“หิวบุญกันนักรึ หออะไรมีแต่ผีเต็มไปหมด..!! เหตุเกิดที่หอพักแห่งนึง ใกล้หาดบางแสน จ.ชลบุรี”
กระแสแรงเหมือนกัน เกี่ยวกับหอพัก คอนโด อพาร์ทเม้นต์ แห่งนึงที่อยู่แถวๆ บางแสน เขาว่าที่นี่คือเฮี้ยนนักเฮี้ยนหนา..!
จริงๆเรื่องราวของที่นี่ ก่อนหน้านี้ทางเพจ สยองขวัญวาไรตี้ บอกว่าเคยได้ยินมาสักพักและ แต่ที่มันมาสะดุดก็เพราะพอไล่เรียงถามไป ปรากฎว่าหวยมาออกว่าเป็นที่เดียวกันด้วยสิ..ดังเรื่องที่จะมาเล่าให้ฟังวันนี้
เรา (ผู้เล่า) เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถวบางแสนค่ะ จริงๆ เป็นคนต่างจังหวัด ที่เข้ามาเรียนเพราะบ้านน้าอยู่แถวชลบุรีก่อนแล้ว เราพักอยู่หอพักแห่งหนึ่งแถวๆ ม. เป็นตึกแฝด 8 ชั้น เกริ่นแค่นี้บางคนคงทราบแล้ว
วันแรกที่พ่อกับแม่พาเราย้ายมาหอนี้ ต้องบอกก่อนนะคะว่าเราหาหอผ่านทางอินเตอร์เน็ตค่ะ ยังไม่เคยเห็นหอจริงๆมาก่อน มาเห็นครั้งแรกก็ตอนจ่ายค่ามัดจำและพี่คนดูแลหอพาไปดูห้องนั่นแหละค่ะ
แต่ตอนเราไปจ่ายค่ามัดจำ ไปจ่ายอีกตึกค่ะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตึกแฝดไปประมาณ 100 เมตร ตอนแรกเราก็รู้สึกโอเคนึกว่าจะได้อยู่ตึกที่มาจ่ายค่ามัดจำ แต่พี่คนดูแลหอบอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นอีกตึกที่ตั้งอยู่ถัดไปอีก ก็ตึกแฝดนั่นแหละ
เราได้ห้องพักชั้น 2 ค่ะ ห้องที่เราพักจะอยู่ตรงกับประตูลิฟท์แบบพอดีเป๊ะๆ ความรู้สึกแรกที่เปิดห้องไปเหมือนในหนังผีเป๊ะเลยค่ะ ลมอะไรไม่รู้พัดผ่านหน้าไป แต่ในใจตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรนะคะ คิดแค่ว่าห้องใหม่ๆ กำลังเห่ออยู่
พอพี่คนดูแลหอแนะนำอะไรเสร็จเขาก็กลับไป เราก็เดินไปถามแม่เลยค่ะว่ารู้สึกอะไรไหม ? (แม่เรามีสัมผัสที่หก )
เราไม่รู้ว่าเพราะแม่ไม่อยากให้เราคิดอะไรมากรึเปล่า แม่บอกเราว่ารู้สึกเฉยๆ เราก็โอเค หลังจากนั้นเราก็ไปไหว้ศาลตรงหน้าหอตามธรรมเนียม พอเสร็จก็เข้ามาจัดของ บอกก่อนว่าห้องเราไม่มีพระนะ
จุดเริ่มต้นมันอยู่ตรงคืนแรกนี่แหล่ะค่ะ ด้วยความที่เดินทางไกลแล้วพ่อขี้เกียจขับรถไปนอนบ้านน้า สรุปพ่อกับแม่เราก็เลยนอนพักที่หอเราก่อน
ในตอนที่เราหลับ เราฝันว่าหอเรากลายเป็นตึกร้างที่มีผีอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ..! เรากลัวมาก วิ่งหนีเท่าไหร่ก็วนกลับมาที่เดิมตลอด ในฝันก็มีเสียงหัวเราะขึ้นมา เรามองไปตามเสียงหัวเราะนั้น เห็นผู้หญิงผิวขาวใส่ชุดสีชมพูหน้าตาสวย ไว้ผมยาวมาก เธอปล่อยผมให้ลากพื้น กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ที่มันโยกได้ ส่วนข้างๆ มีผู้หญิงยืนอยู่อีกคน เนื้อตัวขาวซีดและหน้าตาน่ากลัวมองมาที่เรา..!
