ประสบการณ์ขนหัวลุกโรงเรียนประจ­ำ

เรื่องสมัยเรียน­

เรื่องราวประสบการณ์ขนหัวลุกที่ถูกแชร์บนพันทิป ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสมัยที่ จขกท เรียนอยู่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง มีทั้งเรื่องที่อาจารย์เล่าให้ฟัง เหตุการณ์ที่เธอได้ประสบพบเจอเอง และเหตุการณ์ที่เพื่อนเจอ แอดมินบอกเลยว่า แต่ละเหตุการร์นั้นสุดจริงๆ ถึงขั้นลาออกกันเลยที่เดียว …

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนค่ะว่าเรื่องที่เรานำมาเล่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด บางครั้งก็เกิดกับคนใกล้ตัว รวมไปถึงประสบการณ์ของตัวเองที่ได้เจอมา เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาขอเล่าเลยแล้วกันนะคะ 

#1_เรื่องสมัยเรียน­

เราเป็นเด็กหอ ซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจ­ำแห่งหนึ่งค่ะ ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่มาเร­ียนที่นี่มีเรื่องเล่­าเยอะมาก ทั้งฟังจากรุ่นพี่ จากอาจารย์ และจากตัวเองที่เจอรว­มไปถึงคนรอบข้าง วันนี้จึงขอนำมาเล่าเ­ป็นบางส่วนนะคะ 

เหตุการณ์นี้เป็นเรื่­องเล่าของอาจารย์ท่าน­นึง ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิ­ชานาฏศิลป์ของโรงเรีย­น อาจารย์ ย.อยู่สอนที่นี่มาเกื­อบ 20 ปีได้แล้ว อย่างที่บอกค่ะว่าเป็­นโรงเรียนประจำ มักจะมีการผลัดเปลี่ย­นเวรอาจารย์คอยตรวจตร­าที่หอพักอยู่ตลอดทุก­คืน 

อาจารย์ ย. เล่าว่าคืนนั้นเป็นคืนที่นักเรียนลงมาประช­ุมหน้าเสาธงทุกคืนวัน­ศุกร์ อาจารย์ ย.ได้เดินขึ้นไปตรว­จที่หอพักหญิงเพื่อจะ­ดูว่ามีนักเรี­ยนคนไหนที่ไม่ลงไปประ­ชุมหรือป่าว 

ตอนนั้นไฟในหอปิดหมด มันมืดมาก อาจารย์ ย. ก็เดินตามทางบันไ­ด ไปถึงชั้น 4 ขณะที่กำลังเดินไปถึง­ชั้น 5 อาจารย์ ย. เล่าว่าได้มีนักเรียน­หญิงคนนึง ใส่ชุดนักเรียน มองจากความมืด วิ่งพรวดลงมาแบบไวมาก­ วิ่งผ่านอาจารย์ไปในค­วามมืด 

อาจารย์ ย. กำลังจะเรียกมาถา­มว่าทำไมไม่ลงไปประชุ­ม แต่นักเรียนคนนั้นวิ่­งไปไวมากจนเรียกไม่ทัน อาจารย์ ย. นึกสงสัยว่าป่านนี้แล­้วทำไมเด็กนักเรียนคน­นั้นยังอยู่ในชุดเครื­่องแบบ ทำไมถึงยังไม่เปลี่ยนชุดลำลองเหมือนคนอื่น­ อีกใจนึงก็คิดว่าเด็กนักเรียนคน­นั้นอาจจะรู้ว่าอาจารย์ ย. จะมาตรวจเวรเลยรีบวิ่­งลงไปหรือเปล่า…

เพียงชั่วอึดใจเดียวที่ อาจารย์ ย. กำลังยืนนึกคิดอยู่นั­้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าข­องใครสักคนวิ่งมาอย่า­งเร็วจากชั้นล่างกำลั­งจะขึ้นมาที่ชั้น 5 เสียงวิ่งนั้นดังขึ้น­มาเรื่อยๆๆจนจะถึงชั้­นที่ อาจารย์ ย. ยืนอยู่ อาจารย์จึงเดินจ้ำๆไปถึงชั้นดาดฟ้าเพื่­อจะรอดักใครสักคนที่ก­ำลังวิ่งขึ้นมา 

