ปาย…รีสอร์ทหลอนซ่อนผี

รีสอร์ทหลอนซ่อนผี
รีสอร์ทหลอนซ่อนผี

เรื่องของสมาชิกเฟสบุ๊คท่านนึง ที่ได้มาแชร์ประสบการณ์หลอน ๆ ชวนขนหัวลุก ของตัวเขาเอง ตอนที่ไปเที่ยว อำเภอปาย ถ้าเป็นแอดมินคงเช็คเอาท์ตั้งแต่วันแรกแล้ว เอาเป็นว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรเราไปอ่านกันเลยดีกว่าครับ 

เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปี มาแล้ว ตอนนั้นอำเภอปาย เพิ่งจะกำลังโด่งดังไม่นาน ผมกับแฟนและเพื่อนกับแฟนเพื่อน (รวมเป็น 4 คน ชาย 2 หญิง 2 ) ตกลงกันว่าจะไปเที่ยวปายกัน ให้เต็มอิ่ม โดยกำหนดวันเวลาเอาไว้ 6 วัน 5 คืน  โดยที่เราทั้ง 4 ก็ไม่เคยไปเที่ยวที่ปายนี่มาก่อน 

ที่พักที่เราได้จองไว้นั้น ได้ซื้อจากงาน ไทยเที่ยวไทยทั้งหมด ก็ไปเดินเลือกๆเอา จนได้มาครบตามจำนวนคืนที่ต้องการ 

การเที่ยวผ่านไปได้ด้วยดี จนล่วงมาถึง 2 คืนสุดท้าย ที่จะต้องเข้าพักในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง สาเหตุที่จองที่พักที่รีสอร์ทแห่งนี้ เนื่องจากช่วงนั้นปายกำลังเริ่มโด่งดัง ที่พักหลังใหญ่ที่นอนได้ 4 คนเต็มเกือบหมด เราจึงได้บังกะโล หลังเล็ก 2 หลัง ใกล้ๆกันแทน

แต่ในคืนแรกที่เข้าพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ พอเราเข้าไปเช็คอินกัน ทางเจ้าของบอกกับเรามาว่า “พอดีแขกที่พักบังกะโลหลังใหญ่ที่นอนได้ 4 คนนั้น เค้ายกเลิกไป 1 คืน จึงทำให้บังกะโลหลังใหญ่ที่ติดแม่น้ำนั้น ว่างคืนนึงพอดี จึงให้เราเข้าพักแทนได้เลย โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม  แต่คืนที่ 2 ต้องย้ายกลับไปนอนบังกะโลหลังเล็ก ตามที่ซื้อแพคเกตมานะ” เราจึงตกลงทันที เพราะบังกะโลหลังใหญ่ มี 2 ห้องนอนในพื้นที่เดียวกัน และระเบียงหน้าห้อง กว้างและยาวมาก ๆ เรียกได้ว่านั่งล้อมวงกัน 10 คน ยังหลวมๆสบายๆ แถมมีลำธารเล็กๆไหลผ่านหน้าบังกะโลอีกด้วย

เราจึงเอากระเป๋า ข้าวของไปเก็บไว้ในห้องพัก แล้วออกตระเวณเที่ยวกัน จนเริ่มค่ำ จึงกลับเข้ามาที่ที่พักพร้อม ขนม น้ำอัดลม บลาๆๆ หลังจากแยกกันอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็นั่งล้อมวงกันที่พื้นระเบียง นั่งกินลม กินขนม คุยกันไปเรื่อย โดยผมและแฟนของเพื่อนนั่งหันหน้าเข้าไปทางห้องพัก ส่วนแฟนผมกะเพื่อนของผม หันหน้าออกไปทางลำธาร 

ระหว่างที่คุยกันเรื่อยเปื่อย ผมและแฟนเพื่อน ได้เห็นอะไรบางอย่าง ผ่านหน้าต่างห้องนอนไป และลอยเข้าไปในห้อง ลักษณะเหมือนผู้หญิงใส่ชุดขาวบางๆ ลอยผ่านไปวูบนึง ผมกับแฟนเพื่อนหยุดกินขนมทันที หันมามองหน้ากัน เป็นสัญญาณว่า แกเห็นอย่างที่ฉันเห็นใช่มั้ย แฟนเพื่อนก็เหมือนกับเข้าใจว่า ผมสื่ออะไร เธอพยักหน้า

ส่วนแฟนผมกับเพื่อนที่นั่งหันหน้าออกไปทางลำธาร ก็งงๆกับท่าทีของผมและแฟนเพื่อน ซึ่งผมก็บอกไปว่า เห็นอะไร แฟนเพื่อนก็ยืนยันออกมาว่า ที่สิ่งที่เราทั้งคู่เห็นนั้น เหมือนกัน

