เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราเรียนอยู่ชั้น ม.2 เทอม 1 ทุกคนจำได้ไหม ข่าวดังหน้าหนึ่งของสื่อหลายสำนัก เรื่องเด็กหญิงอายุ 13 ถูกโยนลงจากรถไฟเสียชีวิต เด็กหญิงคนนั้นเค้าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเราเอง ก่อนที่เค้าจะเสียชีวิตวันนั้นเราไปโรงเรียนตามปกติ ตอนเช้าเราเจอแก้มยืนอยู่หน้าห้อง เราจึงเข้าไปคุยด้วย
“ทำไมวันนี้มาเช้า” เราถามแก้ม
“อ๋อ…แม่ปลุก เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ขึ้นรถไฟไปหาย่าที่ต่างจังหวัด”
“จริงหรอ”
“ใช่…เป็นนการขึ้นรถไฟครั้งแรกในชีวิตกูเลยนะเว้ย”
“เออ…อย่าลืมของฝากนะ”
“ได้ดิ เดี๋ยวซื้อของฝากมาฝากเยอะๆเลย”
ซึ่งวันนั้นเราก็คุยกันปกติ ไม่มีลางบอกเหตุว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายใดๆขึ้นเลย
วันเวลาก็ผ่านไป เสา อาทิตย์ จันทร์ จนมาถึงวันอังคาร เราก็ได้ข่าวจากพี่สาวของแก้มว่า แก้มหายตัวไป แล้วพี่สาวของแก้มก็ได้ติดต่อไปหาเพื่อนอีกคน บอกว่าให้ช่วยโพสหาทางเฟซหน่อย พวกเราก็ช่วยๆกันโพสและออกตามหาแก้ม เราลองโทรศัพท์ไปหาแก้ม ก็โทรติดนะ แต่ไม่มีคนรับสาย ทักเฟซทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ
จนเวลาผ่านไป 2 วัน พี่สาวของแก้มจึงไปแจ้งความ จนเรื่องดังขึ้นมา ทุกคนก็เริ่มใจคอไม่ดี ซึ่งปกติแล้วแก้มเป็นเด็กนิสัยดี ไม่ใช่เด็กใจแตก ไม่ใช่เด็กเสียคน และไม่เคยนอกลู่นอกทาง จนกระทั่งตำรวจได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดของการรถไฟ ก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อสีดำ เดินตามผู้ชายไป ตำรวจได้โทรมาแจ้งกับพี่สาวของแก้ม แล้วพี่สาวของแก้มก็มาเล่าให้เราและเพื่อน ๆ ฟัง
เราจึงบอกกับพี่สาวแก้มว่า “พี่…มันเป็นไปไม่ได้ เพราะแก้มมันชอบทอม มันไม่ชอบผู้ชาย”
อาจารย์เดินผ่านมาได้ยินก็บอกว่า “แก้มโดนป้ายยาหรือเปล่า เลยเดินตามเค้าไป”
เราก็บอกว่า “ โห…อาจารย์ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ไอ้แก้มมันติดพี่มันจะตาย มันไม่เดินไปไหนหรอก”
คือวันที่เดินทางนั้น แก้ม พี่สาวและน้องสาว ได้เดินทางโดยรถไฟแบบตู้นอน ลักษณะภายในโบกี้ก็จะแบ่งเป็นซ้ายขวา และแต่ละฝั่งจะมีเตียงนอนชั้นบนชั้นล่าง
แต่พี่สาวแก้มบอกว่า ดูจากลักษณะท่าทางการเดินแล้วน่าจะไม่ใช่แก้ม เราจึงบอกกับพี่สาวแก้มว่า “ให้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเลยว่าไม่ใช่ไอ้แก้ม”
เจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกคนช่วยกันกันออกตามหาแก้มอยู่หลายวัน แต่ก็ยังไม่พบ จนเรื่องราวมันเริ่มเป็นข่าวใหญ่โต วันนั้นพวกเรานั่งคุยกันที่โรงเรียนว่า “เออ ไอ้แก้มมันก็หายไปนานมากแล้วนะ เราจะทำยังไงกันดี” เพื่อนคนนึงจึงพูดว่า “เดี๋ยวกูจะเอาไข่ 100 ฟองไปบนกับหลวงพ่อหน้าโร
งเรียน”
แต่ในความรู้สึกของเรา เราคิดว่าแก้มไม่น่าจะอยู่แล้ว เพราะแก้มหายตัวไปนานหลายวันแล้ว ถ้าเพื่อนยังมีชีวิตอยู่จริง ป่านนี้ก็คงจะกลับมาแล้วล่ะ หรือไม่ก็ติดต่อใครสักคนบ้าง แต่นี่กลับไม่มีการติดต่อจากแก้มกลับมาเลย
เราจึงพูดว่า “ ให้แก้มมันกลับมาสภาพไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่มาเป็นกระดูกนะ กูรับไม่ได้จริงๆ”
หลังจากคุยกันเสร็จตกเย็นหลังเลิกเรียน เพื่อนคนที่พูดก็ได้ไปบนกับหลวงพ่อหน้าโรงเรียนตามที่พูดไว้จริง ๆ จนเวลาผ่านไป 2 วัน ในที่สุดทางตำรวจก็เจอศพของแก้ม
วันนั้นหลังจากที่เราได้ยินข่าวตั้งแต่ตอนตี 5 พอเรามาถึงโรงเรียน เดินเข้าห้องปุ๊บก็พบว่าเพื่อนๆภายในห้องนั่งเงียบกันทุกคน ไม่มีใครพูดอะไรเลย และยังมีพวงมาลัยถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะของแก้มอีกด้วย
พอช่วงกลางวัน ได้มีนักข่าวมาสัมภาษณ์อาจารย์ที่ปรึกษา และเพื่อนๆในห้อง ซึ่งพี่นักข่าวคนนั้นได้นั่งสัมภาษณ์อยู่ข้างๆโต๊ะของแก้ม ขณะที่นักข่าวกำลังจะสัมภาษณ์เพื่อนคนนึง นักข่าวแค่เอาไมค์จ่อปากเพื่อน และถามว่า “แก้มเป็นคนอย่างไรคะ” จังหวะที่เพื่อนกำลังจะตอบ อยู่ดีๆพวงมาลัยบนโต๊ะก็หล่นลงพื้น โดยไม่ทราบสาเหตุ พวกทีมงานพี่นักข่าวตกใจ รีบวิ่งออกจากห้องทันที
เราหันไปมองหน้าเพื่อน แล้วก็หันมาบอกกับนักข่าวว่า “พี่ ๆ อย่าเพิ่งพูด เดี๋ยวไปสัมภาษณ์กันข้างนอกดีกว่า รู้สึกว่าบรรยากาศมันในห้องนี้มันเริ่มจะไม่ค่อยดีแล้ว”
ตกเย็นวันนั้น เราและเพื่อน ๆ ก็ได้ไปรดน้ำศพแก้มที่วัด วันนั้นฝนตกด้วย ไปถึงวัดประมาณ 5 โมงเย็น พอพวกเรามากันครบทุกคนแแล้ว พวกเราก็เข้าไปรดน้ำศพแก้มกัน แต่จังหวะที่กำลังรดน้ำ เราสังเกตเห็นว่า มือของแก้มนั้นดูใหญ่และบวมมาก สภาพเริ่มเขียวแล้ว
ในจังหวะที่เรากำลังจะรดน้ำ บังเอิญขันดันไปโดนมือของแก้ม เสียงกระทบกันดังกึก!! รู้เลยว่ามือของแก้มนั้นแข็งมาก กลิ่นฟอร์มาลีนฟุ้งยังตลบอบอวลไปทั่วศาลา พอกลับมาถึงบ้าน กลิ่นฟอร์มาลีนยังติดตัวเราอยู่เลย