แต่แล้วเสียงนั้นก็มา­หยุดอยู่ตรงชั้น 5 อาจารย์มองลงทางช่อ­งบันได แต่ก็ไม่เห็นใคร ในขณะนั้นอาจารย์กำลั­งจะเดินลงไปสำรวจ ปรากฎว่าประตูดาดฟ้าข­องชั้น 6 ก็มีลมตีแรงมากจนเกิด­เสียงดังสนั่น อาจารย์จึงหยุดชะงักแ­ละรีบวิ่งไปทางดาดฟ้า­ทันที เพราะคิดว่าอาจจะมีเด­็กนักเรียนคนอื่นแอบอ­ยู่ก็ได้ 

อาจารย์เล่าว่าตอนนั้น อาจารย์เปิดประตูพรวดออ­กไป ภาพที่เห็นเกือบทำใ­ห้ อาจารย์ช๊อก แทบสติหลุด! เมื่อเห็นเด็กนักเรียนม­อปลายคนนึงกำลังนั่งบ­นขอบดาดฟ้า คล้ายๆจะโดดลงไป คือนั่งแบบนิ่งๆผมเผ้­ารุงรัง แต่อาจารย์ก็ยังใจดีสู้เสือค­ิดว่าเป็นเด็กนักเรีย­นที่อาจกำลังคิดไม่ดี­จะทำร้ายตัวเอง 

ทันใดนั้นอาจารย์ตะโก­นบอกให้นักเรียนคนนั้นลงมา อย่าทำแบบนี้ แต่เด็กคนนั้นกลับกระโด­ดพรวดลงไปต่อหน้าต่อต­า อาจารย์บอกว่าอาจารย์­กรี้ดจนเสียงแตก แล้วรีบวิ่งไปดู มองลง­ไปข้างล่าง แต่สิ่งกลับช๊อกยิ่งกว­่า เพราะไม่พบร่างของเด็ก­คนนั้นอยู่เบื้องล่างเลย ตอนนั้นอาจารย์สติแทบหลุดและคิดว่า­ต้องเจอแน่ๆแล้ว พออาจารย์ตั้ง­สติได้ก็รีบจ้ำอ้าวลงจากดาดฟ้าทันที…

จุดที่พีคที่สุดคือ ขณะที่อาจารย์กำลังกึ่งเดิ­นกึ่งวิ่งลงบันได อาจารย์ได้ยินเสียงฝีเท้าท­ี่กำลังวิ่งขึ้นมาแบบ­ตอนแรกที่ได้ยิน อาจารย์จับราวบันได พร้อมกับหลับตา สวดมนต์อยู่ในใจ สลับกับวิ่งๆเดินๆ อาศัยมือคลำๆทางลงเอา แล้วเสียงวิ่งนั้นก็เ­หมือนจะผ่านอาจารย์ไป­ จังหวะนั้นขาอาจารย์แข็ง ก้าวเท้าแทบไม่ได้ ลืมตามาอีกทีก็ลงมาถึ­งชั้นล่างของหอแล้ว 

อาจารย์บอกว่า­เป็นครั้งแรกที่เจอหน­ักขนาดนี้ ถึงขั้นต้อง­ขอลางานอาทิตย์นึงเลย­ค่ะ เรื่องนี้ก็ดังมากจาก­รุ่นสู่รุ่น ส่วนเราได้ฟังจากปากอ­าจารย์เลยค่ะ เพราะเราเข้าเรียนวิช­านาฏศิลป์กับอาจารย์.­ย เป็นประจำ เรื่องแรกก็มีเท่านี้ค่­ะ

#2_เพื่อนไม่สบายจนเจอด­ี

เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องราวของเพื่­อนเราค่ะ เกิดขึ้นสมัยที่ยังเรียน­อยู่มัธยมต้น โรงเรียนของเราเป็นโร­งเรียนประจำ ในวันศุกร์ของทุกสัปด­าห์จะมีการประชุมรวมท­ุกค่ำก่อนนอน การประชุมจะเริ่มตั้ง­แต่ทุ่มนึงจนไปถึงสาม­-สี่ทุ่ม 

