เคยไหม เวลาที่เราอยู่คนเดียวแต่บางครั้ง มันกลับรู้สึกได้ว่า เราไม่ได้อยู่คนเดียว ผมมีเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมเองมาเล่าให้ฟัง
เมื่อตอนผมเรียนที่สถาบันเทคฯโนโคราช เหลือเทอมร์สุดท้ายจะจบ ปวส. เพื่อนได้ชวนไปพักด้วยกัน มันเป็นหอพักแบบทาวเฮ้าส์ มี 3 ห้องนอน สองห้องน้ำ พอดีว่างห้องกลาง เพื่อนๆก็พากันจองห้องใหญ่กันหมด ซึ่งเหลือแต่ห้องกลางติดหน้าบรรไดที่เป็นห้องเล็กสุด มีแค่หน้าต่างบานเกร็ดที่พอจะรับแสงสลัวๆในตัวบ้านตอนกลางวันเท่านั้น
ผมย้ายเข้ามาอยู่ได้ 2 เดือนแรก ผมเป็นคนเดียวในบ้านที่เรียนภาคบ่าย ซึ่งทุกๆวันเพื่อนจะไปเรียนกันหมด เหลือแค่ผม ที่ต้องนอนตื่นสายในห้องที่สลัวๆมองไม่ค่อยเห็นนั้น และบ่อยๆครั้งที่ผมขับมอไซไปสถาบันฯ ป้าผู้ดูแลบ้านพักที่อยู่ตรงข้าม จะชอบถามผมเป็นประจำครับว่า “ฝันดีมั้ยหนุ่ม ได้หวยมั้ย” ผมไม่เล่นหวยอยู่แล้ว ก็ตอบไปว่า “ไม่นิป้า ปกติดีนิ”
วันที่เกิดเรื่องผมก็นอนหลับปกติในห้องสลัวๆคนเดียว ทุกอย่างดูปกติ จนกระทั่งน้องๆเพื่อนๆออกไปเรียนภาคเช้ากันหมด (7.00 น.) ก่อนออกทุกครั้งก็จะตระโกนขึ้นมาบอกผมว่า “พี่สรไปเรียนแล้วน่ะ ปิดบ้านดีๆล่ะ “ ผมต้องตื่นมาตอบ “ครับบบบบ” และผมคิดในใจว่าเป็นที่น่ารำคาญที่สุด ที่ต้องตื่นมาตอบทุกวัน แล้วผมก็หลับตานอนต่อ มือขวาของผมวางไปด้านข้างตัวผมบนที่นอน เป็นท่านอนหงายปกติ ผมรู้สึกได้ว่ามือขวาที่วางไปนั้น วางอยู่บนฝ่ามือใครก็ไม่รู้
ตอนนั้นมันไม่ได้คิดไรมาก รู้สึกเหมือน เวลาเราเอามือไปวางบนเนื้อหมู่ในตลาด มันนิ่มๆเย็นหน่อยๆ ไร้ความรู้สึกไรแบบนั้น ด้วยความผิดปกติผมเลยตระแคงตัวขึ้นมาดู เต็ม 2 ตาผมเลยครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาเช้า 7.00 น. แต่ห้องผมอย่างที่บอก ต่อให้กลางวันมันก็แค่สลัวๆ พอมองเห็นได้ค่อนข้างชัด น้องเขาตัวซีด สีขาว ไม่ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น นอนหงาย หันหน้ามามองผม ลูกตาสีขาวขุน ผมดำยาว ผมดูตั้งแต่หัวจดเท้า (เพราะน้องเขาแก้ผ้าอยู่) เห็นหมดทุกสัดส่วน และที่ผมสังเกตุชัดก็คือ รูปรอยสักที่ต้นขาซ้าย เหมือนๆรูปหัวลีโอ ข้างขวดเบีย
พักหนึ่ง ผมก็รู้ว่า ผีแน่นอน เพราะห้องนี้ผมอยู่คนเดียว เขานอนจ้องตาผมเหม็งเลย ผมทำไรไม่ถูก วิ่งก็ไม่กล้า กลัวก็กลัว เอามือออกจากมือน้องเขา แล้วแอนตัวลงนอนตระแคง หันหลังให้ ตัวสั่นมาก เหงือแตกซิกเลย ตาก็มองนาฬิกาที่แขวนหน้าประตูเป็นเวลา 7.05 นอนสั่นอยู่แบบนั้น แล้วน้องผีก็นอนข้างหลังผม
จนถึง 7.15 ได้ยินเสียงพระที่มาบิทบาตรสดมนต์ให้พรป้าหน้าบ้าน ผมก็คิดว่า กูรอดแน่ ตัดสินใจกัดฟันลุกขึ้นเปิดประตูสุดแรง วิ่งลงมาชั้นล่าง วิ่งออกจากบ้านมาหาป้าที่กำลังใส่บาตรอยู่ และตั้งใจจะถามด้วยแหละว่า ทำไมห้องผมถึงมีผี ป้าต้องรู้แน่ๆ เพราะเป็นคนดูแลบ้านพักนี้….
