เรื่องราวประสบการณ์ขนหัวลุกที่ถูกแชร์บนพันทิป ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสมัยที่ จขกท เรียนอยู่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง มีทั้งเรื่องที่อาจารย์เล่าให้ฟัง เหตุการณ์ที่เธอได้ประสบพบเจอเอง และเหตุการณ์ที่เพื่อนเจอ แอดมินบอกเลยว่า แต่ละเหตุการร์นั้นสุดจริงๆ ถึงขั้นลาออกกันเลยที่เดียว …
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนค่ะว่าเรื่องที่เรานำมาเล่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด บางครั้งก็เกิดกับคนใกล้ตัว รวมไปถึงประสบการณ์ของตัวเองที่ได้เจอมา เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาขอเล่าเลยแล้วกันนะคะ
#1_เรื่องสมัยเรียน
เราเป็นเด็กหอ ซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งค่ะ ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่มาเรียนที่นี่มีเรื่องเล่าเยอะมาก ทั้งฟังจากรุ่นพี่ จากอาจารย์ และจากตัวเองที่เจอรวมไปถึงคนรอบข้าง วันนี้จึงขอนำมาเล่าเป็นบางส่วนนะคะ
เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องเล่าของอาจารย์ท่านนึง ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชานาฏศิลป์ของโรงเรียน อาจารย์ ย.อยู่สอนที่นี่มาเกือบ 20 ปีได้แล้ว อย่างที่บอกค่ะว่าเป็นโรงเรียนประจำ มักจะมีการผลัดเปลี่ยนเวรอาจารย์คอยตรวจตราที่หอพักอยู่ตลอดทุกคืน
อาจารย์ ย. เล่าว่าคืนนั้นเป็นคืนที่นักเรียนลงมาประชุมหน้าเสาธงทุกคืนวันศุกร์ อาจารย์ ย.ได้เดินขึ้นไปตรวจที่หอพักหญิงเพื่อจะดูว่ามีนักเรียนคนไหนที่ไม่ลงไปประชุมหรือป่าว
ตอนนั้นไฟในหอปิดหมด มันมืดมาก อาจารย์ ย. ก็เดินตามทางบันได ไปถึงชั้น 4 ขณะที่กำลังเดินไปถึงชั้น 5 อาจารย์ ย. เล่าว่าได้มีนักเรียนหญิงคนนึง ใส่ชุดนักเรียน มองจากความมืด วิ่งพรวดลงมาแบบไวมาก วิ่งผ่านอาจารย์ไปในความมืด
อาจารย์ ย. กำลังจะเรียกมาถามว่าทำไมไม่ลงไปประชุม แต่นักเรียนคนนั้นวิ่งไปไวมากจนเรียกไม่ทัน อาจารย์ ย. นึกสงสัยว่าป่านนี้แล้วทำไมเด็กนักเรียนคนนั้นยังอยู่ในชุดเครื่องแบบ ทำไมถึงยังไม่เปลี่ยนชุดลำลองเหมือนคนอื่น อีกใจนึงก็คิดว่าเด็กนักเรียนคนนั้นอาจจะรู้ว่าอาจารย์ ย. จะมาตรวจเวรเลยรีบวิ่งลงไปหรือเปล่า…
