วัตกับอรทั้งสองคนเป็นหนุ่มสาวหน้าตาดี รู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก เรียนประถมแล้วมาต่อมัธยมด้วยกัน วัตมักจะขี่จักรยานมารับอรซ้อนไปโรงเรียนด้วยเสมอ จนสนิทและตกลงคบกันเป็นคนรัก ทั้งสองเรียนจบมัธยมปลายจึงตกลงว่าจะเข้ามาทำงานเก็บเงินที่กรุงเทพ
วัตอยากให้ผู้ใหญ่ทางบ้านอรรู้ว่าจริงใจจึงไปขอหมั้นไว้ก่อน หลังจากงานหมั้นแล้วสองคนได้มาเช่าห้องอยู่ในกรุงเทพ ช่วยกันเก็บหอมรอมริบ
อรเป็นคนขยันไม่ดื่มไม่เที่ยว ส่วนวัตเป็นคนใจเย็นชอบสวดมนต์ไหว้พระไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงให้อรต้องเสียใจ
วันหนึ่งวัตได้รับข่าวว่าเพื่อนสนิทชื่อว่า “สิน” จะลงมาหางานทำบ้าง ขอให้วัตช่วยหางานและที่พักให้หน่อย ด้วยความที่ว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมากตั้งแต่เด็กๆ วัตจึงตกลงทำทุกอย่างให้ ฝากงานและหาห้องเช่าติดๆกันกับห้องตัวเอง
เมื่อสินมาถึงก็ดีใจที่ได้งานพร้อมทั้งเจออร ซึ่งก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว ความจริงสินนั้นแอบชอบอรมานานแล้วแต่ด้วยความที่ว่าอรเป็นคนรักของวัตเพื่อนสนิทจึงได้แต่เก็บกดความรู้สึกไว้ไม่คิดอะไรเกินเลย
ทั้งสามคนอยู่ด้วยกันอย่างปกติ วันหยุดก็ออกมาทำกับข้าวกินด้วยกัน สายตาที่สินแอบมองอรด้วยความเสน่หานั้นมีอยู่ตลอดเวลา
หลายครั้งที่วัตต้องกลับบ้านดึกเพราะทำงานล่วงเวลาก็มักจะฝากสินไปดูแลอร ซึ่งเหมือนกับฝากปลาย่างไว้กับแมว ทั้งสองเริ่มจะผูกพันกันอย่างไม่รู้ตัว
สินทำงานเก่งจากพนักงานฝ่ายผลิตไม่นานก็ได้เป็นผู้จัดการ ออกรถใหม่มาชวนทั้งวัตและอรไปเที่ยวบ่อยๆ พักหลังเวลานั่งกินข้าวพร้อมกัน สินมักจะเอาของกินมาวางใส่จานให้อรบ่อยๆ แต่อรก็ไม่มีท่าทีอะไรยังคงหยอกล้อกับวัตเหมือนเดิม แต่วัตรู้ว่าความรู้สึกไม่เหมือนเดิม
จนถึงวันที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น อรหยุดงานเพราะไม่ค่อยสบายอยู่ที่ห้อง แล้ววัตจะต้องไปแก้งานกับลูกค้าเลยต้องกลับช้าจึงไปบอกสินว่าให้ช่วยไปดูอรหน่อยไม่ค่อยสบาย
แต่ก่อนที่จะไปดูอรนั้น สินไปดื่มกับลูกน้องมาพอสมควร เปิดประตูห้องเข้าไปเจออรที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ด้วยความรักที่เก็บไว้มาแสนนานสินจึงล่วงเกินอร เป็นจังหวะเดียวกับที่วัตได้กลับมาบ้านเพราะลูกค้าขอเลื่อนแก้งานไปเป็นวันอื่น
เขาไปถึงห้องเห็นรองเท้าสองคู่วางเคียงกัน แต่เสียงในห้องทำเอาใจแทบแหลกสลาย
“อรจ๋า เป็นเมียผมเถอะ ไม่ต้องลำบากนะ เงินเดือนก็เยอะ รถก็มีขับไม่ต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์ตากแดดเหมือนกับไอ้วัต”