ผู้หญิงคนที่ใส่เสื้อสีชมพูชี้นิ้วมาที่เรา แล้วบอกให้เราเดินไปนับตุ๊กตา (ที่ศาลที่อยู่ติดกับทางเข้าหอ) ด้วยความกลัวเน๊อะเราก็ไปนับ นับครั้งแรกได้ 6 ตัว แล้วผู้หญิงคนนั้นก็บอกให้เรานับอีก แต่พอนับอีกทีได้ 4 .. แล้วเขาก็หัวเราะ หัวเราะแบบสะใจมากๆ จากนั้นก็ไม่มีอะไร
พอเช้ามาเราเล่าความฝันให้แม่ฟัง แม่บอกเราว่าเขามาให้หวยรึป่าว แต่แม่ไม่ซื้อค่ะ ตกตอนเย็นมา หวยออกตัวนั้นจริงๆ (ย้ายเข้าหอวันที่ 15 หวยออกวันที่ 16 ) แม่เรานี่ร้องกรี๊ดเลยค่ะ เพราะเสียดายที่ไม่ซื้อ 55
พอถึงวันที่มหาลัยเปิดเทอมแม่เราก็ต้องกลับ ใจนี่หายแว๊บเลยเพราะไม่อยากให้แม่กลับ มันกลัวๆ
คืนแรกที่เราต้องอยู่คนเดียวในที่ที่ไม่คุ้นเคยก็มาถึง ช่วงแรกๆเราก็นอนปกติ ไม่มีอะไรไม่ฝันอะไร แต่หลังๆ เหมือนจะหลับไปแล้ว แต่อยู่ๆ ก็หายใจไม่ออก ขยับตัวไม่ได้ แล้วความรู้สึกก็เหมือนโดนผีอำ
สายตาเรามองไปที่ปลายเตียงไม่เจออะไรค่ะ แต่มันดันมีที่ข้างเตียง เป็นผู้หญิงตัวดำเห็นหน้าแค่ครึ่งนึง เธอมากระซิบข้างๆหูเราว่า “ขอบุญหน่อย ช่วยทำบุญให้หน่อย..!”
เมื่อได้ยินแบบนั้นน้ำตาเราไหลออกมาเลยค่ะ กลัวมาก ท่อง พุทธโธ ธรรมโม สังโฆ อยู่หลายรอบกว่าจะไป..
พอเช้าวันถัดมาเราก็รีบไปทำบุญที่วัดแสนสุขให้ในทันทีค่ะ ทำทั้งถวายสังฆทาน ทั้งใส่บาตรตอนเช้าที่หนองมน พอทำบุญเสร็จก็โล่งใจมาก คิดว่าคงไม่เจออะไรแล้ว แต่ปรากฎว่าเราคิดผิด..!
พอตกกลางคืนก็เป็นเหมือนเดิมค่ะ อาการผีอำมาอีกแล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้มาตัวเดียวเหมือนคืนก่อน ทีนี้มานั่งมายืนเต็มห้องเราไปหมดเลยค่ะ..!
เราพยายามขยับตัวแต่ก็ขยับไม่ได้ ท่องนะโม สวดมนต์ ก็แล้วก็ยังไม่มีผลอะไร แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนนึงตะโกนมาใส่หูเราว่า “ทำบุญให้กู ถ้าไม่ทำ กูจะเอาไปอยู่ด้วย..!”