เพียงชั่วอึดใจเดียวที่ อาจารย์ ย. กำลังยืนนึกคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครสักคนวิ่งมาอย่างเร็วจากชั้นล่างกำลังจะขึ้นมาที่ชั้น 5 เสียงวิ่งนั้นดังขึ้นมาเรื่อยๆๆจนจะถึงชั้นที่ อาจารย์ ย. ยืนอยู่ อาจารย์จึงเดินจ้ำๆไปถึงชั้นดาดฟ้าเพื่อจะรอดักใครสักคนที่กำลังวิ่งขึ้นมา
แต่แล้วเสียงนั้นก็มาหยุดอยู่ตรงชั้น 5 อาจารย์มองลงทางช่องบันได แต่ก็ไม่เห็นใคร ในขณะนั้นอาจารย์กำลังจะเดินลงไปสำรวจ ปรากฎว่าประตูดาดฟ้าของชั้น 6 ก็มีลมตีแรงมากจนเกิดเสียงดังสนั่น อาจารย์จึงหยุดชะงักและรีบวิ่งไปทางดาดฟ้าทันที เพราะคิดว่าอาจจะมีเด็กนักเรียนคนอื่นแอบอยู่ก็ได้
อาจารย์เล่าว่าตอนนั้น อาจารย์เปิดประตูพรวดออกไป ภาพที่เห็นเกือบทำให้ อาจารย์ช๊อก แทบสติหลุด! เมื่อเห็นเด็กนักเรียนมอปลายคนนึงกำลังนั่งบนขอบดาดฟ้า คล้ายๆจะโดดลงไป คือนั่งแบบนิ่งๆผมเผ้ารุงรัง แต่อาจารย์ก็ยังใจดีสู้เสือคิดว่าเป็นเด็กนักเรียนที่อาจกำลังคิดไม่ดีจะทำร้ายตัวเอง
ทันใดนั้นอาจารย์ตะโกนบอกให้นักเรียนคนนั้นลงมา อย่าทำแบบนี้ แต่เด็กคนนั้นกลับกระโดดพรวดลงไปต่อหน้าต่อตา อาจารย์บอกว่าอาจารย์กรี้ดจนเสียงแตก แล้วรีบวิ่งไปดู มองลงไปข้างล่าง แต่สิ่งกลับช๊อกยิ่งกว่า เพราะไม่พบร่างของเด็กคนนั้นอยู่เบื้องล่างเลย ตอนนั้นอาจารย์สติแทบหลุดและคิดว่าต้องเจอแน่ๆแล้ว พออาจารย์ตั้งสติได้ก็รีบจ้ำอ้าวลงจากดาดฟ้าทันที…
จุดที่พีคที่สุดคือ ขณะที่อาจารย์กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันได อาจารย์ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งขึ้นมาแบบตอนแรกที่ได้ยิน อาจารย์จับราวบันได พร้อมกับหลับตา สวดมนต์อยู่ในใจ สลับกับวิ่งๆเดินๆ อาศัยมือคลำๆทางลงเอา แล้วเสียงวิ่งนั้นก็เหมือนจะผ่านอาจารย์ไป จังหวะนั้นขาอาจารย์แข็ง ก้าวเท้าแทบไม่ได้ ลืมตามาอีกทีก็ลงมาถึงชั้นล่างของหอแล้ว
อาจารย์บอกว่าเป็นครั้งแรกที่เจอหนักขนาดนี้ ถึงขั้นต้องขอลางานอาทิตย์นึงเลยค่ะ เรื่องนี้ก็ดังมากจากรุ่นสู่รุ่น ส่วนเราได้ฟังจากปากอาจารย์เลยค่ะ เพราะเราเข้าเรียนวิชานาฏศิลป์กับอาจารย์.ย เป็นประจำ เรื่องแรกก็มีเท่านี้ค่ะ
#2_เพื่อนไม่สบายจนเจอดี
เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องราวของเพื่อนเราค่ะ เกิดขึ้นสมัยที่ยังเรียนอยู่มัธยมต้น โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนประจำ ในวันศุกร์ของทุกสัปดาห์จะมีการประชุมรวมทุกค่ำก่อนนอน การประชุมจะเริ่มตั้งแต่ทุ่มนึงจนไปถึงสาม-สี่ทุ่ม
