Home กระทู้ผีพันทิป ผู้ชายคนนั้นฉันขอ

ผู้ชายคนนั้นฉันขอ

ผู้ชายคนนั้นฉันขอ
ผู้ชายคนนั้นฉันขอ

เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ พี่แนนเข้าไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง บริษัทเล็กๆแห่งนี้ขายอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการทำเกษตรกรรม พี่แนนเข้าไปทำงานในตำแหน่งบัญชี เนื่องด้วยเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน รวมทั้งการจ่ายเงินเดือนของพนักงานและค่าคอมมิชชั่นของพนักงานขาย(เซลล์)ทำให้พี่แนนสนิทกับเพื่อนร่วมงานในแผนกต่างๆอย่างรวดเร็ว หนึ่งในนั้นคือ ก้อย เซลล์ สาวสวยประจำบริษัท

ก้อยเป็นคนสุราษฎร์ธานี หน้าตาสะสวยคมขำ พูดเก่งจึงไม่แปลกที่จะมีผู้ชายมาขายขนมจีบให้เธออยู่ไม่ขาด ก้อยอายุน้อยกว่าพี่แนนหลายปี และด้วยความที่ชอบอะไรคล้ายๆกัน ก้อยจึงสนิทกับพี่แนนอย่างรวดเร็ว

เวลาผ่านไปไม่นานก้อยจึงแนะนำให้พี่แนนรู้จักกับผู้ชายรูปหล่อคนหนึ่ง ด้วยท่าทางที่ตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกาย พี่แนนพอจะเดาออกว่า ก้อยกำลังตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ เขาชื่อว่า พี่เก่ง เมื่อได้ทำความรู้จักกันพี่แนนรู้สึกว่าคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้ พอได้คุยกัน ก็ถึงบางอ้อ เพราะเขาเป็นลูกค้าประจำของบริษัทที่ทำการซื้อขายกันมานาน และก็ไม่แปลกที่ พี่เก่งจะสนิทสนมกับพวกเซลล์เป็นพิเศษ 

พี่แนนจึงเห็นภาพที่ก้อยกับพี่เก่งสวีทหวานแหววกันตลอดเวลาเป็นที่อิจฉาของคนในบริษัทเพราะพี่เก่งทั้งหล่อ นิสัยดี และรวย มีสาวๆหมายปองมากมาย แต่แล้ว ก้อยก็เข้าวินเพราะทั้งสองคนก็มีแผนที่จะแต่งงานกันในปีหน้า

จนกระทั่งถึงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาล ก้อยบอก พี่แนน ว่าจะไปเที่ยวกับพี่เก่ง โดยทริปนั้นไปกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ ที่มีความชอบเหมือนกันคือการออกทริปโดยขี่ บิ้กไบค์ ก้อยเอ่ยปากชวนพี่แนนไปด้วย แต่พี่แนนไม่ชอบขี่มอเตอร์ไซค์เลยปฏิเสธไป พี่แนนเล่าว่ามันเหมือนมีลางสังหรณ์ พี่แนนรู้สึกแปลกๆมองเห็นหน้าก้อย เหมือนมีเงาดำๆซ้อนอยู่ พี่แนนคงมองจนก้อยทัก

“ พี่แนน เป็นอะไร มองหน้าก้อยแปลกๆ”

พี่แนนสะดุ้ง กระพริบตาอีกครั้งรู้สึกใจมันวูบๆ คิดในใจเราคงตาฝาดไปมั้ง

“ ไม่มีอะไรจ้ะก้อย เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ”

หลังจากวันหยุดยาวสิ้นสุดลง เมื่อพี่แนนกลับมาทำงาน ออกร้อนใจเพราะเธอติดต่อก้อยไม่ได้เลยในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าวันใหน แม้กระทั่งวันหยุดทั้งสองจะโทรคุยกัน เล่าโน่นนี่ให้ฟังเสมอ

แต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของก้อย เมื่อเข้าไปถามหัวหน้าเซลล์ ก็พบคำตอบที่น่าตกใจว่า แม่ของก้อยโทรมาลาป่วยให้ลูกสาวบอกก้อยป่วยหนักตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พี่แนนรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี รีบโทรหาแม่ของก้อยทันที

