุณยายไฮสปีด แม้ชื่อมันอาจจะดูไม่หลอนเท่าไร แต่เรื่องราวมันหลอนเอาเรื่องเลยครับ

สำหรับเรื่องของ คุณยายไฮสปีด เล่ากันว่า บริเวณแถวปั๊ม ปตท ใกล้ ๆ กับหอพัก 9 หลัง ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น มักจะมีผู้หญิงแก่คนนึงที่ชอบออกมาวิ่งตามรถมอเตอร์ไซค์ของคนที่สัญจรไปมา  ซึ่งตอนแรกแกจะยืนนิ่ง ๆ ทำท่าเหมือนโบกมือเรียก อยู่ตรงแถวๆ สามแยก แต่ถ้าใครขับรถผ่านเธอไป หันกลับมาดูอีกทีก็จะสังเกตุเห็นว่าแกนั้นเดินตามรถมา  และถ้าใครคิดที่จะบิดคันเร่งหนีแก หญิงแก่คนนี้ก็จะรีบวิ่งตามรถเลย ซึ่งเคยมีคนบิดคันเร่งจนมิด แต่ปรากฏว่าหญิงแก่คนนี้ก็ยังสามารถวิ่งตามรถทันอยู่ดี  

แต่สิ่งที่มันน่าแปลกมันอยู่ตรงนี้ เพราะเมื่อขับรถไปตรงที่มีเสาไฟส่องสว่าง หญิงแก่คนนี้ก็จะหายไป แต่พอขับรถออกจากจุดที่สว่างไปตรงจุดมืด ๆ ก็จะสังเกตุเห็นว่าเธอกำลังวิ่งตามรถอยู่นั่นเอง  กลุ่มนักศึกษาจึงเรียกแกว่า ยายไฮสปีด และอีกอย่างแกจะวิ่งตามแค่รถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ส่วนใครที่ขับรถยนต์มา แกจะจะไม่วิ่งตามแต่อย่างใด แต่แกจะขึ้นมานั่งเป็นเพื่อนด้วยเลย

และนี่ก็คือเรื่องเล่าหลอน ๆ ทั้งหมดในมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ผมได้นำมาฝาก ต้องบอกว่าบางเรื่องมันก็อาจจะเป็นเพียงเรื่องที่แต่งข้นมาเท่านั้น ใครที่เคยเป็นศิษย์เก่าที่ ม.ข หรือกำลังศึกษาอยู่ที่ ม.ข แล้วเจอเรื่องราวแปลก ๆ เรื่องไหน ก็ลองมาคอมเม้นกันได้นะครับ….

ปล… มีคนเจอแถวๆ โลตัสด้วยนะ ตอนดึกๆ ก็อย่าไปกัน แล้วคุณจะเห็นผู้หญิงผมยาวซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์คุณอยู่ก็ได้

แหล่งที่มา : blog.eduzones.com/saifa/40683

ขอขอบคุณเรื่องหลอน ๆ ต้นฉบับจากช่อง YouTube DODI ดูดิ  

บทความ Rewrite นำเสนอเรื่องราว และถอดความโดย แอดมินเพจ คลังหลอน 

Previous articleบ้านทางผีผ่าน คุณเคยใช้ชีวิตกับผี…นาน 9 ปีไหม บ้านหลอนซอยอ่อนนุช44
Next articleวัลลี ยากุ ตำนานสุดสยอง..! ผีสาวแม่ลูกอ่อน ที่วัดกำพร้า จ.สมุทรสาคร”