ผมชื่อเจดอายุ 26 ปี ขอถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์สยองที่เคยเกิดขึ้นกับตัวผมเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เกี่ยวกับผีสางนางไม้ ที่ตัวผมเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด ตอนนั้นผมอายุ 26 ปีเป็นเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งที่โดยธรรมดาแล้ว มักจะชอบไปส่องกบส่องเขียดกับเพื่อนตามทุ่งนาที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งติดกับภูเขาและแม่น้ำ
คืนหนึ่งในฤดูฝนที่ผมกับเพื่อนประมาณ 5-6 คน ไปส่องกบส่องเขียดกันตามปกติ ฝนตกปอยๆอากาศค่อนข้างเย็น แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่นจึงไม่กลัวร้อนกลัวหนาวอะไรกัน แถมยังครึกครื้นอีกต่างหาก ตะโกนกันเสียงดังลั่นทุ่ง ต่อให้ค่ำมืดดึกดื่นแค่ไหนก็ไม่กลัวอันตราย กลับสนุกสนานอยู่กับการจับกบจับเขียด ยิ่งฝนตกอากาศเย็นๆด้วยแล้วยิ่งชอบกันเข้าไปใหญ่
พอได้กบเขียดตามที่ต้องการแล้ว พวกเราก็มานั่งพักกันอยู่ตรงกระท่อมริมแม่น้ำ ซึ่งใกล้ๆกับทุ่งนานั่นแหละครับ ในระหว่างนั้นพวกเราก็หยอกล้อกันเสียงดังตามประสาวัยรุ่น โดยเฉพาะเรื่องสาวๆที่มีมาให้แซวกันเล่นอยู่เรื่อยๆ ผมเองก็โดนกับเขาด้วย ทั้งๆที่หน้าตาก็งั้นๆ ไม่มีใครมาจีบมาชอบเลย
พวกเรานั่งคุยเล่นกันอยู่ได้สักพัก ไอ้ขุนเพื่อนที่มาด้วยกัน มันมองไปที่ริมน้ำแล้วอุทานว่า เฮ้ย สาวบ้านไหนมาเดินแถวนี้มืดๆค่ำๆวะ ท่าทางสวยซะด้วย เพื่อนอีกคนก็เยอะขึ้นมาว่า เห็นแค่ข้างหลังมึงจะรู้ได้ยังไงว่าสวยว่ะ
ซึ่งผมก็เห็นกับเพื่อนอีกคนนึงเช่นกันว่า ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้ดูข้างหลังแล้วหุ่นจะดีมาก ส่วนผ้าซิ่นยาวๆเสื้อสีขาว ผมยาวตกถึงหลัง ดูแล้วเหมือนเธอจะสวย แต่ก็ไม่แน่อาจไม่สวยเลยก็ได้ ต่างฝ่ายก็เถียงกัน ขณะที่สายตาของทุกคนจ้องมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น ที่ค่อยๆเดินเลียบริมแม่น้ำไป ผมสังเกตว่าเธอไม่ใส่รองเท้า และเดินไปเรื่อยๆเหมือนไม่มีจุดหมาย จะว่าเป็นสาวๆในหมู่บ้านก็ไม่น่าจะใช่ เพราะไม่เคยเห็นผู้หญิงลักษณะแบบนี้ อาจจะมาจากหมู่บ้านอื่นก็เป็นไปได้ แต่ใครจะมาแถวนี้ดึกๆคนอื่นคนเดียวล่ะ
แต่ด้วยความที่เป็นวัยคึกคะนองอยากรู้อยากเห็น พวกผมจะเล่นเป่ายิ้งฉุบกัน ใครชนะก็จะได้เป็นตัวแทนไปถามไถ่กับสาวคนนี้ และแล้วหวยก็มาออกที่ผม ผมก็รู้สึกตื่นเต้นดีนะ เพราะโดยปกติก็ไม่ค่อยได้จีบสาวอยู่แล้ว แต่คราวนี้เป็นเหมือนกับการโชว์ฝีมือให้เพื่อนๆได้เห็น ถ้าไม่สำเร็จก็คงหน้าแตกกันไป