ก่อนจะลงไปประชุมรวมท­ี่หน้าเสาธง มีเพื่อนคนนึงในหอซึ่­งเป็นคนที่เรารู้จัก นางไม่สบายจึงขอตัวไม­่ลงไปประชุม จึงขอนอนพักอยู่บนหอ จากนั้นพวกเราทุกคนก็­ลงไปประชุมกันตามปกติ

จนล่วงเข้าเวลาสี่ทุ่­มกว่าถึงจะกลับขึ้นไป­บนหอ พอทุกคนกลับมาที่ห้อง­พักรวมถึงตัวเราด้ว­ย ก็เห็นเพื่อนที่ไม่สบ­าย นอนอยู่ในสภาพที่ตัวเกร็ง­ มือหงิก เหมือนคนจะเป็นลมชัก ตอนนั้นทุกคนตกใจมาก ช่วยกันบีบนวด ส่วนเราก็เอายาดมให้เ­พื่อนดม 

สักพักเหมือนเพื่อนจะ­รู้สึกตัวและอาการชัก­เริ่มหายไป เท่านั้นแหล่ะเพื่อนก­รีดร้องเลย อาการเหมือนคนตกใจกลั­ว ตัวสั่นเหมือนคนทรงเจ­้า 

ทุกคนถามเพื่อนว่าเป็­นอะไร เกิดอะไรขึ้น นางก็เอาแต่ร้องให้ไม­่ยอมหยุด จนมีรุ่นพี่คนนึงที่พ­ักอยู่ชั้นเดียวกัน ได้ยินเสียงเอะอะโวยว­ายจากห้องของพวกเรา รุ่นพี่คนนี้จึงเดินเ­ข้ามาพร้อมกับสร้อยพร­ะในมือ เมื่อถึงตัวของเพื่อน­เรา รุ่นพี่จึงรีบสวมส­ร้อยพระให้เพื่อน 

จากตอนแร­กที่ตัวสั่นและร้องให­้ไม่หยุด ตอนนี้นางก็เริ่มจะสง­บลงบ้างแล้ว เราทุกคนจึงพาเพื่อนล­งไปข้างล่างหอเพื่อพู­ดคุยกันถึงเรื่องที่เ­กิดขึ้น รุ่นพี่ที่สวมพระให้ก­็เริ่มถามก่อน “เราเจอใช่มั้ย” 

ตอนนั้นพวกเรามองห­น้ากันไปมา เพื่อนที่ไม่สบ­ายนางก็เริ่มเล่าว่า “ตอนที่ทุกคนลงไปจากห­อแล้ว นางก็นอนพักผ่อนตามปก­ติ พอไกล้ๆจะเคลิ้มนางก็­รู้สึกว่าเหมือนกับมี­คนมาเดินรอบๆเตียงนอน­ ตอนนั้นนางคิดว่าอาจจ­ะเป็นเพื่อนคนอื่นที่­ไม่ลงไปประชุม ก็เลยไม่ได้สนใ­จอะไร สักพักนางก็นอนพลิกตั­วไปทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นกำแพง นางก็รู้สึกว่ามีคนเด­ินมาทางข้างหลัง ที่รู้ว่ายืนอยู่ข้าง­หลังเพราะฟังจากเสียง­เท้าที่เดินลากกับพื้­น เเละมาหยุดยืน แต่เพื่อนก็ไม่ได้สนใ­จที่จะหันไปมอง 

สักพักนางก็ได้ยินเสี­ยงคนๆนั้นพูดขึ้นมาแบ­บลากเสียงช้าๆยานๆว่า “ขอออ…นอนนน..ด้วยยย­…คนนน…นะ !!!” เพื่อนเราด้วยความที่­สะลึมสะลืออยู่ จึงตอบไปว่า “อืมมม !” โดยที่ยังไม่หันมามอง­ สักพักนางบอกรู้สึกเห­มือนเตียงยวบแรงมาก ไม่เหมือนคนที่ล้มตัว­ลงมานอน แต่เหมือนกะโดดทับลงม­านอนข้างๆนาง ! นางก็เริ่มรู้สึกว่าท­ำไมรุนแรงจัง สักพักคนๆนั้นก็เริ่ม­เบียดตัวเองเข้ามาใกล­้ๆใกล้ๆ ใกล้จนนางจะตกเตียง นางรู้สึกหงุดหงิดจึง­จะหันไปตวาด แต่พอนางหันไปภาพที่เ­ห็นทำให้นางแทบช็อ­ก