จึงได้ข้อมูลคร่าวๆว่าก้อยเป็นไข้และมีอาการปอดบวมแทรกซ้อน ตอนนี้อยู่ ไอซียู พี่แนนเลยขอลากิจช่วงบ่ายเพื่อไปเยี่ยมก้อย พี่แนนรู้สึกร้อนใจ ไม่สบายใจเป็นอันมาก เหมือนความรู้สึกบอกว่ามันต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น และลางสังหรณ์ของเธอก็ไม่ผิด

พอพี่แนนเลี้ยวรถเข้าไปในโรงพยาบาลก็มีมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ขี่ตีคู่เข้ามาเธอจำได้ว่าคือพี่เก่ง แต่ที่น่าแปลกใจคือเหมือนมีผู้หญิงซ้อนท้ายมาด้วย ด้วยความที่ต้องมองหาที่จอดรถเลยทำให้ไม่ทันสังเกตถี่ถ้วนอะไรๆ 

เมื่อเดินขึ้นตึก พี่แนน เห็นหลังพี่เก่งกับผู้หญิงคนนั้นเดินขึ้นลิฟต์ไป ก็เลยค่อนข้างแน่ใจว่าพี่เก่งมากับผู้หญิงอีกคน เมื่อเข้าไปในห้องผู้ป่วย พี่แนนก็เจอแม่ของก้อยกับพี่เก่งกำลังคุยกันอยู่ ส่วนบนเตียงผู้ป่วยนั้นว่างเปล่า เพราะก้อยถูกย้ายไปสังเกตอาการที่ไอซียู

เมื่อสอบถามเรื่องราวจากพี่เก่ง จึงทราบว่าทริปนั้นไปเที่ยวน้ำตกกัน แล้วเกิดอุบัติเหตุ ก้อยเดินขึ้นไปที่น้ำตกแล้วพลาดลื่นล้มตกลงไปจมน้ำ แต่พี่เก่งกับเพื่อนๆช่วยขึ้นมาได้ทัน หลังจากนั้นก็ก้อยอาการหนักจนเข้าโรงพยาบาลอย่างที่เห็น นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่แนนติดต่อก้อยไม่ได้เลย เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้โทรศัพท์จมหายไปในน้ำด้วย

เมื่อกลับลงมาพร้อมพี่เก่ง พี่แนนก็นึกขึ้นได้จึงถามว่า

“ผู้หญิงที่มากับพี่เก่งเมื่อกี้ไปใหนแล้วคะ?”

พี่เก่งทำหน้าประหลาดใจ

“พี่มาคนเดียวครับ”

อ้าวแล้วที่เห็นนั้นคืออะไร พี่เก่งนี่ชักอย่างไง พี่แนนคิดในใจ

“ ก็แนนเห็นผู้หญิงซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พี่ ตอนเข้ามาในโรงพยาบาล และเดินตามพี่เข้าไปในลิฟต์” พี่แนนแย้ง พี่เก่งหน้าซีด พูดตะกุกตะกัก

“ แนน ตาฝาดมั้งครับ พี่.. พี่มาคนเดียว.. จริงๆ” แล้วพี่เก่งก็รีบเดินหนีไป 

“อ้าว มีพิรุธชัดๆ” พี่แนนคิด

หลังจากวันนั้นก้อยก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆ พี่แนนไปเยี่ยมอยู่หลายครั้งจนก้อยออกจาก ไอซียู มาพักฟื้นที่ห้องธรรมดา ทุกครั้งที่พี่แนนไปจะเจอพี่เก่งทุกครั้ง ก้อยดูอึดอัดเหมือนอยากพูดอะไรกับเธอ แต่เห็นสายตาพี่เก่ง ก็เงียบ ดูผิดวิสัยคนคุยเก่งอย่างก้อย จนวันหนึ่งพี่แนนไปเยี่ยมก้อยแต่เช้า ก้อยดูดีใจมาก จึงได้รู้ความจริงอีกด้านจากก้อย

“พี่แนน ก้อยกลัว” ก้อยทำหน้าเหมือนจะร้องให้ มองไปที่ประตูห้องอย่างหวาดระแวง

“กลัวอะไร ก้อย”

“ ก้อย กลัวพี่เก่ง”

“อ้าว ทำไมเป็นงั้น”

“พี่เก่งจะฆ่าหนู พี่แนน” ก้อยพูดขึ้นเบาๆเสียงเริ่มสั่น

พี่แนนยืนนิ่งเมื่อได้ยินประโยคนั้น นี่คืออะไรกัน

“มีอะไรเกิดขึ้นก้อย บอกพี่มาซิ”

