เรื่องนี้เป็นประสบการณ์หลอนของคุณแชมป์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคุณแชมป์โพสต์เรื่องราวดังกล่าวบน Facebook จนเป็นเรื่องราวอันโด่งดังภายในเวลาไม่กี่วัน สำหรับเรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น เชิญมาอ่านกันได้เลยครับ
ย้อนกลับไปเราราวๆ 15 ปีก่อน ผมมีปัญหากับแม่ เลยหนีออกจากบ้าน ไปเช่าหอพักอยู่เดือนละ 500 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมาก ตึกนี้เป็นตึกๆ เล็ก ๆ มีทั้งหมด 4 ชั้น มีบันไดตรงกลาง แบ่งห้องเป็นซ้ายขวา ตรงข้ามห้องผมมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อว่าพี่เมย์ พี่เมย์เป็นสาวทำงานกลางคืนครับ ทำงานร้านเหล้า ตอนกลางคืนพี่เมย์จะไม่อยู่ห้อง แต่ตอนกลางวันที่ผมหยุดจะเจอและเคยคุยกันครับ
พี่เมย์เป็นคนอัธยาศัยดี แต่ก็ไม่เคยเล่าว่าห้องที่ผมเช่ามีความเป็นมาอย่างไร ตอนนั้นผมอยู่คนเดียว ห้องไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ห้องผมเป็นห้องเล็กๆ ผนังทาสีใหม่ มีพัดลมแบบแขวนเพดาน อยู่กลางห้อง ที่นอนใหม่ ผ้าปูก็ใหม่ สะอาด อยู่ชั้นบนสุด คือชั้น 4 นั่นแหละ มีหน้าต่างบานเกล็ด พอมองออกไป วิวดีมาก แต่ติดอยู่อย่างหนึ่ง คือห้องมีกลิ่นเหม็นอับ เหม็นสาบอย่างมากๆ แต่ด้วยราคาที่ถูก ผมก็เลยอยู่ได้
ในคืนแรกที่ผมเข้าพัก ผมก็ฝันว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง เเธอผมยาวมาก มายืนอยู่ตรงประตูด้านในห้อง ยืนมองมา แต่ผมมองไม่เห็นหน้าเธอ ในฝันผมก็ถามไปว่าเธอเป็นใคร แล้วผมก็สะดุ้งตื่น
ในทุกๆวันตอนกลางคืน ผมจะได้ยินเสียงคนเดินมาตรงบันได เป็นเสียงของรองเท้าผู้หญิง และมีกระดิ่งห้อยที่ขา ได้ยินทุกวันช่วงประมาณตี 1 ซึ่งช่วงเวลานั้นไม่มีคนอยู่ เพราะพี่เมย์ก็ไปทำงาน และชั้นนั้นผมก็อยู่กับพี่เมย์แค่สองคน นอกจากนั้นแล้วก็จะมีเสียงคนมาดีดกระจกบานเกล็ด แก๊ก ๆๆๆ ทั้งๆที่ด้านนอกหน้าต่างนั้นไม่มีระเบียง อย่างที่หนักๆเลย ในบางคืน ก็จะมีคนมาเคาะประตูแรง ๆ ปึก ๆๆๆ ในช่วงแรกๆนั้นผมก็เปิดออกไปดู เพราะคิดว่าอาจจะมีคนมาเคาะห้องผิด แต่พอเปิดประตูออกไปก็พบแต่ความว่างเปล่า ผมอยู่ในสภาพนี้ โดนหลอก ทั้งเสียง ทั้งฝัน ฝันบ่อยมาก และฝันแต่เรื่องน่ากลัว
ผมฝันว่ามีชายหญิงคู่หนึ่ง ในห้องนี้ ทะเลาะกัน และผมก็สะดุ้งตื่น พอตื่นขึ้นมาทีไร ก็จะได้ยินเสียงคนเคาะบานเกร็ด แก๊ก ๆ ๆ ๆ กับเสียงพัดลม ที่หมุนอยู่บนหัว ซึ่งเวลาที่ได้ยินเสียงอะไร ผมก็จะลุกขึ้นไปดูเลยครับ ถามว่ากลัวไหมก็กลัวแหละ แต่ยิ่งกลัวก็ยิ่งสู้ เมื่อลุกไปดูก็ไม่เห็นอะไร เป็นแบบนี้ตลอด