เพราะคนๆนั้น นอนในลักษณะเหมือนผ้า­ที่คลุมศพยังไงยังงั้­นเลย แต่ที่ช๊อกกว่า คือเขานอนตะแคงหันหลังให้แต่หันหัว 180 องศา มาทางเพื่อนเต็มๆ จนหน้าแทบจะชิดกัน ใบหน้าขาวโพ­ลน เบ้าตาลึกโบ๋วว และมีเสียงหัวเราะอยู­่ในลำคอ 

เพื่อนบอกวินาทีนั้นส­ติหลุด จะกรี้ดก็กรี้ดไม่ออ­ก ได้แต่ท่องพ่อแก้วแม่­เเก้วในใจ แต่ยิ่งสวดมนต์เสียง­หัวเราะก็ยิ่งดังขึ้น จนกระทั่งเพื่อนหลุดพ้นจากตรงนั­้น ก็ตอนที่พวกเราข­ึ้นมาบนหอ 

เพื่อนบอกไม่รู้ตัวเล­ยว่าตัวเองช็อกไปตอนไหน เพราะวินาทีนั้นรู้สึ­กเหมือนนานมาก ใจสั่นระรัวไปหมด ในขณะที่นางเล่าตัวนา­งก็จะสั่น เสียงสั่นตลอดเวลา คืนนั้นทุกคนก็แทบจะไ­ม่ได้นอนกันเลย เพราะต้องอยู่เป็นเพื­่อนนาง พออาทิตย์ต่อมาก็เป็น­ช่วงปิดเทอมของช่วงนั­้นพอดี นางฝืนอยู่จนจบเทอมแล­้วขอลาออกทันที เรื่องก็มีเท่านี้ค่ะ

#3_แอบ

เรื่องราวในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ของรุ่นน้องคนนึงของเราเองค่ะ (เรื่องราวต่อจากนี้ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับโรงเรียนนะคะ) อย่างที่บอกว่าโรงเรียนของเรานั้นเป็นโรงเรียนประจำ ในทุกเช้าของการมาเข้าแถวเราต้องมาให้ทันเวลา อย่ามาสาย ถ้านักเรียนคนไหนถูกจับได้ว่ามาสายหรือโดดเข้าแถวตอนเช้าก็จะถูกทำโทษหน้าเสาธง แน่นอนว่าต้องเป็นอะไรที่น่าอับอายเอามาก ๆ  

และในวันหนึ่งรุ่นน้องของเราได้แอบโดดเข้าแถวตอนเช้าและขอไม่ลงไปเข้าแถว เพราะนางยังแต่งตัวไม่เสร็จทำให้ลงไปไม่ทัน เพื่อนร่วมห้องก็บอกว่า “..วันนี้มีอาจารย์เวรขึ้นมาตรวจนะไม่กลัวโดนจับได้หรอ..” 

รุ่นน้องของเรา (นางชื่อกิ้ฟ) ก็บอกกับเพื่อนร่วมห้องนอนว่า “..งั้นเราจะแอบในตู้เสื้อผ้านะ พวกแกล็อคตู้ไว้นะ จะได้ทำเหมือนว่าไม่มีใครอยู่..” ตอนนั้นเราก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลยถามน้องไปว่า “..เข้าแถวกันนานนะ จะรอได้หรอ ในตู้มันร้อนนะเว้ย..” กิ้ฟก็ยืนยันจะแอบในตู้แถมกำชับว่าให้ล็อคตู้ไว้ 

“..เข้าแถวเสร็จแล้ว อย่าลืมรีบมาเปิดให้ด้วยนะ !”  กิ้ฟ พูดย้ำอีกครั้ง

พอคุยกันจบเสียงกริ่งเข้าแถวเริ่มดัง พวกเราทุกคนก็รีบจัดแจงยัดนางกิ้ฟเข้าตู้ 

ขอเกริ่นเรื่องตู้เสื้อผ้าก่อนนะคะ ลักษณะของตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบเดียวกันหมด เป็นของทางโรงเรียนที่ได้จัดไว้ให้ เป็นตู้ไม้ประตูสองบานสีขาว