ก้อยเช็ดน้ำตา พลางเหลือบตามองที่ประตูห้องเป็นระยะๆ เหมือนคนเฝ้าดูอะไรบางอย่าง

“ ตอนอยู่ที่น้ำตก พี่เก่งผลักก้อยตกน้ำค่ะพี่แนน ทั้งที่รู้ว่าก้อยว่ายน้ำไม่เป็น พี่เก่งเป็นคนกวักมือเรียกก้อยขึ้นไป แต่เพื่อนๆพี่เก่งหาว่าก้อยตาฝาด ทุกคนบอกว่าก้อยพลาดตกลงไปเอง และพี่เก่งเป็นคนช่วยก้อยขึ้นมา แต่มันไม่จริงก้อยไม่ได้ตาฝาด เขาผลักก้อยลงไปจริงๆ เขาจะฆ่าก้อย” 

ก้อยยืนกราน สิ่งที่เล่าออกมา ทำเอาพี่แนนงงในงง มันเป็นไปได้อย่างไง พี่เก่งถึงแม้จะเจ้าชู้ แต่ก็ดูๆไม่ใช่คนโหดร้ายที่จะ ทำเรื่องแบบนั้นได้

“ ตอนนี้ก้อยกลัว ไม่อยากอยู่ใกล้เขา พี่แนนช่วยก้อยหน่อยสิ ทำอย่างไงดี”

พี่แนนนิ่งคิด เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง แต่ตอนนี้ ช่วยก้อยให้สบายใจ ดูแลตัวเองให้หายดีก่อนแล้วค่อยว่ากัน

“ งั้นก้อย บอกพี่เก่งว่า ก้อยจะกลับไปพักฟื้นที่ สุราษฎร์ก่อนดีมั้ย เดี๋ยวหายดี กลับมา ค่อยคุยกัน”

ก้อยมีสีหน้าที่ดีขึ้น จนกระทั่งออกโรงพยาบาล พร้อมทำตามที่พี่แนนแนะนำ โดยกลับบ้านไปที่สุราษฎร์

แล้วพี่แนนต้องแปลกใจ ในเช้าวันหนึ่ง มีคนมาขอพบที่บริษัท คนๆนั้นคือแม่ก้อย สีหน้าแม่ก้อยดูเครียดจนพี่แนนสังเกตได้

“ แนน คงรู้เรื่องที่ก้อยเล่าแล้วใช่มั้ยลูก แล้วแนนเชื่อมั้ย”

แนนอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนถอนหายใจยาว สบตาแม่ตรงๆ

“ ตอบตามตรงนะคะ แนน ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งค่ะแม่ ที่ก้อยเล่า ก้อยยืนยันเหลือเกิน แต่เท่าที่แนน รู้จักพี่เก่งมาพี่เค้าก็เป็นคนดีนะคะ ไม่น่าทำเรื่องแบบนั้นได้”

“ตอนแรกแม่ก็ไม่ค่อยเชื่อก้อยเหมือนกัน จนแม่เห็นอะไรบางอย่าง แม่เลยรู้ว่าที่ก้อยเจออาจไม่ใช่เก่ง”ปลายเสียงแม่ดูแผ่วลง เหมือนไม่แน่ใจว่าจะเล่าดีหรือไม่ แต่มาแล้วก็ต้องเล่า

แล้วแม่ก้อยก็เล่าให้ฟังว่าคืนแรกที่แม่และพี่เก่ง นอนเฝ้าก้อยที่โรงพยาบาล โดยแม่นอนตรงโซฟาข้างเตียง ส่วนเก่ง นอนโซฟาที่จัดไว้บริเวณปลายเตียง ขณะที่เคลิ้มหลับไปหลังจากพยาบาลมาวัดไข้ ตอนตีสอง แม่รู้สึกเย็นมาก อยากลุกขึ้นไปปรับแอร์ แต่ในขณะที่ลืมตาขึ้น กลับขยับตัวลุกไม่ได้ ทุกส่วนของร่างกายแข็งทื่อไปหมด แล้วก็เห็นเต็มๆเลย

แม่ก้อยเห็นเงาตะคุ่มๆนั่งอยู่ตรงปลายเท้าพี่เก่ง เป็นผู้หญิงใส่ชุดเก่าๆขาดวิ่น เปียกโชกทั้งตัว ผู้หญิงคนนั้นนั่งก้มหน้านิ่งๆ และแม่ได้ยินเสียงฮือๆเป็นเสียงครางคล้ายๆเหมือนร้องไห้ เป็นเสียงที่คร่ำครวญ ทุกข์ทรมาน จนคนได้ยินรู้สึกได้ แม่คิดในใจอย่าเงยหน้าเชียวนะ ไม่งั้นแม่ได้เข้าโรงพยาบาลเป็นเพื่อนก้อยแน่ๆ

