บ้านทางผีผ่าน คุณเคยใช้ชีวิตกับผี…นาน 9 ปีไหม บ้านหลอนซอยอ่อนนุช44

บ้านผีผ่าน

อีกหนึ่งกระทู้ผีพันทิปสุดหลอน พันกระโหลกเอาหัวโขกฝาบ้านสลบไปตื่นมาก็ยังหลอนอยู่ แม้กาลเวลาจะผ่านมานานหลายปี จนหากระทู้ต้นฉบับไม่เจอแล้ว แต่อ่านกี่รอบก็ยังพาขนลุกได้ตลอด เรื่องราวประสบการณ์จริง! ของสมาชิกพันทิปท่านหนึ่ง ที่ครอบครัวของเขาได้ไปซื้อบ้านแบบอาคารพานิชย์ 3 ชั้น อยู่ในโครงการหมู่บ้าน ซอยอ่อนนุช 44 และต้องทนอยู่กับสิ่งน่ากลัวมานานตลอด 9 ปี  ไม่พิมพ์เยอะเจ็บนิ้ว ไปเริ่มต้นความหลอนกันเลยดีกว่า…

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในโครงการนึง บนถนน อ่อนนุช เป็นบ้านแบบอาคารพานิชย์ 3 ชั้น  ในโครงการมีทั้งหมด 40 หลังคา ก่อนจะเข้ามาถึงโครงการนี้ ต้องผ่านหมู่บ้านอื่นๆเข้ามา 4 โครงการ หมู่บ้านเราอยู่สุดท้ายและลึกสุด ท้ายหมู่บ้านอยู่ติดกำแพงวัดซึ่งสามารถทะลุออกไปถนนสุขุมวิทได้  

บ้านหลังนี้พ่อเรา (พ่อเลี้ยง) เป็นคนซื้อตั้งแต่เริ่มแรกโครงการเลย ก็เกือบๆประมาน 20 ปีที่แล้ว  แม่เราเริ่มย้ายเข้ามาอยู่ตอนปี 48 ค่ะ ส่วนเรายังอยู่สมุทรปราการ เพราะเราเรียนที่สมุทรปราการ แต่เราก็มาๆไปๆบ้าง แม่กับพ่อเราทำธุระกิจส่งออก เลยทำชั้นล่างและชั้น 2 ของบ้านหลังนี้เป็นออฟฟิต

พ่อเราจะเดินทางไปหาลูกค้าต่างประเทศปีล่ะ 2 ครั้ง   ครั้งนึงก็ประมาณ 15 วัน   คือช่วงนั้นแม่เราก็นอนที่นั่นคนเดียว  ห้องนอนแม่อยู่ชั้น 3 ค่ะ   แม่เราจะโทรมาเล่าให้ฟังตลอดว่า  บ้านนี้น่าจะมีผี อะไรแบบนี้ แต่เราก็จะบอกไปว่า อยู่คนเดียว คิดมาก รึเปล่า  พูดแบบปลอบใจเพราะแม่เราต้องอยู่คนเดียวในตอนกลางคืน

แต่มีวันนึ่งเราเข้านอนล่ะประมาณเที่ยงคืนกว่าๆแม่เราโทรเข้ามาหาเรา  แม่เล่าแบบ เสียงสั่นๆกลัวๆ เราก็ตกใจ   นึกว่ามีโจรมาย่องเข้าบ้าน  เราก็ถาม “แม่ๆเป็นไร มีไรป่าว” แม่ก็ตอบมาว่า “เจอเลย เจอเข้าแล้ว  ผีๆผีผู้หญิง”  เราก็ตกใจ  ถามว่า  “เจอที่ไหน  อะไรยังไง ให้หนูไปอยู่เป็นเพื่อนป่าว  ตอนนี้เลย เดี๋ยวนั่งแท็กซี่ไป”  แม่เราก็บอกว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมา  ดึกแล้วอันตราย  เดี๋ยวคืนนี้ลงแม่มานอนห้องพระชั้น 2 ก่อน”  เราก็ โอเคๆเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุย …..

พอวันรุ่งขึ้น เราเลิกเรียนปุ๊บ เราก็รีบขึ้นแท็กซี่ไปหาแม่เลย  ไปถึงเราเจอแม่กำลังเม้ามอยเรื่องเมื่อคืนกับ สายเรืออยู่แบบถึงพริกถึงขิงมาก หลังจากนั้นเราตัดสินใจค้างกับแม่  แม่เราก็ไม่รอช้าเลย  มาๆเร็วจะเล่าให้ฟัง  เราก็บอกเล่าๆมาเลยแม่  