จนผ่านมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ แฟนผมจะมาหาที่ห้อง เรานัดกันไว้ประมาณ 4 โมงเย็นหลังเลิกเรียน ซึ่งวันนั้นผมเลิกเรียนประมาณบ่ายโมง จึงกับมานอนรอแฟนที่ห้อง พอกำลังหลับสะลึมสะลือ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ปัง ๆ ๆ ๆ ก็คิดว่าแฟน ผมเลยงัวเงียไปเปิดให้อย่างรวดเร็ว แล้วพุ่งตัวกลับไปนอนต่อ โดยที่เปิดประตูคาไว้ กะว่าจะให้แฟนปิดให้ ขณะที่นอนอยู่ ตาก็เบลอ ๆ เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในห้อง ใส่เสื้อสีอะไรจำไม่ได้ลาย ๆ เดินเข้ามายืนตรงประตู แล้วก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำเลย จากนั้นผมตาสว่างเลยครับ นอนไม่หลับเลย รอจนแฟนมา ซึ่งผมก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้แฟนฟัง เพราะกลัวว่าแฟนจะกลัวไปด้วย
ปกติแล้วผมจะสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน และคืนนั้นผมก็ตั้งใจอธิษฐานว่า ผมมาดี ผมไม่มีที่ไป เงินไม่มี ทะเลาะกับแม่มา ต้องหาเงินกินเอง อยู่เอง จะชอบผมหรือไม่ก็แล้วแต่ ผมไม่กลัว ขอต่างคนต่างอยู่เถอะนะ ถือว่าเอาบุญ หลังจากคืนนั้นพี่ผู้หญิงคนนั้นก็หายไป เสียงคนเดินหายก็ไม่ได้ยินอีก ไม่ฝัน อยู่อย่างสบายมาก หลับสนิทมาก อากาศดีมากๆ อยู่ได้แบบชิวๆ ครับ
ผมก็เลยบอกเพื่อนไปว่าผมพักอยู่ที่ไหน เพื่อนสนิทตอนนั้นก็เริ่มแวะเวียนเข้ามาหา แต่ผมก็ไม่ได้เล่าเรื่องที่เจอให้เพื่อนฟัง และแล้ววันนึงผมก็ได้มีโอกาสคุยกับพี่เมย์
พี่เมย์เล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนนั้นห้องที่ผมอยู่มีชายหญิงคู่หนึ่งเป็นแฟนกัน มาพักอยู่ แต่ว่าทะเลาะกัน ตบตีกันบ่อยมากในช่วงกลางวัน เพราะว่าผู้หญิงเขาทำงานกลางคืน ผู้ชายก็เลยหึงหวง จนมีอยู่วันหนึ่ง ผู้ชายได้หายตัวไป ผ่านมา 2-3 วัน ก็เริ่มมีกลิ่นเหม็นเน่า ออกมาจากห้องนั้น เลยให้ตายายเจ้าของห้องพักมาเปิดดู ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า พอเปิดเข้าไปในห้องก็พบว่าผู้หญิงกลายเป็นศพไปแล้ว ศพของเธอถูกแขวนไว้กับพัดลมตรงเพดาน ห้อยตัวลงมา มีเลือดติดเต็มผนังห้อง สันนิษฐานว่าน่าจะโดนแฟนฆ่าตาย แล้วหนีไป
