Home คลังหลอน ช่างสักเลี้ยงผี สักแบบนี้ ต้องมีครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ ไม่ใช่ว่าคิดจะสักก็สักเลย

ช่างสักเลี้ยงผี สักแบบนี้ ต้องมีครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ ไม่ใช่ว่าคิดจะสักก็สักเลย

ช่างสักเลี้ยงผี สักแบบนี้ ต้องมีครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ ไม่ใช่ว่าคิดจะสักก็สักเลย

เปิดประสบการณ์หลอนของคุณเนตร ธนัชพงศ์ จากช่องยูทูป พาเที่ยว เลี้ยวไปหลอน ที่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและรับรู้โดยตรง เป็นเรื่องราวของน้องคนหนึ่งที่ทำงานด้วยกัน จนวันหนึ่งน้องเขาได้ลาออกไปเช่าเปิดร้านสักอยู่กับแฟน ซึ่งทำเลของบ้านนั้นไม่ค่อยดีนัก เพราะอยู่สุดซอย แต่น้องเขากับมีลูกค้าไม่ขาดสาย เหตุเพราะน้องเขาได้ไปรับของมาอย่างเข้ามาไว้ในบ้าน…หลังจากนั้นไม่กี่เดือนถัดมาได้เกิดเหตุการณ์สุดสยิอง จนต้องย้ายออกจากบ้านหลังนี้

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 8 ปีก่อน ตอนนั้นคุณเนตรทำงานเกี่ยวกับจิวเวลรี่อยู่แถวๆสีลม และได้รู้จักกับน้องคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน จนสนิทกัน ชื่อว่าน้องนัท อายุประมาณ 30 ปี 

เจ้านัทเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มีหัวคิดทันสมัย มีความชอบทางด้านศิลปะ ชอบวาดรูป และรักในการสัก พร้อม ๆ ทำงานจิวเวลรี่ไปด้วย เจ้านัทมีอาชีพเสริมอีกอาชีพนึง คือช่างสัก ก็จะรับสักทั่วไป แต่ฝีมือของเจ้านัทจัดว่าค่อนข้างเก่งเลยทีเดียว 

จนเวลาผ่านไปสักประมาณ 5-6 เดือน หลังจากที่ทำงานจิวเวลรี่ด้วยกันมาเกิน 2 ปี เจ้านัทก็มาบอกว่ากับคุณเนตรว่าอยากจะไปเปิดร้านสักจริงๆจังๆ เพราะว่าตอนนี้เริ่มมีลูกค้าเข้ามาสักด้วยเยอะขึ้น จึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลา เป็นเหตุให้ตื่นสาย มาเข้างานช้า จนเกิดผลเสียกับงานประจำค่อนข้างเยอะ 

ก็เลยมาตัดสินใจบอกกับคุณเนตรว่าจะขอลาออกไปเปิดร้านสักเต็มตัว  โดยจะหาเช่าตึก 2 ชั้นอยู่ เพื่อเปิดด้านล่างเป็นร้านสัก และให้แฟนที่ชื่อ หนิง ทำงานตามปกติ คุณเนตรก็เห็นดีเห็นงามด้วยเพราะเห็นว่าเจ้านัทนั้นมีฝีมือทางด้านนี้ค่อนข้างสูง 

แต่พักหลังๆคุณเนตรสังเกตว่าเจ้านัทจะสักเป็นรูปบรมครูต่างๆ คุณเนตรก็เลยให้คำเตือนกับว่า  “ถ้าน้องจะสักแบบนี้ ต้องมีครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ และให้คำแนะนำที่ถูกต้องนะ ไม่ใช่ว่าคิดจะสักก็สักเลย เพราะสิ่งเหล่านี้เขามีบรมครู ถ้าเราไม่ขออนุญาตหรือทำไม่ถูกต้อง อาจจะเป็นผลเสียกับตัวเราได้” 

จากนั้นคุณเนตรก็ให้คำแนะนำและบอกให้เจ้านัทไปยังสถานที่ที่หนึ่ง ซึ่งจะมีการครอบครู มีการทำพิธีต่างๆ เจ้านัทก็รับปาก แล้วทั้งสองก็ลาจากกัน ณ วันนั้น ซึ่งคุณเนตรก็ไม่รู้ว่าน้องเขาจะทำหรือเปล่า 

