นางรอง ตัดสินใจออกจากนรก แต่ดันมาเจอนรกอีกขุม

นางรอง

เรื่องราวนี่มาจากการบอกเล่าอีกเรื่องของน้องที่รู้จักคนนึงของผม ที่ชื่อว่า “คูณ” หนุ่มจากจังหวัดสกลนคร ซึ่งเล่าย้อนเรื่องราวประสบการณ์ที่เคยได้เจอมาให้ผมได้ฟัง 

ย้อนกลับไปเมื่อ พ.ศ.2550 หลังจากคูณเรียนจบมัธยมปลายได้สองปีแล้วก็ได้เข้ามาหางานทำในกรุงเทพ เป็นหนุ่มขึ้นมาใหม่อายุยี่สิบปี หางานทำอยู่เป็นเดือนก็ยังไม่ได้จนจะหมดหวังและเงินที่มีมา 

แต่เหมือนยังมีวาสนาฟ้าเปิด มีคนจ้างไปทำงานในอู่ซ่อมรถแถวชานเมือง แต่ว่าที่พักต้องหาเอาเอง หาไปหามาจนไปเจอบ้านชั้นเดียวอยู่หลังนึงตั้งอยู่ในทางลึกป่ายูคา มีบ้านอยู่สองหลังฝั่งเดียวกัน หลังนึงอยู่ปากทางเข้าหลังใหญ่พอประมาณ ส่วนอีกหลังเลยบ้านคูณไปอีกสิบเมตร 

วันที่ย้ายเข้ามาคูณก็คิดว่าบ้านแบบนี้ทำไมให้เช่าถูกจัง ค่ามัดจำก็ไม่เอา คือให้อยู่ก่อนเดือนนึงถึงค่อยจ่ายค่าเช่า แต่อีกมุมก็คิดว่าดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้วกัน ดูจากสภาพบ้านแล้วทำความสะอาดนิดหน่อยก็น่าอยู่เหมือนกัน 

วันแรกที่ย้ายเข้ามาหลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จก็บ่ายคล้อยเสียแล้ว เดินออกมาหน้าบ้านมองไปยังบ้านหลังสุดท้าย สายตาไปเจอกับผู้หญิงคนนึงดูยังเด็กมาก ผมยาวแค่บ่า เธอมองมาที่ตัวคูณแล้วยิ้มให้ คูณได้แต่ยิ้มและพยักหน้าให้เธอด้วย คิดว่าเป็นลูกสาวบ้านนั้นมั้ง แต่ก็ดีแปลว่าไม่ใช่บ้านร้างก็แล้วกัน 

หลังจากไปทำงานได้หนึ่งอาทิตย์ด้วยความที่ไปมาลำบาก เถ้าแก่ที่อู่เลยให้ยืมรถมอเตอร์ไซค์มาไว้ใช้  อยู่มาวันหนึ่งเป็นวันอาทิตย์ คูณหยุดงานก็พักผ่อนอยู่บ้าน ประมาณบ่ายสามโมงเย็นได้ยินเสียงเรียกอยู่หน้าบ้าน 

“พี่คะ พี่คะ” 

คูณออกมาดูเป็นผู้หญิงคนที่เห็นอยู่บ้านหลังสุดท้าย คูณเลยยิ้มให้แล้วเดินออกไปหา ในมือเธอมีถ้วยใส่แกงมา เธอยื่นคูณให้แล้วบอกว่า “หนูเอามาให้พี่นะคะเห็นว่าอยู่คนเดียว” คูณขอบคุณแล้วรับมาถือไว้ และพูดว่า “ฝากไปขอบคุณที่บ้านด้วยนะครับ” 

เธอเปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นหน้าเศร้าทันที คูณเลยถามว่าเป็นอะไร เธอไม่ตอบแต่หันหลังกลับไปซึ่ง มันก็เห็นว่าเธอมีน้ำตารินไหลออกมาพอดี แต่ก็เก็บความสงสัยไว้ในใจ 