“จะดีหรอพี่สิน พี่วัตเป็นคนดีนะ ไม่เคยทำให้อรเสียใจเลย”
“คนดีแต่มันลำบากไม่ดีหรอก ถ้าอรตกลงจะเอาสินสอดไปขอและแต่งงานทันทีเลย”
“แต่ฉันหมั้นกับพี่วัตแล้วนะ”
“มันมีวิธีอยู่ ตกลงไหม”
ไม่มีเสียงตอบใดๆ แต่คงจะเป็นเสียงร่วมรักกันอีกครั้ง วัตทรุดลงน้ำตาไหลหลั่ง เพื่อนรักกันมากกับหญิงที่เป็นเสมือนดวงใจทำกับเขาแบบนี้ได้อย่างไร
เขาเดินออกมาจากที่นั่นไปที่วัดอยู่ใกล้ๆ จนฟ้าสางเดินย้อนกลับมา เรียกอรออกมา เธอเปิดประตูออกมาด้วยท่าทางอิดโรย วัตถามว่ายังไม่หายอีกหรือเอามือแตะหน้าผาก อรหันหน้าหนีทำให้เขาเห็นรอยแดงที่คอและเนินอก วัตใจแทบจะขาดแต่ต้องทำใจไว้
ผ่านไปวันแล้ววันเล่า อรเริ่มจะห่างเหินหมางเมินกับเขาเหมือนเป็นคนละคนที่เคยได้รัก จนวันนึงนั่งกินข้าวพร้อมกัน สินลุกมานั่งข้างอรบอกวัตว่า ชอบอรรักอรมานานแล้ว ตอนนี้ทำงานเงินเดือนเยอะ มีรถขับสบาย ขออรมาเป็นเมียกูได้ไหม
วัตหน้าเศร้าหันมองหน้าอรที่กำลังจะร้องไห้ วัตเอามือไปเช็ดหยดน้ำตาให้พูดเพียงว่า ตอนนี้หัวใจอรอยู่กับใครให้เลือกคนนั้นเถอะ อรยื่นมือเอาแหวนหมั้นคืนให้วัตแล้วเดินไปกอดกับสิน วัตยิ้มทั้งน้ำตาคลอแล้วบอกสินว่า…
“กูรักอรมากเท่าชีวิต และกูก็รักมึงเหมือนกันไอ้สิน ในเมื่ออรเขาเลือกมึงแล้วดูแลให้ดีแทนกูด้วย กูจะเสียสละให้เอง” แล้วอรก็ย้ายไปอยู่กับสิน ส่วนวัตกลับไปอยู่ที่บ้านนอก ไม่นานทั้งอรและสินก็กลับไปแต่งงานที่บ้านนอก
เช้าวันหนึ่งสินตั้งแต่จะไปเชิญวัตมาร่วมงานด้วย แต่ไม่เจอวัตแล้ว ถามญาติคนไหนไม่มีใครตอบ เขาจึงขับรถออกมาพร้อมกับอรเจอพระธุดงค์รูปนึงเดินอยู่ริมทาง อรบอกสินว่าในรถมีนมมีน้ำขนมใส่บาตรก่อนดีไหม
สินตกลงไปจอดรถข้างหน้าพระท่าน จัดแจงของมาใส่บาตรเสร็จพอพระมาใกล้ๆทั้งสองตัวชาหมด พระธุดงค์นั้นคือวัตนั่นเอง
คำแรกที่ท่านถามคือ โยมทั้งสองสบายดีใช่ไหม อาตมาสวดมนต์อวยพรให้ทั้งสองคนมีความสุขมากๆนะ อรน้ำตาร่วงส่วนสินพูดไม่ออกจุกในอก เขาไปแย่งคนรักท่านมาแต่ท่านไม่โกรธและยังอวยพรให้มีความสุข
ใส่บาตรเสร็จแล้วทั้งสองก้มกราบแทบเท้าพระ สินบอกว่าท่านจะไปไหนขึ้นรถผมไหมครับเดี๋ยวผมไปส่ง พระวัตยิ้มบอกว่า
“อาตมาเลือกมาทางนี้แล้ว ศิษย์ตถาคตย่อมไม่กลัวความยากลำบาก ขอบคุณโยมทั้งสองมาก อาตมาไปแล้วนะ” ท่านออกเดินทางไปต่อ ส่วนทั้งสองก็กลับไปมีชีวิตของตัวเอง
ความรักมักมีสิ่งดีและเศร้าใจแอบซ่อนไว้เสมอ ผู้เสียสละให้คนที่รักได้เพียงนี้ต้องใช้ความอดทนมากเท่าไหร่ ต้องใช้ความเมตตามากแค่ไหน แต่เมื่อฟ้ากำหนดมาเช่นนี้แล้วคงต้องทำใจและดำเนินชีวิตต่อไปตามทางที่เลือกครับ…
เครดิต : หาญ ใจสิงห์