ผมก็นั่งถามป้าอยู่พักใหญ่ แกก็ไม่บอกไร บ่ายเบี่ยงไปเลื่อย รดน้ำต้นไม้แกเฉย จนกระทั้งผมบอกว่า “ ผมนอนก่ะผี น้องเขาขาว ผมยาว สวยมาก ที่สำคัญน่ะป้า น้องเขามีลอยสักที่ต้นขาซ้ายด้วย” ป้าได้ยินแค่นั้นแหละ ถึงกับทรุด นั้งลงก่ะพื้น ร้องให้ใหญ่เลย และป้าก็เล่าความจริงให้ผมฟังครับว่า ที่จริงแล้วเป็นหลานสาวแกเอง รักก่ะรุ่นพี่ที่สถาบันฯอยู่ดีๆ รุ่นพี่เรียนจบก่อน ออกไปทำงาน ได้แฟนใหม่ที่ทำงาน น้องเขาเลย คิดสั้น ผูกคอตายในห้องที่ผมนอนนนั้นแหละ และบ้านพักนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ค่อยมีคนกล้าเขามาอยู่ จนกระทั้งพวกผมนี้แหละเข้ามาอยู่ และอยู่ได้นาน พูดจบแกก็เดินไปหยิบรูปน้องเขามาให้ผมดู โอ้ยยย…แทบช็อก ให้ตายสิ คนเดียวกันแป๊ะเลย แต่น้องเขามาสภาพสวย ผมเลยไม่ตกใจมากถ้ามาแบบอื่น ผมคงช็อกตายไปแล้วล่ะครับ
ป้าถามว่า ผมกลัวมั้ย ผมตอบแบบกัดๆฟันไปว่า ไม่กลัวหรอกครับ ถ้ามาแบบปกติๆ (ปกติผมไม่กลัวผีน่ะ แต่เชื่อเรื่องผี เพราะพ่อผมเป็นหมอผีครับ)
วันต่อมาผมก็ไปดูหนังเรื่องไรสักอย่างที่มีปลาดีโม้นี้แหละ ก็ซื้อตุ๊กตาปลาดีโม้มาตัวหนึ่ง 399 ตัวใหญ่มาก แล้วก็มาจุดธูปบอกน้องเขาว่า ถ้าจะมา ให้เจอกันในฝัน ถ้าเหงาก็ให้มาสิงในตุ๊กตานี้ จะได้นอนกอดทุกๆคืน เชื่อมั้ยครับว่าทุกคืนที่ผมนอนกอดตุ๊กตานั้น ผมจะฝันเห็นน้องเขาทุกครั้งเลย จนผมรู้สึกสนิท ไม่กลัวแล้ว
ผมอยู่ที่บ้านพักนั้นครบ 4 เดือน ผมก็เรียนจบ ปวส.และเตรียมตัวที่จะมาเรียนต่อที่ ชลบุรี จึงได้ย้ายออกจากบ้านหลังนั้น มาอยู่กับแม่ที่บ้านเพื่อเตรียมตัวและรอเวลา
มาอยู่บ้านกับแม่ได้ไม่นานก็เกิดเรื่องอีก ก็นอนกอดตุ๊กตาตัวนั้นเหมือนเดิม ฝันว่าน้องเขา ขึ้นบ้านมาหาผมไม่ได้ ฝันว่าน้องเขามาทุกครั้งต้องร้องเรียกผม ผมก็เดินลงมาหา (ผีขึ้นบ้านผมไม่ได้เพราะพ่อผมเป็นหมอผี ท่านกันบ้านไว้)
จนกระทั้งคืนหนึ่ง ฝันว่าน้องเขาใส่ชุดแต่งงานมาหาแล้วชวนไปอยู่ด้วย ผมก็ไปซิครับ รอไร สวยขนาดนั้น ก็เอื้อมมือจับกันเดินลงบรรไดบ้าน ทันไดนั้นก็มีมืออีกข้างมาดึงแขนผมไว้ ผมก็หันมามอง ปรากฏว่าเป็นแม่ผมเอง แล้วก็ยื้อแย่งผมไปอยู่พักใหญ่ แล้วแม่ก็กระชากสุดแรงจนมือผมหลุดจากมือน้องเขา ผมก็ตื่นมา พร้อมกับอากาศไข้ขึ้นสูง แต่พ่อไม่พาไปโรงบาล กับพามาหาหลวงพ่อที่วัดแทน ตอนตี 2 ในคืนนั้นเลย ก็กินน้ำมนต์ผูกข้อมือ อยู่ในโบถส์ทั้งคืน พอเช้าหลวงพ่อบอกว่า ผมรอดแล้ว
ผมกลับมาบ้านอาบน้ำมนต์ที่หลวงพ่อให้มาอีกรอบ พอส่องกระจกแค่นั้นแหละ แทบช๊อคครับ ผมตัวผอมมาก หน้าตาไม่มีราศีเลย ยังกะซากศพเดินได้ ผมถามแม่ว่า ไม่มีใครทักผมเลยหรอว่าผอม แม่บอกว่า ทักแล้ว…แต่เอ็งเถียงง !!?
และแล้วผมก็เข้ามาเรียนต่อที่ชลบุรี ส่วนตุ๊กตาผมติดมาด้วย เอาไปทิ้งลงถังขยะที่ อ.พานทอง ก็ไม่รู้ตอนนี้จะไปอยู่ที่ใครครับ…
ที่มา KA PO เรียบเรียงโดย คลังหลอน