คืนนั้นหลังจากคูณเข้านอนแล้ว มันได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิงสะอื้นลอยมาตามลม  จึงตื่นขึ้นมาเดินออกไปหน้าบ้านหันไปดูตามเสียง เห็นเป็นผู้หญิงคนนั้นนั่งร้องไห้อยู่ที่แคร่หน้าบ้าน 

ด้วยความสงสารมันจึงเดินไปหาเธอ พอเธอเห็นมันก็มองหน้าแล้วพูดว่า “ขอโทษนะคะพี่ ถ้าหนูทำให้พี่ต้องตื่นตอนนี้” คูณนั่งลงตรงข้ามเธอแล้วถามว่า 

“เป็นอะไรทำไมมานั่งร้องไห้แบบนี้” 

“พี่คะ ถ้าหนูบอกอะไรพี่ไป พี่จะเกลียดหนูไหม?” 

“ทำไมพี่ต้องเกลียดน้องด้วยล่ะ? มีอะไรหรือเปล่า” ” 

“หนูเป็นเมียน้อยค่ะพี่! อยู่บ้านหลังนี้คนเดียว” 

“อ้าว จริงเหรอ พี่นึกว่าน้องอยู่กับครอบครัวเสียอีก” 

“หนูถูกแม่ขายให้กับผู้หญิงคนนึงเธอเป็นแม่เล้า!” 

“หือ! อย่าบอกนะว่าซ่อง” 

“ใช่ค่ะพี่ หนูทำงานขายบริการอยู่สองปีแล้ว มีเสี่ยคนนึงมาเที่ยวแล้วใช้บริการกับหนู เขาชอบหนูมากเลยไถ่ตัวหนูมาจากแม่เล้า แล้วเอาหนูมาไว้ที่บ้านหลังนี้ค่ะ” 

“แล้วไม่รู้ว่าเขามีเมียแล้วหรือถึงยอมมากับเขา” 

“รู้ค่ะพี่ เขาบอกหนูแล้วว่าถ้ายอมรับในฐานะเมียน้อยได้จะไถ่ตัวและพามาอยู่ด้วย” 

“แล้วยอมเขาเหรอ?” 

เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “หนูคิดว่ามันน่าจะดีกว่าที่อยู่ในซ่องนรกนั้น บางวันหนูต้องรับแขกเกือบยี่สิบคน” 

“พี่เห็นใจเธอนะ แล้วที่ร้องไห้เพราะว่า” 

“หนูคิดถึงบ้าน หนูทรมานเป็นนางรองทุกอย่าง รองจากเมียหลวงเขา แล้วยังมาเป็นที่รองรับอารมณ์เขาอีก ทั้งความใคร่ทั้งตบตีเวลาที่เขาโมโหใครมา ฮือๆ” 

“ทำไมไม่หนีล่ะ?” 

“หนูไม่รู้จักใครเลยค่ะพี่ ไม่มีเงินและที่สำคัญเขาบอกถ้าหนูไปไหนจะให้ลูกน้องตามไปสืบเอาหนูกลับมาอยู่ที่นี่ตลอดไป” พูดจบเธอก็ร้องไห้ 

“แล้วเขาไม่มาแล้วเหรอเดี๋ยวนี้?” เธอพยักหน้าแทนคำตอบ 

คูณจึงบอกว่า “เดี๋ยวพี่จะหาทางช่วยนะ พี่สงสารเธอ”  

เธอเงยหน้ามาแล้วพูดว่า “ขอบคุณนะคะพี่ ปล่อยหนูไว้ตรงนี้เถอะค่ะ พี่ไปนอนได้แล้วพรุ่งนี้ต้องทำงานนี่นา” 

คูณเลยลุกขึ้นและบอกให้เธอรีบเข้านอน แล้วเดินกลับไปถึงบ้านกำลังจะปิดประตู จู่ ๆ มีรถเก๋งคันหนึ่งขับมาจอดที่บ้านเธอคนนั้น มันเดินไปดู เห็นเป็นผู้ชายแต่งกายภูมิฐานลงมาจากรถแล้วปรี่เข้าไปในบ้าน สักครู่ได้ยินเสียงร้องไห้และเสียงตบตีดังออกมา คูณคิดทบทวนไปมาว่าจะไปช่วยดีไหม แต่เรื่องผัวเมียไม่ยุ่งดีกว่า 

