เรื่องนี้ผมได้รับการบอกเล่าจากหลวงพี่รูปหนึ่งตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาแล้ว พอดีวันนี้ไปเจอผู้หญิงคล้ายกับที่หลวงพี่ท่านเอ่ยถึง เลยจะมาเล่าให้ฟังครับ
หลวงพี่ท่านชื่อว่า.. “ทองแท้” อายุตอนนี้ก็ 50 ต้นๆ แต่ท่านบวชมาเกือบ 20 ปีแล้ว วันที่ท่านเล่าเรื่องนี้คือผมไปช่วยท่านกวาดลานวัด แล้วมีผู้หญิงแต่งกายไม่เรียบร้อยเข้ามาในวัด ท่านก็หันมองหน้าผมแล้วบอกว่า
“เด็กสมัยนี้ ไม่ค่อยสำรวมเลยนะโยม ว่าแต่อาตมาเคยเจอผีผู้หญิงแบบนี้ เมื่อตอนออกธุดงค์ใหม่ๆ อยากฟังไหมเล่า?”
ย้อนกลับเมื่อ 20 ปีก่อน นายทองแท้อายุ 30 ปี เขาได้สูญเสียคนรักสาวจากอุบัติเหตุ กำหนดการจะแต่งงานที่วางไว้พังทลาย
ชีวิตเขาสิ้นหวัง ดื่มเหล้าเมามาย พ่อแม่สงสารเลยอ้อนวอนว่าขอให้ไปบวชได้ไหม? เผื่อใจจะได้สงบและปล่อยวางลงได้บ้าง
ด้วยความที่เห็นแก่ท่านทั้งสอง เขาจึงตัดสินใจบวชที่วัดป่าแห่งหนึ่ง แรกเริ่มอาทิตย์สองอาทิตย์ยังคงยึดติดอยู่กับอารมณ์ที่อาวรณ์ แต่ผ่านไปหนึ่งเดือน พระใหม่ที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดก็มีความคิดจะออกธุดงค์บ้างว่าจะทนต่อความยากลำบากได้หรือไม่
วันที่มาลาหลวงตาแล้วจะออกเดินทางจากวัด ท่านได้เตือนว่าสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับบุรุษคือ “ความงามของสตรี ไม่ว่าจะเป็นเพศบรรพชิตหรือฆราวาสก็ตาม จงอย่าหวั่นไหวมองพิจารณาให้เป็นอสุภะ สิ่งเน่าเปื่อยไม่สวยงาม” พระทองแท้ก้มกราบแล้วแบกกลดเดินตามถนนมา
ในสมัยก่อนนั้นคนยังศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแนบแน่น มีชาวบ้านถวายน้ำดื่ม ผลไม้เล็กน้อยให้ท่านไว้ฉัน
พระทองแท้เดินมาตามทางจนถึงเวลาพลบค่ำ ตะวันลาลับแสงจันทร์ขึ้นมาแทน พระหนุ่มมองไปในป่ามีต้นไผ่ที่โค้งหากัน คล้ายเป็นอุโมงค์ธรรมชาติที่สร้างสรรค์ไว้ ท่านยิ้มและรีบเอากลดเข้าไปกางในนั้น
ท่ามกลางความเงียบนั้น ได้ยินเสียงบางสิ่งเดินใกล้เข้ามา ท่านก็คิดว่าคงเป็นเสียงสัตว์เดินเข้ามา ชะเง้อไปดูก็ไม่เห็นมีอะไร
หลังจากปักกลดเสร็จ ท่านเดินจงกรมภาวนาอยู่รอบๆ ความรู้สึกเหมือนมีบางอย่างแอบมองท่านอยู่ แต่ก็คิดคงเป็นสัตว์หรือถ้าเป็นเจ้าป่าเจ้าเขา
“อาตมาขอแค่มาอาศัยพักแรมเพื่อปฏิบัติภาวนา แล้วจะส่งบุญให้แล้วกัน”
สักพักท่านเข้ามาในกลด หลับตานั่งสมาธิลงได้เพียงครู่ ได้กลิ่นหอมลอยมาติดปลายจมูก ก็คิดพิจารณาดูว่ากลิ่นนี้คือกลิ่นใดกัน ทำไมทำให้ใจท่านสั่นไหวขนาดนี้ พลันมีเสียงอยู่ข้างหน้ากลดขึ้นมาว่า
“หลวงพี่เจ้าขา ช่วยฉันด้วยนะคะ!”
พระหนุ่มลืมตาฉงนกับเสียงหญิงสาวปริศนา กลางป่าเขาเช่นนี้ มันจะเป็นไปได้อย่างไร? พอเปิดกลดออกมาท่านยิ่งชะงักจนทำอะไรไม่ถูก ภาพที่เห็นคือสาวน้อยผิวขาว ในชุดนักศึกษากระโปรงสั้นแต่ขาดถึงต้นขา เสื้อที่รัดจนกระดุมจะพุ่งใส่หน้าท่าน ที่ถูกกระชากจนขาด
ท่านเดินออกมามองเห็นว่าร่างกายเธอมีแต่ความบอบช้ำแต่ยังคงความสวยงามมากทีเดียว
หญิงสาวนั่งพับเพียบลงก้มกราบท่าน ร้องไห้บอกหลวงพี่เจ้าขาช่วยฉันด้วย พระหนุ่มมองดูความเศร้าโศกนั้นก็เอ่ยถามว่า จะให้อาตมาช่วยอย่างไรสีกา?