หลังจากที่ลาจากกันวันนั้นแล้ว เจ้านัทก็ได้ลาออกจากที่ทำงานไปเช่าบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้นอยู่ และเปิดร้านสักเป็นของตัวเองอย่างที่ตั้งใจไว้ 

วันเวลาผ่านไป 2 เดือน หลังจากที่ไม่ติดต่อกันเลย จู่ ๆ วันนั้นเจ้านัทก็โทรมาหาคุณเนตร โทรมาบอกว่า “พี่เนตร รบกวนมาดูบ้านให้ผมหน่อย ว่าทำเลที่ผมเช่าอยู่นี้มันโอเคไหม” คุณเนตรก็ตกลงเดินทางไปดูบ้านที่เจ้านัทเช่าอยู่ให้ 

พอไปถึง ก็พบว่าบ้านหลังของเจ้านัทนั้นต้องเข้าไปสุดซอย แถมยังเป็นซอยตันอีกต่างหาก เรียกว่าหลังสุดท้ายของหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งด้านหน้าปากซอยจะมีร้านซักผ้าหยอดเหรียญ มีร้านเสริมสวย แต่บ้านที่เจ้านัทอยู่นั้นอยู่ด้านในสุดเลย เลยตัวบ้านไปอีกนิดนึงจะเป็นป่า 

คุณเนตรคิดในใจ “เฮ้ย คุณจะมาเปิดร้านสัก ทำเลมันก็ต้องดีนิดนึงสิ ป้ายชื่อร้านมันต้องเห็นได้ชัด บ้านควรจะต้องอยู่ติดริมถนนหรือเปล่า แต่นี่กลับอยู่ในซอยลึกมาก” 

คุณเนตรจึงพูดตรงๆกับเจ้านัทไปว่า “เฮ้ยน้อง พี่ว่าทำเลมันไม่ค่อยดีนะ ทำไมนัทเลือกบ้านหลังนี้” เจ้านัทก็บอกว่า “ผมน่ะ มีของดี ผมมีวิธีเรียกลูกค้า เนี่ย วันๆหนึ่ง ลูกค้ามาหาผมเป็น 10 คนเลยนะ” 

คุณเนตรก็คิดในใจว่า นิสัยของเจ้านัทมันก็เป็นคนชอบพูดจริงจัง ไม่ชอบขี้โม้ง สงสัยจะได้ลูกค้าจากทางออนไลน์ละมั้ง จึงพูดกับเจ้านัทไปว่า “เออ…ถ้าเกิดมันเป็นอย่างนั้น ก็ไม่เป็นไร ถึงแม้ทำเลมันจะไม่ค่อยดี แต่เราทำดีบริการลูกค้าดี พี่ว่าไม่น่าจะเป็นไร” เจ้านัทก็บอกว่า “โอเคครับพี่ ขอบคุณมาก” หลังจากนั้นก็พูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันไปเรื่อย 

ผ่านไปอีก 2 เดือนกว่าๆ วันหนึ่ง หนิง แฟนของเจ้านัท ก็โทรมาหาคุณเนตร  ด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายว่า “พี่เนตร ๆ ช่วยหนูหน่อย ตอนนี้พี่นัท มันเอาเข็มสักมาจี้แขนตัวเอง เลือดไหลเต็มเลยพี่ อยู่ดีๆเค้าก็เป็นแบบนี้ พี่เนตรช่วยมาดูหน่อยนะ”

หลังจากที่หนิงวางสายไป ด้วยความที่บ้านอยู่ไม่ไกลกันมาก คุณเนตรจึงตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์ไปที่บ้านของเจ้านัททันที พอไปถึงก็เห็นว่าเจ้านัทกำลังเอาเครื่องสักไฟฟ้าจี้ย้ำ ๆ ไปที่แขนตัวเองตลอดเวลา จนเลือดไหลเต็มแขน  

พอคุณเนตรเข้าไปสะกิด เรียกเจ้านัทให้ได้สติ “เฮ้ยไอ้นัท เอ็งทำอะไรของเองวะเนี่ย”  แต่เสียงที่ตอบกลับมา มันกลับไม่ได้เสียงที่คุ้นเคย เพราะมันไม่ใช่เสียงของเจ้านัท “มึงอย่ามายุ่ง” คุณเนตรก็ตกใจ เพราะปกติแล้วเจ้านัทจะเป็นคนสุภาพ และนับถือคุณเนตรเป็นอย่างมาก 

