Home กระทู้ผีพันทิป กรรมของคนฆ่าตัวตาย

กรรมของคนฆ่าตัวตาย

กรรมของคนฆ่าตัวตาย
กรรม

เรื่องนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่ผสมผสานระหว่างความฝันกับเหตุการณ์จริง เคยคิดไหมครับว่าคนที่เขาคิดฆ่าตัวตายวิธีใดที่ถูกนำมาใช้มากที่สุด แน่นอนครับทุกคนคงคิดว่าคือการผูกคอตายบ้าง กินยาบ้าง 

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนผมเคยคิดที่จะฆ่าตัวตายเช่นกัน เลือกเอาวิธีผูกคอนี่แหล่ะ ด้วยว่ามีปัญหาครอบครัวหนี้สินทุกอย่างรุมเร้าเข้ามา มันมืดไปหมด คิดได้เพียงถือเชือกเส้นเดียวเดินเข้าไปในป่าหาต้นไม้ใหญ่สักต้น 

ขณะยืนอยู่ใต้ต้นไม้มีหลวงตารูปนึงเดินมาจากไหนไม่รู้ท่านถามว่าจะทำอะไร ผมตอบท่านว่าอยากตาย  ท่านยิ้มและบอกให้ผมมองดูมดที่เดินอยู่ตรงต้นไม้ ให้ผมลองเอามือไปจี้ที่มดช้าๆ ปรากฏว่ามดมันเห็นเดินหลบไปมา 

ท่านเลยบอกเห็นไหมแม้แต่มดตัวเล็กกว่าปลายนิ้วก้อยโยมเขายังรักชีวิตเลย แล้วไม่รู้กี่สิบชาติมดเหล่านี้จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนโยม อารมณ์ชั่ววูบมันมีได้ทุกคน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้จนถึงทุกวันนี้ แค่เพียงปัญหาเข้ามาไม่เท่าไหร่ก็เลือกจะแก้ไขด้วยการทำร้ายตนเองงั้นหรือ คิดถึงคนข้างหลังด้วยนะใช้สติให้มาก 

ผมนั่งลงกราบท่านทั้งน้ำตาสติกลับคืนมา ก่อนลาจากกัน ท่านบอกผมว่าเดี๋ยวจะได้เห็นอะไรอีกเยอะ ผมกลับมานอนแล้วหลับฝันไปว่าเดินไปที่แห่งหนึ่ง รอบข้างมีแต่ต้นไม้ที่ยืนต้นตายมีกิ่งไม้แห้งปราศจากใบไม้แม้สักใบ 

มีผู้ชายคนนึงใส่ชุดเหมือนข้าราชการสมัยก่อนราชปะแตนแบบนั้นครับแต่เป็นสีดำ พอเขาเห็นผมบอกว่ามาได้ไงที่นี่ ผมบอกว่าไม่รู้มาได้ไงเดินมาเรื่อยๆ เขายิ้มให้ผมบอกว่าไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว อยากไปเที่ยวที่ๆเขาทำงานไหม ผมถามว่าที่ไหน เขาบอกไม่ต้องรู้หรอกเดินตามมา คำเตือนคือห้ามพูดห้ามถามอะไรสักอย่าง 

ผมตกลงตามนั้น พาผมเดินไปเจอภูเขาลูกหนึ่งมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้า เดินเข้าไปในถ้ำก้าวแรกได้ยินเสียงร้องโหยหวนออกมา คือแบบตกใจเลย เขาหันมาทำมือจุ๊ปากแบบว่าอย่าเอ็ดไป เดินมาขึ้นบันไดมีโคมไฟส่องเห็นป้ายเขียนว่า… “ขุมที่๑” 

