Home เรื่องหลอนจากทางบ้าน ผีนางรำฝั่งลาว

ผีนางรำฝั่งลาว

ผีนางรำฝั่งลาว
ผีนางรำฝั่งลาว

เรื่องราวจากการบอกเล่าของเพื่อนร่วมงานของดารินญาน้องผู้หญิงที่สนิทกับผม “นนท์” คือชื่อของเพื่อนน้องคนนั้น ได้เล่าประสบการณ์ตอนไปเที่ยวที่ประเทศเพื่อนบ้านที่ลาวให้ฟังว่า..

ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว พ.ศ.2556 นนท์ได้ไปเที่ยวที่ต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อนอีกสองคน หลังจากผ่านไปสองวัน ก็มีความคิดว่าไหนๆก็ลามาเป็นอาทิตย์แล้ว ข้ามไปเที่ยวฝั่งลาวดีไหม เห็นเขาว่าสาวที่นั่นสวย ทั้งสามจึงตกลงกันว่าจะข้ามไปที่เมืองหนึ่งในประเทศลาว 

หลังจากที่ทั้งสามได้เดินทางข้ามมาถึงเมืองนี้ ก็ได้พบเจอประเพณีวัฒนธรรมวิถีชีวิตของผู้คนที่นั่นยังคงงดงามและเรียบง่าย 

จนถึงเวลาหาที่พัก ทั้งสามไปเจอกับโฮมสเตย์บ้านไม้แห่งหนึ่ง ดูแล้วสงบร่มรื่นมากเพราะติดภูเขาและมีบ่อน้ำอยู่ด้านหลัง… เจ้าของที่พักบอกว่าดื่มกินได้แต่อย่าเสียงดัง แต่ห้ามดึกมากเพราะมันจะรบกวนสิ่งต่างๆ

พอจบคำว่าสิ่งต่างๆ นนท์คิดในใจ ทำไมไม่พูดว่าคนอื่นๆแต่ใช้คำนี้แทน แต่ก็พยายามไม่คิดอะไร สะพายกระเป๋าพากันเดินไปที่พัก

เวลาพลบค่ำมองดูตะวันจะลับฟ้าผ่านทิวเขา เดินขึ้นบันไดไปบนบ้านพัก มีโต๊ะกินข้าว เก้าอี้ ห้องนอนหนึ่งห้องสองเตียง ห้องน้ำอยู่ด้านล่าง….

นนท์เดินไปมาบนบ้าน มองผ่านหน้าต่างหลังบ้าน ถัดไปสักสามเมตร มีบ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่อยู่ มีก้อนหินวางไว้ คิดในใจวิวดีมากๆ  แต่พอหันกลับมาพบว่าเพื่อนอีกสองคนได้จัดแจงเอาเครื่องดื่มกับแกล้มมาวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่มกว่า หลังจากดื่มไปได้สักพักพอตึงๆ เพื่อนคนนึงบอกนนท์ว่าไปเอากีตาร์ มาดีดร้องเพลงดีกว่า กูว่ามันเงียบไป ได้ยินแต่เสียงจิ้งหรีดเรไร

นนท์ลุกเดินมาที่ห้องนอน พลันสายตาไปสะดุดกับตู้ไม้เล็กๆสูงแค่เอว จำได้ว่าตอนเอาของเข้ามาวางมันปิดไว้สนิท แต่ทว่าตอนนี้มันแง้มออกมานิดนึง

นนท์เอามือจับตรงฝาประตูตู้ แต่ต้องชักมือกลับ เพราะรู้สึกเหมือนมีเส้นผมผู้หญิงยาวๆมาเรี่ยมือที่จับ  แล้วตัดสินใจเปิดออกดูทันที ปรากฏว่าไม่พบสิ่งใด เป็นเพียงตู้ไม้เก่า มีชั้นไม้คั่นกลางสำหรับไว้วางสิ่งของเท่านั้น

นนท์เดินไปหยิบกีตาร์แล้วออกมาเห็นเพื่อนนั่งคุยกันอยู่ เพื่อนคนนึงชื่อ แทน บอกว่าลงไปเข้าห้องน้ำมาเมื่อครู่ ไม่รู้เมาหรือตาฝาดเห็นผู้หญิงคนนึงอยู่ตรงบ่อน้ำหลังบ้าน พอออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นแล้วเสียดายจริง..

นนท์ได้แต่ขำและส่ายหัว หยิบกีตาร์มาจะเล่น พลันเจ้ากายเพื่อนอีกคนบอกเดี๋ยวก่อนกูปวดฉี่ ขอเวลาแป๊ป นนท์กับแทนคิดว่ามันจะลงไปห้องน้ำ แต่ผิดคาด… 

กายเดินไปหลังบ้านตรงหน้าต่างบอกว่า กูขี้เกียจลงไป เอามันตรงนี้ล่ะ นนท์กับแทนก็เตือนว่าไม่ดีมั้งลงไปแป๊ปเดียว กายบอกไม่มีใครเห็นหรอกน่า 

พอจัดแจงธุระเสร็จก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ กำลังจะดีดกีตาร์ อยู่ๆ มีเสียงปี่ชวาลอยตามลม ทั้งสามคนมองหน้ากัน แต่กายบอกไม่มีอะไรหรอกเล่นต่อเถอะ 

“เอ่อ..เอ่อ..เอ้อ..เออ..เออ..เอิง..เอย..เอ่อ..เออ 

 เอิง…เอ้ย..เออ..เอ่อ..เอิง..เอ้ยยยย”..