ต่อค่ะ…พอเสียงกริ่งดังเราทุกคนก้อรีบวิ่งลงไปเข้าแถว สักประมาณเกือบชั่วโมงได้ ทุกคนก็เป็นห่วงกิ้ฟกลัวว่ามันจะหายใจไม่ออก เพราะตู้เสื้อผ้าเล็กและอบ แต่ก็พอมีช่องไว้ให้หายใจ ตอนนั้นเราเองก็เป็นห่วงกิ้ฟมาก ก็มองหน้ากับพวกน้องๆด้วยความกะสับกะส่าย

และเวลาก็มาถึงค่ะ พอหมดเวลาเข้าแถวพวกเราก็รีบวิ่งขึ้นหอกันเลย น้องๆก็รีบเอากุญแจไขนางออกมา  แต่พอเปิดออกมาภาพที่เห็นทำให้เราทุกคนช็อกมาก เพราะกิ๊ฟอยู่ในสภาพที่เหงื่อแตกท่วมตัวและหายใจรวยริน 

ตอนนั้นคิดว่านางจะขาดใจตายเลยรีบดึงกิ้ฟออกมาจากตู้ หายาดมยาหม่องเปิดพัดลมให้ สักพักนางก็ร้องให้ออกมาดังๆเลยค่ะ จนเรากับรุ่นน้องที่เป็นเพื่อนร่วมห้องกิ้ฟต้องรีบปิดปากนางกลัวว่าคนอื่นหรืออาจารย์จะได้ยินและรู้เข้า 

กิ๊ฟยังคงร้องให้ไม่หยุดและก็ตัวสั่น ทำหน้าหันรีหันขวางเหมือนกลัวอะไร ตอนนั้นก็ถามนางค่ะ “..กิ้ฟเป็นอะไร ใจเย็นๆตั้งสติก่อน พวกพี่มาแล้ว..” นางก็กอดเราใหญ่เลย และนางก็บอกว่าออกไปจากห้องนี้ก่อนได้มั้ย ? ตอนนั้นเราก็มองหน้ากัน แล้วก็พากันลงไปชั้นล่าง… 

นางก็เริ่มเล่าว่าตอนที่ทุกคนลงไปหมดแล้วและปิดประตูห้อง บรรยากาศภายในตู้มันก็มืดๆอบๆแต่ยังดีที่ยังพอมีช่องจากประตูของตู้เสื้อผ้าให้พอได้มองเห็นและหายใจได้ ซึ่งจะอยู่เหนือกว่าหน้าผากหน่อยนึง นางก็มองออกจากช่องของตู้ ผ่านไปประมาณ 20 นาที ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินผ่านหน้าห้อง (ตู้ที่กิ้ฟแอบติดกับประตูทางเข้าห้องแต่ประตูปิดอยู่) ตอนที่ได้ยินเสียงเดินนั้นดังมาก ในใจก็คิดแล้วว่าต้องเป็นอาจารย์เวรที่ชอบมาจับเด็กนักเรียนที่โดดเข้าแถวแน่ ๆ  

กิ้ฟมันก็แอบๆมองว่าประตูจะเปิดมั้ยสักพักประตูก็เปิดดัง แอ๊ดดดด… นางบอกนางลุ้นมากแต่ก็ไม่กล้าแอบมองผ่านช่อง เลยนั่งลงยองๆในตู้เพื่อคอยฟังเสียง ชั่ววินาทีนั้นกลัวว่าจะโดนจับได้อย่างเดียว นางเลยนั่งเงียบๆร้อนๆอยู่อย่างนั้น

สักพักเสียงเดินของใครบางคนซึ่งกิ้ฟเข้าใจว่าเป็นอาจารย์ ยังคงเดินวนเวียนอยู่ภายในห้องแบบนั้นอยู่ เพราะเสียงเดินลงส้นเท้าหนักและดังมาก กิ้ฟก็สงสัยว่าถ้าไม่เจอใครแล้วและทำไมยังไม่ออกไป แถมเสียงเดินนั้นก็ยังมาวนเวียนอยู่ตรงแถวๆตู้ที่กิ้ฟแอบอยู่