คุณเนตรนึกในใจสงสัยว่าเจ้านัทเป็นอะไรกันแน่ พอคิดได้เช่นนั้น (ต้องบอกก่อนว่า นี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โดยปกติแล้ว คุณเนตรจะพบองค์ท้าวเทพสุวรรณ ยันต์เกราะเพชร และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่นับถือติดตัวไว้ตลอด)  

พอนึกขึ้นได้ คุณเนตรก็เลยเอาองค์ท้าวเทพสุวรรณ ออกมากำไว้ในมือแล้วก็กดลงไปที่กลางศีรษะของเจ้านัท  พร้อมกับท่องคาถาบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณไปด้วย พอท่องไปได้ครึ่งบท หน้าเจ้านัทก็หน้าทิ่มลงกับพื้น หยุดทำทุกสิ่งอย่าง สะลึมสะลือ เหมือนคนหมดสติ  

คุณเนตรเห็นเลือดของเจ้านัทไหลเต็มพื้นไปหมด จึงบอกให้หนิงโทรเรียกรถพยาบาล สักพักรถพยาบาลก็ขับเข้ามาในซอย รับตัวเจ้านัทไปส่งที่โรงพยาบาล 

แล้วคุณเนตรและน้องหนิง พากันก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปที่โรงพยาบาล พอมาถึงโรงพยาบาลหนิงก็เอาแต่ร้องไห้ สงสัยว่าทำไมแฟนตัวเองถึงเป็นแบบนี้ 

หลังจากที่เจ้านัทเข้าห้องฉุกเฉินไป คุณเนตรก็นั่งอยู่กับน้องหนิงที่หน้าห้องฉุกเฉิน คุณเนตรก็เลยถามน้องหนิงหว่า “หนิง…พี่ถามหน่อย เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไง 2 เดือนก่อนที่เราเจอกัน เจ้านัทมันยังหน้าตาแจ่มใส อัธยาศัยดีอยู่เลย” 

น้องหนิงเลยเล่าให้ฟังว่า “หนูเห็นพี่นัทเขาไปรับขันธ์อะไรบางอย่างมาก็ไม่รู้ พอเอาขันธ์นั้นเข้ามาในบ้าน พี่นัทก็เอาพระทั้งหมดลงจากหิ้งพระ  แล้วนำไปขันธ์นั้นไปวางบนหิ้งพระแทน แล้วก็เอาพระออกไปจากบ้านหมดเลย 

หนูแอบไปดูในขันธ์ ปรากฏว่ามันมีเหมือนรูปปั้นรูปคนหนึ่งตัว และก็มีบายศรีเต็มเลย ตั้งแต่นั้นมาพฤติกรรมของพี่นัทก็เริ่มเปลี่ยนไป ในทุก ๆ วันพี่นัทจะไปซื้อเนื้อสดๆ มาใส่จานเล็กๆ แล้วก็เดินออกไปตรงป่าข้างบ้าน หนูก็เลยตามไปแอบดู เห็นพี่นัทเอาจานใส่เนิ้อไปวางตรงป่าข้างบ้าน แล้วก็จุดธูปดอกหนึ่ง พร้อมกับท่องคาถาไหว้อะไรสักอย่าง หนูเห็นพี่นัททำแบบนี้ทุกวันเลย ซึ่งช่วงแรก ๆ หนูก็ไม่กล้าถาม แต่พอถามก็ไม่ยอมตอบ 

หลังจากที่พี่นัทไปรับขันธ์นี้มา น่าจะไม่เกิน 2 อาทิตย์ พี่นัทเริ่มเปลี่ยนไป เวลาอยู่กับหนูจะไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่พอลูกค้ามา จะพูดจาดี และที่สำคัญ ตอนดึกๆพี่นัทจะชอบลุกขึ้นมาคนเดียว หนูก็เลยตามไปดู ถึงได้เห็นว่า พี่นัทเอาเข็มสักมาจิ้มที่แขนตัวเอง จนเลือดไหล สักพักก็กลับขึ้นไปนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

ปรากฏว่ารุ่งเช้าวันถัดมา พี่นัทไม่รู้ตัวว่าเมื่อคืนทำอะไรไป ทั้งๆที่แขนตัวเองยังเต็มไปเลือด เหตุการณ์เป็นแบบนี้อยู่นาน และด้วยความที่หนูเป็นวัยรุ่น ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ จึงไม่รู้จะปรึกษาใคร แต่ครั้งนี้ที่หนูโทรหาพี่เนตร เนื่องจากพี่นัทอาการเริ่มหนักขึ้น คือจากเมื่อก่อนแค่จิ้มแขน ก็เริ่มลามไปจิ้มที่ขาด้วย จากแค่กลางคืน คราวนี้จิ้มทั้งวันทั้งคืนเลย หนิงไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยตัดสินใจโทรหาพี่เนตร เพราะถ้าจะโทรหาพ่อแม่พี่นัท ก็กลัวพวกท่านจะเป็นห่วง และอีกอย่างก็เดินทางมาลำบาก” 