พี่เมย์เล่าให้ฟังต่อว่าฝันถึงผู้หญิงคนนั้นบ่อยมาก ตอนกลางวันก็มาเคาะประตูห้องตรงข้าม คือห้องที่ผมอยู่นั่นแหละ ห้องนี้ถูกปิดมานาน ไม่มีคนมาเช่า ส่วนเสียงกระดิ่งขากับเสียงเดิน ก็ได้ยินบ่อยจนชิน แต่ที่เจอหนักเลย ก็คือตอนที่นอนอยู่ ผู้หญิงคนนั้นมายืนตรงประตู แล้วโผล่เข้ามาครึ่งตัว เหมือนในหนังผี พี่เมย์อยู่มาได้หลายปีเพราะพี่เมย์ไม่กลัว และไม่ค่อยอยู่ห้องในตอนกลางคืน ซึ่งเรื่องที่พี่เมย์เล่านั้นเหมือนกับที่ผมเจอเป๊ะๆเลยครับ ทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่ได้พูดหรือเล่าเรื่องอะไรให้พี่เมย์ฟังเลย ซึ่งหลังจากที่ผมอธิษฐานในคืนนั้น ผู้หญิงคนนั้นเขาก็ไม่เคยมากวนผมอีกเลยครับ
จนเวลาผ่านไปกระทั่งเข้าเดือนที่ 2 แม่ผมรู้แล้วว่าผมอยู่ที่ไหน จึงให้พ่อโทรมาหาผม พ่อบอกว่าแม่อยากคุยด้วย ลูกจะกลับหรือไม่กลับก็ได้ แต่แม่ขอคุยด้วย ผมจึงตอบตกลง
วันนั้นแม่ผมขายของที่ถนนคนเดิน ผมเลยไปหาพ่อกับแม่เพราะอยู่ใกล้กับหอ เมื่อเจอแม่ แม่ก็ถามสารทุกข์สุขดิบ และบอกว่าเดี๋ยวเพื่อนแม่จะมาหา จะมาคุยด้วย เมื่อเพื่อนแม่มาถึง ก็ถามผมว่าที่หอเป็นอย่างไรบ้าง น่ากลัวไหม ผมก็ตอบกลับไปว่า ก็ดีครับ ราคาถูกดี อยู่สบายๆครับ เพื่อนของแม่ก็ถามว่า อยู่กับใคร แฟนหรือเปล่า ผมก็บอกว่า อยู่คนเดียว แฟนกลับบ้านตลอด ทีนี้เพื่อนแม่ก็บอกว่า มีอีกคนนะ เขาอยู่กับเราตลอดเลย เท่านั้นแหละครับ แม่ผมก็พูดขึ้นมาว่า ออกมาเถอะลูก กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวแม่ไปช่วยขนของนะ
ผมก็งงๆ ว่าป้าคนนี้เป็นใคร และรู้เรื่องได้อย่างไง จนแม่เล่าให้ฟังว่า แม่รู้จักกับป้าคนนี้ และเคยเอากุมารทองเขามาเลี้ยง ทุกวันนี้ก็ยังเลี้ยงอยู่ จริงๆแล้วผมก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกครับ แต่ก็โดนกุมารทองหลอกประจำ เพื่อนที่มาบ้านก็โดนหลอกบ่อยๆ ป้าคนนี้เหมือนจะมีสัมผัสพิเศษครับ ช่วงที่ผมไม่อยู่บ้าน แม่ฝันว่ากุมารทอง 2 องค์นั้นพาแม่มาหาผมที่หอนี้ ซึ่่งแม่อธิบายภาพได้ชัดเจนมาก ทั้งๆที่ยังไม่เคยเห็นหอนี้
แต่พอแม่เดินขึ้นมาจะถึงบันได ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนขวางอยู่ ทำหน้าไม่พอใจ และโยนหัวตัวเองมาใส่แม่ผม แต่กุมารทองมารับไว้ แม่รู้สึกไม่ค่อยดี ก็เลยไปปรึกษาป้าคนนี้ ป้าเขาก็นั่งดูทางในให้ เขาบอกแม่ว่า มาถึงประตู พอเปิดเข้าไป เห็นลูกชายนอนอยู่ แต่มีผู้หญิง 1 คน ห้อยหัวอยู่ตรงพัดลม มองมาที่เขา ตาเขม่ง แต่ลูกชายสุขสบายดี ไม่ต้องกลัว ด้วยเหตุนี้แหละครับ แม่ผมจึงอยากให้ผมออกจากหอนี้ให้ได้ เพราะกลัวว่าผีผู้หญิงคนนั้นจะอยากให้อยู่ด้วย ไม่ให้ไปไหน
