ศาลพระภูมิเก่า

ศาลพระภูมิเก่า
ศาลพระภูมิเก่า

ต้องบอกก่อนนะครับโดยส่วนตัวผมเองเป็นคนที่ไม่มีเซ้นส์ เซิ้น อะไรนะครับ แถมยังเป็นคนที่ค่อนข้างจะเชื่อและกลัวผีระดับนึงเลย เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนสมัยที่ผมจะจบ ปวช. คือช่วงสอบเสร็จพอดี ผมจะมีเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ 3 คน  แต่หนึ่งคนที่ผมจะพูดถึงนี้มันชื่อไอ้ศรครับ

เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่ผมสอบเสร็จ วันนั้นตรงกับวันศุกร์ เราเลยชวนเพื่อนว่า “เห้ย ไหนๆก็จะจบและวันนี้ไปหาอะไรกินกันดีกว่า” ทุกคนก็เห็นด้วย ผมจึงตกลงนัดเวลากัน แล้วบอกว่า “เดี๋ยวกูเข้าไปรับ ทุกคนก็ตกลงตามนั้น

หลังจากทำภาระกิจของเราเสร็จสรรพ ผมก็ทยอยไปรับทีละคน จนไปจบที่บ้านไอ้ศรคนสุดท้าย เวลาตอนนั้นก็ซัก 3 ทุ่มกว่าๆ เกือบ4 ทุ่มและ ในรถผมจะเป็นคนขับ ไอ้ศรจะนั่่งข้างคนขับ ส่วนข้างหลังจะเป็นเพื่อนผมอีก 2 คน แล้วแฟนมันอีก 1 คน จากนั้นเราก็ขับรถไป (ร้านที่ผมจะไปนี่ มันจะเป็นอาหารแนวแบบชิวส์ๆ นะครับ มีระเบียงยื่นออกมา ซึ่งบรรยากาศถือว่าโอเคเลย)

โดยปกติผมจะไปร้านนี้บ่อย แต่ส่วนมากจะไปกับพี่แถวบ้านซะส่วนใหญ่ และผมจะวิ่งทางหลักตลอดทุกครั้งที่ไป จริงๆมันมีเส้นทางลัดอยู่ถือว่าลัดได้หลายกิโลเลยทีเดียว แต่กลางคืนมักจะไม่มีคนผ่านทางนั้น เนื่องด้วยทางมันเปลี่ยวและน่ากลัว  แต่ทว่าด้วยตอนนั้นมันก็ดึกพอสมควร ผมจึงเลือกใช้ทางลัด และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้…

หลังจากที่ผมขับรถออกมาจากบ้านไอ้ศร เราก็ขับกันมาเปิดเพลงฟัง คุยกันเรื่องที่เราจบแล้วจะไปทำอะไรกัน ในระหว่างขับรถอยู่นั้น ไอ้ศรก็เปิดกระจก แล้วถ่มน้ำลายลงไปที่พื้น ผมเห็นเลยทักมันไปว่า “มึงไม่เห็นศาลไงว่ะเดี๋ยวมึงก็เจอดีหรอก” มันก็ถาม “ศาลอะไรว่ะกูไม่เห็นเลย” มันก็เลยฉโงกหน้าออกไปดู

มันเป็นศาลเก่าๆ ที่เขานำมาทิ้งตามข้างทางน่ะครับ 

ไอ้ศรก็เลยพูดขึ้น  “มันก็แค่ศาลเก่าๆ ไม่มีอะไรหลอก” ผมก็ไม่พูดอะไร ก็ขับรถต่อไปจนไปถึงร้าน เราก็สั่งอาหารเครื่องดื่มบ้างเล็กน้อย สภาพร้านก็อย่างที่บอกจะมีระเบียงยื่นออกมา เราสามารถมองเห็นลานจอดรถที่เป็นลานหินได้เลย ซึ่งผมก็ชอบนั้งตรงระเบียงที่ประจำเลย มันจะมองเห็นรถเราด้วย

เราก็นั้งกินไป ฟังเพลงชิลๆ ระหว่างนั้นสายตาผมเหลือบไปมองที่รถพอดิบพอดี ผมเห็นลุงคงนึง อายุราวๆ ซัก 70 – 80 ประมานนี้ ใส่ชุดขาวทั้งชุดเลยนะ ยืนหันหน้าเข้าหารถผม ผมของลุงแกนี่ขาวเลย แต่ผมก็ไม่ได้พูดหรือทักอะไรนะ ก็เลยมองดูแกไปสักพักดูว่าแกจะทำอะไร จนเพื่อนสกิดผม ว่า “เห้ยขอน้ำแข็งหน่อย” ผมเลยละสายตาจากลุงมาแป๊ปเดียว แป๊ปเดียวจริงๆ หันกลับไปที่รถอีกที ผมก็ไม่เห็นลุงคนนั้นแล้ว  (ยังนึกในใจทำไมลุงแกไวจังวะ) ก็เลยไม่ได้คิดอะไรต่อ ก็นั่งกินกันไป จนเวลาล่วงเลยมากตีหนึ่งกว่าๆ (คอดื่มจะรู้ว่าเวลาแบบนี้มักจะผ่านไปเร็วเสมอ แต่ตัวผมเองก็ไม่ได้ดื่มเยอะนะครับเพราะต้องขับรถ)

จนกระทั่งตี 2 ซึ่งร้านจะปิดแล้ว เราก็เลยเช็คบิลแล้วก็กลับบ้านกัน ในระหว่างที่ผมเลี้ยวซ้ายออกจากร้าน ผมไปมองกระจกข้างขวา เหมือนเห็นคนใส่ชุดขาว แว๊บๆ มันมองไม่ถนัด ก็เลยว่า เอ๊ะ!! ตาคงฝาด ก็เลยขับรถต่อไป