พอคุณเนตรได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็รู้สึกว่าเจ้านัทมันจะต้องไปรับขันธ์อะไรบางอย่างที่มันไม่ถูกไม่ควรมาแน่ๆ 

หลังจากที่คุณหมอปฐมพยาบาลเจ้านัทเสร็จ ก็พาออกมาพักฟื้นที่ห้องธรรามดา คุณหมอได้ลงความเห็นว่า ให้เจ้านัทพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล 1 คืน ซึ่งอาการก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมาก รอยแผลที่เป็นอยู่มันก็ไม่ได้ลึกมาก แต่มันมีหลายจุด ก็เลยตัดสินใจให้นอนพักอีกคืน 

คุณเนตรได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้านัท ปรากฏว่าเจ้านัทมีอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดเลย เอาแต่ระแวงมองซ้ายมองขวา เหมือนคนที่กำลังกลัวอะไรบางอย่างสุดขีด คุณเนตรก็เลยเข้าไปกุมมือเจ้านัท แล้วบอกว่า 

“นัท นัทมีอะไรต้องเล่าให้พี่ฟังทั้งหมดนะ ถ้าไม่เล่าให้พี่ฟังมันจะแก้ปัญหาไม่ได้” เจ้านัทก็เลยเล่าให้ฟังว่า “หลังจากที่พี่เนตรบอกให้ผมไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่มีครูบาอาจารย์ แต่ผมไม่ได้ไป ผมไปเชื่อเพื่อนผม เพราะเพื่อนผมมันไปรับของดีมา เป็นพวกของสายเสน่ห์ จากที่ตำหนักตำหนักนึง ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อนก็เลยแนะนำว่าให้ไปที่นี่ 

ด้วยความที่ผมรู้จักกับเพื่อนคนนี้มานานแล้ว ผมก็เลยไปตามคำแนะนำของมัน พอไปถึงก็เจอเจ้าของตำหนัก เขาบอกผมว่า “ถ้ารับขันธ์นี้ไป ลูกค้ามึงจะเต็มร้าน” ปรากฏว่าหลังจากที่ผมรับขันธ์นี้มา ลูกค้าก็เต็มร้านจริงๆ วันๆนึงสักกันแทบไม่ทันเลย 

แต่มันมีข้อเสียตรงที่ว่า ตื่นเช้ามาห้ามพูดคุยกับใคร และให้ไปซื้อเนื้อที่ตลาดสด จะเป็นเนื้อวัว เนื้อควาย เนื้อหมู เนื้อเป็ด เนื้อไก่ เนื้ออะไรก็ได้ แล้วเอามาใส่จาน ตามด้วยท่องคาถา ที่เจ้าของตำหนักนี้ให้มา (ซึ่งพอคุณเนตรได้เห็นคาถานี้แล้ว ก็รู้ว่า มันไม่ใช่ภาษาบาลี หรือบทสวดที่มีอยู่ในประเทศไทย) 

ผมได้ทำแบบนี้ทุกครั้งมาโดยตลอด ลูกค้าก็มาไม่ขาดสาย แต่พอถึงเวลากลางคืน ผมจะรู้สึกว่าผมไม่เป็นตัวของตัวเอง มารู้สึกตัวอีกทีตอนเช้า ก็พบว่ามีเลือดไหลเต็มแขนตัวเองไปหมดแล้ว 

ผมไม่กล้ากลับไปที่บ้านแล้ว ผมกลัว เพราะภายในบ้าน มันมีเงาดำหลังใหญ่ๆ คอยมาคุมตัวผม และทำให้ผมไม่รู้สึกตัวตลอดเวลา 

พอคุณเนตรได้ฟังแบบนั้น ก็รู้สึกสงสารเจ้านัท จึงติดต่อไปยังพระรูปหนึ่งที่คุณเนตรนับถือ พระอาจารย์รูปนี้ท่านบอกว่า “ถ้าเหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ ก็ให้นำขันธ์ใบนั้นมา เดี๋ยวอาจารย์จะจัดการให้” 

