เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ญาติเราเจอแล้วมาเล่าให้เราฟัง เป็นเรื่องราวสั้นๆ ที่อยากเล่าเรื่องนี้เพราะเรามีความสนใจเกี่ยวกับตำนานๆต่างในลุ่มน้ำโขง และเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งลูกหลานฝั่งแม่ประสบพบเจอมา การข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยส่วนมากจะใช้เรือหางยาวบ้านๆ ไม่ได้ข้ามสะพานไทย-ลาว
เรื่องเกิดขึ้นประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ช่วงปีใหม่ เราอยู่จังหวัดหนึ่งทางภาคอีสานติดกับลาว ตอนนั้นได้มีญาติฝั่งลาวมาพักที่บ้านเราชั่วคราว เพื่อรอเดินทางไปฝั่งลาวต่อในวันถัดไป เป็นผู้หญิงกับผู้ชาย ทั้งคู่หลานๆของตา พี่ผู้หญิงชื่อเพ็ญ ส่วนพี่ผู้ชายชื่อต้น เขากลับมาจากทำงานที่ภาคใต้ และจะกลับบ้านที่ลาว จึงมาพักอยู่บ้านเราก่อน
สองคนนี้เราไม่ได้รู้จักแต่ดูพวกเขาสนิทกับที่บ้านมาก ผู้หญิงหน้าตาดีค่ะ ผิวขาว พี่ผู้ชายก็ดูโอเค หลังจากมาอยู่บ้านเรา วันต่อมาเขาก็กลับบ้านที่ลาวตั้งแต่เช้า เห็นพ่อเล่าให้ฟังว่า พี่ที่เป็นผู้หญิง เมื่อก่อนไม่เอาไหนเลย แต่คนพอโตขึ้นก็เริ่มคิดได้จึงเดินทางมาไทย เพื่อไปทำงานที่ภาคใต้ ก็เก็บเงินส่งให้พ่อกับแม่ที่อยู่ลาว ส่วนแฟนเขาพี่ผู้ชายเจอกันตอนทำงาน จนทั้งคู่อยู่กินด้วยกัน ซึ่งพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ ปีนี้พวกเขาทำงานจนเหนื่อยเลยคิดอยากจะกลับไปฉลองปีใหม่กับที่บ้านหลังจากที่ไม่ได้กลับนาน ฟังดูแล้วก็สุขใจแบบบอกไม่ถูกค่ะ
หลักจากนั้นประมาณ 4 วันญาติที่ลาวโทรมาบอกให้พ่อเราข้ามไปงานศพฝั่งลาว บอกว่าพี่เพ็ญตายแล้ว พึ่งหาศพเจอ เลยโทรมาบอก พ่อกะปู่เราตกใจมากเพราะพึ่งจะเจอกันไป แต่ยังไม่ทันได้ถามรายละเอียดอะไรมาก ก็ต้องเตรียมตัวข้ามประเทศ
ตอนนั้นเราไม่ได้ไปค่ะ เพราะไม่มีคนอยู่บ้าน เราเลยต้องอยู่เป็นเพื่อนแม่ แม่ก็พูดกะเรา คนจะดีเห็นหลายคนละ พอดีได้ไม่นานก็ตาย
พ่อไปงานศพได้แค่ 2 วันก็กลับ เพราะศพตายโหงคนในหมู่บ้านเขาให้ฝัง ห้ามเอาศพเข้าหมู่บ้าน ทำพิธีสองวันก็เสร็จแล้ว พอพ่อกะปู่มาถึงที่บ้านก็สีหน้าไม่ค่อยดีเลย
ตกตอนเย็นผู้ใหญ่เขาก็คุยกันตอนกินข้าวว่า “จมน้ำตายตั้งแต่วันที่กลับจากบ้านเรา แต่พึ่งมาเจอศพก็วันที่ 3 หลังจากที่จม
ย้อนกลับไปวันที่พี่เพ็ญกับพี่ต้นจะกลับลาว ทั้งคู่ต้องข้ามแม่น้ำโขงเพื่อกลับไปฝั่งลาว โดยเลือกข้ามที่ท่าเรือ ท่าเรือหนึ่ง ที่มีวัดดังอยู่ติดลำน้ำโขง คนแถวนั้นจะรู้จักดีค่ะ การข้ามฝากต้องนั่งเรือหางยาวไป เที่ยวนึงก็จะนั่งไปกันหลายคน ช่วงนั้นคนจะเยอะเพราะเป็นช่วงปีใหม่ พอพี่เพ็ญกับพี่ต้นขึ้นเรือ กก็นั่งไปเรื่อยๆ
