เสียงปริศนา

เสียงปริศนา02
เสียงปริศนา02

จำได้ว่า….ผมเคยเล่าถึงการทำงาน โรงงานในกระทู้หนึ่งไปแล้ว (ตามลิงค์นี้)  แต่นั่นมันเป็นเหตุการณ์โดยรวม  วันนี้ผมอยากจะมาเล่าถึงรายละเอียด และสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่เจอ.. อาจจะหน้าสนใจหรือไม่หน้าสนใจก็ไม่รู้นะ    แต่นี่คือสิ่งที่ผมได้เจอมาจริงๆ

ผมเคยเล่าไปแล้วนะครับว่าผมโดนย้ายจากฝ่ายประกอบมาฝ่ายผลิต  และเมื่อมาอยู่แผนกนี้ทุกคนจะต้องเข้ากะ  ช่วงนั้นรถรับส่งมีแค่สอง แผนกคือประกอบกับตกแต่ง   ดังนั้นคนที่เข้าฝ่ายผลิตจึงต้องอยู่ห้องเช่า

ผมโชคดีที่  ช่วงนั้นหอพักของโรงงานว่างก็เลยไม่ต้องลำบากหาที่อยู่ จริงๆช่วงแรกเขาให้แค่ผู้หญิงพักครับ  ชั้นล่างเป็นโรงอาหาร ชั้น 1 ชั้น 2 เป็นอาณาจักรของผู้หญิง 

เป็นหอพักที่หน้าอยู่พอ สมควรเลยครับ  มีทั้งหมด 4 ชั้น  ชั้นละ 9 ห้อง พักได้ห้องละ 6 คน มีเตียงมีฟูกมีตู้เสื้อผ้า ชั้น วางรองเท้า มีทางเดินด้านหน้า  ระเบียงรับลมค่อนข้างกว้างด้านหลัง  และที่ผมชอบที่สุดคือ มีราวตากผ้าแบบใช้ลวดขึง ยาวชนิดสุดความยาวของหอให้อีก 3 เส้น(จะซักผ้าพร้อมกันทั้งห้อง ทุกห้องก็พอตาก

ในบริเวณห้องก็กว้างมากครับ  ช่วงระหว่างเตียงถูกกั้นด้วยตู้เสื้อผ้า  ขนาดเป็นห้องที่มีเตียงถึง 6 เตียง แต่กระนั้นทางเดินตรงกลางก็กว้างหน้าจะ 3-4 เมตรได้

แต่ละชั้นมีห้องน้ำรวมอยู่ติดบันได  ห้องน้ำ 7 ห้องอาบน้ำอีก 7  และมีบริเวณซักล้างให้ต่างหาก โดยรวมแล้วหน้าอยู่มากครับ

ผมพักที่ชั้น 3 เขาเปิดห้องให้พนักงานเข้าพักแค่4ห้อง (มีแต่ผู้ชาย) และชั้น4 มีแต่หัวหน้าระดับผู้บริหารเข้าพัก

ดังนั้นชั้นของผมจึงไม่ได้แออัดอะไร  ผมจะอาบน้ำเร็วกว่าคนอื่น  พอเลิกงานปั้บผมก็อาบเลยและช่วงเช้าผมจะอาบตั้งแต่ตีห้าครึ่ง 

ช่วงแรกอยู่กะ A เราก็พักกัน 6 คน   แต่พอผมย้ายกะ ก็เลยกลายเป็นว่าผมต้อง อยู่คนเดียวตลอดเวลา

ตอนแรก  ช่วงที่อยู่รวมกันผมก็ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดแปลก   และตอนย้ายกะช่วงแรกก็เป็นกะกลางคืน ผมก็เลยยังไม่สังเกตุ แต่พอเข้ากะกลางวันแล้ว ต้องมานอนกลางคืนทีนี้เองละครับ  ที่ผมเริ่มรู้สึก

ผมจะสะดุ้งตื่นช่วงประมาณตี1ตี2 ทุกวัน   เพราะเสียงลากครับ เสียงนี้จะดังอยู่ข้างบน ซึ่งก็คือชั้น 4 ลากช้าๆจากทางประตูไปจรดระเบียงหลัง หยุดครู่หนึ่ง  ก็จะลากจากระเบียงหลังไปจรดประตู ลากไปลากกลับอยู่แบบนี้ทุกคืน

ผมนอนฟังไปก็สงสัยไป ว่าใครนะช่างขยันจัดห้องอะไรได้ทุกวัน และสิ่งที่ลากนั่น  คะเนจากเสียงถ้าไม่ใช่เตียงก็ต้องเป็นตู้แหละ เพราะเป็นเสียงลากของหนักมากๆเลยครับ

ตื่นขึ้นมาฟังจนหลับไปอีกรอบ  ซ้ำๆอยู่อย่างนี้ทุกครั้งที่เข้ากะกลางวัน จนวันนึงเพื่อนห้องข้างๆ ก็มาดักรอถามผมที่บันไดหอว่า

“เจ็ด…พี่ถามจริงๆเหอะ แกขยันอะไรนักหนา ลุกมาลากเตียงดึกๆทำไม”

ลืมบอกไปครับว่าห้องที่ผม พักคือห้อง 9 ของชั้น 3 พอผมได้ยินคำถามผมก็ขำครับ  ก็เลยย้อนถามพี่เขาว่า

