เสียง ฮือหื่อฮือ ฮื้อฮือหื่อฮือ

ฮือหื่อฮือ
ฮือหื่อฮือ

เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งอายุ 17 ปี ชื่อว่าต้น ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้นปิดเทอม ด้วยความที่ไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ ต้นจึงหางานพาร์ทไทม์ทำ และก็ได้มาสมัครงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง หน้าที่ที่ต้นได้รับมอบหมายก็คือพนักงานรักษาความปลอดภัยของโกดัง ลักษณะโกดังจะเป็นโกดังขนาดใหญ่ และมีห้องคอนโทรลอยู่ชั้น 2 ของโกดัง ทางขึ้นไปห้องคอนโทรลจะเป็นบันไดวน วนขึ้นไปเป็นทรงสี่เหลี่ยม

ต้นต้องนั่งอยู่ในห้องคอนโทรล คอยเช็คเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งเวลามีคนเข้าออกมันจะมีไฟอยู่ 2 ดวง คือไฟสีเขียวและสีแดง ซึ่งถ้ามีคนเดินผ่านเซ็นเซอร์ ไฟมันจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง 

มันเป็นงานที่ค่อนข้างสบาย และอีกอย่างมันทำตอนกลางคืน แน่นอนว่าในตอนกลางคืนมันไม่มีใครมาเดินเพ่นพ่านอยู่แล้ว ทำให้ต้นมักจะนำการบ้านมาทำที่โกดังด้วย บางครั้งก็นำหนังสือการ์ตูนมาอ่านแก้เหงา หรือนั่งฟังเพลง

มีอยู่คืนหนึ่งขณะที่ต้นกำลังนั่งเพลินอยู่ในห้องคอนโทรลคนเดียว อยู่ดีๆไฟสีแดงมันก็กระพริบ วิบวับ ติด ๆ ดับ ๆ ซึ่งปกติแล้วเวลามีคนเดินผ่านมันจะต้องแดงค้างตลอด ต้นก็งงว่ามันเกิดอะไรขึ้น เซ็นเซอร์เสียหรือเปล่า 

บนห้องคอนโทรลมันจะมีหน้าต่างสำหรับมองออกไปด้านล่างทางเข้าออกของประตูหลังโกดังได้ ต้นจึงเปิดหน้าต่างแล้วชะโงกหน้าออกไปมองว่ามีใครเดินเข้ามาหรือเปล่า ดูอยู่สักพักหนึ่งจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครเข้ามาในโกดัง แต่ไฟสีแดงมันก็ยังติดๆดับๆอยู่ 

ต้นรู้สึกกลัวมาก เพราะอยู่มาตั้งหลายคืน ไฟสีแดงก็ไม่เคยติดสักที จนนั่งไปสักพักนึงไฟก็กลับมาเป็นสีเขียว ทำให้ต้นรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อย แล้วสักพักนึงไฟก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอีกแล้ว ติด ๆ ดับ ๆ เหมือนเดิม 

ต้นจึงตัดสินใจโทรไปหาผู้จัดการโรงงานซึ่งเป็นหัวหน้าของต้น ซึ่งเป็นคนรับต้นเข้าทำงาน “โทษนะครับที่ต้องโทรมาตอนดึก พอดีไฟมันกระพริบสีแดงอ่ะครับ” ต้นโทรถามด้วยความเกรงใจ “ไม่เห็นมีข้อความแจ้งเตือนสิ่งผิดปกติของระบบมาที่พี่นะ มันเสียหรือเปล่า” หัวหน้าพูดกับต้น (โดยปกติแล้วเวลาที่มีคนเดินผ่านแล้วเซ็นเซอร์ทำงาน ไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง จะต้องมี sms ส่งไปหาหัวหน้า )

ต้นก็บอกกับหัวหน้าว่า “ ไม่แน่ใจครับ แต่ว่ามันเป็นแบบนี้ 2 รอบแล้วนะครับ”  และในจังหวะที่ต้นกำลังคุยกับหัวหน้า ไฟสีแดงจากติด ๆ ดับ ๆ มันก็เปลี่ยนเป็นติดค้างตลอด  แล้วหัวหน้าก็บอกต้นว่า “ โอเค งั้นเดี๋ยวผมไปหาคุณที่โรงงาน” แล้วก็วางสายไป คำพูดของหัวหน้าทำให้ต้นรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา 