แม่เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนแม่ลงมาดูประตูหน้าบ้านว่าล็อคเรียบร้อยรึเปล่า  เพราะของจากในตลาดโบ๊เบ๊เพิ่งมาส่ง  ค่อนข้างเยอะ กลัวว่าโจรจะงัดแง๊ะเข้ามา  พอเห็นว่า  บ้านล็อคเรียบร้อยดี แม่ก็ขึ้นชั้น 3 เลย นั่งอ่านหนังสือดูทีวีไป พอสักพักก็เริ่มง่วงๆ  แม่ก็ปิดทุกอย่างแล้วก็นอน

แม่บอกว่า รู้สึกว่านอนไปไม่นาน ก็เหมือนฝันเห็นผู้หญิงใส่ชุดขาว เหมือนชุดนอน  เดินเข้ามาใกล้ๆแล้วบอกว่า ช่วยทำบุญให้หน่อยสิ  แม่เราก็ถามไปว่า แล้วคุณเป็นใคร ตายแล้วเหรอถึงต้องให้ทำบุญไปให้ ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาใกล้กว่าเก่าจนแม่เราบอกว่าต้องหันหน้าหนี  เพราะหน้าตาเหมือนคนผูกคอตาย  ตาถหลน  ลิ้นจุกปากเลย   แม่เรากลัวมากจนสะดุ้งตื่น ตอน 23.15 น. 

แม่เราก็เริ่มกลัวนะ แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ต้องนอนต่ออยู่ดี  แม่บอกว่า พยายามนอนก็นอนไม่หลับ แม่ พลิกตัวไปพลิกตัวมา  ยืดขาไปปลายเตียง  เหมือเท้าไปถีบโดนอะไรบางอย่าง ใจหายแว๊ปเลย  กลัวมาก พยายามยืดเท้าไปอีกรอบก็ยังโดนอยู่  แม่เลยรวบรวมสติลุกนั่งเปิดโครมไฟที่หัวเตียงเลย ฉี่แทบแตก เพราะเห็นผู้หญิงคนนั้น นั่งหันหลังอยู่ปลายเตียง  แต่มันไม่ชัด เหมือนกำลังจะหายไป

เท่านั้นแหละ แม่เรากระโดนลงจากเตียง  วิ่งลงบันได้มาชั้น 2 เข้าห้องทำงานปิดประตูเปิดไฟทุกดวงในห้องเลย  แม่บอก นึกว่าจะหัวใจวายตายตรงนั้นแล้ว  ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมาให้เห็นกันจะ ๆ แบบนี้ พอแม่เราตั้งสติได้ก็รีบโทรหาเราเลย  เราฟังแล้วอยากกับบ้านมาก  กลัว  แต่ต้องอยู่เป็นเพื่อนแม่ 

(บอกไว้ก่อนน่ะค่ะ ตอนแม่เราอยู่สมุทรปราการแม่เราก็เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน แล้วแม่เป็นคนไม่ค่อยกลัวผีแต่ก็กลัวน่ะ เพราะก่อนหน้านั้นแม่เราเคยเจอพ่อของเพื่อนเราที่ตายมาพูดคุยด้วย แต่แม่เรายังไม่รู้น่ะว่าลุงคนนั้นเพิ่งตาย แต่พอรู้ก็เล่นแม่เราอึ้งๆไปเลย)

คืนนั้นที่เราไปนอนค้างกับแม่เราก็ไม่เจออะไรนะ แต่ยอมรับว่านอนไม่ค่อยหลับแม้แต่จะลุกไปฉี่เรายังไม่กล้าเลย..แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นต้นมา แม่เราจะเจอมาเรื่อยๆจนแม่บอกเอ่ยปากว่า  ถ้าคิดจะอยู่กันแบบนี้ก็อย่ามาให้เจอเป็นรูปเป็นร่างเลย แม่กลัวว่าตัวเองจะช็อคตาย 

พ่อเราก็รับรู้เรื่องนี้ด้วย แต่ดูเหมือนเค้าเฉยๆ เค้าบอกว่าก่อนหน้าที่แม่จะย้ายมาเค้าก็เจออะไรแปลกๆหลายอย่างแต่เค้าไม่สนใจ เพราะไม่เคยมาให้เห็นแบบเป็นรูปร่าง  

พอมาต้นปี 50 เราย้ายมาอยู่กับแม่แบบเต็มรูปแบบ เราจะนอนชั้น 2 ที่เคยเป็นห้องพระ แม่เราจัดการทำห้องให้เราเรียบร้อยเลย และแล้วครั้งแรกที่เราได้ทักทายกับเรื่องเหนือธรรมชาติก็เกิดขึ้น!!  

เรามาอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์เหตุการณ์ก็ยังปกติอยู่ แต่มีอยู่วันนึ่งเราเข้าไปนั่งคุยกับแม่และพ่อเราถึงเรื่องทำบุญบ้าน เรานั่งกันอยู่อึกห้องนึงซึ่งเป็นห้องทำงานแม่เรา   เปิดแอร์กำลังเย็นสบายเลย  ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก  เสียงคนเคาะประตูห้องทำงาน แม่เราก็ถามเราว่า  ข้างล่างปิดประตูเหล็กไว้รึเปล่า  เราก็บอกว่าปิดแต่ไม่ได้ล็อค เออ สงสัยแฟนเรามาหา (แฟนชื่อ เอ) เราก็ตะโกนเลยว่า  เข้ามาดิเอ  แต่เงียบ เราก็เดินไปเปิดเองเลย  เฮ้ย!!! คือว่างเปล่า

เราก็บอก “แม่…เสียงคนเคาะแม่ได้ยินใช่ปะ”  แม่เราบอกใช่  “เอาอีกแล้ว” พอเราเดินกลับมานั่ง เสียงเคาะก็ดังอีก คราวนี้เคาะแบบ  แบมืออ่ะ   มันจะดับ  ปังๆๆๆๆ  คือเราขนลุกเลย  พ่อเราลุกจากโต๊ะทำงานแล้วเดินไปแต่ไม่เปิดน่ะ  กดล็อคลูกปิดแล้วบอกแบบติดตลกว่า  “ผียังมีมารยาท เคาะก่อนด้วย”  ยังไปทันที่พ่อเราจะเดินมาถึงโต๊ะเลย   เสียงดัง ปังๆๆๆๆๆแล้วตามด้วยบิดลูกบิดประตู  คือบิดไปบิดมา  พ่อเราหยุดเดินหันกลับไปมอง

ตอนนั้นเรากำพระหลวงพ่อโตแน่นเลย  เข้าใจเลยว่าขนหัวลุกเป็นไง   แม่เราพูดว่า  ” เค้าล้อเล่น คนต่างชาติพูดไม่ค่อยน่าฟัง แต่เค้าพูดเล่น เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ลูกสาวตักบาตรไปให้น่ะ” เท่านั้นแหละทุกอย่างเงียบเลย เราจากที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้  กลับหันมาเชื่อแบบเต็มร้อย เพื่อนเราทุกคนรู้เรื่องนี้หมด  เพราะเวลาเราออกไปนั่งดื่มเราก็จะเล่า เพื่อนเรามันจะรอถามเลยว่ามีไรป่าววะ เล่ามา  

หลังจากนั้นก็มีเรื่องให้เราได้ขนลุกมาเรื่อยๆ  เราย้ายมาต้นเดือนมกราคม ปี 50  จนมาเดือนพฤศจิกายน  เราจะออกไปลอยกระทง ที่วัด  มหาบุศ(วัดแม่นาค)กับแฟน เราก็คือเตรียมตัวจะออกล่ะ  เดินลงไปชั้นล่างแล้วเสียงแม่เราตะโกนว่า ไอ้มะลิ (ชื่อเราเอง) ขึ้นมานี่ก่อนจะฝากซื้อโลตีสายไหม  เราก็แบบ  หืมแค่จะฝากซื้อของโทรมาก็ได้  เราก็พูดแล้วก็เงยหน้าขึ้นไป ทางช่องบันได คือบันได้มันจะตรงกัน 3 ชั้น  ถ้ามองตรงๆขึ้นไปจากชั้นล่างเราจะมองไปถึงชั้น 3 ได้เลย  เราก็ตะโกนขึ้นไปค่อนข้างเสียงดังมาก

เฮ้ย! อันนี้มาแบบสยองมา ผู้ชายฉะโงกหน้ามาจากราวระเบียงชั้น 3 คือหน้าดำปี๋เหมือนโดนไฟไหม้ จ้องมองเรา  ส่วนเรานี้ดิ ใจเต้นเร็วแบบว่าอั้นฉี่ไม่อยู่แล้ว อันนี้ขอบอกเลยว่า  เราฉี่ราดแต่ไม่ได้ออกสุด   แค่นั้นแหละเราวิ่งเข้าห้องน้ำ ปิดประตูตะโกนเรียก แม่ ๆ  ช่วยด้วยผีหลอก  ช่วยหน่อย  เราร้องเหมือนคนจิตหลุดอ่ะ  แต่ไม่ยอมถอดเกงน่ะ   ยืนแหกปากตะโกนบ้าบอ ในห้องน้ำ  ฉี่ก็ราดไปดิ  คือวันนั้นสุดๆของเราและ  แม่เราวิ่งลงมาเคาะห้องน้ำ  เราก็เปิด  เรารีบพูดเลย “แม่เจอผี  ฉี่หนูราดเลย น่ากล้วมาก”  สรุปไม่ได้ไปลอยกระทง   แฟนเราต้องขับรถไปซื้อโรตีสายไหมให้แม่เราแทน  แล้วก็กระเพราะปลามาให้เรา

