พิธีตัดสายผัวเมีย เมียเก่าความรักและผูกพัน

พิธีตัดสายผัวเมีย
พิธีตัดสายผัวเมีย

ผมเป็นคนภาคเหนือ จ.แพร่ เป็นบ้านเกิดผม เรื่องนี้เป็นความรักผูกพันกับเมียเก่าของผมที่เสียชีวิตไปแล้ว เมียเก่าผมชื่อ ติ๋ว ส่วนตัวผมชื่อ นพ เราแต่งงานกันได้ 6 ปีกว่าๆด้วยไม่มีลูกด้วยกัน เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งเข้าปีที่ 7 

 ติ๋วก็ป่วยไม่สบาย ด้วยมีอาการไอและถุยน้ำลายๆบ่อย ไม่อยากอาหาร ไม่ค่อยจะดื่มน้ำ ผมจึงพาไปตรวจที่ รพ.แพร่ พอตรวจแล้วคุณหมอได้แจ้งว่า ติ๋วเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเองบกพร่อง โรคเดียวกับนักร้องราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ นั้นแหละครับ

คุณหมอสั่งยาแล้วให้ไปรักษาตัวต่อที่บ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นเลย มีแต่ทรุดลงผมพาไปรักษาทุกที่ ทั้งหมอแผนปัจจุบันยันหมอไสยศาตร์ แต่ก็ไม่ดีขึ้น ทานข้าวดื่มน้ำได้น้อยมากจนร่างกายผ่ายผอม จนกลายเป็นคนไข้ติดเตียง จนกระทั้งรักษาทุกทางแล้ว ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตติ๋วไว้ได้ แล้วเธอก็เข้าขั้นโคม่า 

ก่อนติ๋วจะเสียชีวิต เธอบอกกับแม่ยายผมว่าเธอจะกลับมารับผมไปกับเธอด้วย เพราะตอนอยู่ด้วยกันเรารักกันมาก 

เมื่อเธอเสียชีวิตลง ผมก็จัดงานศพให้เธออย่างดีที่สุด ตอนคืนสวดไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย แต่เรื่องมาเกิดหลังจากวันเผาศพของเมียผม

วันที่เผาศพเป็นฤดูหนาว วันนั้นพ่อผมเขาเป็นห่วงผม พ่อกลัวว่าติ๋วจะมาเอาตัวผมไปด้วย เลยให้ทำพิธีตัดสายผัวเมีย พิธีนี้จะทำหน้ารถบรรทุกศพไปป่าช้าในวันเผา  เป็นพิธีกรรมทางเหนือนะครับ พิธีนี้ผมต้องตัดสายผัวเมียกับคนตาย แล้วผูกด้ายสีแดงผูกไว้ที่คอตัวเอง และไม่ให้ไปเผาศพเมียตัวเองด้วย 

พอทำพิธีเสร็จผมต้องเดินไปข้างหน้า ห้ามเหลียวกลับมาดูโลงศพอีกเป็นอันขาด ด้วยจะมีญาติเอารถมารอข้างหน้าแล้วผมต้องขึ้นรถกลับบ้านเลย พอผมกลับถึงบ้าน โดยที่ไม่ได้ไปเผาศพแฟน ผมเสียใจมากก็เลยซื้อเหล้ามาดื่มกับเพื่อน 4-5 คน เพื่อนก็คอยปลอบใจให้ผมคลายเสียใจ 

ผมนั่งกินเหล้าไปสักพักฝนก็ตกลงมา ตอนนั้นเวลาน่าจะสัก 4 ทุ่มกว่าๆแล้วครับ ฝนตกลงมาจนอากาศเริ่มหนาว จู่ๆก็มีเสียงหมาหอนขึ้นตรงปากซอยบ้านผม ทุกคนต่างแปลกใจและมองหน้ากันไปมา แล้วถามกันไปมาว่า คืนนี้หมาทำไมถึงหอนหนักแบบนี้ 

สักพักหมามันหอนจากปากซอยเข้ามาเรื่อยๆจนถึงปากประตูบ้านผม ผมเลยพูดกับเพื่อนว่า ติ๋วคงมาตามหาผมแน่ๆ เพราะผมไม่ได้ไปเผาศพ ทุกคนต่างมองหน้ากันทำหน้าเลิ่กลั่ก แล้วหมามันก็เงียบไปจากประตูบ้านผม พวกเราเลยเลิกวงเหล้ากัน ต่างแยกย้ายกลับบ้านตัวเอง

พอเพื่อนกลับกันหมดแล้ว ผมก็ไปอาบน้ำเข้านอนและหลับไปเพราะความเมา มาสะดุ้งตื่นตอนดึกมากแล้ว อาจจะตี 2-3 ประมาณนี้ เพราะรู้สึกเหมือนมีใครจ้องมองผมอยู่ 

ผมจึงเปิดไฟตรงหัวนอน ผมก็เห็นร่างของติ๋วยืนอยู่ตรงประตู และจ้องมาทางผม ด้วยความกลัวผม จึงตะโกนเรียกพ่อแม่ที่ชั้น 2 จนพ่อกับแม่ลงมาหา ท่านก็ถามว่าเป็นอะไร ผมก็บอกท่านว่าติ๋วมาหา พ่อผมก็พูดว่าขนาดตัดกรรมกันแล้วยังมา สงสัยจะมาพาไปด้วยจริงๆ

รุ่งเช้าพ่อก็พาผมไปหาพระที่วัด พระท่านก็รดน้ำมนต์และให้สายสินต์มาพันรอบบริเวณบ้าน พอตกดึกคืนถัดมา ก็มีเสียงคนเดินรอบบ้าน หมาก็เห่าหอนเรื่อยๆทั้งคืน เสียงฝีเท้าผม พ่อกับแม่ จำได้ดีว่าเป็นเสียงฝีเท้าของติ๋วแน่นอน พ่อแม่และผมต่างใจหวั่นๆแต่ไม่ถึงกับกลัว เพราะเข้าใจว่าติ๋วคงมาตามหาผมด้วยความผูกพันกัน 

พระท่านบอกว่าวิญญาณคนตายจะวนเวียนกลับบ้านอีก 7 วัน เขาถึงจะหายไป ทุกๆคืนจะมีเสียงฝีเท้าเดินรอบบ้านทั้งคืน เธอคงเข้ามาไม่ได้ จนกระทั่งนานวันเข้าเสียงเดินนั้นก็หายไป

เรื่องนี้เป็นเรื้องจริงที่ผมเจอมากับตัวเอง ตอนนี้ก็เป็นเวลา 13 ปีแล้วที่เธอจากไป แต่ผมก็ยังรักเธอเสมอครับ

ขอบคุณที่มาผู้ใช้ Facebook คนธรรมดา นะ เรียบเรียงโดย คลังหลอน

Previous articleผีเหงา
Next articleยุติการเผยแพร่