คืนนั้นหลังจากที่กลับมาถึงบ้าน เรายังรู้สึกเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของแก้ม นอนร้องไห้จนผลอยหลับไป แล้วเราก็ฝันว่า เจอแก้มที่ป้ายรถเมล์ เราได้ตะโกนถามแก้มว่า
“เป็นไงสบายดีไหม”
“สบายดี ไปแล้วนะ” แก้มตะโกนกลับมา
“จะไปไหน” เราตะโกนถามแก้ม
แก้มก็ตะโกนตอบกลับมาว่า “ไปข้างบน”
ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้ว่าแก้มหมายถึงอะไร แล้วแก้มก็ตะโกนบอกอีกว่า
“ข้างบนมีแต่คนใจดี”
“ไปดีนะเพื่อน” เราตอบ
ในฝันเราจำไม่ได้ทั้งหมดหรอกว่าคุยอะไรกันบ้าง จำได้แค่เพียงเราคุยกันตรงป้ายรถเมล์ แล้วแก้มกำลังจะเดินไปไหนก็ไม่รู้
หลังจากพิธีเผาศพผ่านไป วันต่อมาในภาควิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งคาบนี้อาจารย์ชาวต่างชาติเป็นคนสอน พออาจารย์มาถึงก็เช็คชื่อตามปกติ จนมาถึงชื่อ “กชกร” ซึ่งเป็นชื่อจริงของแก้ม นั่นทำให้ทุกคนในห้องเงียบกันหมดเลย ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ยังไม่รู้ว่าว่าแก้มได้เสียชีวิตแล้ว
“กชกร”
“กชกร”
“กชกร”
อาจารย์ยังคงเรียกชื่อ “กชกร” ซ้ำอยู่อย่างนั้น
แต่ทุกคนภายในห้องก็เงียบไม่มีใครกล้าพูดอะไร จนอาจารย์ที่เป็นครูไทยผ่านมา เลยเข้ามาอธิบายให้ครูชาวต่างชาติฟังว่า “กชกร” เสียชีวิตแล้ว
จู่ ๆ ทุกคนในห้องได้กลิ่นฟอร์มาลีนเหมือนกันหมด เพื่อความชัว เราเลยลองสูดดมแรง ๆ ใช่จริง!! ๆ เราหันไปมองหน้าเพื่อน เพื่อนก็บอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก ยังไงมันก็เพื่อนเรา สงสัยมันยังมาเรียนอยู่”
บางครั้งก็มีของตกลงมาจากใต้โต๊ะของเเก้ม เหมือนแก้มพยายามจะสื่อให้เพื่อน ๆ รู้ว่า ยังอยู่ตรงนี้นะ กูยังมาเรียนอยู่
ย้อนกลับไปในวันที่ฟังพระสวด วันนั้นเรากับเพื่อนๆนั่งกินข้าวกันอยู่ในงาน แล้วอยู่ดีๆแม่ของเพื่อนคนนึง ชื่อว่าแป้ม (แม่ของแป้มเป็นร่างทรง) ก็โทรมาบอกแป้มว่า
“แป้ม ฝากบอกแม่ของเเก้มด้วยนะ ว่าแก้มมาหา แก้มบอกว่าแก้มหนาว แก้มไม่มีเสื้อผ้าใส่”
แล้วแป้มก็รีบวิ่งไปบอกแม่ของแก้ม ตอนนั้นแม่ของแก้มกำลังยุ่งอยู่ จึงบอกว่า “ฝากบอกแก้มด้วยนะว่าเดี๋ยวแม่จะรีบเอาเสื้อผ้าส่งไปให้”
วันเวลาผ่านไปเป็นปี จนตอนนี้เราเข้ามหาลัยปี 1 เราก็ไม่เคยเจอแก้มอีกเลย แต่ก็ยังมีแวะเวียนเอาของไปไหว้เพื่อนที่โกฐอยู่บ้าง
ขอบคุณเรื่องจาก อังคารคลุมโปง ความในใจของเพื่อน คุณไอซ์ ถอดความโดย คลังหลอน
***สำนวนการแปลทั้งหมดเป็นของคลังหลอน ห้ามคัดลอกไปลงเว็บอื่น หรือเอาไปอ่านลง Youtube โดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาดนะครับ ***