ให้อาหารผี

ให้อาหารผี
ให้อาหารผี

ประมาณปี 2522 ผมมาเที่ยวเมืองไทยเป็นครั้งแรก เพราะต้องเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเอง แม้จะอยู่ กับ พ่อและแม่ แต่ก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาสำหรับกิน ค่าเทอม  ปีนั้นผมจะได้มาเมืองไทย ผมรู้สึกดีใจมากที่จะได้พบญาติๆทุกคน และได้เที่ยวเทียวไทยบ้านเกิดของเรา

ลืมไปครับ ผมและครอบครับย้ายไปอยู่ที่ชิคาโก้เมื่อปี 2512 แม่กับพ่อจะกลับเมืองไทยทุกปี ปล่อยให้ผมน้องและพี่สาวเฝ้าบ้าน แต่เราก็สนุกตามประสาเด็กทั่วไป….

ตอนนั้นผมยังอายุ 19 เองครับ จำได้ว่ามีคุณตาและยายมารับที่ดอนเมือง…อากาศร้อนมากๆ แต่ก็ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เราจากไปนานมาก ผมใช้เวลาในการปรับตัวเรื่องเวลาพอสมควรครับ คนอื่นเขาหลับ มีเราคนเดียวที่นั่งดูทีวี เพราะว่านอนไม่หลับ แต่ก็ทำจนได้

การไปไหนมาไหนตอนนั้นก็จะนั่งรถเมล์ไปต่อเรือข้ามเจ้าพระยา แล้วไปแถวสยาม ซื้อของเยอะมากเพราะว่าราคาถูกกวาที่ USA

มีน้าคนนึงเขาชื่อน้าตุ้ม ตระกูล ประจวบเหมาะ ที่บ้านเขาจะเป็นพวกสังคมชั้นสูงกว่าพวกเรา แต่น้าตุ้มเป็นคนธรรมดาชิล ๆ ครับ น้าตุ้มเค้ามาที่บ้านเพราะว่า น้าเค้าก็อยู่กับผมที่ชิคาโก้ แล้วเขาลืมเอกสารอะไรบางอย่าง น้าเค้าก็เลยมาเอา 

ก็นั่งคุยกัน น้าตุ้มบอกว่าจะไปนครนายก ไปทำบุญ 2-3 วัน เราก็ถามไปด้วยได้ป่าว น้าตุ้มตอบว่าอย่าเลย เราก็ถามว่า “ทำไมอะ” น้าตุ้มบอกว่า “ไม่เหมาะ…เราก็งงสิว่าทำบุญอะไรวะที่ไม่เหมาะ “เราก็บอกอยากไปด้วย…นะๆๆๆๆ” จนเขารำคาญเลยให้ไปด้วย

พอถึงวันไปทำบุญ เราไปรถจิ๊บและรถตู้ครับ ก่อนที่จะออกเดินทาง เราไปซื้ออาหารกันเยอะมาก ตอนแรกผมก็คิดว่าน้าตุ้มคงซื้อไปให้พระฉันท์ ถ้าจริงคงพระหลายองค์น่าดู แต่สิ่งที่ทำให้ผม งง คือน้าซื้อเหล้าไปด้วยนะสิ ผมก็คิดว่าคงเลี้ยงแขกละมั้ง แต่สิ่งที่งงในงงอีกก็คือต้องนุ่งขาวห่มขาวครับ พอทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทาง

ขับไปประมาณ 5-6 ชั่วโมงก็ถึงโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตอนที่ไปถึงมีคนมาถึงก่อนหน้านี้เยอะมาก รู้เลยว่าคนที่มาเป็นคนมีฐานะดี  บางคนก็เป็นทหาร ตำรวจ นักการเมือง แล้วทุกคนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดขาวกันหมด แถมยังมีตำรวจมากพอสมควรที่ดูแลสถานที่ครับ