ก่อนจะลงไปประชุมรวมที่หน้าเสาธง มีเพื่อนคนนึงในหอซึ่งเป็นคนที่เรารู้จัก นางไม่สบายจึงขอตัวไม่ลงไปประชุม จึงขอนอนพักอยู่บนหอ จากนั้นพวกเราทุกคนก็ลงไปประชุมกันตามปกติ
จนล่วงเข้าเวลาสี่ทุ่มกว่าถึงจะกลับขึ้นไปบนหอ พอทุกคนกลับมาที่ห้องพักรวมถึงตัวเราด้วย ก็เห็นเพื่อนที่ไม่สบาย นอนอยู่ในสภาพที่ตัวเกร็ง มือหงิก เหมือนคนจะเป็นลมชัก ตอนนั้นทุกคนตกใจมาก ช่วยกันบีบนวด ส่วนเราก็เอายาดมให้เพื่อนดม
สักพักเหมือนเพื่อนจะรู้สึกตัวและอาการชักเริ่มหายไป เท่านั้นแหล่ะเพื่อนกรีดร้องเลย อาการเหมือนคนตกใจกลัว ตัวสั่นเหมือนคนทรงเจ้า
ทุกคนถามเพื่อนว่าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น นางก็เอาแต่ร้องให้ไม่ยอมหยุด จนมีรุ่นพี่คนนึงที่พักอยู่ชั้นเดียวกัน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากห้องของพวกเรา รุ่นพี่คนนี้จึงเดินเข้ามาพร้อมกับสร้อยพระในมือ เมื่อถึงตัวของเพื่อนเรา รุ่นพี่จึงรีบสวมสร้อยพระให้เพื่อน
จากตอนแรกที่ตัวสั่นและร้องให้ไม่หยุด ตอนนี้นางก็เริ่มจะสงบลงบ้างแล้ว เราทุกคนจึงพาเพื่อนลงไปข้างล่างหอเพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น รุ่นพี่ที่สวมพระให้ก็เริ่มถามก่อน “เราเจอใช่มั้ย”
ตอนนั้นพวกเรามองหน้ากันไปมา เพื่อนที่ไม่สบายนางก็เริ่มเล่าว่า “ตอนที่ทุกคนลงไปจากหอแล้ว นางก็นอนพักผ่อนตามปกติ พอไกล้ๆจะเคลิ้มนางก็รู้สึกว่าเหมือนกับมีคนมาเดินรอบๆเตียงนอน ตอนนั้นนางคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนคนอื่นที่ไม่ลงไปประชุม ก็เลยไม่ได้สนใจอะไร สักพักนางก็นอนพลิกตัวไปทางซ้ายมือ ซึ่งเป็นกำแพง นางก็รู้สึกว่ามีคนเดินมาทางข้างหลัง ที่รู้ว่ายืนอยู่ข้างหลังเพราะฟังจากเสียงเท้าที่เดินลากกับพื้น เเละมาหยุดยืน แต่เพื่อนก็ไม่ได้สนใจที่จะหันไปมอง
สักพักนางก็ได้ยินเสียงคนๆนั้นพูดขึ้นมาแบบลากเสียงช้าๆยานๆว่า “ขอออ…นอนนน..ด้วยยย…คนนน…นะ !!!” เพื่อนเราด้วยความที่สะลึมสะลืออยู่ จึงตอบไปว่า “อืมมม !” โดยที่ยังไม่หันมามอง สักพักนางบอกรู้สึกเหมือนเตียงยวบแรงมาก ไม่เหมือนคนที่ล้มตัวลงมานอน แต่เหมือนกะโดดทับลงมานอนข้างๆนาง ! นางก็เริ่มรู้สึกว่าทำไมรุนแรงจัง สักพักคนๆนั้นก็เริ่มเบียดตัวเองเข้ามาใกล้ๆใกล้ๆ ใกล้จนนางจะตกเตียง นางรู้สึกหงุดหงิดจึงจะหันไปตวาด แต่พอนางหันไปภาพที่เห็นทำให้นางแทบช็อก