แม่บอกเกือบช็อคกับภาพที่เห็น ใจเต้นแทบจะหลุดออกมา พยายามจะขยับตัวแต่เหมือนร่างกายไม่ตอบสนองใดๆเลย   แม่แน่ใจเลยว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอย่างเราๆ ชัวร์ 100%แน่นอน

พี่แนนฟังแล้ว ขนลุกไปทั้งตัว ยิ่งคนขี้กลัวผี อย่างพี่แนน บอกเลย คืนนี้นอนไม่หลับแน่นอน แม่ก้อยยังเล่าว่าเห็นอีกหลายครั้งจนแม่ทนไม่ไหว ขอร้องให้พี่เก่งไม่ต้องมาเฝ้าก้อย ซึ่งถ้าพี่เก่งไม่มาแม่ก็ไม่เห็นวิญญาน ผู้หญิงคนนั้น แต่แม่ก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กับพี่เก่ง เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไง

“ แนน แม่ก็ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง กลัวเขาว่าบ้า งมงาย แม่เลยจะมาปรึกษาแนนว่าเราจะทำอย่างไงกันดี เพราะแม่ก็ยังไม่เล่าเรื่องนี้ให้ก้อยฟัง อยากให้น้องหายดีก่อน”

“แต่ทว่าคนขี้กลัวผีอย่างแนนนะเหรอจะเป็นที่ปรึกษา ไม่ดีล่ะมั้ง” พี่แนนคิดในใจ

“แม่คะ เรื่องแบบนี้แนนก็กลัวนะคะ แต่แปลกนะคะที่ผู้หญิงคนนี้เพิ่งมาปรากฏตัว เพราะก้อยกับพี่เก่งก็คบกันมานาน จะเป็น2 ปีแล้วก็ไม่เห็นจะเคยมีเรื่องอะไรแบบนี้”

“ นี่แหละที่แม่มาหาแนน เพราะแม่สงสัยว่า มันน่าจะเกิดตอนที่ไปเที่ยวครั้งนั้น แม่เลยอยากให้ก้อยไปถามให้แม่หน่อยว่าเขาไปเที่ยวหรือไปทำอะไรกันที่ใหน เห็นแนนสนิทกับเพื่อนเก่งหลายคน”

แต่หลังจากที่พี่แนนไปถามเพื่อนๆร่วมทริปนั้นก็ไม่มีใครรู้อะไรมากไปกว่า ไปเที่ยวน้ำตก แล้วก้อยลื่นตกน้ำเท่านั้นเองซึ่งพี่แนนก็บอกแม่ก้อยไป แม่ก้อยดูผิดหวังกับข้อมูลที่ได้รับ เพราะแม่เชื่อว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น แม่ก้อยจึงขอร้องให้แนนถามพี่เก่งตรงๆ 

“เอาล่ะสิ ทำไงดีเนี่ย ถามเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ เฮ้อ” พี่แนนถอนหายใจ

ก้อยกลับมาทำงานด้วยสีหน้าแช่มชื่น พร้อมเกราะกันภัย แบบจัดเต็ม ก้อยโชว์สร้อยคอที่เต็มไปด้วยหลวงพ่อหลายองค์ ยันต์ ตระกรุดอะไรมากมายสารพัด และพี่แนนก็รู้ว่า ก้อยรู้เรื่องจากแม่หมดแล้ว พี่เก่งมาหาก้อย แต่ก้อยปฏิเสธที่จะพบ เหมือนก้อยจะกลัวสิ่งที่เจอมาก จนลืมความรักที่เคยมีทั้งหมด  

ใช่ค่ะ ก้อยบอกตรงๆกับแนน ช่วงที่นอนโรงพยาบาล ก้อยฝันร้าย ฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตา ท่าทางน่าเกลียดน่ากลัวมาด่าก้อยว่าอย่ามายุ่งกับผู้ชายของเธอ และตามไล่ฆ่าก้อย พอกลับไปสุราษฎร์ก้อยเลยไปทำบุญและอุทิศส่วนกุศลให้เธอคนนั้นพร้อมบอกว่า จะไม่ยุ่งกับพี่เก่งอีก แล้วก้อยก็ไม่ฝันถึงผู้หญิงคนนั้นอีกเลย