เหตุการณ์ครั้งนั้น  ทำให้เราตกลงกันว่า  จะทำบุญบ้านแบบจริงจังล่ะ  บอกเลย จนถึงทุกวันนี้ไม่จำเป็นเรายังไม่ขึ้นไปชั้น 3 เลย  ชั้น 3 จะเป็นห้องนอนแม่เรากับห้องโชว์ (มีหุ่นรองเท้า  มีดบล็อคทำร้องเท้า  แล้วก็ร้องเท้า เรียงอยู่บนชั้น รวมถึงตัวอย่างผ้าที่โรงงานเอาเสนอขายให้กับออฟิตแม่เรา  ง่ายๆมันดูรกมาก)

บ้านเราได้กฤษทำบุญ เดือนกุมภา ปี 51 พอดีค่ะ  จำได้แม่นเลย  ว่าก่อนที่จะทำบุญ พ่อเราเอาคนที่พ่อนับถือมาก ชื่อลุงโฮ มาดูที่บ้าน คือจริงคุณลุงคนนี้เค้าเก่งเรื่องดูชะตามาก ทุกวันนี้ที่บ้านเรายังให้ลุงโฮมาดูดวงชะตาปีล่ะครั้งเลยค่ะ…

ลุงโฮแกมาดูก็บอกว่าให้ทำบุญแบบนี้  เอานี่มาติด เอานี่มาแขวนน่ะ แล้วแกก็รับรองอีกคนว่าบ้านนี้มีวิญญาณร่วมอาศัยอยู่จริงๆ แต่เค้าก็อยู่ส่วนเค้า เพราะว่าข้างหลังบ้านมันเป็นคลองเป็นทางน้ำไหลผ่านมาจากคลองหน้าวัด  สรุปคือทางผีผ่านค่ะ ลุงเค้ายังบอกอีกว่า ให้พูดตรงๆนะ  ไม่สมควรอยู่เลยจริงๆ แถวนี้ไม่น่าอยู่เพื่อทำธุระกิจเลย  พ่อแม่เราก็รับฟัง

พอถึงวันทำบุญบ้านคือ ทั้งสายเรือ ทั้งเซลล์ ทั้งชิปปิ้ง ก็แห่กันมา  แต่มีพี่คนนึงเค้าทำงานเป็นเซลล์ของบริษัทย่านโลตัสพระราม4 พี่แกค่อนข้างสนิทกับแม่เรามาก แกกำลังนั่งฟังพระอยู่ อยู่ดีๆก็เดินปรี่มาหาแม่เรา   แล้วกระซิป บอกแม่เราว่า  พี่นา(ชื่อแม่เรา) มีคนมาพูดข้างหูหนูตลอดเลยว่า “ทำไข่พะโล้ทำไม กูไม่ชอบ- กูเกลียดหมูสามชั้น เอาไปเททิ้ง”  

คือพี่แกพูดจริงจังมาก  จนแม่เราถามย้ำว่า  “หลอกพี่ไหม อย่าพูดเล่นนะ” พี่เค้าก็ยืนย้นว่า  “หนูไม่กล้าล้อเล่นหลอกพี่ หนูเชื่อเรื่องผีนะ  เพราะว่าตัวหนูเองก็มีร่างนะพี่  แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว  ไปอยู่กับน้องสาวหนูแทน” 

คือแม่เราก็ย้ำนะว่า “ยังมาพูดอยู่ไหม”  พี่แกพูดว่า… “พูดดิพี่ เป่าลมเข้าหูหนูด้วย เหมือนเค้าจะหยอกหนูเล่น”  เรานั่งอยู่คือได้ยินที่คุยกันชัดเจน  เราก็หันไปคุยกับแฟนเลยว่า  “ทำไมแม่ไม่ย้ายวะ คือมันแรงไปแล้ว ถ้าแม่ไม่คิดย้าย  เค้าจะออกไปเช่าห้องอยู่” เราก็พูดไปตามความรู้สึกเลย….

พอจะตักอาหารให้พระ  จู่ ๆ ยายเราก็พูดขึ้นมาดังมาก  “อีฉิปหาย!!ไข่พะโล้บูดหมดเลย  บูดได้ไง  กูเพิ่งปิดแก๊สไปไม่ถึงชั่วโมง”  คือบูดจนเป็นพองขึ้นอ่ะค่ะ เหม็นบูดมาก เหมือนของค้างมา 3 วัน  เปิดฝาหม้อขึ้นมา กลิ่นบูดโชยหึ่งเลย  พี่คนนั้นที่ได้ยินเสียงคนพูด เค้าก็รีบพูดเลย…. “พี่นา หนูบอกพี่แล้ว เค้าพูดทิ้งท้ายก่อนพระจะสวดเสร็จด้วยนะว่า  กูไม่ได้แดก พวกเมิงก็ไม่ต้องแดก…..สรุปวันนั้นเลยไม่มีไข่พะโล้ ปะเคนให้พระฉัน