พอจอดรถ เอาของลง ก็มี สห. มาเอาของกินต่างๆเข้าไปในโรงเรียน  พอผมเข้าไปก็งง เห้ย!! มีสายสิญจน์ขึงอยู่หรอเนี่ย แล้วของกินต่างๆจะอยู่นอกสายสิญจน์ แล้วสักพักนึงก็หลวงปู่เดินเข้ามา แล้วบอกให้เราเข้าไปนั่งในสายสิญจน์ 

พอทุกคนเข้าไปนั่งในสายสิญจน์ หลวงปู่ท่านก็ดูความเรียบร้อย พอทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านต้องการแล้ว ท่านก็พยักหน้าให้ตำรวจออกไป แล้วตำรวจก็ล๊อกประตูจากข้างนอก แล้วท่านก็เริ่มท่องคาถาและก็จุดเทียน 1 เล่มอันใหญ่มาก

หลวงปู่ท่านท่องคาถาอยู่นานพอสมควร จนผมเริ่มร้อนและหงุดหงิด และคิดในใจว่าเรามาทำอะไรวะเนี่ย พอคิดเสร็จได้อึดใจเท่าเอง ท่านก็บอกว่า พวกมันมาแล้วนะ เท่านั้นแหละครับ บรรยากาศภายในห้องก็เริ่มเย็นแบบเหมือนตู้เย็น แล้วก็มีเสียงเหมือนเด็กนักเรียนกำลังเดินลงบันได ผมเกิดมาไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย  

เราที่อยู่ในสายสิญจน์ได้ยินแต่เสียงและความรู้สึกว่าอะไรมันผ่านเราไป มีเสียงอาหารถูกฉีกและกินแบบสัตว์กินเนื้อ  หลวงปู่บอกว่าพวกมันหิวมาก 

ขณะที่พวกมันกิน หลวงปู่ท่านก็จะหยิบเอาข้าวขึ้นมาเสกและเป่า และโยนไปที่บางจุด  เท่านั้นแหละคุณเอ๋ยยย…พวกมันส่งเสียงร้องกันเสียงดังด้วยความปวด ร้องจนผมต้องปิดหูตัวเองเลย 

พวกมันกินกันอยู่ประมาณ 1/2 ชั่วโมง  แล้วหลวงปู่ท่านก็หยิบข้าวสารเสกขึ้นมาแล้วโปรยไปทุกที่ของห้อง อีกประมาณ 4 อึดใจท่านบอกว่า พวกเขาไปละ….แล้วตำรวจก็เปิดประตู…เปิดไฟ…ที่ผมตกใจก็คือห้องที่เรานั่งอยู่นั้นมันเต็มไปด้วยโคลน….มีรอยเท้าคนแทบทุกจุด แม้แต่ผนัง หรือกระทั่งเพดาน แต่ที่แปลกคือตรงบริเวณสายสิญจน์นั้นไม่รอบเปรอะเปลื่อนอะไรเลย

ผมเดินออกมาจากห้องนั้น แล้วน้าตุ้มก็บอกว่าเรามาให้อาหารผีที่ตายตรงจุดไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก ซึ่งมันเป็นโค้งมรณะที่คนตายกันเยอะมาก…และพวกเขายังวนเวียนอยู่แถวนั้น อยู่จนกว่าจะถึงเวลาที่เขาจะไปเกิดในชีวิตใหม่ 

ผมเชื่อที่น้าเล่านะครับ เพราะผมก็เป็นคนที่เห็นอะไรแปลกๆพวกนี้มาตั้งแต่เกิด แม่บอกผมว่า ผมได้มาจากแม่เอง …สุดท้ายผมขอให้ดวงวิญญาณที่รอคอยไปสู่ที่ชอบและบาปกรรมหมดสิ้นด้วยครับ

ขอบคุณเรื่องจากคุณ Paul Ratanakul ถ่ายทอดโดยเพจ TheShock คัดเรื่องเล่าสยองขวัญ

เรียบเรียงโดยแอดมิน คลังหลอน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here