พอไปถึงชั้นนั้นมองลงมาเป็นห้องโถงขนาดใหญ่มากอยู่ด้านล่าง มีคนไม่ใส่เสื้อผ้าทั้งหญิงและชายวิ่งหนีลูกหินสีแดงเพลิงวุ่นวาย หนีไม่ทันก็บดขยี้ตายเหมือนมดตัวหนึ่ง พอสักพักร่างนั่นก็ฟื้นขึ้นมาวิ่งหนีไปอยู่อย่างนั้น 

ผมตกใจถามว่าละครหรืออะไรทำไมแสดงเหมือนน่ากลัวมาก เขาหันมายิ้มแล้วบอกผมว่า “สำหรับคนที่ชอบกดขี่ข่มเหงคนอื่นทั้งร่างกายและจิตใจ” ไปดูชั้นต่อไปดีกว่า… 

ชั้นสองเป็นลานกว้างมีคนประหลาด ตัวเป็นคนหัวเป็นวัวบ้าง ควาย ช้าง หมู ปลาบ้าง แล้วเหมือนผู้คุมที่อยู่จะเอามีด ดาบแทง ที่น่ากลัวคือเสียงร้องเป็นสัตว์ชนิดนั้นเลย “สำหรับคนที่ชอบทรมาน ฆ่าสัตว์เป็นนิจ” 

ทีนี้เขาหันมาถามผมว่าคิดจะฆ่าตัวตายหรือ? มาดูนี้สิ พาผมแยกเข้าไปอีกห้อง เจอกับคนมากมาย บางคนกำลังปีนขึ้นบนต้นไม้ไปแขวนคอตัวเองดิ้นจนลิ้นจุกปากตาถลนแล้วสักพักก็หล่นลงมาด้านล่างปีนขึ้นไปใหม่ บางคนก็กินน้ำกรดลงไปคอทะลุดิ้นทรมาน บางคนก็วิ่งชนต้นไม้ยักษ์จนตัวแตก ทุกการกระทำหมุนเวียนอยู่แบบนั้น 

ผมบอกว่าทำไมน่ากลัวจัง เขาบอกว่านี่คือกรรมของคนที่ฆ่าตัวตายบนโลก ที่จริงตายแล้วก็ต้องอยู่ตรงนั้นฆ่าตัวตายแบบเดิมเวลาเดิมจนกว่าจะหมดอายุขัยจริงๆ พอถึงเวลานั้นก็จะมาฆ่าตัวตายต่อที่นี่อีกจนกว่าจะหมดกรรม 

ผมเลยบอกว่าเหมือนในนรกเลยที่นี่ มีขุมที่ลึกที่สุดไหม เขาหันมาบอกว่า “โลกันตร์มหานรกอเวจีสำหรับผู้ทำอนันตริยกรรม(บาปหนักทั้งห้าประการ) เจ้าไปไม่ได้หรอกนั่นเขตแดนหวงห้ามหมดเวลาแล้วให้เจ้ารีบกลับไปก่อนที่จะออกจากที่นี่ไม่ได้!” ผมหันหลังกลับกลายเป็นเดินตกหลุมดำใหญ่แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมา เหงื่อแตกเต็มตัว เป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก 

แล้วต่อมาไม่นานผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง พระอาจารย์ค่อนข้างที่จะเคร่งไม่ให้เล่นโซเซี่ยลใดๆ สวดมนต์ภาวนา เดินจงกรมในป่าช้าตื่นมาตีสามทำวัตรแล้วออกไปบิณฑบาตกับหลวงตารูปนึง เดินเท้าเปล่าท่ามกลางถนนลูกรัง  

แต่ก่อนไปลุงสัปเหร่อถามหลวงตาว่าไหวมั้ยครับท่าน เอาโยมไปด้วยเดี๋ยวก็เจอดีอีกหรอกครับ ผมเลยถามว่ามีอะไรครับลุง หลวงตาบอกไม่มีอะไรหรอกโยมแค่ตอนเดินตามหลังหลวงตาแผ่เมตตาอย่างเดียวก็พอ 