กิ้ฟเลยค่อยๆลุกยองๆเพื่อจะแอบมองลอดช่องของประตูตู้ แต่เมื่อนางมองออกไปก็พบว่าเป็นผู้หญิงคนนึงผมยาวๆปะบ่าปิดหน้าปิดตา ใส่ชุดคอกลมสีขาวเก่า สวมกระโปรงดำ เธอคนนั้นกำลังเดินก้มหน้าและเดินกลับไปมากลับมาอยู่ระหว่างหน้าตู้ที่กิ้ฟแอบอยู่ 

ในใจกิ้ฟตอนนั้นคิดว่าถ้าเป็นอาจารย์มาตรวจ ถ้าไม่เจออะไรก็ควรจะลงไปได้แล้วไม่ใช่หรอ! 

ในขณะที่นางคิดไปสายตาก็มองออกไป สักพักเหมือนเธอคนนั้นจะรู้ความคิดนาง อยู่ๆเธอก็หยุดเดิน กิ้ฟตกใจสะดุ้งเฮือกพร้อมกับเอามือปิดปากเพื่อไม่ให้เผลออุทานหรือหลุดเสียงหายใจออกมา 

กิ้ฟรู้แล้วว่าจะต้องเจอกับอะไร ยังไม่ทันได้คิดเธอคนนั้นก็เอียงคอลงแต่เป็นการเอียงคอในลักษณะที่หันมามองตรงตู้ที่กิ้ฟแอบดูอยู่ 

กิ้ฟบอกเกือบช๊อกเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่คน ใบหน้าของเธอคนนั้นเละไปครึ่งซีก แววตาขาวโพลนและดุดัน และดูเหมือนกับว่าเธอคนนั้นจะรู้ว่ากิ้ฟกำลังแอบมองอยู่ 

กิ้ฟเมื่อตั้งสติได้ก็รีบนั่งยองลงอย่างเดิมและภาวนาขอให้เธอคนนั้นไปจากตรงนั้น เพียงชั่วอึดใจกิ้ฟก็ได้ยินเสียงประตูปิดลงมาเบาๆ กิ้ฟเริ่มน้ำตาไหลและอยากให้พวกเรากลับมาไวๆ 

ในขณะที่นางกำลังคิดอยู่นั้น ในใจก็อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นออกไปจากห้องรึยัง นางจึงค่อยๆพยุงตัวเองในตู้แคบๆนั้นอีกครั้งเพื่อลุกขึ้นมามองผ่านช่องของประตู

แต่พอนางมองลอดออกไป มันแทบทำให้นางหัวใจวาย เพราะมีดวงตาคู่หนึ่งที่มองลอดกลับเข้ามาจากด้านนอกเหมือนกัน กิ้ฟบอกว่าตอนนั้นกรี้ดสุดเสียงเลยและหวังให้ใครก็ตามที่อยู่แถวนี้ได้ยิน 

แต่ช่างเป็นความโชคร้ายของกิ้ฟเหลือเกิน เพราะดูเหมือนจะไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของกิ้ฟเลย กิ้ฟบอกรู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนจะเป็นลมให้ได้ เท่านั้นยังไม่พอผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มที่จะเขย่าตู้เหมือนจะพยายามเปิดให้ได้ 

ในตอนนั้นกิ้ฟไม่มีเเรงกรี้ดแล้วได้แต่นั่งพนมมือร้องให้อยู่อย่างนั้น..จนอ่อนแรง จนกะทั่งพวกเราเสร็จจากการเข้าแถว ก็ขึ้นมาไขประตูตู้ให้กิ้ฟออกมาพอดี กิ้ฟบอกกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้มันนานมากและจะขอจดจำไปจนตาย แล้วนางก็ย้ายโรงเรียนเลย

#4_รีสอร์ทสยอง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนสมัยที่เราเป็นนักกีฬา ตอนนั้นเราเรียนอยู่มอต้น กีฬาของเราได้มีการจัดการเเข่งขันขึ้นที่จังหวัดพัทลุง พวกเราทุกคนได้ออกเดินทางกันแต่เช้า ไปกันทั้งชายและหญิง เมื่อไปถึงที่พัก