ต้นรออยู่สักพัก ก็ได้ยินเสียงรถยนต์จอดข้างโกดัง เสียงปิดประตูรถ แล้วก็มีเสียงคนกำลังเดินเข้ามา  ต้นก็คิดว่าคงเป็นหัวหน้าแน่ ๆ ทำให้ต้นรู้สึกโล่งใจ ว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว 

พอต้นชะโงกหน้าออกไปมองที่หน้าต่าง ก็เห็นเป็นคนกำลังเดินเข้ามาด้านใน แต่มันมีสิ่งที่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง ปกติแล้วเวลาคนเดินเข้ามาในโกดัง ไฟในโกดังมันจะต้องสว่าง เพื่อเช็คนู่นเช็คนี้ แต่เขากลับเข้ามามืดๆอย่างนั้น 

ในใจของต้นภาวนาให้เขาเปิดไปสักทีเถอะ เพื่อให้รู้สึกอุ่นใจว่าเป็นหัวหน้า จนแล้วจนเล่าไฟก็ยังไม่ถูกเปิด ต้นจึงตัดสินใจเดินลงไปหาหัวหน้าเองดีกว่า 

ต้นอยู่ชั้น 3 และกำลังจะเดินลงไปชั้น 1 อย่างที่บอกลักษณะของบันไดจะเป็นบันไดวนทรงสีเหลี่ยม  พอเปิดประตูห้องออกไป อยู่ๆต้นก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าของอะไรสักอย่าง กลิ่นมันแรงมาก จนชวนอ้วก

ต้นพยายามชะโงกหน้าลงไปมองด้านล่าง เพื่อหาที่มาของกลิ่นนั้น แล้วต้นก็เห็นเป็นร่างขาว ๆ สูง ๆ ประมาณ 2 เมตร ผอม แขนยาว ตัวยาว ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า กำลังค่อยๆเดินขึ้นบันไดมา แต่สิ่งที่ทำให้ต้นนั้นขนลุก คือท่าเดินของเขานั้นไม่เหมือนคนปกติ เวลาเดิน ข้อกระดูกทุกข้อเขาจะขยับ ก็อกแก๊ก กึกกัก ตลอดเวลา เหมือนในหนังผีอย่างไงอย่างงั้น ต้นก็ตกใจกับสิ่งที่เห็น และรู้ทันทีว่ากลิ่นที่เหม็นเน่ามันมาจากร่างนั้นแน่นอน   

แล้วอยู่ๆร่างนั้นก็ส่งเสียงฮัมในคอ “ฮือหื่อฮือ ฮื้อฮือหื่อฮือ” ไม่รู้ว่ามันเป็นเสียงร้องเพลงหรือเสียงสวดมนต์  พร้อมกับท่าเดิน ก็อกแก๊ก กึกกัก เหมือนหุ่นกระบอก 

มันค่อยๆเดินขึ้นมาเรื่อยๆ จังหวะนั้นต้นทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนตกตะลึงมองร่างนั้นอยู่ สักพักหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้น กริ๊ง ๆๆๆๆ  เสียง กริ๊ง ของโทรศัพท์ทำให้ต้นตกใจ สะดุ้ง ในใจรู้สึกว่าซวยแล้วไง ไอ้ตัวนั้นมันต้องได้ยินแน่นอน 

ต้นหันไปมองที่โทรศัพท์ แล้วก็หันกลับมามองที่ร่างนั้น สิ่งที่เห็นมันทำให้ต้นขึ้นลุกไปทั้งตัว เพราะร่างนั้นมันไม่ได้หันมามองต้นแค่หัว แต่มันบิดท่อนบนทั้งตัวแล้วมองมาที่ต้นอย่างไว นัยน์ตาของมันจ้องมาที่นัยน์ตาของต้น พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ ฮี่….ฮี่….ฮี้….ฮี้ แล้วจังหวะนั้นเอง สิ้นสุดเสียงหัวเราะ อยู่ๆร่างนั้นมันก็วิ่งขึ้นบันไดมาหาต้นด้วยอย่างรวดเร็ว 