คูณตื่นมาตอนเช้าแต่งตัว เปิดประตูออกมา ปรากฏว่ารถเก๋งคันนั้นหายไปแล้ว มันจึงจูงรถมอไซค์ไปหน้าบ้านเธอ แต่เห็นบ้านปิดไว้เงียบสนิท ก็เลยไม่กล้าเรียก จึงขี่รถไปทำงานเลย 

หลังเลิกงานวันนี้ ซึ่งเลิกไว คูณเลยคิดจะหาซื้อของกินอร่อยๆมาทำ แต่จำได้ว่าน้ำปลาหมดเลยคิดว่าจะแวะซื้อร้านของชำก่อนทางเลี้ยวเข้าบ้านสักหน่อย ซึ้งปกติร้านนี้มันไม่เคยมาทันสักทีเพราะเลิกงานมาสามสี่ทุ่มแกก็ปิดร้านเสียแล้ว 

มาถึงร้านคูณก็จอดรถแล้วเดินลงไปในร้าน และเอ๋ยปากถามเจ้าของร้านว่า 

“ป้าครับ เอาน้ำปลาขวดนึง” 

“ได้จ้ะพ่อหนุ่ม ว่าแต่ไม่เคยเห็นหน้าเลย อยู่แถวไหนละเนี่ย?” 

“ผมอยู่ในซอยที่มีป่ายูคาถัดไปเนี่ยละครับป้า สักสองอาทิตย์แล้ว” 

“ห๊า! หนุ่มพูดจริงๆเหรอ อยู่บ้านหลังไหนอย่าบอกว่าหลังสุดท้ายนะ!” 

“อ๋อ ไม่ครับป้า ผมอยู่บ้านก่อนหลังสุดท้าย บ้านนั้นมีน้องผู้หญิงคนนึงอยู่” 

ป้าเอามือทาบอกหน้าถอดสีแล้วบอกว่า “พ่อหนุ่ม! ป้าบอกอะไรไปอย่ากลัวนะ ผู้หญิงที่บ้านหลังนั้นเป็นเมียน้อยที่เสี่ยมาเลี้ยงไว้” 

“ครับป้า ผมรู้เพราะน้องเล่าให้ฟังเมื่อคืนแล้ว” 

“คือป้าจะบอกว่าเสี่ยแกฆ่าน้องคนนั้นตายไปได้สองเดือนแล้วนะ ไม่รู้ทะเลาะกันเรื่องอะไรถึงทำกับเธอได้แบบนั้น” 

“ป้าอย่ามาโกหกผมเลย วันก่อนน้องยังเอาแกงมาให้ผมอยู่เลย” 

“ไม่เชื่อเหรอหนุ่ม” 

“อ่ะ ถ้าป้าว่าเสี่ยเขาฆ่าน้องแล้ว ฆ่ายังไงเอาศพไว้ไหน” 

“มันให้ลูกน้องมันมัดมือมัดเท้าแล้วเอาเธอฝังในหลุมดินทั้งเป็น” 

จังหวะนั้นพอดีมีลุงคนหนึ่งเดินเข้ามา เลยถามทั้งสองว่าคุยเรื่องอะไร ป้าเลยเล่าให้ฟัง ลุงหันไปตบไหล่คูณแล้วบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง วันนั้นแกขับรถปิคอัพเข้าไปว่าจะตัดไม้ยูคาไปทำแคร่ไม้ แล้วไปรถจอดหน้าบ้านหลังนั้น ก็ตัดไปได้สี่ห้าต้นแล้วเหนื่อยจึงเอากระสอบปูนอนหลับไป แล้วฝันว่ามีผู้หญิงคนนึงบอกว่าให้มาช่วยหน่อยถูกฝังไว้หลังบ้าน แกจึงสะดุ้งตื่นมา ได้ยินเสียงกระซิบว่าช่วยหนูด้วย แล้วก็สะอื้น พออีกวันแกเลยไปเอาเด็กหนุ่มอีกสองคนมาที่บ้านหลังนั้น แล้วไปที่หลังบ้าน ปรากฎว่าเจอหลุมขนาดย่อมๆอยู่ จึงตัดสินใจขุดดู เจอเป็นผู้หญิงถูกมัดมือมัดเท้าฝังอยู่จริงๆ ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่มาฝัน   แกตกใจ จึงขับไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน 