คืนนั้นแม่ให้ผมกลับไปนอนบ้านเลยครับ ไม่ให้ผมกลับไปที่หอนั้นอีก อีกวันหนึ่งก็ให้ลูกน้องไปขนของออกมาทันที หลังจากนั้น เพื่อนผมชื่อโตก็มาเช่าห้องต่อจากผม หลังจากนี้ผู้เล่าจะใช้สรรพนามคำว่าผมแทนคุณโตนะครับ
หลังจากที่เพื่อนแชมป์ออกจากห้องนั้น ผมก็เข้ามาเช่าต่อเลยครับ โดยที่ไม่รู้ว่าเพื่อนผมโดนอะไรมา และผมก็ไม่ได้ถามด้วย ในคืนแรกที่มาอยู่นั้นก็เจอดีเลย
เวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ อยู่ๆก็มีเสียงดังแกร๊ก ๆๆ แกร๊ก ๆๆ ตรงที่หน้าต่างบานเกล็ด ผมก็ตกใจสะดุ้งนิดหน่อย แต่ก็งงว่าอยู่ๆจะมีเสียงนี้ดังขึ้นมาได้อย่างไร ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้สงสัย เลยลุกไปดูที่หน้าต่างบานเกล็ด ตอนแรกมองออกไปคิดว่าเป็นระเบียงด้านนอกหรือเปล่า แต่มันไม่มีทะเบียง ซึ่งก่อนที่จะมาดูที่หน้าต่างนั้น ก็คิดว่ามีคนแกล้งหรือเปล่า แต่เมื่อมองออกไป ไม่มีคน และไม่มีระเบียงอะไรทั้งนั้น เพียงเสี้ยววินาที ผมก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เพราะเสียง แกร๊ก ๆๆ แกร๊ก ๆๆ มันมาอีกแล้ว แต่คราวนี้ มันกลับไปดังที่ตรงหัวนอน กึกๆ กึกๆ ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกกลัว เริ่มขนลุก แต่มันก็เอาอีกแล้ว เสียงกลับไปดังที่กระจกบานเกล็ดอีกแล้ว แกร๊ก ๆๆ แกร๊ก ๆๆ
ความกลัวเริ่มกินเข้าไปในหัวผม ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ตอนนั้นผมไปนั่งอยู่บนเตียงแล้วครับ เสียงเหล่านั้นเงียบไปครู่นึง แค่ครู่นึงจริง ๆ ครับ หายใจยังไม่ทันทั่วท้อง แล้วเสียงนั้นก็เริ่มการไล่มาจากกระจกที่หน้าห้องน้ำก่อน แกร๊ก ๆๆ แกร๊ก ๆๆ พอมองไป ก็จะย้ายมาตรงหัวนอน กึกๆ กึกๆ คราวนี้ชัดแจ๋วเลย ง่วงก็ง่วง แต่ในใจก็คิดว่า ต่างคนต่างอยู่ อย่ามารบกวนกันเลย
แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิด เริ่มมีเสียงคนเดินอยู่หน้าห้อง เสียงกระดิ่งเริ่มดัง กริ่ง ๆ ๆ กริ่ง ๆ ๆ อยู่หน้าห้อง ผมรอฟังสักพักว่าใครเดินมา แล้วเขาดันมาหยุดที่หน้าห้องผม แล้วเคาะประตูดัง ตึ้ง ๆ ๆ ตอนนั้นผมคิดในใจว่าโดนแล้วใช่ไหม ไหนลองออกไปดูซิว่าใคร อีกใจนึงก็คิดว่าเป็นลุงเจ้าของห้องหรือป่าว แต่พอเปิดประตูออกไปเท่านั้นแหละ พบกับความว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย ตอนนั้นคิดอยู่ในใจ ว่าจะอยู่ในห้องนี้ต่อไป หรือจะออกไปหาเพื่อนที่ชื่อฟิล์มดี ซึ่งตอนนั้นเวลาตี 2 แล้ว เพื่อนก็คงหลับแล้ว ผมเลยนั่งคุยกับตัวเอง ให้กําลังใจตัวเอง ไม่ได้นอนทั้งคืน จนฟ้าสว่าง ก็กะว่าค่อยมานอนเอาตอนสว่างแล้วกัน