เสียงขับเสมาของหญิงสาวดังขึ้นมาคล้ายอยู่ใกล้ๆ มันหนาวจับขั้วหัวใจทีเดียว ท่าจะไม่ดีแล้ว นนท์บอกว่าพอเถอะคืนนี้ไปนอนดีกว่าเช้าค่อยคุยกัน..

ท่ามกลางความเงียบงันกลางดึกนั้นเอง นนท์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา สายตามองไปที่หน้าต่างเห็นกายยืนหันหน้าออกไป คิดในใจมันสูบบุหรี่หรืออย่างไรก็ไม่น่าใช่ พลันเจ้ากายก็หันกลับมาสายตาเหม่อลอย เดินผ่านนนท์เปิดประตูออกไป

นนท์เห็นท่าไม่ดีเลยไปปลุกแทนที่นอนอยู่ข้างๆกัน แทนบอกมันไปเข้าห้องน้ำมั้งไม่มีอะไรหรอก? แต่ว่านนท์มองไปทางหน้าต่าง สิ่งที่เห็นคือ กายเดินออกไปทางบ่อน้ำด้านหลัง ทั้งสองคนจึงรีบลงตามไปทันที

พอเดินตามไปถึงบ่อน้ำกลับไม่พบกาย ทั้งสองส่ายตามองสำรวจไปทั่วบริเวณ หันมองไปคนละด้านซ้ายขวา ได้ยินเสียงดังตรงหน้า “จ๊ะทิงนองนอย..จ๊ะทิงทิง..จ๊ะทิงนองนอย!!”

ทั้งสองหันมองพร้อมกันตามสัญชาตญาน สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ นางรำเต็มชุดชฏาหน้าขาวตาขาว ตั้งวงแล้วร่ายรำอ่อนช้อยอยู่บนผิวน้ำกลางบึง ก่อนจะหยุดแล้วค่อยๆหันมามองหน้าทั้งสองคน แล้วเลือนหายไปกับตา

นนท์หันมามองหน้าแทนที่ซีดไม่แพ้กัน หันกลับไปข้างหลังเจอเจ้ากายนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ ตาเหลือกเบิกโพลงเหมือนเจอกับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต 

ทั้งสองคนเข้ามาพยุงปีกเจ้ากายขึ้นมา แต่ทว่ากายหลุดพูดออกมาคำนึง ทำเอาทั้งสองคนสะดุ้งทันที

“จ๊ะทิงนองนอย..จ๊ะทิงทิง..จ๊ะทิงนองนอย!!”

แล้วอยู่ๆ ก็มีสิ่งหนึ่งร่วงลงมาจากต้นไม้ใส่ตักเจ้ากาย มันคือหัวของนางรำใส่ชฏาตาขาวเบิกตามอง แล้วพูดเสียงแหลมดังว่า

“มึงจะเอามันไปไหนไม่ได้!!!!”

ทั้งสามคนรับรู้ได้แค่นั้น แล้วภาพก็ดับไปทันที ทั้งสามคนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เจ้าของโฮมสเตย์มาปลุก  ซึ่งทุกคนอยู่ที่บ้านของเขาแล้ว คำถามแรกที่เจอคือไปนอนทำไมตรงนั้น พอดีให้เด็กเอาอาหารเช้ามาให้แต่ไม่เจอ เด็กเลยกลับมาบอก ถึงได้รู้ว่าไปนอนอยู่หน้าศาล!!

พอพูดว่าศาลเท่านั้น ทั้งสามคนมองหน้ากัน แล้วถามว่าศาลอะไรครับ เจ้าของเลยบอกว่า ตรงหลังบ้านก่อนถึงบึงนั้นมีศาลเพียงตาของนางรำที่มาผูกคอตายตรงต้นไม้ตั้งไว้อยู่ แต่เธอก็ไม่เคยมาหลอกหลอนใคร 

ทั้งสามคนจึงเล่าเรื่องราวเมื่อคืนที่ได้เจอให้ฟัง แต่เจ้าของก็พูดว่าตอนไปเอาตัวทั้งสามมา มองไปในศาลมันเปียกๆ แล้วในแก้วก็มีน้ำอะไรไม่รู้เหม็นๆเต็มไปหมดเลย…

เท่านั้นล่ะ รู้เรื่องราวได้เลย เพราะองศาของศาลกับหน้าต่างหลังบ้านมันตรงกัน นั่นคือปัสสาวะของเจ้ากายแน่นอน ไม่ผิดแน่ ทั้งนนท์และแทนมองหน้ากายว่าจะยอมรับไหม?  กายจึงเล่าเรื่องให้เจ้าของฟัง เขาจึงนำของพาไปไหว้ขอขมานางรำที่อยู่ในศาล

ทั้งสามคนไปไหว้ตามที่เจ้าของโฮมสเตย์บอก เสร็จแล้วก็เช็คอินออกในวันนั้นเลย 

ทุกสถานที่ย่อมมีเจ้าของอยู่ก่อนแล้ว หากเราเข้าไปก็ควรทำความเคารพอยู่ในกฏเกณฑ์ตามความเหมาะสม อย่าทำอะไรที่ห่ามและไม่ควร มิฉะนั้นอาจต้องได้รับบทเรียนแบบนี้ก็เป็นได้

เรื่องโดย : หาญ ใจสิงห์

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here