หลังจากวันนั้น คุณเนตรก็กลับไปที่บ้านของเจ้านัทในเวลากลางวัน เพื่อไปเอาขันใบนั้นมาให้พระอาจารย์   ระหว่างนี้ก็ได้ให้เจ้านัทไปอยู่ที่อื่นก่อน ไม่ให้กลับไปอยู่ที่บ้าน 

พอคุณเนตรไปถึงที่วัดพร้อมกับขันธ์ พระอาจารย์ก็บอกว่า  “ต้องพาตัวเจ้านัทมาด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะแย่” คุณเนตรก็เลยวนรถกลับไปรับเจ้านัทมาหาพระอาจารย์ พอเจ้านัทเห็นขันธ์เท่านั้นแหละ  เจ้านัทก็ร้องโหวกเหวกโวยวายออกมาว่า  “มึงเอากูมาทำไม” ด้วยความที่เป็นเวลากลางวัน คนมาวัดกันเยอะ ทำให้คนแตกตื่นกัน 

แล้วพระอาจารย์ก็เริ่มทำพิธีบางอย่าง คือสวดบังสกุลเป็นบังสกุลตาย เพื่อเป็นการปลดปล่อยวิญญาณอะไรบางอย่างที่อยู่ในขันธ์ใบนี้ แล้วก็พาเจ้านัทไปรดน้ำมนต์ ทำพิธี ทุกอย่างที่พระอาจารย์ท่านจะสามารถทำได้ 

หลังจากเสร็จพิธีก็ให้นุ่งขาวห่มขาวอยู่ที่วัดเป็นเวลา 3 วัน ส่วน น้องหนิง พระอาจารย์ท่านก็ให้อาบน้ำมนต์ไปด้วย หลังจากเสร็จพิธีทุกอย่าง พระอาจารย์ท่านก็ให้น้ำมนต์คุณเนตรมา เพื่อนำไปประพรมที่บ้านของเจ้านัท ส่วนขันธ์ใบนั้นพระอาจารย์ได้นำไปทำพิธีต่างๆต่อ

หลังจากนั้น 3 วันผ่านไป อาการของน้องนัทก็เริ่มดีขึ้น  เจ้านัทกับน้องหนิงก็ได้ย้ายออกจากบ้านหลังนั้นไปอยู่ที่อื่น 

ล่าสุดคุณเนตรติดต่อกลับไปหาเจ้านัทแต่เป็นคุณพ่อของเจ้านัทที่รับสาย ถึงได้รู้ว่า เจ้านัทและหนิงได้เลิกกันแล้ว ซึ่งเจ้านัทได้กลับไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านต่างจังหวัด 

คุณพ่อของเจ้านัทบอกว่า เจ้านัทมีอาการที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง บางครั้งก็เป็นตัวของตัวเองบ้าง บางครั้งก็เป็นคนอื่นบ้าง โดยที่บางครั้งก็ลุกขึ้นมาโวยวายว่า กูกลัว!! กลายเป็นคนที่หวาดระแวงไปทั้งชีวิต 

เรื่องนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นอุทาหรณ์ชั้นดีให้กับหลายคนที่ฟังอยู่ ณ ขณะนี้ ว่าการที่เราจะไปรับขันธ์ หรือการที่จะไปทำอะไรที่มันเหนือธรรมชาติ บางครั้งมันต้องแลกมาด้วยผลเสีย ทางที่ดีก็อย่าไปรับของพวกนี้เลย 

ทุกคนลองพิจารณาเอาแล้วกันว่าการที่เราจะไปรับขันธ์ ทำพิธีอะไรต่างๆที่มันเหนือธรรมชาติ ก็โปรดให้คิดไว้อย่างหนึ่งว่า มันมีผลเสียตามมาแน่ 

การไหว้พระสวดมนต์ทุกวัน การทำดี รู้จักให้ แบ่งปันกัน การทำบุญใส่บาตร ถือว่าดีที่สุดแล้ว อย่าไปยุ่งกับสิ่งพวกนี้เลยละกัน

ขอบคุณเรื่องจาก พาเที่ยว เลี้ยวไปหลอน คนเลี้ยงผี – เนตร ธนัชพงศ์ ถอดความโดยคลังหลอน

***บทความ Rewrite ห้ามคัดลอกไปลงที่อื่น หรือนำไปดักแปลงลง Youtube

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here