หลังจากนั้นเวลาบ่ายกว่าๆ ผมก็ไปหาเพื่อนฟิล์ม ตั้งใจว่าจะไปชวนมานอนเป็นเพื่อน แต่ผมไม่ได้บอกความจริงว่าเมื่อคืนผมเจออะไรมา เพราะกลัวว่าเพื่อนจะไม่มานอนเป็นเพื่อน แต่ที่เป็นลางบอกเหตุการณ์ในวันนี้ ผมไม่แน่ใจว่ายังไง แม่ฟิล์มถึงบอกว่า วันนี้ไม่ยอมให้ฟิล์มขับรถ เหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฟิล์ม เลยไม่ยอมให้ฟิล์มขับรถ แต่ก็ยอมให้ไปกับผม ซึ่งตอนนั้นเองผมก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรข้างหน้า แต่แม่ของฟิล์มก็ไว้ใจผม จากนั้นผมกับฟิล์มก็ไปรับกิ่งซึ่งเป็นแฟนของฟิล์ม มานั่งเล่นที่ห้องด้วยอีกคน
ตอนนั้นน่าจะประมาณ 6 โมงเย็นได้ มาถึงห้องก็นั่งเล่นกันสักพัก รู้สึกเบื่อๆ เลยคิดจะหาอะไรกินกัน ผมกับฟิล์มจะเป็นคนออกไปซื้อด้วยกัน แต่ว่าตอนออกมาฟิล์มมันดันไปล็อคห้องให้กิ่งอยู่คนเดียว โดยคล้องแม่กุญแจด้านนอกห้องไว้ เพราะกลัวว่าจะมีใครมาทำอะไรกิ่ง
ผมกับฟิล์มออกไปนานเกือบ 3 ชั่วโมง ไปเดินเล่นงานดอกไม้ที่สวนบวกหาด จากนั้นค่อยกลับมาที่ห้อง พร้อมกับซื้ออาหารมาให้กิ่ง เมื่อกลับมาถึงห้องฟิล์มก็โดนกิ่งต่อว่า ชุดใหญ่เลย ว่าล็อคห้องไว้ทำไม จนงอนกันไป แต่เมื่อเริ่มหายงอน กิ่งก็ดันพูดขึ้นมาว่า พี่โต ถ้าหากอยู่ๆแล้ว มีผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาอีกคน จะทำยังไง ผมก็เลยบอกกิ่งไปว่า ไม่ควรพูดเรื่องนี้นะ ไม่ดี แล้วกิ่งก็พูดออกมาอีกครั้งว่า ถ้าหากมีผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็ไหว้สิพี่ แล้วก็หัวเราะ ผมก็เงียบ ไม่ได้สนใจอะไร แต่ก็คิดในใจว่า กิ่งกำลังลบหลู่เขาอยู่หรือเปล่า
สักพักผมก็เห็นฟิล์มกับกิ่งนั่งหยอกล้อเล่นกัน อยู่ๆฟีล์มก็พูดขึ้นว่า ให้กิ่งหยุดเล่น แต่กิ่งไม่ยอมหยุด ผมก็เลยหันไปมองหน้ากิ่ง ก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อหน้าของกิ่งหันมาทางผม แต่มือนั้นเล่นอยู่กับฟิล์ม แต่ว่าดวงตานั้นมองไปทางซ้ายและขวาแบบเร็วๆ ผมเลยตะโกนบอกกิ่งให้หยุด จากนั้นฟิล์มก็เริ่มมีอาการแปลกๆ ฟิล์มบอกว่าใจคอไม่ค่อยดี อยากจะกลับบ้าน กิ่งก็พูดขึ้นมาว่า ตอนที่ผมกับฟิล์มออกไปข้างนอก มีใครไม่รู้ มาเคาะประตูห้อง เคาะดังมาก แต่ไม่กล้าเปิดประตูออกไป