คูณได้ยินแบบนั้นก็ใจเสีย แล้วบอกกับตัวเองว่า ใช่เหรอ ก็ตอนคุยกันยังดูปกติเหมือนคนเลย พอกลับมาถึงบ้านก็นั่งพักจนเผลอหลับไป ตื่นมาราวสามทุ่ม คูณได้ยินเสียง “พี่คะพี่คะ หนูมีเรื่องให้ช่วยหน่อยค่ะ” จึงสะดุ้ง หันไปมองเห็นเป็นน้องคนนั้นยืนเกาะรั้วอยู่ คุณกลั้นใจเดินออกไปหา แล้วถามว่า 

“มีอะไรหรือ” 

“พี่ไปช่วยหนูย้ายแคร่ไม้หน้าบ้านหน่อยได้ไหมคะ” 

“ตอนนี้เนี่ยนะ” เธอพยักหน้า 

คูณเดินตามเธอไปห่างกันก้าวเดียว มันได้กลิ่นดินมาจากตัวเธอ ในใจตอนนั้นก็หวาดๆขนลุกขึ้นมา หรือว่าเรื่องที่ป้ากับลุงพูดมาจะเป็นเรื่องจริง 

พอไปถึงแคร่ คุณเลยถามว่า “พี่อยากถามอะไรหน่อยสิ” เธอหันมาแล้วยิ้มบอก “ได้สิคะพี่” มันถามว่า “มีคนบอกว่าน้องตายแล้ว เพราะถูกเสี่ยฆ่าใช่ไหม?” เธอหันกลับมาแล้วพูดว่า “พี่รู้แล้วเหรอ? หนูว่าจะไม่บอกแล้วนะไม่อยากให้พี่กลัว” แล้วอยู่ๆเธอก็ค่อยๆอ้าปาก มีดินออกมาจากปาก จมูกและหูของเธอ ตัวเธอก็หงายท้องแล้วดิ้นเหมือนคนขาดอากาศหายใจ 

คูณตกใจรีบวิ่งไปให้ไกลที่สุด มารู้สึกตัวอีกทีคือสลบอยู่หน้าร้านขายของชำป้าคนนั้นแล้ว แกมาปลุกพร้อมกับถามว่ามานอนอยู่นี่ได้ไง มันเล่าเรื่องราวเมื่อคืนที่ได้เจอให้ฟัง แกบอกน่าสงสารเธอนะทรมานขนาดนั้นดวงวิญญาณยังไม่สงบด้วยอีก 

คูณเลยถามว่า พอจะมีใครไปช่วยย้ายบ้านได้ไหม ป้าบอกเดี๋ยวแกให้สามีแกไปช่วยขนของแล้วกัน มันบอกของไม่เยอะมีกระเป๋าเสื้อผ้า พัดลม หม้อหุงข้าวเล็กๆกับวิทยุทรานซิสเตอร์ธานินทร์อีกเครื่องนึง 

พอไปถึง ขนเสร็จแล้วก่อนออกจากที่นั่น คุณได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้ลอยตามลมมาจากบ้านหลังนั้น เท่านั้นแหละ ทั้งลุงและคูณก็รีบพากันออกมาทันทีโดยไม่หันกลับไปมองอีกเลย เพราะกลัวเจอน้องคนนั้นอีก เรื่องราวมีเท่านี้ครับ………

Cr. หาญ ใจสิงห์ 

Previous articleช่างสักเลี้ยงผี สักแบบนี้ ต้องมีครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ ไม่ใช่ว่าคิดจะสักก็สักเลย
Next articleพิธีกรรมหลบยมบาล ถ้าทำแบบนี้แล้ววิญญาณจะอยู่กับที่ ไม่มีใครเห็น และจะไม่ถูกยมทูตพาตัวไปไหน