Home คลังหลอน คาดไม่ถึงยิ่งกว่า

คาดไม่ถึงยิ่งกว่า

คาดไม่ถึงยิ่งกว่า
คาดไม่ถึงยิ่งกว่า

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่บ้านในจ.สระบุรีเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นคุณแชมป์ เรียนอยู่ปวช.3 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นหน้าหนาว ปกติตอนเช้าคุณแชมป์ก็จะขับรถมอเตอร์ไซด์ไปโรงเรียน แล้วระหว่างทาง คุณแชมป์ก็จะขับรถไปที่บ้านเพื่อนสนิท เพื่อที่จะขับรถไปพร้อมกัน

บ้านของคุณแชมป์กับบ้านเพื่อน ห่างกันประมาณ 5 กิโล แต่วันนั้นพอคุณแชมป์ ขับรถมาได้ครึ่งทาง โซ่รถมอเตอร์ไซด์เกิดขาด คุณแชมป์ก็เลย เข็นรถไปที่บ้านเพื่อนสนิทคนนี้ 

เพื่อนคุณแชมป์ชื่อว่า ต้อม แต่คุณแชมป์ก็รู้อยู่แล้วว่า ต้อมน่าจะขับมอเตอร์ไซด์ไปเรียนก่อนแล้ว เพราะต้อมคิดว่า คุณแชมป์คงไม่ไปเรียน คุณแชมป์ก็เข็นรถไปที่บ้านต้อม บ้านของต้อมนั้น อยู่กลางทุ่งนา เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ล้อมรอบด้วยต้นไผ่ต้นใหญ่ๆ 

คุณแชมป์ก็เข้าไปในบ้านต้อม ก็เจอแม่ของต้อม แม่ต้อมก็ถามคุณแชมป์ว่า “อ้าว แชมป์ไปไหนมาลูก ไม่ไปเรียนหรอ” คุณแชมป์ก็ตอบไปว่า “รถเสียครับ” แม่ก็บอกว่า “งั้นก็อยู่บ้านเนี่ยแหละ ถ้าจะไปไหนก็ล็อคบ้านให้ดีนะ แล้วก็เอากุญแจแขวนไว้หน้าบ้าน”

คุณแชมป์นอนดูทีวีอยู่ด้านล่างของบ้าน แล้วก็เผลอหลับไป ซักประมาณเที่ยง คุณแชมป์ก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ขับเข้ามา คุณแชมป์ก็จึงชะเง้อไปดูหน้าบ้าน ก็เห็นว่าต้อมกลับมา คุณแชมป์ก็คิดในใจว่า “มันไม่เรียนหรอไง”

พอต้อมจอดรถเสร็จ ก็เดินมาหาคุณแชมป์บอกว่า “อ้าว แชมป์ ทำไมไม่ไปโรงเรียน เลยไม่ได้เที่ยวกับพวกไอ้เลย์เลย” (เลย์คือเพื่อนที่เรียนด้วยกัน) ต้อมก็พูดอีกว่า “พอดีกูเห็นมึงไม่มา ก็เลยกลับมาหามึง แต่ขับมาได้ครึ่งทางกูปวดหัวยังไงไม่รู้ เดี๋ยวขอกูไปนอนก่อน” แล้วต้อมก็ขึ้นไปชั้น 2 ขึ้นไปนอนในห้องเขา คุณแชมป์ก็กลับมานอนดูทีวีเหมือนเดิม 

ผ่านไปซัก 15 นาที เสียงโทรศัพท์บ้านของต้อมก็ดังขึ้นมา คุณแชมป์ก็เลยเดินไปรับพูดว่า “ฮัลโหล สวัสดีครับ” ปลายสายพูดมาว่า ที่นั่นใช่บ้านของนายอนุพงษ์ นามสกุล….หรือเปล่าคะ (อนุพงษ์คือชื่อจริงของต้อม) คุณแชมป์ก็ตอบไปว่า “ใช่ครับ” ปลายสายก็ถามว่า “ไม่ทราบว่าเรียนสายอยู่กับใครคะ” คุณแชมป์ก็บอกว่า “ญาติของนายอนุพงษ์ครับ” ….