เดินออกจากวัดมาสองข้างทางเป็นป่ายูคา ผมก็เริ่มแผ่เมตตาตามที่ท่านบอก แต่หางตานั้นเห็นแล้วว่ามีอะไรอยู่ในป่า เบี่ยงหน้าไปดูนิดนึงสิ่งที่เห็นคือ เด็กสาวคนหนึ่งกำลังปีนขึ้นไปพร้อมกับเชือก เธอขึ้นไปผูกคอตายดิ้นอยู่สักพักเงยหน้ามาพนมมือไหว้ขอบุญกุศล ผมรีบหันกลับมาแผ่เมตตาให้เธอ 

ขณะนั้นเองเสียงหลวงตาท่านท่องบทสวดยะถาขึ้นมา ผมเงยหน้ามองท่านได้ยินเสียงดังตุ๊บ! พร้อมกับเสียงวิ่งตรงเข้ามาที่ท่านกับผมเดินอยู่ เสียงหลวงตาท่านพูดว่า “อย่าหันไปมองเด็ดขาด! เดี๋ยวจิตจะหลุด” 

ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งอยากรู้ใช่ไหมครับ ผมเลยหันไปดูคือ ผู้หญิงคนนั้นคลานอยู่ข้างทางตาถลนมือยื่นมาพนมมือเชือกที่ผูกคอนั้นลากยาวมาจากกิ่งไม้จนถึงที่เธออยู่ 

สติผมหลุดยืนอึ้งเลยมารู้สึกตัวก็ตอนหลวงตาท่านเอาฝ้ายสีขาวมาผูกแขนให้แล้วดุผมว่าเตือนแล้วทำไมไม่ฟัง เดี๋ยวทางข้างหน้าก็เจออีก ผมหน้าเสียเลย 

เดินตามออกมาถึงถนนใหญ่เห็นผู้ชายวัยกลางคนยืนรอรถอยู่ ผมไม่ได้คิดอะไร แต่มีรถสิบล้อวิ่งมาถึงเขากระโดดตัดหน้า ร่างปลิวละล่องไปไกลมาก รถตามไปเหยียบซ้ำอีกจนร่างนี่เละกลางถนน 

ผมสะดุ้งเลยแต่หลวงตาบอกว่าไม่ใช่คนหรอกไม่ต้องกลัว (โธ่ หลวงตาครับไม่ใช่คนก็ต้องกลัวสิ) แล้วร่างที่เละนั้นก็ไหลมารวมกันกลายเป็นผู้ชายคนนั้นเดินหายเข้าป่าข้างทางไป นี่มันคืออะไร 

หลวงตาท่านเลยบอกว่าแผ่เมตตาไว้นะ เดี๋ยวฉันเช้าเสร็จเมื่อไหร่จะเล่าให้ฟัง แล้วพอท่านมาบอกถึงได้รู้ว่าที่ผมเห็นคือวิญญาณของคนที่ฆ่าตัวตายเขาจะมาฆ่าตัวตายด้วยวิธีเดิม เวลาเดิมๆแบบนั้นทุกวันจนกว่าจะหมดอายุขัย หากล่วงกรรมบนโลกไปแล้วก็ต้องไปชดใช้กรรมในนรกภูมิอีก ทรมานไม่รู้จบ 

เพียงแค่หนีปัญหาด้วยอารมณ์ชั่ววูบ มันทำให้คนหลายคนต้องเสียใจรวมทั้งตัวเราเองด้วย ไม่ว่าจะรวยหรือจนคนทุกคนย่อมมีอุปสรรคในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่พระพุทธองค์ท่านยังมีทั้งตอนที่ยังเป็นกษัตริย์หรือออกบวชแล้ว มีความมืดย่อมมีแสงสว่าง ขอเพียงมีสติพิจารณาไตร่ตรองให้ดี ขอเพียงตั้งมั่นในความดี ชีวิตต้องได้รับความสุขแน่นอนครับ….

เครดิตเรื่อง : หาญ ใจสิงห์

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here