เธอบอกถูกคนหลอกมากะว่าจะเอาเธอไปขายตัวที่ชายแดน คนนั้นคือแฟนหนุ่มของเธอ เธอหนีมาได้แต่หลงเข้ามาในป่ามันสำปะหลังของชาวบ้านติดกับป่านี้ เธอถูกชาวบ้านที่เฝ้าป่ามันเขารุมขืนใจเกือบสิบคน
“ท่านช่วยไปดูว่ามีหนทางใดช่วยฉันกลับบ้านได้ไหมเจ้าคะ?” หญิงสาวพูด
“นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ดีกว่าไหมว่าแต่สีกานอนที่ไหน?”
“หลวงพี่ตามมาได้ไหมเจ้าคะ?”
ท่านพยักหน้าแล้วเดินตามเธอไป
เมื่อมองพิจารณาดูแล้วสภาพเธอบอบช้ำมาก และที่สำคัญคือกลิ่นที่หอมกรุ่นเมื่อครู่ มันคือกลิ่นกายสาบสาวแรกรุ่นของเธอนั่นเอง
เดินมาพอสมควร ถึงป่าที่มองไปเป็นไร่มันสำปะหลัง มีเถียงไม้เก่าๆต้นพยุงใหญ่ข้างๆ จังหวะที่เธอหันกลับมา พระท่านก็ตกใจสะดุดรากไม้ จนหลังไปกับพิงลำต้น
สีการูปงามเดินเข้ามาเอามือสองข้างกางกั้นท่านไว้ สายตาท่านมองเห็นเนินอกตูมที่มีชุดชั้นในสีดำตัดกับผิวขาวหยวกกล้วยนั้น ริมฝีปากกับสายตาของเธอเชื้อเชิญมาก
“ฉันเหงามากเจ้าค่ะหลวงพี่ ช่วยมาทำให้ฉันหยุดเหงาได้ไหม”
“อาตมาเป็นพระทำไม่ได้หรอกสีกา และสีกาไม่ควรทำเช่นนี้มันบาป”
“แค่ท่านถอดจีวรออก ท่านก็คือผู้ชายธรรมดาแล้วนะเจ้าคะ”
กลิ่นกรุ่นสาวเย้ายวนใจท่านจนสั่นไหว เธอเอื้อมหน้าริมฝีปากชมพูอวบอิ่ม
ใกล้เข้ามา ท่านนึกถึงคำหลวงตาสอนสั่งไว้ คิดภาวนาในใจขึ้นมา
“พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ”
เหมือนได้ผล สาวน้อยหยุดชะงัก แต่ยิ่งเพิ่มความยั่วยวน เธอจัดการถอดเสื้อออก เหลือเพียงยกทรงกับปทุมถันต่อหน้าท่าน
ท่านถอนหายใจ แล้วภาวนาในใจ พลันสายตาท่านมองเห็นร่างของเธอเปลี่ยนไปกลายเป็นตาเหลือก
เลือดออกปากออกจมูกมือหงิกงอ ท่านจึงเอามือมาพนมแล้วสวดบทกุสะลาธัมมา
เธอทรุดลงนั่งร้องไห้ ก่อนก้มลงกราบแทบเท้าท่าน แล้วก็บอกความจริงว่าเธอตายแล้ว เพราะชาวบ้านข่มขืนเสร็จก็บีบคอเธอ ที่ท่านเห็นว่าตาเหลือกเลือดออกปาก มืองอคือจิตสุดท้ายของเธอ
ที่ไปไหนไม่ได้เพราะใจเธอยังเคียดแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเจ้าที่เจ้าป่าเจ้าเขาสั่งห้ามและบอกว่าอีกไม่นานจะมีผู้ทรงศีลมาปลดปล่อยเธอ หากเธอใช้เรือนร่างเสน่ห์ของเธอต่อเขาไม่ได้ผล บุคคลนั้นคือผู้ที่จะส่งเธอไปภพภูมิใหม่ ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่า ท่านคือผู้ปลดปล่อยเธอ ขอกราบอภัยที่ลองใจท่านแบบนั้น
ท่านเดินมานั่งที่กลด มองดูวิญญาณสาวด้วยความเวทนา เกิดมาไม่สวยก็ทุกข์เพราะไม่มีคนรัก พอรูปสวยมากนักคนก็จ้องแต่เรื่องกามารมณ์ จนเกิดภัยร้ายต่อตนเอง
หลังจากนั้นทุกคืนท่านจะมาสวดมนต์โปรดเธอที่ตอนนี้ท่านได้ชุดขาวจากชาวบ้านถวายให้ ซึ่งมันก็แปลกดี เพราะเธอได้ใส่ชุดนั้นและได้รับพร จนผ่านไปหนึ่งเดือนเธอมากราบลาท่านและไปเกิดในภพภูมิใหม่
ส่วนท่านก็ออกธุดงค์ไปที่อื่นในรุ่งเช้าวันต่อไปทันที
สุดท้ายผู้ชายมักพ่ายแพ้ให้แก่ผู้หญิงที่มีความงาม หากจิตใจไม่หนักแน่นมั่นคง ย่อมทำให้เขานอกลู่นอกทางและเริ่มลดความซื่อตรงต่อคนที่รักได้ทันที
อย่าหลงเพียงรูปอย่าคิดเพียงเสน่หา เพราะเมื่อพลาดพลั้งขึ้นมา มันแก้ยากเสมอครับ…
เครดิตเรื่อง : หาญใจสิงห์