เพราะคนๆนั้น นอนในลักษณะเหมือนผ้าที่คลุมศพยังไงยังงั้นเลย แต่ที่ช๊อกกว่า คือเขานอนตะแคงหันหลังให้แต่หันหัว 180 องศา มาทางเพื่อนเต็มๆ จนหน้าแทบจะชิดกัน ใบหน้าขาวโพลน เบ้าตาลึกโบ๋วว และมีเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ
เพื่อนบอกวินาทีนั้นสติหลุด จะกรี้ดก็กรี้ดไม่ออก ได้แต่ท่องพ่อแก้วแม่เเก้วในใจ แต่ยิ่งสวดมนต์เสียงหัวเราะก็ยิ่งดังขึ้น จนกระทั่งเพื่อนหลุดพ้นจากตรงนั้น ก็ตอนที่พวกเราขึ้นมาบนหอ
เพื่อนบอกไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองช็อกไปตอนไหน เพราะวินาทีนั้นรู้สึกเหมือนนานมาก ใจสั่นระรัวไปหมด ในขณะที่นางเล่าตัวนางก็จะสั่น เสียงสั่นตลอดเวลา คืนนั้นทุกคนก็แทบจะไม่ได้นอนกันเลย เพราะต้องอยู่เป็นเพื่อนนาง พออาทิตย์ต่อมาก็เป็นช่วงปิดเทอมของช่วงนั้นพอดี นางฝืนอยู่จนจบเทอมแล้วขอลาออกทันที เรื่องก็มีเท่านี้ค่ะ
#3_แอบ
เรื่องราวในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ของรุ่นน้องคนนึงของเราเองค่ะ (เรื่องราวต่อจากนี้ก็ยังคงเกี่ยวข้องกับโรงเรียนนะคะ) อย่างที่บอกว่าโรงเรียนของเรานั้นเป็นโรงเรียนประจำ ในทุกเช้าของการมาเข้าแถวเราต้องมาให้ทันเวลา อย่ามาสาย ถ้านักเรียนคนไหนถูกจับได้ว่ามาสายหรือโดดเข้าแถวตอนเช้าก็จะถูกทำโทษหน้าเสาธง แน่นอนว่าต้องเป็นอะไรที่น่าอับอายเอามาก ๆ
และในวันหนึ่งรุ่นน้องของเราได้แอบโดดเข้าแถวตอนเช้าและขอไม่ลงไปเข้าแถว เพราะนางยังแต่งตัวไม่เสร็จทำให้ลงไปไม่ทัน เพื่อนร่วมห้องก็บอกว่า “..วันนี้มีอาจารย์เวรขึ้นมาตรวจนะไม่กลัวโดนจับได้หรอ..”
รุ่นน้องของเรา (นางชื่อกิ้ฟ) ก็บอกกับเพื่อนร่วมห้องนอนว่า “..งั้นเราจะแอบในตู้เสื้อผ้านะ พวกแกล็อคตู้ไว้นะ จะได้ทำเหมือนว่าไม่มีใครอยู่..” ตอนนั้นเราก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลยถามน้องไปว่า “..เข้าแถวกันนานนะ จะรอได้หรอ ในตู้มันร้อนนะเว้ย..” กิ้ฟก็ยืนยันจะแอบในตู้แถมกำชับว่าให้ล็อคตู้ไว้
“..เข้าแถวเสร็จแล้ว อย่าลืมรีบมาเปิดให้ด้วยนะ !” กิ้ฟ พูดย้ำอีกครั้ง
พอคุยกันจบเสียงกริ่งเข้าแถวเริ่มดัง พวกเราทุกคนก็รีบจัดแจงยัดนางกิ้ฟเข้าตู้
ขอเกริ่นเรื่องตู้เสื้อผ้าก่อนนะคะ ลักษณะของตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบเดียวกันหมด เป็นของทางโรงเรียนที่ได้จัดไว้ให้ เป็นตู้ไม้ประตูสองบานสีขาว
ต่อค่ะ…พอเสียงกริ่งดังเราทุกคนก้อรีบวิ่งลงไปเข้าแถว สักประมาณเกือบชั่วโมงได้ ทุกคนก็เป็นห่วงกิ้ฟกลัวว่ามันจะหายใจไม่ออก เพราะตู้เสื้อผ้าเล็กและอบ แต่ก็พอมีช่องไว้ให้หายใจ ตอนนั้นเราเองก็เป็นห่วงกิ้ฟมาก ก็มองหน้ากับพวกน้องๆด้วยความกะสับกะส่าย