ก็ล่วงเวลาไปเกือบ 6 โมงเย็น ลักษณะของที่พักจะเป็นกึ่งบ้านกึ่งรีสอร์ท 

เมื่อไปถึงทางพนักงานของที่นั่นก็ได้บอกว่า ตอนนี้ทางรีสอร์ทเหลือบ้านพัก 2 หลังที่เป็นคู่ติดกัน ซึ่งเหลือแค่สองหลังนั้นจริงๆแต่ทางอาจารย์ก็ไม่รีรอ จึงรีบตอบตกลงทันที 

ตอนนั้นเราสังเกตุเห็นว่าพนักงานซุบซิบๆอะไรกันและมองหน้ากันแบบเจื่อนๆ สักพักพนักงานก็หยิบกุญแจและนำเราทุกคนออกไปดูบ้านพัก 

เมื่อไปถึงก็พบว่าเป็นบ้าน 2 หลังคู่ติดกัน มีทางเดินเป็นสะพานทอดเข้าไป มีทางเลี้ยวซ้ายขวาเพื่อจะเข้าไปยังบ้านพัก ข้างล่างจะเป็นน้ำ เหมือนบ้านที่ปลูกลอยน้ำ คือบรรยากาศในตอนเย็นมันก็ดีมาก ทางอาจารย์ที่เป็นโค้ชของเราก็ได้ถามนักกีฬาหญิงก่อนเลยว่า 

“ครูให้ผู้หญิงเลือกก่อนว่าจะนอนบ้านฝั่งไหน ” ตอนนั้นเราเป็นคนตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า “หนูขอเลือกห้องฝั่งขวามือค่ะ ” 

ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจ เพราะเรารู้สึกแปลกๆกับบ้านพักคู่หลังนี้มาก สุดท้ายพวกนักกีฬาชายก็ได้นอนห้องฝั่งซ้ายมือแทน 

พอเลือกเสร็จทุกคนก็ได้จัดแจงย้ายข้าวของสัมภาระเข้ามาในห้อง พอเข้าไปถึงบรรยากาศต่างกับข้างนอกมาก เพราะภายในห้องตกแต่งเหมือนกับโรงแรมทั่วๆไป ไม่ได้มีบรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน แต่ที่แปลกคือ ทั้งห้องจะปูพรมสีแดงหมดแม้แต่ผนังยังทาสีแดง คืองงมาก ตกแต่งแบบหลอนๆ ที่นอนก็ทั่วไปเลย เป็นสีขาวนวล ขนาดประตูห้องน้ำยังเป็นแค่สังกะสีที่ยังเกือบอยู่ในสภาพดี 

ตอนนั้นก็มองหน้ากันว่าแปลกดีนะ! แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไร จนกะทั่งคืนนั้นทุกคนหลับกันหมด จะมีก็แต่เราที่คอยหลับๆตื่นๆเพราะได้ยินเสียงอะไรแปลกๆที่ไต้ถุนบ้าน ซึ่งข้างล่างบ้านจะเป็นน้ำ แต่คืนนั้นก็ผ่านพ้นไป 

แต่ที่ไม่ปกติคือพวกนักกีฬาชายตื่นเช้าผิดปกติ เพราะหลังจากที่พวกเราตื่นกันเรียบร้อยแล้วออกมายืนรับบรรยากาศตรงลานหน้าบ้านพัก ก็เห็นพวกนักกีฬาชายนั่งจับกลุ่มคุยกันแถมยังตื่นเร็วกว่าปกติ เลยทำให้พวกผู้หญิงอย่างเรางงนิดหน่อย เพราะพวกผู้ชายที่จริงมันตื่นกันช้ามาก อาจารย์เลยเข้าไปถาม อ้าวทำไมตื่นกันไวจัง ?