งานทุกอย่างจบพ่อเรายังนั่งเม้ามอยกับสายเรืออยู่แบบเมามัน มีดื่ม  มีเลี้ยงปกติ  ที่ชั้นล่างบ้าน  แฟนเราก็ช่วยเก็บโน้นเก็บนี่  ทีนี่ล่ะถึงตอนเก็บพรมที่เอาลงมาปูไว้ชั้นล่าง คือต้องยกไปเก็บชั้น 3 ในห้องโชว์ เราก็แบบว่า ไม่ขึ้นได้ไหมอะไรงี้  แต่ก็ต้องยอมขึ้นเพราะแฟนเรา  ตอนขึ้นไปก็กลัวน่ะ  ขึ้นไป 6 คน เพื่อนเรา 3 คน แล้วก็น้องแฟนอีก 1 คน ต่างคนต่างหิ้วเสื่อ  หอบพรมเล็ก  มีเรากับแฟน หิ้วหัวท้ายพรมผืนใหญ่อ่ะ   เราเดินไป..ถ่องนะโม..ไป  เอาวางเสร็จ ปิดไฟ จะเดินลงบันได  มีเสียงผู้ชายแก่มาพูดข้างๆหูเราเลยว่า” อีหนู   นะโมเหรอ  กูไม่กลัวหรอก”  ชัดเจนมากลมเข้าหูเรา ขนนี่ลุกซู่เลย

เราหันไปข้างหลัง เห็นเงาดำคนเดินหายไปเข้าในซอกชั้นตัวอย่างผ้าเลย  ไฟมันมืดก็จริง แต่เราพอมองเห็น เรามั่นใจ100% ไม่รอแล้ววิ่งลงบันไดเลย  คนอื่นเห็นเราวิ่งมันก็วิ่งตาม  เสียงวิ่งลงบันไดพวกคน 6 คนทำเอาคนที่อยู่ข้างล่างตกอกตกใจเลย  

เช้าวันถัดมาเราขอแม่ออกไปเช่าห้องอยู่เเลยค่ะ  แต่ห่างออกไปอยู่ไม่ไกลกันมาก  บ้านเราเข้าซอยอ่อนนุช 44 มา แต่ห้องเช่าเราอยู่ซอย อ่อนนุช 46 ตลาดยงเจริญค่ะ เราอยู่ที่นั่นตลอด 3 ปี แต่ว่าตอนเช้าเราก็ไปบ้านหลังนั้นเหมือนเดิม เพราะเราต้องช่วยงานครอบครัว พอเย็นเราก็กลับไปห้อง 

ตลอดเวลาเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่บ้านเราก็เกิดแบบต่อเนื่อง  มีแบบหลอนน้อย  หลอนมาก แล้วแต่  แม่เราก็แบบพูดเลยว่า “จะอยู่ อยู่ได้ แต่อย่าสร้างความเดือดร้อน แบบนี้  ถ้าไม่ฟัง จะด่าจะแช่งไม่ให้ไปพุดไปเกิดเลย”   แม่เราบอกว่ายายบอกมาให้ด่าแบบนี้ไปเลย

จนปี 54 แม่เราซื้อบ้านเดี่ยวหลังใหม่ แต่อยู่เส้นอ่อนนุชเหมือนเดิม โครงการอยู่ข้างๆไปรษณีย์อ่อนนุช แล้วก็ซื้อตึกอาคารพานิชย์ใหม่ ไว้สำหรับทำเป็นออฟฟิศใหม่เพราะกิจการบ้านเราช่วงนี้บูมมาก ขนาดแค่รับของมา ส่งออกไป  คือเหมือนเป็นคาโก้อ่ะค่ะ  แต่เงินสะพัดมาก พ่อเราไม่ต้องเดินทางไปหาลูกค้าแล้ว เพราะลูกค้าเดินทางมาเองเลย  พ่อเราก็แค่พาลูกค้าไปเดินสั่งของในตลาด ประตูน้ำ โบ๊เบ๊ สำเพ็งเท่านั้น  แล้วร้านก็มาส่ง  เราเช็คของรับของ  แม่จ่ายเช็ค รับของครบทุกเจ้า เราโทรไปเฟิร์มกับสายเรือ  สายเรือเอารถมารับของ  ไปลงท่าเรือ รอเข้าตู้ลงเรือส่งให้ลูกค้า แค่นี้จบปิ้ง

อาคารใหม่แม่เราซื้อเป็นอาคาร 4 ชั้น  อยู่ตรงข้ามห้างซีคอนศรีนครินทร์ค่ะ   บ้านก็ตกแต่งไป ตึกก็ตกแต่งไป  รอเวลาย้ายเข้าแค่นั้น  แต่ว่ามีเหตุให้เราเริ่มลังเลใจที่จะย้ายเพราะคืนนึงแม่เราหลับไป ฝันเห็นผู้ชายคนนึ่ง  ผมหยิกหย่อย ถอดเสื้อ  ใส่แต่กางเกง  แต่นั่งอยู่บนตักพระประทาน ในโบสถ์  มาขอให้แม่เราทำบุญให้ บอกว่าแม่เราใจบุญ เห็นแม่เราชอบทำบุญ  ขอให้ช่วยเค้าหน่อย  แม่เราก็สะดุ้งตื่น!!  