“พี่นอนฟังมากี่คืนแล้ว”

“เพิ่งได้ยิน2คืน เพราะปกติพี่ไม่ค่อยตื่นตอนดึก”

ผมก็เลยบอกไปว่า เสียงนั่นดังอยู่ชั้นบน ลำพังผมคนเดียวจะลากอะไรไหว  อย่าว่าแต่ของหนักแบบเตียงเลย   แค่ตู้ผมก็ลากไม่ไหวแล้ว พี่เขาก็ทำหน้าไม่เชื่อและเถียงว่าเขาได้ยินข้างๆซึ่งก็คือห้อง 9 ไม่ไช่ชั้นบน  

หลังจากวันนั้นผมก็เก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่ จนวันนึงได้โอกาส  ผมเลยลองถามพี่เตอร์  แกเป็นชิปและเป็นหนึ่งในหัวหน้าที่พักบนชั้น 4  โดยพี่เตอร์บอกกับผมว่า “ชั้นบน  มีคนพักแค่ 2 ห้อง ห้อง 1 กับห้อง 2  นอกนั้นว่าง หมด” 

ผมก็เถียงแกไปว่า “มันจะไช่ได้ยังไง   ก็ผมตื่นขึ้นมาฟังอยู่ทุกคืน  มันดังอยู่ข้างบนซึ่งแน่นอนว่าต้องคือห้อง 9 ของชั้น 4”

วันหนึ่งเป็นวันอาทิตย์ของกะกลางคืน  พอออกกะมาผมก็เดินเนียนๆขึ้นไปชั้น 4  พอเห็นว่างคน ผมก็เดินยาวไปที่ห้อง 9 เลยครับ แถมห้องนั้นน่ะลูกบิดก็ชำรุดรูโบ๋อยู่ (ผมเลยใช้เหรียญบาทเขี่ยเปิดเข้าไปดู

สภาพที่ผมเห็นคือ  ห้องนี้เป็นห้องที่เก็บเตียงเก่าและโต๊ะเก้าอี้ที่ชำรุด  เรียงซ้อนกันระเกะระกะ มีช่วงว่างแค่คนเดินเรียงหนึ่งจากประตูหน้าถึงประตูหลังเท่านั้น

ผมปิดประตูแล้วก็ยืนงง ก็นอนฟังเสียงลากอยู่ทุกครั้งที่ได้นอนตอนกลางคืน แต่สภาพที่เห็นตอนนี้ อย่าว่าจะลากเลย แค่เดินเฉยๆยังลำบาก แล้วไอ้ที่ผมได้ยินมันอะไรกันล่ะ ทุกวันนี้นึกถึงทีไรผมก็ยัง สงสัยอยู่นะว่าเสียงที่ได้ยินน่ะมัน..?

อีกหนนึงก็….หลังจากที่ผมรู้แล้วว่าห้องนั้นเป็นห้องเก็บของชำรุด  ผมก็ไม่ได้หนีไปไหนนะ  ก็ยังนอนคนเดียวเหมือนเดิม (และไม่ได้เล่าให้ใครฟังด้วย  )

วันนั้นผมเข้ากะกลางคืน อาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ทุ่มนึงแล้วก็นอนเล่น  ไม่รู้ทำไมผมเผลอหลับไปครับ สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีก็ 1 ทุ่ม 50 แล้ว  งานเข้าสองทุ่ม ผมก็ลุกพรวดพราดวิ่งออกจากห้องลงบันไดไปแบบลืมล็อคห้องเลยครับ 

จริงๆหอพักกับที่สแกนบัตรอยู่ใกล้กันนิดเดียว เดินสองสามนาทีก็ถึง แต่วันนี้ทั้งที่ผมวิ่งลงมา กลับรู้สึกว่าผมใช้เวลาไปนานมาก แต่ทำไมไม่ถึงที่พักบันไดของชั้นสองเสียที (ทั้งที่จริงๆถ้าใช้เวลาขนาดนี้หน้าจะถึงที่สแกนบัตรแล้วด้วยซ้ำ  )

พอฉุกใจคิดผมก็หยุด แล้วหันกลับไปมองข้างหลัง ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนขนหัวลุกยังไงไม่รู้ ก็ผมเพิ่งผ่านที่พักบันไดชั้นสองลงมา   แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึก   (ทั้งที่มันจะหักศอกแล้วต้องวน…ต่อให้เดินเพลินยังไงก็ต้องรู้ตัว)

ผมไม่หยุดคิดนานเลยครับ วิ่งจี๋ไปที่สแกนบัตรเลย สแกนบัตรเสร็จ  ผมก็ยืนหอบอยู่ตรงนั้นแหละ

เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ ผมเข้างานช้าไป 5 นาที แต่ตอนที่สแกนบัตรน่ะมัน 1 ทุ่ม 59 นาที ส่วนเวลาที่เลยไปผมหอบอยู่   เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยครับที่มีความรู้สึกว่า  กลัวผี  กลัวมากๆเลยด้วย….

ขอบคุณที่มา สมาชิกพันทิปหมายเลข 5962055

Previous articleยุติการเผยแพร่
Next articleยาสั่ง