เพื่อนผม เป็นคนไม่กลัวผี มันว่า “มึงง่ะ คิดมาก หลอนไปเอง” แล้วก็หันไปบอกแฟนมันด้วยว่า “เธอก็โรคจิตไปด้วยกันกับผม” 

ไม่เกิน 3 นาที หลังจากนั้น สลับกันคับ เพื่อนผมกับแฟนผมเห็นเหมือนผู้หญิง ใส่ชุดขาวๆ ลอยผ่านด้านหลังผมและแฟนเพื่อนผมไป ทั้งคู่ อ้าปากค้างเช่นกัน (จากที่มันเล่าให้ฟัง หลังจากออกมาจากที่พักแล้ว) มันจึงพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “เออๆ นี่ก็ดึกแล้ว เข้านอนกันเหอะ” โดยที่เราแยกกันนอนแบบ ช-ช ญ-ญ คนละห้อง 

ผมกับเพื่อน ก็เข้าห้อง โดยที่ผมกับมัน กำลังรื้อกระเป๋าเสื้อผ้า เพื่อที่จะหาแปรงสีฟัน มาแปรงฟันกัน ทันใดนั้น… ชักโครกในห้องน้ำของห้อง อยู่ ๆ มันก็ดังขึ้นมา ผมกะเพื่อนมองหน้ากัน วิ่งคว้ากระเป๋าออกมากันทั้งคู่ (ขนาดมันเป็นคนไม่กลัวนะ ผมนี่ฉี่จะราด) 

ด้วยความแมนของทั้งคู่ จึงไปเคาะห้องสาวๆที่อยู่ข้างๆคับ ขอนอนรวมด้วย ก็ให้สาว ๆ นอนบนเตียงไป เพื่อนผม นอนตรงซอกที่เป็นซอกตรงประตูหน้ากับเตียง ส่วนผมนอนซอกที่เป็นซอกเตียงอีกฝั่งหลังชนผนังห้องน้ำคับ

แล้วที่พักนี่ มันจะมีช่องลมคับ แต่ช่องลมที่ว่า ไม่ได้อยู่ด้านบนเหมือนอย่างที่เราเคยเห็น เป็นช่องลมด้านล่างที่ผนัง เจาะช่องไว้ 5-6 ช่องให้ลมผ่าน โดยมีไม้ยาวๆเลื่อนสำหรับ ปิด-เปิด 

ขณะที่ผมนอนๆอยู่ ยังไม่ทันหลับ สายตามองผ่านออกไปทางช่องลมนั้น ก็เห็น ชายกระโปรงขาวๆ ลอยผ่านไปมาโดยไม่เห็นขาของเจ้าของชุดนั้นแต่อย่างใด ตอนนั้น สวดมนต์ไปน้ำตาไหลไป ไม่รู้อีก 3 คนหลับไปรึยัง ได้แต่นอนคลุมโปง จนหลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้น เรามานั่งกินอาหารเช้ากัน โดยเลือกที่จะไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ เจ้าของรีสอร์ทเดินมาหาเรา แล้วถามว่า “หลับสบายมั้ย?” ผมไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มๆ แกบอกว่า ถ้าวันนี้จะออกไปเที่ยวกัน รบกวนเอากระเป๋าข้าวของออกจากบังกะโลนั้น มาไว้ที่ฟร้อนท์ เพราะเดี๋ยวแขกที่จองบังกะโลนั้นไว้จะเข้าพัก

เราก็คุยกันว่า จะเอาไงดี เพื่อนว่า เฮ้ย!!! คืนนี้ย้ายมานอนบังกะโลหลังเล็ก คงไม่น่าจะมีอะไรมั้ง อีกอย่าง จะไปหาที่พักใหม่ตอนนี้ คงไม่มีหรอก ก็เลยต้องเลยตามเลย

เราเข้าไปเที่ยว ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ภูโคลน และอีกหลายที่ จนกลับเข้ามาที่ปายอีกครั้ง ก็ค่ำแล้ว กระเป๋าและข้าวของ ของเรา ทางรีสอร์ทยกไปไว้ในห้องพักให้แล้ว ห้องพักคืนนี้ ทางเจ้าของ อภินันทนาการอีกแล้ว จัดให้เรา นอนบังกะโลขนาดกลาง ซึ่ง เห็นห้องที่หันหน้าชนกัน มีระเบียงเชื่อมตรงกลาง แต่ไม่มีระเบียงนั่งชมวิวเหมือนบังกะโลหลังใหญ่นั่น

บังกะโลนี้ พิเศษตรง ห้องส้วมนั้นอยู่บนห้องตามปกติ แต่ ที่อาบน้ำ ต้องเปิดประตูหลังห้องออกไป ลงบันไดไป 3-4 ขั้น จะเจอพื้นปูนโล่งๆ กั้นอีก 3 กั้น ด้วยจากหรือหญ้าแฝกไม่แน่ใจ มันคืออาบน้ำกลางแจ้งนั้นแหละคับ