ลองคิดดูนะครับ กุญแจก็ล็อคแล้ว แถมยังคล้องแม่กุญแจไว้ด้านนอก แล้วใครที่ไหนยังจะมาเคาะประตูอีก ในตอนนั้นผมคิดว่า ต้องรีบออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะมันเริ่มจะแปลกๆแล้ว ตอนนั้นฟิล์มกับกิ่งเดินนำออกไปจากห้องก่อนแล้วครับ ผมตามไปทีหลัง ตอนที่อยู่หน้าประตูห้อง ผมเหลือบไปเห็นเบ้าตาของกิ่งนั้นดำคล้ำมาก ตอนนั้นผมรู้ทันทีว่า กิ่งกำลังโดนของเข้าแล้ว จึงรีบไปที่งานดอกไม้
ตอนนั้นมีเพื่อนผมและกาญ ซึ่งเป็นแฟนของผม และเป็นพี่สาวของกิ่ง พวกเราเดินออกมาได้สักพัก อยู่ๆฟิล์มก็ร้องไห้ออกมาดังมาก ผมจึงถามว่าเป็นอะไร ฟิล์มก็บอกว่าไม่รู้ อยู่ๆก็ร้องไห้ออกมาเอง ผมเลยให้ฟิล์มนั่งลงกับพื้น ฟิล์มยังคงร้องไห้เสียงดังไม่หยุด จนคนรอบข้างหันมามอง แต่ที่แปลกก็คือ อยู่ๆฟิล์มก็เงียบไปเฉยเลย นั่งนิ่ง ผมเข้าไปจับตัวฟิล์ม ก็ต้องตกใจสุดขีด ตัวฟิล์มเย็นมาก เหมือนคนที่ตายแล้ว ตอนนั้นเป็นห่วงฟิล์ม กลัวว่าฟิล์มจะเป็นอะไร ผมเลยตบหน้าฟิล์มประมาณ 10 กว่าครั้งได้ และเรียกชื่อฟิล์มให้รู้สึกตัว
ฟิล์มบอกว่า ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อตัวเองเบาๆในหูเท่านั้น จากนั้นผมเลยรีบพยุงตัวฟิล์ม ให้รีบไปที่ร้านดอกไม้ เพื่อให้ผู้ใหญ่ดูว่าตกลงเป็นอะไรกันแน่ จนสักพัก ฟิล์มก็กลับมามีอาการอีกครั้ง รอบนี้หนักกว่าเดิม ผมเลยบอกกิ่ง ว่าให้รีบไปบอกเพื่อนที่งานให้มาช่วยพยุงฟิล์มเข้าอยู่ไปในงาน เผื่ออะไรจะดีขึ้น
หลังจากที่พาฟิล์มเข้ามาอยู่ในงานแล้ว ผู้ใหญ่ในงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าฟิล์มโดนผีเข้า ส่วนเพื่อนพ่อผมที่เห็นเหตุการณ์ ก็รีบเอาพระมาคล้องคอให้กิ่งกับฟิล์มทันที ส่วนผมนั้นต้องกลับไปเอามอเตอร์ไซค์ที่ห้องพัก ไปคนเดียว แถมยังต้องขึ้นไปเอากุญแจรถกับกระเป๋าตังค์อีก
พอเปิดประตูห้องเข้าไปผมแทบจะเป็นลม ทั้งร้อนทั้งหนาว วูป ๆ วาป ๆ หยิบกุญแจได้ก็รีบวิ่งออกมาเลย วิ่งลงบันไดไม่คิดชีวิต หลังจากนั้นจึงไปรับฟิล์มกับกิ่งส่งกลับบ้าน แต่ผีผู้หญิงตนนั้นก็ยังตามมาถึงหน้าบ้าน พอส่งฟิล์มเข้าบ้าน หมาทุกตัวก็รวมใจกันหอนทั้งบ้านเลยครับ
ส่วนกิ่งนั้นก็โดนตามเหมือนกัน หลังจากที่ส่งกิ่งกลับมา กาญก็เหลือบไปเห็นกิ่งมีอาการเดียวกันกับที่ผมเห็น คือลูกตาของกิ่งนั้นมองซ้ายทีขวาทีแบบเร็วๆ จนกาญต้องกุมหน้ากิ่ง แล้วมองดีๆว่ากิ่งเป็นอะไร หลังจากวันนั้นผมก็ไม่กล้ากลับไปที่ห้องนั้นเลย…เรื่องราวก็จบเพียงเท่านี้
ขอบคุณเรื่องจาก ไปป์เล่าเรื่องผี ถอดความโดน คลังหลอน