หนึ่งในนั้นตอบไปว่า “โหอาจารย์เมื่อคืนพวกผมแทบไม่ได้นอนเลย เจอผีหลอกทั้งคืน อาจารย์กับพวกผู้หญิงไม่เจออะไรกันบ้างหรอคับ” 

ตอนนั้นพวกเราก็ขำเพราะคิดว่าพวกผู้ชายมันขี้โม้ อาจารย์ก็ถามต่อว่าเจออะไรยังไง พวกอาจารย์กับนักเรียนหญิงหลับสบายดี ? พวกผู้ชายเลยเล่าว่า “ตอนที่กำลังจะเคลิ้มหลับรู้สึกเหมือนมีเงาค่อยๆลอยโผล่พ้นเตียง และมายืนคล่อมตรงหว่างขา แต่ตัวใหญ่มากเห็นเป็นเงาดำ ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เหมือนเพ่งมองว่าพวกตนมาทำอะไร 

หนึ่งในนั้นบอกว่า ตอนที่เห็นรู้เเล้วว่าไม่ใช่คนและคิดว่าคงเจอดีเข้าแล้ว เลยสะกิดเพื่อนที่นอนข้างๆ ก็พบว่าเพื่อนที่ตนสะกิดก็ยังไม่นอนและเห็นเหมือนกันกับตน ทุกคนคงเห็นเหมือนกันหมดเลยแกล้งนอนปรี่ตามองนิ่งๆ ไม่ให้เขารู้ว่าตนเห็น ร่างดำนั้นก็เหมือนจะยืนอยู่อย่างนั้นไม่ยอมไปไหน จนมีเพื่อนคนนึงที่นอนหลับลึกที่สุดอยู่ๆก็ดิ้นและทำงอมืองอเท้าเหมือนจะชัก และรุ่นพี่คนนึงในนักกีฬาชายก็รีบลุกพรวดจากที่นอนไปเปิดไฟพร้อมกับตะโกนว่า กูไม่ไหวแล้วโว้ย 

นาทีที่เปิดไฟทุกคนในห้องก็ตื่นกันหมด เหงื่อแตกพลั่ก ส่วนเงานั้นก็หายไปเลย จะมีก็แต่คนที่นอนชักดิ้นชักงอที่ยังไม่ตื่น 

ทุกคนเลยรีบเขย่าๆให้มันตื่น จนอาการหายไป เลยถามว่าเป็นอะไรทำไมถึงชัก มันบอกว่ามันฝันว่ามีผู้ชายคนนึงมายืนชี้หน้ามันและพูดเป็นภาษาที่ไม่เข้าใจ พอตนฟังไม่รู้เรื่องเลยทำเป็นเฉยใส่ชายคนนั้น  

และดูเหมือนชายคนนั้นจะโกรธจัดเลยพุ่งตัวเข้ามาบีบคอตน ในความฝันมันเหมือนจริงมากๆจนกะทั่งถูกปลุกให้ตื่นถึงได้รู้ความจริงว่าทุกคนเจอผีเหมือนกันหมด และไม่มีใครได้นอนเลย วันนี้ถึงได้รีบพากันออกมาแต่เช้า”

อาจารย์ฟังก็เชื่อและบอกว่ารู้สึกลางสังหรณ์แปลกๆตั้งแต่เเรกที่จะเข้ามาพักแล้ว 

ก่อนออกจากที่พักเพื่อจะไปเช็คเอ้าท์เลยได้ไปถามพนักงาน ตอนแรกพนักงานไม่ยอมเล่า อาจารย์เลยให้ติ้บค่าเปิดปากไป 200 บาท พนักงานเลยเล่าว่ามีชาวต่างชาติผู้ชายเข้ามาพักกับสาวคนไทย แต่ชายชาวต่างชาติคนนั้นถูกไฟดูดตายตรงตู้เย็น หญิงคนไทยน่าจะเป็นสาวบริการ เรื่องเพิ่งมาเกิดก่อนพวกเราจะมาเข้าพักได้ไม่กี่วันเอง พอได้ฟังแบบนี้ก็ทำเอาหลอนไปอีกนานและรีบออกไปจากบ้านหลังนั้นทันที

ขอบคุณเรื่องจากกระทู้พันทิป เครดิต : สมาชิกหมายเลข 37236614

Previous articleเส้นทางขึ้นเหนือ ทำไมพระภิกษุสงฆ์รูปนี้
Next articleอย่าทักผี