พอเช้ามาแม่เราก็เรียกเรามาคุย พอดีป้าเราโทรมาบอกว่าจะชวนแม่เราไปทำบุญที่วัดแถวๆชลบุรี  แม่เราก็ตกลง  เราก็โอเค 

ช่วงที่เรานั่งคุยกับแม่  จะเป็นเวลาเดิมๆที่เดิมๆตลอด   ผู้หญิงใส่ชุดพริ้ว รวบผม จะเดินผ่านข้างหลังแม่เราแล้วจะหายเข้ามุมห้องข้างโต๊ะคอมในห้องทำงาน  เป็นแบบนี้มา 2 ปีล่ะ เราเห็นจนกลายเป็นเรื่องธรรมาไปแล้ว 

ช่วงเห็นแรกๆคือช่วงที่เราออกไปเช่าห้องอยู่   ตอนแรกเห็นเรารีบก้มหน้ากับโต๊ะทำงานแม่เราเลย แต่แม่เราจะพูดว่า  เค้าอยู่ตรงนี้แหละ  จะไปเล่าให้ใครฟัง เค้าก็จะหาว่าบ้านเรา เป็นโรคประสาทกันทั้งบ้าน เราก็แบบ เห็นไปเห็นมาจนชิน คือ 2 ปี  เห็นเค้าผ่านเข้าผ่านออกแบบนี้ล่ะ

สรุปบ้านเราไปทำบุญที่วัดชลบุรี  แต่แม่เราดันนึกขึ้นได้ว่า  เห้ย พระประทานในโบสถ์คือพระที่เค้าฝันเห็นผู้ชายวันนั้นหนิ  เลยไปถามพระกัน   หลวงตาท่านเล่าว่า “ใช่!!โยมเห็นเหรอ ผู้ชายคนนั้นชื่อ ทัด เคยเป็นสัปเหร่ออยู่ที่นี่ ตายไปนานล่ะ แกล้มในห้องน้ำหัวฟาดพื้น ปกติแกจะชอบเข้าไปขัดไปถูพระประทานในโบสถ์ ลูกเมียก็ไม่มี”   

ชัดเลย!! แต่แม่เรา งงว่า  แล้วแม่ฝันเห็นลุงแกได้ไง    แม่เลยขอสร้างพระประทานถวายแล้วอุทิศบุญให้ลุงคนนั้นแต่พระบอกว่า ที่นี่มีพระประทานแล้ว ให้แม่สร้างแต่เอาไว้ถวายให้สำนักแม่ชีตรงข้ามวัด   แม่เราก็รีบดำเนิดการเลย ไปคุยกับแม่ชี  นัดวันเอาพระมาถวาย

สรุปวันเอาพระมา มีลุงคนนึงอายุประมาณ 50 แกมีร่างทรงของ ปู่อะไรเราจำไม่ได้  แกเดินมาทักว่า  “มึงคิดจะโยกจะย้ายอะไร  ให้เลิกคิดก่อน   ถ้าบ้านมึงจะย้ายให้ย้ายปี 56 ส่วนที่ทำงานย้ายต้นปี 60”  แกพูดจบ แกบอกว่า  “กูขอน้ำดำ กินหน่อยได้ไหม” (น้ำดำของแกคือแป๊บซี่ค่ะ) แม่เราเลยขอเบอร์แกไว้  หลานแกก็ให้ไว้ คุยไปคุยมาแกอยู่ ซอยประดู่ ถนนตกอ่ะค่ะ แต่ที่มาชลวันนี้แกมาดูบ้านให้หลานสะใภ้  

สรุปแม่เราอยากให้แกมาดูที่บ้านให้หน่อย  ก็มีการนัดวันกัน แม่เราขอขับไปรับแก  พอมาถึง เหมือนมีร่างปูมาลงอ่ะค่ะ  แกเดินขึ้นบันไดชั้น 3 บ้านเราไม่ไหว ทั้งที่ร่างอายุประมาน 50 กว่าๆอ่ะค่ะ ต้องให้พ่อกับแฟนเราพยุงขึ้น   แกก็บอกเลยว่า  ทุกห้องทุกชั้นที่ติดกับคลองหลังบ้าน  มีผีมาขออาศัยอยู่เป็น10   เพราะเป็นทางผีผ่าน คือเป๊ะเลย   แกก็เดินๆไปรอบห้อง   พูดเสียงแบบดุดันเลยว่า “วันนี้กูมาโปรด ไม่ได้มาปราบ แต่ถ้ามึงยังไม่อยุด มึงไม่ไป กูจะมาปราบ” 