ด้วยความที่กลัวบวกกับความสงสัยว่าใครเป็นคนพูด เราก็เลยเหลือบตาไปมอง ปรากฎเป็นผู้ชายร่างท่วม ไม่เห็นหน้าค่ะ แต่รู้สึกได้ว่าน่ากลัวมากจริงๆ
ในใจตอนนั้นคิดถึงหน้าพ่อกับแม่ทันทีค่ะ ท่องไว้ในใจตลอดในเมื่อสวดมนต์แล้วไม่ช่วย ก็ขอให้บุญของพ่อกับแม่คุ้มครองลูกด้วยเถอะ
แล้วก็ได้ผล หลุดค่ะ.. ! เราสะดุ้งตื่นขึ้นมาเลย และพอคิดย้อนถึงความฝัน เลยเกิดความสงสัยว่าแล้วทำไมมาขอเราต้องมาขู่ ถ้าขอก็ควรจะมาขอดีๆ สิ นี่เล่นมาขู่ว่าจะเอาไปอยู่ด้วย ความรู้สึกเราเริ่มไม่สนไม่แคร์แล้ว นึกในใจว่าถ้าคุณขู่ เราก็ไม่ทำค่ะ จะเอายังไงก็เอา แล้วเราก็ไม่ทำให้เขาจริงๆ
จนวันถัดมาก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ คือเราโดนรถชนค่ะ มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว พี่ที่เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ขณะที่เราขี่มอไซค์อยู่ จู่ ๆ มีรถจากไหนไม่รู้วิ่งมาชน เรากลิ้งไปกลางถนน ซึ่งขณะนั้นก็มีรถยนต์ขับตามหลังมาด้วย แต่ยังดีถ้าพี่เขาไม่วิ่งไปดึงเราเข้ามาข้างถนน รถยนต์คันนั้นคงเหยียบหัวเราเละไปแล้วก็ได้ ต้องขอบคุณพี่เขาจริงๆ..!
ตอนนั้นคิดว่าเป็นเพราะเราไปท้าทายเขารึป่าวนะ ที่ไม่ยอมไปทำบุญให้เขา แต่อีกใจนึงก็คิดว่าอาจจะบังเอิญก็ได้ แต่ถึงยังไงก็ตามแล้วแต่เชื่อไว้ก่อนค่ะ
เมื่อพ่อกับแม่เรารู้ พ่อรีบมาหาเราทันทีเลยค่ะ แล้วหลังจากออกมาจากโรงพยาบาล พ่อก็รีบพาไปทำบุญ แล้วไปเช่าพระมาไว้ที่ห้องเรา เรื่องเหมือนจะจบใช่มั้ยคะ ? แต่มันยังไม่จบค่ะ จากที่โดนผีอำทุกวัน กลายมาเป็นอำทุกวันพระ ( บางคนคงสงสัยว่าทำไมไม่ย้ายออกไป คำเดียวสั้นๆเลยค่ะ คือเสียดายค่าประกัน)
เราต้องทำบุญทุกๆ วันพระ ซื้อพวงมาลัยมาไหว้พระที่ห้อง เพื่อที่จะไม่โดนอำอีก บางทีเรากลัวเพาาะโดนอำมากจนเราไม่นอน ช่วงแรกๆ ทรมานมากค่ะ ไม่อยากกลับห้อง อยากไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ห้อง แต่พอหลังๆ เขาเริ่มมาไม่ถี่ มาบางครั้งในช่วงที่ไม่ได้ทำบุญไปให้เท่านั้น
ที่เล่ามาทั้งหมด ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสียนะคะ ข้อดีเขาก็มี เช่นมาให้หวยด้วยเหมือนกัน.. พ่อเราเคยซื้อตามด้วย แกถูกติดต่อกันหลายงวดเลย หรือกระทั่งกับเรา ที่จะมีบางสิ่งมาเตือนเรา เวลาที่จะเกิดอันตรายหรือสิ่งไม่ดีกับเรา