จนถึงช่วงกลางลำน้ำโขง กระแสน้ำไหลแปลกๆ ทำให้เรือโคลงเคลง เหมือนโดนจับโยกทั้งลำ คนขับเรือก็พยายามคุมเรือ ทุกคนบนเรือต่างส่งเสียงร้องเพื่อความตกใจ จนสุดท้ายเรือก็ล่มในที่สุด พอคนที่อยู่บนฝั่งเห็นเหตุการณ์ก็พากันรีบขับเรือเข้าไปช่วย
ระหว่างที่เรือล่มพี่ต้นพยายามมองหาพี่เพ็ญ ก็เห็นว่าพี่เพ็ญลอยออกไปไกลจากเรือมาก พี่ต้นพยายามว่ายน้ำไปช่วยพี่เพ็ญ แต่คนที่อยู่ใกล้ๆแกและพวกที่ขับเรือมาสมทบทีหลังดันเข้ามาดึงแกไว้ ตอนนั้นพี่ต้นเห็นพี่เพ็ญค่อยจมลงไปต่อหน้า พี่ต้นแกก็โมโหว่า “จะห้ามผมทำไม ถ้าผมว่ายไปยังไงก็ช่วยเพ็ญทัน”
เหตุการณ์ผ่านไปสักพัก ก็เริ่มมีคนเข้ามาช่วยเยอะขึ้น ชาวบ้านช่วยกันเอาพี่ต้นและคนอื่นๆขึ้นมาบนฝั่ง ตอนนั้นพี่ต้นแทบเสียสติ เพราะตอนนั้นมีแค่พี่เพ็ญคนเดียวที่สูญหาย ส่วนทุกคนปลอดภัยหมด
พอขึ้นมาถึงฝั่งคนที่เขาเห็นเหตุการณ์เขาบอกว่า ตอนที่เรือล่มแล้วเพ็ญลอยออกไปไกลจากเรือ จังหวะที่พี่ต้นกำลังจะว่ายเข้าไปช่วย แล้วที่ทุกคนต้องดึงไว้เพราะว่าเห็นอะไรบ้างอย่างข้างๆตัวพี่เพ็ญ ลักษณะมันเหมือนผมคนค่อยๆผุดขึ้นมา แล้วพี่เพ็ญก็ค่อยๆจมลงไป คนที่เขาดึงพี่ต้นไว้เขายังบอกอีกว่า ถ้าเห็นลักษณะนี้ยังไงก็ไม่รอด ถ้าปล่อยให้พี่ต้นว่ายเข้าไปอีกคนก็ตายด้วยกัน เพราะเหตุการณ์นี้มันไม่ใช่ครั้งแรก มีหลายคนที่เห็น คนที่นั่งบนเรือจะเห็นชัดสุด คือเป็นลักษณะเส้นผมดำๆขึ้นมาเหนือน้ำ
หลังจากช่วยทุกคนขึ้นมาหมดแล้ว ชาวบ้านก็ช่วยกันงมหาพี่เพ็ญ ความหวังว่าจะรอดนั้นไม่มีเลย งมหากันอยู่นานแต่ก็ไรวี่แววของร่างพี่เพ็ญ จนต้องเชิญหมอธรรมมาทำพิธี หมอธรรมบอกเป็นพราย เขาอยากได้พี่เพ็ญ เขาเห็นตั้งแต่ข้ามฝั่งรอบแรกแล้ว (รอบแรกที่ข้ามมาฝั่งไทยครั้งแรกเลย) แล้วหมอยังบอกอีกว่าเขาจะคืนร่างให้ภายใน 3 วันนี้ ตอนนี้พี่เพ็ญเขาอยู่ในที่ดี มีบริวารดูแล
แล้ววันที่ 3 ศพก็ผุดขึ้นมาจริง ศพอืดมาก จนเขียวช้ำ ตอนที่เอาศพขึ้นจากน้ำแล้วต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ถึงขั้นต้องใช้กรรไกตัด เพราะศพอืดจนไม่สามารถถอดออกได้
ก่อนหน้านั้นจะชอบมี วัว ควาย ไปกินน้ำในลำน้ำโขง บางวันวัวชาวบ้านหาย ใช้วิธีจุดธูปขอคืน วันถัดมาศพวัวก็จะลอยขึ้นเหนือน้ำ บางคนก็บอกว่าทรายดูด แต่บางคนก็เชื่อว่าเราใช้พื้นที่นี้ของเขาก็ต้องมีของตอบแทนบ้าง
สำหรับเรา เราเชื่อนะตั้งแต่เล็กจนเราโตได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่บ่อยครั้ง เรื่องราวใต้น้ำและแถบแม่น้ำโขงมีเรื่องลึกลับตลอด ที่ยกเรื่องนี้มาเพราะเกิดกับคนใกล้ตัว สำหรับใครที่มองว่าเป็นเรื่องงมงาย อ่านเอาสนุกก็ได้ค่ะ ถ้าท่านไหนมีโอกาสได้ไปมองแม่น้ำโขง ลองมองไกลๆแบบไม่โฟกัสจุด มันจะรู้สึกว่าขลังมาก ในหัวเราคิดตลอดว่าลึกลงไปในขณะที่เราดำรงชีวิตอยู่เหนือน้ำใต้น้ำมันมีอะไรอยู่ เรื่องราวก็มีเพียงเท่านี้
ขอบคุณที่มา สมาชิกพันทิปหมายเลข 2669078 เรียบเรียงโดยเพจ คลังหลอน