สิ้นสุดที่ แม่เราอดใจรอ  จะย้ายบ้านปี 56  ส่วนออฟฟิตปี 60 คือมันอีกนานมาก  แต่ปู่คนนี้แกบอกว่า  ธุรกิจจะรุ่งสุดๆการเงินแม่เราจะเพิ่มพูดเป็นเศรษฐี จะหยิบจะจับอะไรก็จะมีแต่เงินแต่ทอง  จริงค่ะบอกเลย  ทุกวันนี้การเงินแม่เราพ่อเรา สะพัดมาก ทำอะไรไม่เคยติดขัดเลย หลังจากวันนั้นก็มีอะไรๆมาให้เห็นเหมือนเดิม แต่กลายเป็นเรื่องปกติของเราไปเลย

จนเวลาผ่านมา จนปี 56 แม่เราย้ายเข้าอยู่ที่บ้านหลังใหม่  ส่วนเราก็ย้ายจากห้องเช่ามาเช่าคอนโดที่แถวตลาดเอี่ยมสมบัติแทน เราชอบเที่ยวไง  อยู่ข้างนอกน่าจะสบายใจกว่า ส่วนบ้านหลังเดิมยังเป็นออฟฟิศอยู่ ช่วงนั้นเราหาซื้อน้องหมามาไว้ที่ออฟฟิศ  เอามานอนเฝ้าในยามกลางคืนที่ไม่มีใครอยู่   กลางวันเราก็อยู่กับมันเล่นกับมันปกติ  แต่พอเรามาเปิดประตูบ้านปุ๊บมันก็จะวิ่งนำหน้าขึ้นไปชั้น 2 แล้วหยุดยืน หน้าบันไดขึ้นชั้น 3 เห่าแบบบ้าคลั้งทุกครั้ง

จนมาเกิดเหตุการณ์สยองขี้หดตดหายอีกครั้งแบบลืมไม่ลงในปี 59 เดือนกรกฎาคม  บ้านเราเริ่มทะยอยย้ายพวกตัวอย่างรองเท้า  ของบางอย่างเข้าออฟฟิศใหม่ที่ศรีนครินทร์ มีอยู่วันนึ่งแม่กับพ่อไม่ได้เข้ามาที่ออฟฟิศเพราะว่าไปหาหมอที่  รัตนิน  โรงบาลตา แถวอโศก  เราเลยนั่งเล่นกับน้องหมา โทรศัพท์มาก็รับ  ใครมาวางบีแอล  รึวางบิลเราก็เซ็นต์ๆอย่างเดียว

อยู่ๆน้องหมาเราวิ่งขึ้นไปบนชั้น 2 เหมือนเดิม เห่าเหมือนเดิม จุดเดิม  เราก็แบบเฉยๆเดินขึ้นไปเรียกมาลง  แต่คราวนี้สิ  แจ็คพ๊อตแตก   มันดันวิ่งเข้าไปในห้องนอนเก่าเรา เราก็เดินตามไป ไปเปิดกระจกหลังบ้านมันก็วิ่งออกไป กระโจนโผ่หน้าออกไปทางลูกกรงเหล็กดัดมองโน่นี่นั่น  แล้วมันก็วิ่งออกนอกห้องย้อนไปเห่าจุดเดิม   เราก็หันไปมอง   แต่ทีนี้มันไปธรรมดาค่ะ   มันเห่าแล้วเดินถอยหลังกลับมาเข้าห้องนอนเราแล้วถอยเรื่อยๆอ่ะค่ะ เหมือนมันเดินหนีอะไรบางอย่าง  มันไม่เห่าแล้วค่ะ  มาขู่แต่สุดท้ายมันร้อง อิ๋งๆหางหดวิ่งมาหาเรา

เราก็แบบ  อะไรของมึงเนี้ย  อย่าแบบนี้ดิ   ข้าก็กลัวนะ เอ็งเห็นอะไร   คือมันเอาหน้ามาซุกเราแบบมันกลัวมาก  เราก็เริ่มขนลุกล่ะ ขาสั่นเลย  เราก็พูดเลยว่า  “อย่ามาให้เห็นแบบน่ากลัวนะ  อยู่แบบสงบสุขกันมาต้องนานล่ะ  จะมาอะไรอีกอ่ะ  พรุ่งนี้ทำบุญให้นะ”  

พูดไม่ทันจบเลย ผู้หญิงใส่ชุดขาวยาวเหมือนเดิมแต่มีเลือดที่ช่วงหน้าอก  คือผมนางนี้ปะบ่า  ก้มหน้า ลอยมาจากหน้าห้องน้ำชั้น 2 (คือห้องน้ำจะอยู่กลางระหว่างห้องนอนกับห้องทำงานแม่)  ลอยมาหยุดหน้าห้องนอนเราแล้วก็หันเลี้ยวเหมือนขึ้นชั้น 3 อ่ะ คือเราอึ้งมาก เห็นบ่อยนะ แต่คนเนี้ยไม่คุ้นอ่ะ มีเลือดด้วย สยองมาก เราหายใจแรงเลย น้ำตานี้ไหลไม่หยุดค่ะ พูดไม่ออก พอนางพ้นประตูไป ประตูห้องนอนปิดเองดังปัง!! เสียงดังสนั่นเลยค่ะ

