เรื่องต่อไปนี้เกิดขึ้นจริงกับนักเดินทางท่านหนึ่ง ที่ใช้ชื่อ Facebook นามว่า บอลพาเที่ยว Backpacker Ball เขาลาออกจากงานประจำมาเพื่อทำตามความฝันของตัวเองคือเดินทางทั่วประเทศไทย ระหว่างการเดินทางก็มีเรื่องเล่าและประสบการณ์ต่าง ๆ ที่น่าจดจำมากมาย รวมถึงเรื่องชวนขนลุกเรื่องนี้ด้วย คุณบอลได้เล่าว่า…
คืนวันที่ 102 ของการเดินทางเที่ยวทั่วประเทศ ผมได้ค้างแรมที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งปรกติการเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศของผม ก็จะใช้วัดเป็นที่หลับนอน และบ่อยครั้งก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องนอนใกล้ๆ เมรุ ทว่า..สิ่งที่แตกต่างไปจากวัดอื่นๆ ที่เคยนอนคือ วัดแห่งนี้มีโลงเย็นตั้งอยู่สองโลงใกล้ๆ กับเมรุ ซึ่งทันทีที่ผมเดินเข้ามาในบริเวณอาคารสวดอภิธรรมศพเพื่อจะหาทำเลปักเต็นท์หลับนอน ความรู้สึกวาบหวิวไปทั้งตัว ขนลุกขนชันทั่วทั้งแขนกระทั้งใบหน้าก็เกิดขึ้น แต่ด้วยความที่เป็นคนจิตแข็ง และผ่านการนอนข้างเมรุมาหลายคืน จึงเฉย ๆ
จนกระทั้งหัวค่ำเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ผมได้ยินเสียงแปลกประหลาดรอบๆ เต็นท์เยอะมาก ทั้ง ๆที่บริเวณที่ผมนอน ไม่มีใคร หรืออะไรเข้ามาได้ แม้แต่หมาก็ตาม เนื่องจากผมนอนในศาลาสวดอภิธรรมศพที่มีรั่วรอบขอบชิด มีประตูเหล็กที่ผมปิดไว้ป้องกันผู้ไม่หวังดีเข้ามาด้านใน เสมือนขังตัวเองไว้ในศาลา แต่ก็เป็นศาลาที่โปร่ง เต็มไปด้วยเหล็กดัด
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะอย่างที่บอก ผมค่อนข้างจิตแข็ง อาจจะเป็นเสียงอย่างอื่นก็ได้ ดังนั้นจึงไม่คิดจินตนาการให้หลอนตัวผมเอง จนได้ยินเสียงในคลิป [Spoil ด้านล่างสุด ]…..นั่นคือเสียงหมาหอน ที่จู่ๆ มันหอนพร้อมกันทั้งวัด อันที่จริงเสียงหมาหอนก็ไม่แปลกเท่าไหร่ เดินทางมาร้อยกว่าวัน ได้ยินบ่อยมาก
แต่ที่วัดแห่งนี้ มันพร้อมใจกันหอนเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง หอนจนผมต้องเอาคลิปมาอัดไว้ และเป็นเสียงหอนโทนแปลกๆ แหลมๆ ฟังแล้วรู้สึกเย็นจับขั่วหัวใจจนสติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะบวกกับบรรยากาศโดยรอบที่วังเวง มืดมิด และนอนอยู่คนเดียวโดยมีโลงเย็นอีก 2 โลงห่างไม่ไกลมากนักเป็นเพื่อน จึงทำให้สติแทบหลุด
ไม่แค่นั่น ระหว่างหมาหอน ผมได้ยินเสียงเสมือน “คนเดิน” อยู่ข้างๆ เต็นท์ แต่พิจารณาแล้วก็ยังไม่สามารถฟันธงได้แน่ชัดว่าเป็นเสียงคนเดินหรือเปล่า ซึ่งไม่มีใครเข้ามาใกล้บริเวณเต็นท์ของผมได้ เพราะผมได้ปิดประตูมิดชิด และตอนอัดคลิปก็ยังรู้สึกเหมือนเดินอยู่ใกล้ๆ กับเต็นท์ ทำให้ผมพว้าพะวง หันไปด้านนั่นตลอดในช่วงที่อัดคลิป จนรูสึกว่าควรจะพอแค่นี่ดีกว่า จึงปิดคลิปแล้วมุดหัวนอน
แต่มันไม่จบแค่นี้ ระหว่างนั้นนั่นเอง ก็ได้ยินเสียง “ล้อลาก” ซึ่งชัดเจนมากเนื่องจากรอบข้างเงียบสนิท เสียงหมาหอนได้เงียบลงไปแล้ว ผมจึงจับที่มาของเสียงได้ “มันดังมาจากฝั่งโลงเย็น” ลาก 2 จังหวะ “เอี๊ยดดด เอี๊ยดดดดด” สั่นๆ แต่หนักแน่ ชัดเจนว่าเป็นเสียงล้อแน่นอน ซึ่งโลงเย็นก็ตั้งอยู่บนรถเข็น และมันก็หนักเกินกว่าที่ลมจะพัด ส่วนเสียงก็ชัดเจนจนคนจิตแข็งเช่นผมกล้าพันธงว่า “มันไม่ปรกติแล้ว” ซึ่งหลังจากเสียงล้อลากไม่นาน หมาก็หอนตามมาอีกระรอกใหญ่
ผมทำอะไรไม่ได้ เสมือนติดอยู่ในคุกเต็นท์เล็กๆ เพราะจะย้ายที่นอนก็คงไปไหนไม่ได้ ปวดฉี่ก็ปวด ขวดก็ไม่มี สุดท้ายก็ต้องทนอยู่ในเต็นท์จนเวลาเที่ยงคืนนิดๆ ไม่ไหวจนต้องลุกออกไปฉี่ในห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากโลง เรียกได้ว่ายืนฉี่หันหลังให้โลงเลยก็ว่าได้ โดยตลอดระยะเวลาที่เดินออกจากเต็นท์ผ่านโลงไปยังห้องน้ำ ผมขนลุกซู่ตลอด แต่ด้วยความเป็นคนจิตแข็ง คิดในใจว่า
“เอาว่ะ ถึงมีก็ไม่ได้ออกมาเป็นตัวให้เห็น และก็ไม่เคยได้ยินข่าวว่าใครจะโดนผีหักคอตายให้เห็นเป็นศพ เป็นไงเป็นกัน ไม่ยอมฉี่รดกางเกงแน่นอน” ผมจึงกลั่นใจเดินไปฉี่จนเสร็จแล้วรีบกลับมามุดหัวนอนจนเช้า
เหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี แต่เป็นความทรงจำที่หลอนที่สุดตั้งแต่กเดินทางมาเกือบ 5 เดือน ภายหลังจากนั่นได้ทราบจากเพื่อน ๆ ว่าวัดแถวนั่นค่อนข้างมีเรื่องเล่ามากมาย แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะเหตุการณ์มันผ่านมาแล้ว ได้ฝึกจิต ฝึกสติเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับคืนต่อๆ ไป เพราะกว่าจะจบทริป คงต้องผ่านเมรุ ผ่านโลงอีกเป็นร้อยคืนจนมีบางคนบอกว่า “ไอบอล ต้องเจอดีเข้าสักวัน”
ขอบคุณคลิปและเรื่องราวจากเพจ บอลพาเที่ยว Backpacker Ball