และเวลาก็มาถึงค่ะ พอหมดเวลาเข้าแถวพวกเราก็รีบวิ่งขึ้นหอกันเลย น้องๆก็รีบเอากุญแจไขนางออกมา แต่พอเปิดออกมาภาพที่เห็นทำให้เราทุกคนช็อกมาก เพราะกิ๊ฟอยู่ในสภาพที่เหงื่อแตกท่วมตัวและหายใจรวยริน
ตอนนั้นคิดว่านางจะขาดใจตายเลยรีบดึงกิ้ฟออกมาจากตู้ หายาดมยาหม่องเปิดพัดลมให้ สักพักนางก็ร้องให้ออกมาดังๆเลยค่ะ จนเรากับรุ่นน้องที่เป็นเพื่อนร่วมห้องกิ้ฟต้องรีบปิดปากนางกลัวว่าคนอื่นหรืออาจารย์จะได้ยินและรู้เข้า
กิ๊ฟยังคงร้องให้ไม่หยุดและก็ตัวสั่น ทำหน้าหันรีหันขวางเหมือนกลัวอะไร ตอนนั้นก็ถามนางค่ะ “..กิ้ฟเป็นอะไร ใจเย็นๆตั้งสติก่อน พวกพี่มาแล้ว..” นางก็กอดเราใหญ่เลย และนางก็บอกว่าออกไปจากห้องนี้ก่อนได้มั้ย ? ตอนนั้นเราก็มองหน้ากัน แล้วก็พากันลงไปชั้นล่าง…
นางก็เริ่มเล่าว่าตอนที่ทุกคนลงไปหมดแล้วและปิดประตูห้อง บรรยากาศภายในตู้มันก็มืดๆอบๆแต่ยังดีที่ยังพอมีช่องจากประตูของตู้เสื้อผ้าให้พอได้มองเห็นและหายใจได้ ซึ่งจะอยู่เหนือกว่าหน้าผากหน่อยนึง นางก็มองออกจากช่องของตู้ ผ่านไปประมาณ 20 นาที ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินผ่านหน้าห้อง (ตู้ที่กิ้ฟแอบติดกับประตูทางเข้าห้องแต่ประตูปิดอยู่) ตอนที่ได้ยินเสียงเดินนั้นดังมาก ในใจก็คิดแล้วว่าต้องเป็นอาจารย์เวรที่ชอบมาจับเด็กนักเรียนที่โดดเข้าแถวแน่ ๆ
กิ้ฟมันก็แอบๆมองว่าประตูจะเปิดมั้ยสักพักประตูก็เปิดดัง แอ๊ดดดด… นางบอกนางลุ้นมากแต่ก็ไม่กล้าแอบมองผ่านช่อง เลยนั่งลงยองๆในตู้เพื่อคอยฟังเสียง ชั่ววินาทีนั้นกลัวว่าจะโดนจับได้อย่างเดียว นางเลยนั่งเงียบๆร้อนๆอยู่อย่างนั้น
สักพักเสียงเดินของใครบางคนซึ่งกิ้ฟเข้าใจว่าเป็นอาจารย์ ยังคงเดินวนเวียนอยู่ภายในห้องแบบนั้นอยู่ เพราะเสียงเดินลงส้นเท้าหนักและดังมาก กิ้ฟก็สงสัยว่าถ้าไม่เจอใครแล้วและทำไมยังไม่ออกไป แถมเสียงเดินนั้นก็ยังมาวนเวียนอยู่ตรงแถวๆตู้ที่กิ้ฟแอบอยู่
กิ้ฟเลยค่อยๆลุกยองๆเพื่อจะแอบมองลอดช่องของประตูตู้ แต่เมื่อนางมองออกไปก็พบว่าเป็นผู้หญิงคนนึงผมยาวๆปะบ่าปิดหน้าปิดตา ใส่ชุดคอกลมสีขาวเก่า สวมกระโปรงดำ เธอคนนั้นกำลังเดินก้มหน้าและเดินกลับไปมากลับมาอยู่ระหว่างหน้าตู้ที่กิ้ฟแอบอยู่
ในใจกิ้ฟตอนนั้นคิดว่าถ้าเป็นอาจารย์มาตรวจ ถ้าไม่เจออะไรก็ควรจะลงไปได้แล้วไม่ใช่หรอ!
ในขณะที่นางคิดไปสายตาก็มองออกไป สักพักเหมือนเธอคนนั้นจะรู้ความคิดนาง อยู่ๆเธอก็หยุดเดิน กิ้ฟตกใจสะดุ้งเฮือกพร้อมกับเอามือปิดปากเพื่อไม่ให้เผลออุทานหรือหลุดเสียงหายใจออกมา
กิ้ฟรู้แล้วว่าจะต้องเจอกับอะไร ยังไม่ทันได้คิดเธอคนนั้นก็เอียงคอลงแต่เป็นการเอียงคอในลักษณะที่หันมามองตรงตู้ที่กิ้ฟแอบดูอยู่
กิ้ฟบอกเกือบช๊อกเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่คน ใบหน้าของเธอคนนั้นเละไปครึ่งซีก แววตาขาวโพลนและดุดัน และดูเหมือนกับว่าเธอคนนั้นจะรู้ว่ากิ้ฟกำลังแอบมองอยู่
กิ้ฟเมื่อตั้งสติได้ก็รีบนั่งยองลงอย่างเดิมและภาวนาขอให้เธอคนนั้นไปจากตรงนั้น เพียงชั่วอึดใจกิ้ฟก็ได้ยินเสียงประตูปิดลงมาเบาๆ กิ้ฟเริ่มน้ำตาไหลและอยากให้พวกเรากลับมาไวๆ
ในขณะที่นางกำลังคิดอยู่นั้น ในใจก็อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นออกไปจากห้องรึยัง นางจึงค่อยๆพยุงตัวเองในตู้แคบๆนั้นอีกครั้งเพื่อลุกขึ้นมามองผ่านช่องของประตู
แต่พอนางมองลอดออกไป มันแทบทำให้นางหัวใจวาย เพราะมีดวงตาคู่หนึ่งที่มองลอดกลับเข้ามาจากด้านนอกเหมือนกัน กิ้ฟบอกว่าตอนนั้นกรี้ดสุดเสียงเลยและหวังให้ใครก็ตามที่อยู่แถวนี้ได้ยิน
แต่ช่างเป็นความโชคร้ายของกิ้ฟเหลือเกิน เพราะดูเหมือนจะไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของกิ้ฟเลย กิ้ฟบอกรู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนจะเป็นลมให้ได้ เท่านั้นยังไม่พอผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มที่จะเขย่าตู้เหมือนจะพยายามเปิดให้ได้
ในตอนนั้นกิ้ฟไม่มีเเรงกรี้ดแล้วได้แต่นั่งพนมมือร้องให้อยู่อย่างนั้น..จนอ่อนแรง จนกะทั่งพวกเราเสร็จจากการเข้าแถว ก็ขึ้นมาไขประตูตู้ให้กิ้ฟออกมาพอดี กิ้ฟบอกกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้มันนานมากและจะขอจดจำไปจนตาย แล้วนางก็ย้ายโรงเรียนเลย
#4_รีสอร์ทสยอง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนสมัยที่เราเป็นนักกีฬา ตอนนั้นเราเรียนอยู่มอต้น กีฬาของเราได้มีการจัดการเเข่งขันขึ้นที่จังหวัดพัทลุง พวกเราทุกคนได้ออกเดินทางกันแต่เช้า ไปกันทั้งชายและหญิง เมื่อไปถึงที่พัก