ด้วยความตกใจ ต้นจึงรีบถอยกลับเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู พร้อมกับเอามือสองดันประตูไว้สุดแรง  ด้วยความที่ประตูมันเป็นประตูไม้ กลิ่นเน่ามันก็เริ่มแรงทะลุประตูเข้ามาเรื่อยๆ พร้อมกับเสียง “ฮือหื่อฮือ ฮื้อฮือหื่อฮือ” อยู่อีกฝั่งของประตูที่ต้นดันอยู่ รู้เลยว่าตอนนี้มันคงอยู่ตรงหน้าแน่ ๆ มีเพียงประตูที่กั้นเอาไว้เท่านั้น 

ต้นดันประตูไว้ได้สักพักหนึ่ง อยู่ ๆ เสียงกระแทกประตูก็ดังขึ้น ตั๊บ…ตั๊บ…ตั๊บ ต้นก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรมากระทบที่มือที่กำลังดันประตูอยู่ ความรู้สึกมันเหมือนหัวคนที่อยู่อีกด้านนึงของประตู มันอยู่ตรงกับมือของต้นพอดี  และยังรู้สึกอีกว่าเหมือนมีเข่าของมันมาโดนที่ช่วงเอว  พร้อมกลิ่นเน่าที่แรงขึ้นเรื่อยๆ 

ต้นรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว จึงตะโกนออกไปว่า “ไอ้ส* มึงอย่าเข้ามานะ” แล้วเสียงทุกอย่างก็เงียบไป นิ่งสงบ ในใจต้นคิดว่ามันไปหรือยังว่ะ  ต้นค่อยๆถอยห่างออกจากประตู ถอยไปเรื่อยๆจนสุดห้อง แล้วอยู่ๆกลิ่นนั้นมันก็เข้ามาในห้อง กลิ่นมันแรงมากจนเข้ามากระแทกจมูกต้น 

สักพักหนึ่ง ต้นก็ได้ยินเสียงดัง ปัง! ทำให้รู้เลยว่ามันได้พังประตูเข้ามาแล้ว เท่านั้นแหละ ต้นรีบเปิดหน้าต่างห้องแล้วกระโดดลงไปข้างล่างทันที จังหวะสุดท้ายที่ต้นหันมามองก่อนที่จะกระโดดลงไป ปรากฏว่าเห็นเป็นร่างนั้นกำลังพุ่งเข้ามา พร้อมกับอ้าปากกว้าง เตรียมจะมางับหัวต้น 

ด้วยความสูงของโกดัง ทำให้ร่างของต้นร่วงลงมากระแทกพื้นด้านล่างอย่างแรง จนหมดสติไป พอฟื้นขึ้นมาอีกที ต้นก็รู้ตัวว่าตัวเองนั้นสลบไป 1 สัปดาห์เต็ม ๆ กระดูกหลายจุดหัก แขนหัก ขาหัก 

หัวหน้าก็ได้เข้ามาเยี่ยมต้น ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ต้นก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ได้เจอให้หัวหน้าฟัง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ 

แต่ต้นรู้สึกแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือทุกครั้งที่พยาบาลเข้ามาตรวจ จะมองมาที่ตัวองแปลกๆ ต้นจึงถามกับพยาบาลไปว่า “ทำไมต้องมองผมด้วยสายตาแปลกๆครับ” พยาบาลก็บอกว่า “ตอนที่น้องนอนไม่ได้สติอยู่ น้องก็นอนนิ่งปกติ  แต่ในตอนกลางคืน ทุก ๆ คืน อยู่ดีๆ น้องก็หัวเราะ แล้วก็ร้องเพลง  ฮือหื่อฮือ ฮื้อฮือหื่อฮือ…เรื่องราวก็ประมาณนี้แหละครับ  

ถอดความจากรายการคืนพุธมุดผ้าห่ม

Previous articleยุติการเผยแพร่
Next articleยุติการเผยแพร่