เช่นมีครั้งหนึ่งเราจอดรถติดไฟแดง พอไฟเขียวเราก็กำลังจะขับรถไป แต่เราได้ยินเสียงเรียกชื่อเรา เราเลยหันหลังกลับไปมอง แต่ก็ไม่เห็นมีใครที่รู้จัก.. แล้วรถมอไซค์คันข้างหลังเรา ก็เลยขี่แซงเราไปก่อน ปรากฏว่ารถมอไซค์คันนั้นโดนชนค่ะ..! นึกในใจว่าถ้าเกิดเราไม่ได้ยินเสียงเรียก คนที่โดนชนก็คงเป็นเรา ต้องขอบคุณเขาจริงๆ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ฝันค่ะไม่ได้โดนอำ เราฝันว่ามีเด็กแฝดตัวติดกัน 3 คน มายืนคุยกับเรา พอคุยไปสักพัก เด็ก 3 คน นั้นก็ถามเราว่า “พี่อยู่ที่นี่หรอ หนูก็อยู่ที่นี่ อยู่มานานแล้ว แม่ไม่มาหาพวกหนูสักที”
ในฝันตอนนั้น เด็กยืนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ค่ะ เป็นต้นโพธิ์ที่ใหญ่มาก และตรงใต้ต้นโพธิ์มีศาลเก่าเต็มไปหมด มีทั้งตุ๊กตาที่เขาใช้ไหว้ศาล ทั้งน้ำแดงน้ำเขียว ความรู้สึกในฝันเหมือนจะไม่ปลอดภัยแล้วค่ะ เราก็เลยเดินหนี แล้วเด็ก 3 คนก็เดินตาม เราเลยเปลี่ยนเป็นวิ่งแทน เด็ก 3 คนก็ยังวิ่งตามเรามาอีกค่ะ
ช่วงจังหวะที่เรากำลังวิ่งหนี เขาบอกเราว่า “ขอบุญหน่อยๆ” เราก็หันไปดู ปรากฎเราเห็นแขน ขา เด็กแฝด 3 คนนั้น เริ่มหลุดออก หน้าก็เริ่มเปลี่ยนจากหน้าตาที่น่ารัก กลายเป็นน่ากลัวแทน..!
เราวิ่งหนีไป ร้องไห้ไป พยายามสวดมนต์แผ่เมตตา ทั้งแผ่ผิดแผ่ถูก เขาก็ยังวิ่งตาม เราเลยนึกถึงหน้าพ่อกับแม่ค่ะ แล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา รู้สึกตัวคือทั้งตัวเต็มไปด้วยเหงื่อชุ้มเลย ทั้งๆ ที่เปิดแอร์นอน
หลังจากวันนั้นเราเล่าให้เพื่อนฟัง จนไม่มีเพื่อนคนไหนกล้ามานอนที่หอเราเลย เราทนอยู่มา 1 ปี เต็มๆ พอวันที่ต้องย้ายหอ ขนของออกจากหอ เข้าไปคุยกับพี่คนที่ดูแลหอเพื่อที่จะเอาค่ามัดจำคืน คนดูแล
หอเขาทำหน้ายิ้มๆ แล้วถามเราว่า “ครบสัญญาแล้วหรอ ทนอยู่มาได้ยังไงตั้งนาน”
เราได้ฟังก็สงสัยเลยถามกลับว่า “ทำไมรึค่ะ ?”
คนดูแลหอก็ตอบเราแค่ “ป่าวๆ ถ้าเป็นพี่ พี่ออกไปตั้งนานแล้วล่ะ คงอยู่ไม่ไหว”
พอเราได้ยินแค่นั้น เราก็เข้าใจเลยค่ะ สรุปได้เงินประกันครบ ออกมาแบบแฮปปี้ ทุกวันนี้ย้ายมาอยู่หอใหม่แล้วก็ปกติดีค่ะ ไม่เจออะไรอีกแล้ว..เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้ค่ะ
#ขอขอบคุณเรื่องราวจาก สยองขวัญวาไรตี้ ถ่ายทอดขัดเกลาและเรียบเรียงโดยลุงเชิงโกดังหลอน