คือเรากับน้องหมายืนอึ้ง  เราร้องไห้เลยน่ะ คือกลัวสุดๆ  เรารวบรวมสติได้เดินไปจับลูกบิดเรียกหมาเรา   “พร้อมนะ  เปิดแล้ววิ่งนะ ห้ามวิ่งเบียด เดี๋ยวเค้าตกบันได เข้าใจนะ”  พอเราเปิดปุ๊บ หมาเราสปีดสุดอ่ะ   เราก็ไม่แพ้หมาวิ่งลงชั้นล่าง ออกไปอยู่หน้าบ้านเลย  พอแม่กลับมาเราเล่าทั้งหมดให้แม่ฟัง   แม่เราบอกว่า “ใช่!! ฝันเห็นมะคืนมาเข้าฝันอยู่ ชุดเดียวกัน เลือดที่หน้าอกเยิ้มเลย”  พอตกกลางคืนเรากลับห้อง   เราก็ฝันฝันว่านางมาขอให้อย่าขายบ้านนี้  ไม่อยากให้คนอื่นมาอยู่ นางบอกว่า นางอยู่มาก่อน แต่นางไม่อยากออกมาให้เห็นเพราะนางสภาพแย่มาก กลัวจะอยู่กันไม่ได้

แต่ตอนเข้าฝันนางอยู่ไกลเรา  แต่เสียงนางพูด ดังชัดเจนมาก  เราก็พูดไปว่า “ไม่ได้อ่ะ  เรากลัว แม่เราก็จะขายบ้านนี้น่ะเพราะได้ที่อยู่ที่ทำงานใหม่แล้ว”  นางก็บอกว่า นางจะให้โชคคนที่อยู่  นางให้แม่เรามาตลอด   ถ้าเราไม่เชื่อนางจะให้  ปรากฏว่าจริงค่ะ!! นางบอกเลขมา 3 ตัวตรง  2 ตัวด้วย   คือเราซื้อทั้งล็อตเตอร์รี่   ฝากยายเราซื้อใต้ดินที่สมุทรปราการด้วย  รวมๆงวดนั้นเรากับแฟนถูกเป็นแสน  เชื่อไหม  กรกฎา   สิงหา  กันยา ตุลา พฤจิกา ธันวา เราถูกตลอด  เราซื้อล็อตเตอรี่ชุดล่ะ 1,500 บาททุกงวด  ใต้ดิน  งวดล่ะ 5000 เราไม่บอกใครเลยนะว่าผีบอกเรา บอกที่กระทู้นี่ที่แรก

จนเจ้ามือที่สมุทรปราการ  เค้าแขยงยายเราอ่ะ  ไม่อยากจะรับล่ะ งวดที่ผ่านมาเราก็ถูกเหมือนเดิม แต่มีวันที่เราจะคิดจะเขียนเรื่องนี้นั้นแหละผู้หญิงคนนี้ มาบอกว่า  ถ้าเราย้ายกลับมาอยู่บ้าน  ไม่ปล่อยให้บ้านร้างคน  รึว่าไม่ปล่อยขาย  นางจะให้เราถูกรางวัลใหญ่  เราไม่รับปาก  เพราะเมื่อต้นเดือนธันวา เราขอแม่แล้วว่า  เราจะไม่เช่าคอนโดแล้วเสียดายเงิน   เราจะกลับมาอยู่ที่นี่แทน

แม่เราบอกว่า ไม่กลัวแล้วเหรอ   เราก็ตอบไปว่าอยู่กับแฟน อยู่กับน้องหมา เราไม่กล้ว   แต่แม่เรายังยืนยันคำเดิมว่าจะขายเพราะปู่ที่ประทับร่าง เค้าบอกไม่ให้อยู่ ส่วนลุงโฮก็อยากให้ย้าย  เราก็ไม่รู้จะพูดยังไง  ไม่กล้าบอกแม่ว่าได้หวยจากผีนางนั้น  แต่ยายเราสงสัย เราก็อ้างไปว่าเลขของเพื่อนบ้าง อาจารย์ดังให้มาบ้าง  สรุปแม่เราได้วันดีของเดือนมีนาคม  เป็นวันเปิดออฟฟิศใหม่ค่ะ เรื่องราวทั้งหมดก็ประมาณนี้   เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง สถานที่มีอยู่จริงค่ะ…

Previous articleทางผีบอก…ขับรถหลงทางบนเขาใหญ่…รอดมาได้เพราะผีบอกทาง
Next articleเปิดเรื่องหลอน ม.ขอนแก่น มหาลัยที่เก่าแก่แห่งภาคอีสาน