ก้อยพูดติดตลกว่า “สู้กับใครหนูสู้ได้นะพี่ แต่สู้กับผีนี่ไม่เอาดีกว่า ก็เลยขอเลิกกับพี่เก่ง แต่จริงๆพี่แนนรู้ว่าก้อยคงไม่ได้รักจริงจัง มากกว่า ถึงตัดใจได้เร็ว แต่พี่เก่งนี่สิ ไหวมั้ย” แล้วก็เป็นตามที่คาด พี่เก่งโผล่มาหาพี่แนนมาขอให้ช่วยพูดกับก้อยให้มาคืนดีกัน ในสภาพที่ทรุดโทรม หน้าตาดำคล้ำ ผอมลงมาก

พี่แนนรู้สึกสงสาร และในใจก็อยากรู้ความจริงด้วย จึงตัดสินใจจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เป็นสาเหตุที่ก้อย ขอเลิกให้พี่เก่งฟัง เพื่อจะได้ถามกับพี่เก่งตรงๆด้วย หลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมด พี่เก่งดูนิ่งๆซึมๆพี่เก่งพูดขึ้นมาเบาๆว่า

“ถ้าเป็นเรื่องนี้ พี่รู้มาสักพักแล้วครับ” แล้วก็นิ่งเงียบไป

“แล้วพี่เก่งรู้มั้ยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”

พี่เก่งเงียบไปนานมาก จนพี่แนนใจคอไม่ค่อยดี ดูเวลา เอิ่มดีนะนี่ตอนเที่ยงวัน อยู่ที่สว่างๆแบบนี้ ผีนั่นคงไม่มาเนอะ  คิดไปก็หวาดระแวง

“เอ่อ พอรู้..ครับ แต่พี่ก็พยายามทำทุกอย่าง ทำบุญ หาอาจารย์เก่งๆก็ไปมา แต่เขาไม่ยอมไป เขาจะอยู่กับพี่” แล้วพี่เก่งก็ไม่พูดต่อ พี่แนนถามว่าเพราะอะไรแกก็ไม่ยอมพูดเอาแต่นั่งนิ่งๆ

พี่แนนจึงบอกว่า ก้อยกลัวๆจนขอถอยไม่อยากยุ่งกับพี่เก่งอีก ยิ่งแม่ก้อยไปหาอาจารย์มาหลายคน ยิ่งรู้ว่าดวงพี่เก่งกับก้อยไม่สมพงศ์กัน จึงยิ่งไม่อยากให้คบต่อ

สีหน้าพี่เก่งดูผิดหวัง แต่ก็เหมือนจะปลงๆแล้วพี่เก่งก็หายไป พี่แนนทราบจากเพื่อนๆพี่เก่งว่าพี่เก่งไปบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้หญิงคนนั้น ส่วนเรื่องราวความลี้ลับของเรื่องนี้พี่แนนมาทราบว่าทีหลังว่า ผู้หญิงคนนั้นในอดีตคือแฟนคนแรกของพี่เก่งที่รักกันมากจนจะแต่งงานกันแล้ว ได้พากันไปเที่ยวที่น้ำตกแห่งหนึ่ง จนเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก กลายเป็นโศกนาฏกรรมมีคนตายหลายศพ 

แฟนพี่เก่งก็เป็นหนึ่งในนั้น ส่วนพี่เก่งได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่หลายเดือนและไม่ได้กลับไปที่แห่งนั้นอีก  จึงไม่รู้เลยว่าวิญญานเธอเฝ้ารอคอยคนรัก อย่างทุกข์ทรมาน เป็นระยะเวลาเกือบสิบปี ไม่ยอมไปผุดไปเกิด จนพี่เก่งกลับไปอีกครั้ง พร้อมผู้หญิงคนใหม่ วิญญานเธอจึงตามมาและอาฆาตพยาบาทถึงขั้นจะเอาชีวิต    ผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ผู้ชายที่เธอรัก

นี่แหละค่ะเรื่องราวความรักที่กลายเป็นความทุกข์ของคนที่ยึดติดทุกสิ่งทุกอย่าง แม้จะกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณก็ยังเฝ้ากระซิบผ่านสายลมมาว่า “ผู้ชายคนนั้น ฉันขอ” (ไม่ให้ไคร)……..

ขอคุณเรื่องจากผู้ใช้พันทิป cookinghero 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here