ก็ล่วงเวลาไปเกือบ 6 โมงเย็น ลักษณะของที่พักจะเป็นกึ่งบ้านกึ่งรีสอร์ท
เมื่อไปถึงทางพนักงานของที่นั่นก็ได้บอกว่า ตอนนี้ทางรีสอร์ทเหลือบ้านพัก 2 หลังที่เป็นคู่ติดกัน ซึ่งเหลือแค่สองหลังนั้นจริงๆแต่ทางอาจารย์ก็ไม่รีรอ จึงรีบตอบตกลงทันที
ตอนนั้นเราสังเกตุเห็นว่าพนักงานซุบซิบๆอะไรกันและมองหน้ากันแบบเจื่อนๆ สักพักพนักงานก็หยิบกุญแจและนำเราทุกคนออกไปดูบ้านพัก
เมื่อไปถึงก็พบว่าเป็นบ้าน 2 หลังคู่ติดกัน มีทางเดินเป็นสะพานทอดเข้าไป มีทางเลี้ยวซ้ายขวาเพื่อจะเข้าไปยังบ้านพัก ข้างล่างจะเป็นน้ำ เหมือนบ้านที่ปลูกลอยน้ำ คือบรรยากาศในตอนเย็นมันก็ดีมาก ทางอาจารย์ที่เป็นโค้ชของเราก็ได้ถามนักกีฬาหญิงก่อนเลยว่า
“ครูให้ผู้หญิงเลือกก่อนว่าจะนอนบ้านฝั่งไหน ” ตอนนั้นเราเป็นคนตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า “หนูขอเลือกห้องฝั่งขวามือค่ะ ”
ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจ เพราะเรารู้สึกแปลกๆกับบ้านพักคู่หลังนี้มาก สุดท้ายพวกนักกีฬาชายก็ได้นอนห้องฝั่งซ้ายมือแทน
พอเลือกเสร็จทุกคนก็ได้จัดแจงย้ายข้าวของสัมภาระเข้ามาในห้อง พอเข้าไปถึงบรรยากาศต่างกับข้างนอกมาก เพราะภายในห้องตกแต่งเหมือนกับโรงแรมทั่วๆไป ไม่ได้มีบรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน แต่ที่แปลกคือ ทั้งห้องจะปูพรมสีแดงหมดแม้แต่ผนังยังทาสีแดง คืองงมาก ตกแต่งแบบหลอนๆ ที่นอนก็ทั่วไปเลย เป็นสีขาวนวล ขนาดประตูห้องน้ำยังเป็นแค่สังกะสีที่ยังเกือบอยู่ในสภาพดี
ตอนนั้นก็มองหน้ากันว่าแปลกดีนะ! แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไร จนกะทั่งคืนนั้นทุกคนหลับกันหมด จะมีก็แต่เราที่คอยหลับๆตื่นๆเพราะได้ยินเสียงอะไรแปลกๆที่ไต้ถุนบ้าน ซึ่งข้างล่างบ้านจะเป็นน้ำ แต่คืนนั้นก็ผ่านพ้นไป
แต่ที่ไม่ปกติคือพวกนักกีฬาชายตื่นเช้าผิดปกติ เพราะหลังจากที่พวกเราตื่นกันเรียบร้อยแล้วออกมายืนรับบรรยากาศตรงลานหน้าบ้านพัก ก็เห็นพวกนักกีฬาชายนั่งจับกลุ่มคุยกันแถมยังตื่นเร็วกว่าปกติ เลยทำให้พวกผู้หญิงอย่างเรางงนิดหน่อย เพราะพวกผู้ชายที่จริงมันตื่นกันช้ามาก อาจารย์เลยเข้าไปถาม อ้าวทำไมตื่นกันไวจัง ?