ผมจะกลับทางเดิมนะครับ เนื่องจากมันดึกมากแล้ว แล้วมันใกล้บ้านด้วย แต่ในระหว่างทางนั้น อยู่ๆ ไอ้ศรเพื่อนผม มันก็เอามือของมันปิดปากตัวมันเอง แล้วก็ดิ้นเหมือนคนหายใจไม่ออก ผมก็คิดว่ามันแกล้ง ก็เลยปล่อยมันแบบนั้นแหละ จนกระทั่ง มันเป็นอยู่พักนึงเพื่อนข้างหลังบอกเห้ย ไอ้ศรมึงเล่นนานไปป่าวว่ะ

จนกระทั้งเหมือนมันเกร็งไปทั้งตัว ผมเลยจะแกะมือมันออกจากปาก แต่มันแน่นมากครับ แกะยังไงก็ไม่ออก จนผมบอกให้เพื่อนที่นั้งมาด้วยช่วยกันแกะ  หลังจากนั้นผมจึงละสายตาจากไอ้ศร มาเพื่อมองทาง ช่วงแว๊บเดียวจริง ผมเห็นคนยืนขวางอยู่หน้ารถ ห่างจากรถไปไม่เกิน 20 เมตร ผมตกใจมากเพราะขับมาเร็วเหมือนกัน  เลยหักหลบ รถนี่หมุนแบบในหนังยังไงอย่างนั้นเลย คนในรถทั้งกรี๊ด ทั้งร้องกันสนั่นรถ เหมือนรถมันจะพลิกคว่ำ 

แต่แล้วพอทุกอย่างหยุด ทุกสิ่งเงียบ ท่ามกลางความมืดสนิท ผมกับเพื่อนๆค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองไปข้างหน้าของรถ จากปกติตอนที่เรามา ทางเป็นทางคอนกรีต สองข้างทางมีต้นไม้แต่ไม่รก  แต่สิ่งที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้คือ 2 ข้างทางเป็นป่ารกทึบสูงกว่าตัวคน ถนนเป็นทางลูกรังมองเห็นได้แค่แสงไฟรถ 

ผมกับเพื่อนช็อค เกิดอะไรขึ้น ที่นี่ที่ไหน มันมีแต่ความมืดรอบด้าน มองไม่เห็นอะไร นอกจากแสงไฟหน้าที่ส่องออกไป  ผมตัดสินใจสาดไฟสูงไปข้างหน้า สายตาพวกเราทุกคนจ้องไป สิ่งที่พวกเราทุกคนเห็นก็คือ  มีลุงคนนึงอายุราวๆ 70 – 80 ปี ยืนจ้องมาที่รถ ห่างออกไปไม่เกิน 20 เมตร ซึ่งมันเห็นชัดมากๆ หน้าผอมดำตานี่ดุมาก ถือไม่เท้าชี้มาที่รถ แล้วค่อยๆเดินเข้ามา

ในตอนนั้นมันบีบหัวใจ ใจผมลงไปอยู่ตาตุ่มแล้ว  อยู่ก็มีควัน เหมือนไอแอร์ ออกมาจากช่องแอร์ ออกมาเยอะขึ้น เยอะขึ้น ผมพยายามเปิดประตูเปิดกระจกแต่มันถูกล็อคไว้หมด  จนภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือลุงแกกำลังวิ่งเข้ามาที่รถ แล้วไอแอร์ก็ท่วมจนผมมองไม่เห็นอะไรข้างนอกเลย ได้ยินแต่เสียงมี ปึ้ง ๆ ๆ ๆ ๆ อยู่รอบๆ นอกรถ ทั้งเพื่อน แฟนเพื่อน รวมทั้งผม ต่างร้องกันโวยวาย อยู่แต่ในรถ จนกระทั้งพวกเราหมดสติไป

ผมมารู้สึกตัวอีกทีเหมือนมันมีแสงอะไรมาเข้าตา ผมค่อยๆลืมตาขึ้น  เช้าแล้วครับ ผมรวบรวมสติ เรียกเพื่อนที่ยังไม่ได้สติให้ตื่น  ผมเปิดประตูรถออกมา ผมลงจากรถ ภาพที่ผมเห็นคือ รถผมไปจอดอยู่ที่ศาลพระภูมิเก่าๆ ที่เราขับผ่านเมื่อคืน  ทุกคนตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้า โดยเฉพาะไอ้ศร

หลังจากนั้นเราได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้พวกผู้ใหญ่ฟัง เขาก็เลยนำเราไปทำบุญอาบน้ำมนต์ ไปขอขมาลาโทษ แล้วผมก็ไม่เคยขับรถผ่านทางนั้นอีกเลย ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน

หลังจากทุกอย่างผ่าน  ผมได้ถามไอ้ศรถึงเรื่องวันนั้นว่ามันเป็น อะไร  ทำไมเอามือปิดปากตัวเอง  มันเลยบอกว่ามันเห็นมาตั้งนานแล้วว่ามีคนยืนอยู่กลางถนนพอมันจะบอกผม ก็มีมือใครไม่รู้ มาปิดปากมันไว้ เรื่องก็มีประมาณนี้ครับ ….

ขอบคุณที่มา เพจ TheShock คัดเรื่องเล่าสยองขวัญ

Previous articleยุติการเผยแพร่
Next articleยุติการเผยแพร่