ปลายสายก็พูดต่อว่า “นี่โทรมาจากโรงพยาบาล…..นะครับ  ตอนนี้นายอนุพงษ์ได้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากอุบัติเหตุรถคว่ำที่อำเภอๆนึง ตอนนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ พอคุณแชมป์ได้ยินแบบนั้น ก็ปากสั่น มีสั่น ยืนนิ่งไปประมาณ 5 นาที

คุณแชมป์ก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 เดินไปก็มือไม้สั่นไป คุณแชมป์หยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของต้อม แล้วคุณแชมป์ก็หมุนลูกบิด เปิดประตูออกมาดู ทางฝั่งซ้ายจะเป็นเตียงของต้อมที่หันมาทางประตู พอคุณแชมป์เปิดไปก็เห็นต้อมนอนหันหลังตะแคงหน้าเข้ากำแพง 

คุณแชมป์เปิดๆปิดๆประตูอยู่ 4 รอบ เพื่อรวบรวมจิตใจเพื่อเข้าไปปลุกคนที่มีคนมาบอกว่าเขาตายแล้ว 

คุณแชมป์ก็เดินเข้าไปในใจคิดว่า “ยังไงมันก็เพื่อน ถึงมันตาย มันก็เพื่อน” คุณแชมป์เขย่าที่ไหล่ของต้อม

และเรียกว่า “ไอต้อมๆ” ต้อมก็หันมาถามว่า “อะไรวะ” คุณแชมป์ก็พูดว่า โรงพยาบาลโทรมาบอกว่า มึงอ่ะตายแล้ว ต้อมก็สวนกลับมาว่า “มึงพูดอะไรของมึง” คุณแชมป์ก็ย้ำอีกว่า “โรงพยาบาลบอกว่า มึงอ่ะตายแล้ว” ต้อมก็ถามว่า “แล้วกูเป็นอะไรตาย” คุณแชมป์ก็บอกว่า “รถกระบะคว่ำตายที่อำเภอนี้ ต้อมก็ลุกขึ้นมา” แล้วบอกว่า “บ้าหรอ” ต้อมก็พูดตอบโต้คุณแชมป์ปกติ แล้วต้อมก็นิ่งไปพักนึง แล้วพูดขึ้นมาว่า งั้นไปดูศพกูกัน

บ้านของต้อม จะมีรถกระบะอยู่คันนึง คุณแชมป์เป็นคนขับรถกระบะออกไป ส่วนต้อมนั่งอยู่ข้างๆ เพราะต้อมบอกว่าปวดหัว 

ตอนนั้นคุณแชมป์คิดในใจ 50/50 ว่ามันเป็นผีหรือคน เพราะต้อมดูซึมๆ แต่ก็คิดว่าที่มันซึมเพราะว่าอาจจะปวดหัวก็ได้

เวลา 1 ชั่วโมง จากบ้านต้อมไปที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ระหว่างที่คุณแชมป์ขับรถ ก็จะหันหน้ามองต้อมไปตลอดทาง แต่ต้อมก็จะบอกว่า “กูยังไม่ตาย” พอไปถึงโรงพยาบาล ต้อมก็ถามคุณแชมป์คำถามนึง ที่ทำให้คุณแชมป์อึ้งเลย…

ต้อมถามว่า “แชมป์ ถ้ากูตาย มึงจะกลัวกูมั๊ย” คุณแชมป์ก็ตอบไปว่า “ถ้ากลัวจะขับรถให้มึงนั่งอยู่อย่างนี้หรอ” คุณแชมป์ก็ขับรถเข้าไปจอดในโรงพยาบาล คุณแชมป์ก็ลงจากรถ แล้วบอกว่า “ปวดหัว หิวน้ำ เดี๋ยวไปซื้อน้ำที่โรงอาหารก่อน”

คุณแชมป์ก็เดินไปเป็นเพื่อน แต่ต้อมซื้อน้ำนานมาก เพราะมีคนต่อแถวเยอะ คุณแชมป์ก็เลยเดินไปที่ห้องเก็บศพก่อน

ที่หน้าห้องเก็บศพจะมีระเบียง มีที่นั่ง คุณแชมป์ก็เจอเพื่อนกลุ่มนึงประมาณ 3-4 คนที่มารอดูเพื่อนเหมือนกัน 

มีเพื่อนคนนึงชื่อว่า เอ้ เอ้เดินมาบอกคุณแชมป์ว่า “แชมป์ กูว่าไอ้ต้อมมันรักมึงมากเลยหวะ” คุณแชมป์ก็ถามว่า “ทำไมอ่ะ” เอ้ก็บอกว่า “เนี่ย พอดีไอ้ต๊ะ เพื่อนอีกคนนึง เห็นว่าไอ้ต้อมมากับมึง ที่โรงอาหาร” คุณแชมป์ก็บอกว่า “ใช่!! มันมากับกู มันยังไม่ตาย”