หลังจากแยก ชายหญิง ผมกับเพื่อนก็เอากระเป๋าเข้าห้อง รื้อเสื้อผ้าที่ต้องการเปลี่ยน ระหว่างที่คุยกันอยู่ มาอีกแล้วคับ เสียงฝักบัวด้านนอก ดังเหมือนมีคนอาบน้ำอยู่ ทั้งๆที่เราทั้งคู่ยังอยู่ในห้อง เพื่อนวิ่งไปเปิดประตูหลังทันที เสียงอาบน้ำหยุดกึกทันที มันลงไปเดินดูที่อาบน้ำนั้น พื้นกลับแห้งสนิท เท่านั้นแหละคับ

เหมือนเดิม หอบกระเป๋าทั้งๆที่นุ่งขาวม้ากัน ไปเคาะห้องสาวๆ ขอนอนด้วย และก็เหมือนเดิม มุมเดิม แต่มันไม่จบแค่นั้น 

ระหว่างที่หลับๆกันอยู่ ผมเกิดปวดฉี่ เอามือถือกดดูเวลา ตี 3 ครึ่งเข้าไปแล้ว กำลังจะชันตัวลุกขึ้น พลัน เสียงชักโครกที่ด้นหลังที่ผมนอนเอาหลังชิดฝานั้นอยู่ ดังขึ้น ผมสะดุ้งสุดตัว ลุกขึ้นมาเช็ค บนเตียง 2 สาวก็ยังนอนอยู่ ก้มมองลอดไปใต้เตียง ก็เห็นเพื่อนนอนกรนสนั่นอยู่ แล้วใครเข้าห้องส้วม??

เท่านั้นแหละ เหมือนเดิมคับ คลุมโปงนอนต่อ สวดมนต์ๆๆๆๆ สวดมั่วไปหมด ไม่จบสักบท บางบนก็มีถั่วดำถั่วงาปน ๆ ไป และที่พีคที่สุดคือ เหมือนได้ยินเสียง มันก้องในหูตัวเองว่า “อย่าพยายามเลย ไม่ได้ผลหรอก ฮึๆๆ” แต๋วแตกสิคับ กรี๊ดลั่นเลย ทุกคนตื่นกันหมด ถามผมว่าเป็นอะไร ผมเล่าทุกอย่างให้ฟัง เราจึงมานั่งเกาะกลุ่มกันอยู่บนเตียงกัน 4 คน ยันเช้าคับ ไม่ได้นอนต่อกันอีกเลย

หลังจากมื้อเช้าทางรีสอร์ทจบ และขับรถออกมาเพื่อกลับ กทม.นั้น เราคุยกันมาตลอดว่า ไอ้คืนแรกที่เจ้าของรีอสร์ทบอกกับเราว่า “คืนที่ 2 แขกยกเลิกเข้าพัก” นั่นเป็นเพราะว่า พวกเค้านอนไปคืนนึง แล้วเจอแบบที่เราเจอรึป่าวหว่า ถึงยกเลิกคืนที่2 

ส่วนไอ้คืนที่ 2 นั่น บังกะโลขนาดกลางนั้น มาถามสาวๆ สาวๆเค้ารู้สึกเหมือนว่า บังกะโลหลังกลางนี้ เหมือนไม่ได้เปิดให้แขกพักมานานมาก ฝุ่นในห้องเขรอะไปหมด เออเนอะ ไอ้เราผู้ชาย เราก็ไม่ได้สังเกตุอะไรมากมาย

ส่วนตัวผมคิดว่า ทางเจ้าของเค้าคงเห็นว่า ไอ้คืนแรก พวกเรานอน แล้วตอนเช้าเค้ามาถาม คงเห็นว่าเรานอนได้ คืนที่ 2 เลยจัดห้องนี้ให้อีกคืน บรื๊อออออออออ

เข็ดไปอีกนานเลยคับ สำหรับการจองที่พักในงานไทยเที่ยวไทย (อาจเป็นเฉพาะผมที่ซวยก็ได้มั้ง) และหลังจากนั้น ก็ไม่ได้เหยียบย่างไปที่ปายอีกเลย

ขอบคุณที่มาคุณ Kae Sinpanyalert เรียบเรียงโดย คลังหลอน

Previous articleดอกลั่นทม หล่นใต้ต้น อย่าไปเก็บมาเลย ไม่ใช่ของเรา เป็นของของเขา
Next articleไอ้เลี้ยบ เพื่อนรัก กรุขอบใจเมิงมากนะ เมิง จะเป็นเพื่อนรักของกรุตลอดไป