หนึ่งในนั้นตอบไปว่า “โหอาจารย์เมื่อคืนพวกผมแทบไม่ได้นอนเลย เจอผีหลอกทั้งคืน อาจารย์กับพวกผู้หญิงไม่เจออะไรกันบ้างหรอคับ”
ตอนนั้นพวกเราก็ขำเพราะคิดว่าพวกผู้ชายมันขี้โม้ อาจารย์ก็ถามต่อว่าเจออะไรยังไง พวกอาจารย์กับนักเรียนหญิงหลับสบายดี ? พวกผู้ชายเลยเล่าว่า “ตอนที่กำลังจะเคลิ้มหลับรู้สึกเหมือนมีเงาค่อยๆลอยโผล่พ้นเตียง และมายืนคล่อมตรงหว่างขา แต่ตัวใหญ่มากเห็นเป็นเงาดำ ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เหมือนเพ่งมองว่าพวกตนมาทำอะไร
หนึ่งในนั้นบอกว่า ตอนที่เห็นรู้เเล้วว่าไม่ใช่คนและคิดว่าคงเจอดีเข้าแล้ว เลยสะกิดเพื่อนที่นอนข้างๆ ก็พบว่าเพื่อนที่ตนสะกิดก็ยังไม่นอนและเห็นเหมือนกันกับตน ทุกคนคงเห็นเหมือนกันหมดเลยแกล้งนอนปรี่ตามองนิ่งๆ ไม่ให้เขารู้ว่าตนเห็น ร่างดำนั้นก็เหมือนจะยืนอยู่อย่างนั้นไม่ยอมไปไหน จนมีเพื่อนคนนึงที่นอนหลับลึกที่สุดอยู่ๆก็ดิ้นและทำงอมืองอเท้าเหมือนจะชัก และรุ่นพี่คนนึงในนักกีฬาชายก็รีบลุกพรวดจากที่นอนไปเปิดไฟพร้อมกับตะโกนว่า กูไม่ไหวแล้วโว้ย
นาทีที่เปิดไฟทุกคนในห้องก็ตื่นกันหมด เหงื่อแตกพลั่ก ส่วนเงานั้นก็หายไปเลย จะมีก็แต่คนที่นอนชักดิ้นชักงอที่ยังไม่ตื่น
ทุกคนเลยรีบเขย่าๆให้มันตื่น จนอาการหายไป เลยถามว่าเป็นอะไรทำไมถึงชัก มันบอกว่ามันฝันว่ามีผู้ชายคนนึงมายืนชี้หน้ามันและพูดเป็นภาษาที่ไม่เข้าใจ พอตนฟังไม่รู้เรื่องเลยทำเป็นเฉยใส่ชายคนนั้น
และดูเหมือนชายคนนั้นจะโกรธจัดเลยพุ่งตัวเข้ามาบีบคอตน ในความฝันมันเหมือนจริงมากๆจนกะทั่งถูกปลุกให้ตื่นถึงได้รู้ความจริงว่าทุกคนเจอผีเหมือนกันหมด และไม่มีใครได้นอนเลย วันนี้ถึงได้รีบพากันออกมาแต่เช้า”
อาจารย์ฟังก็เชื่อและบอกว่ารู้สึกลางสังหรณ์แปลกๆตั้งแต่เเรกที่จะเข้ามาพักแล้ว
ก่อนออกจากที่พักเพื่อจะไปเช็คเอ้าท์เลยได้ไปถามพนักงาน ตอนแรกพนักงานไม่ยอมเล่า อาจารย์เลยให้ติ้บค่าเปิดปากไป 200 บาท พนักงานเลยเล่าว่ามีชาวต่างชาติผู้ชายเข้ามาพักกับสาวคนไทย แต่ชายชาวต่างชาติคนนั้นถูกไฟดูดตายตรงตู้เย็น หญิงคนไทยน่าจะเป็นสาวบริการ เรื่องเพิ่งมาเกิดก่อนพวกเราจะมาเข้าพักได้ไม่กี่วันเอง พอได้ฟังแบบนี้ก็ทำเอาหลอนไปอีกนานและรีบออกไปจากบ้านหลังนั้นทันที
ขอบคุณเรื่องจากกระทู้พันทิป เครดิต : สมาชิกหมายเลข 37236614