ซักพักต้อมก็เดินถือขวดน้ำมาแต่ไกลๆ คุณแชมป์ก็บอกว่า “นั่นไงมันเดิมมาละ” พอเอ้เห็น เอ้ก็วิ่งหนีเลย ไม่รอฟังอะไรเลย ทีนี้คุณแชมป์ก็เดินมาดูที่หน้าห้องเก็บศพ มันจะมีรายชื่อผู้เสียชีวิต มีทั้งหมด 9 ศพ ชื่อของต้อม นายอนุพงษ์เป็นศพที่ 3 พอต้อมมาถึง คุณแชมป์ก็ชี้ให้ต้อมดู “เนี่ย ชื่อมึง” 

ด้านหน้าห้องก็จะมี จนท.เวร อยู่ คุณแชมป์ก็บอกเขาว่า “พี่ครับ ผมขอมาดูศพครับ” เขาก็ถามว่า น้องเป็น”อะไรกับผู้เสียชีวิต” คุณแชมป์ก็บอกว่า ผมเป็นเพื่อน “เขาก็บอกว่า ไม่ได้หรอก ต้องเป็นญาติเท่านั้นถึงจะดูศพหรือรับศพได้”

ต้อมก็เลยยื่นบัตรประชาชนให้เขาแล้วพูดว่า “พี่ครับ เนี่ยชื่อผม เป็นชื่อรายที่ 3 ผมขอดูศพผมได้มั๊ย พนักงานก็อึ้งไปพักนึง แล้วก็เดินไปดูที่บอร์ดรายชื่อ แล้วเขาก็บอกว่า “อ่ะ งั้นดูได้ แล้วเขาก็เปิดห้องให้”

พอเปิดเข้าไปด้านซ้าย จะมีเตียงเรียงกันอยู่ 9 ศพ แต่ละศพจะมีผ้าห่อศพห่อไว้ เปิดให้เห็นแค่คางจนถึงหัวเข็มขัด ทีนี้พนักงานก็บอกว่า “น้องศพที่ 3 นะ” คุณแชมป์ก็เดินตรงไปที่ศพที่ 3 แล้วตั้งสติ ตอนนั้นต้อมก็ยืนอยู่ข้างๆคุณแชมป์

คุณแชมป์ค่อย ๆ เปิดแง้มตรงกลางออกมาดูก่อน เห็นเป็นเสื้อช็อปของโรงเรียนคุณแชมป์ ที่เสื้อปลักชื่อคุณต้อม คุณแชมป์ตัดสินใจเปิดหน้าดู แต่ภาพที่เห็นไม่ใช่ต้อม แต่เป็นเพื่อนอีกคนนึงที่เรียนด้วยกัน

พอต้อมเห็นแบบนั้น ต้อมก็น้ำตาไหลลงไปกอดขาคุณแชมป์แล้วพูดว่า

“แชมป์ ถ้าไม่มีมึง กูคงตายไปแล้ว” คุณแชมป์ก็ถามว่า “ต้อม แล้วมันเอาช็อปมึงมาใส่ได้ยังไง” ต้อมก็บอกว่า “รู้สึกว่ามันเหมือนไม่ค่อยสบาย มันร้อน เลยถอดช็อปแขวนไว้ มันคงเอามาใส่ แล้วพอทางโรงพยาบาลเห็นว่าเป็นต้อม ก็เลยติดต่อโรงเรียนขอเบอร์โทรศัพท์บ้านของต้อม เพื่อโทรติดต่อญาติ

ทีนี้พอเพื่อนคนอื่นๆรู้ความจริง ก็เข้ามาถามคุณแชมป์ คุณแชมป์ก็บอกได้คำเดียวว่า “ใครไม่เป็นกู ไม่รู้หรอก”

หลังจากนั้นคุณแชมป์กลับไปเอาพวงมาลัยไปคล้องรถมอเตอร์ไซด์แล้วก็พูดว่า ขอบคุณนะที่โซ่ขาด ไม่งั้นผมคงเป็นรายที่ 10 ที่ 11 ไปแล้ว เพราะถ้าวันนั้นคุณแชมป์ไปโรงเรียนได้ คุณแชมป์กับต้อม ก็ต้องไปกับเพื่อนกลุ่มนี้ด้วย…

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here