เมื่อชนะแล้วเพื่อนๆก็ยุว่า ให้รีบตามไปไวๆ แล้วถามชื่อมาด้วย ผมก็เดินสลับวิ่งเหยาะๆไปตามริมน้ำ พร้อมกับถือไฟฉายไปด้วย สักพักเหมือนเธอจะรู้ว่ามีคนตามมา เธอหยุดเดินทันที ทำเอาผมหยุดไปด้วย คราวนี้เธอหันมามอง ถึงกับทำให้ผมตกตะลึง เพราะหน้าตาของเธอสวยมากๆ จมูกคม ตาโต คิ้วโก่งเป็นสีดำชัดเจน ปากเล็กๆสีแดงระเรื่อ แต่ถ้าเพ่งดูชัดๆยามกลางคืนเช่นนี้ ที่มีแต่แสงของไฟฉาย ผิวหน้าของเธอจะขาวเนียน เหมือนไม่มีรูขุมขนเลย แต่เนื้อตัวดูจะซีด ๆ ไปหน่อย และเมื่อดูใกล้ๆเหมือนตัวของเธอจะเปียกน้ำไปทั้งร่าง หรือว่าเธอจะพลัดตกน้ำมา เธอยิ้มให้ผมนิดๆ แล้วไม่พูดอะไร ผมเลยเอ่ยถามขึ้นว่า มาจากไหน แต่เธอก็ได้แต่ยิ้มเบาๆไม่ตอบอะไร แล้วก็หันหลังเดินจากไป
ตอนนั้นผมทำตัวอะไรไม่ถูก เพราะคนเขาไม่ตอบ จะให้เดินตามไปก็กะไรอยู่ เลยเดินกลับไปหาเพื่อนที่กระท่อม บอกเพื่อนว่า เขาไม่คุยด้วย ทำให้เพื่อนแต่ละคนหัวเราะเสียงดังลั่น แต่ผมก็บอกเพื่อนว่า เธอสวยมากๆ ยิ่งดูใกล้ๆยิ่งสวย เพื่อนอีกคนจึงรีบวิ่งจะตามผู้หญิงคนนั้นไป แต่ปรากฏว่าเธอหายไปแล้ว ไม่มีแม้แต่ร่องรอย ไม่รู้ว่าไปไหนด้วยซ้ำ พวกเราเลยลงความเห็นกันว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมารอสาวคนนี้อีก
ต่อมาพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งจะถึงบ้านผมก่อนเป็นอันดับแรก เพราะบ้านของผมอยู่ติดกับทุ่งนา ใกล้ๆกับริมแม่น้ำเลย ผมอาบน้ำทำธุระส่วนตัวแล้วรีบเข้านอน แต่ก็ยังติดใจในภาพของผู้หญิงคนนั้นอยู่ว่าเป็นใครกันแน่ ในใจลึกๆผมก็สนใจเธออยู่ไม่น้อย กะว่าพรุ่งนี้จะทำให้เธอพูดกับผมให้ได้เลย เพราะหัวถึงหมอนผมก็เผลอนอนหลับไปตอนไหนไม่รู้เหมือนกัน แล้วฝันว่าผู้หญิงที่ผมเห็นที่ริมน้ำ ชวนผมไปเล่นน้ำด้วย แล้วเธอก็บอกว่าชอบผมด้วย อยากได้ผมไปเป็นเพื่อน ในฝันผมไม่รู้สึกกลัวหรือเคลือบแคลงสงสัยอะไรเลย เพราะอาจหลงในความสวยของเธอ หรือต้องมนต์สะกดอะไรบางอย่าง และแล้วเหตุการณ์ในฝันก็เกินเลยมากขึ้นเรื่อยๆ ผมฝันว่าได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ มันทำให้ผมหลงใหลมาก จนกระทั่งตื่นขึ้นมากลางดึก ผมก็โทษตัวเองว่าอาจจะคิดถึงเธอคนนั้นมากไป เลยเก็บมาฝันลามกแบบนี้ แล้วผมก็นอนหลับต่อ
พอตื่นเช้าขึ้นมา ผมรู้สึกเหนื่อยและเพลียมากกว่าปกติ แขนขาไม่ค่อยมีแรง ต้องนอนพักอีก 2-3 ชั่วโมงถึงจะตื่นขึ้นมาทำภารกิจประจำวันได้ ส่วนนัดในคืนนี้ก็เป็นไปตามปกติ ตกเย็นผมกับเพื่อนๆก็ไปที่กระท่อมริมน้ำเหมือนเคย ในเวลาเดิม เพื่อเฝ้ารอว่าผู้หญิงคนนั้นจะผ่านมาหรือไม่ และแล้วเวลาเดิมเธอก็ผ่านมาจริงๆ ใส่เสื้อผ้าชุดเดิม เดินในท่าเดิม ๆ เพื่อนผมอีกคนเลยอาสาจะไปดูให้เห็นกับตา แต่ก็มีอีกหลายคนที่อยากไปด้วย เลยตกลงกันว่า พวกมันทั้งหมดจะไปด้วยกัน ส่วนตัวผมจะเป็นคนเฝ้ากระท่อม เฝ้าของต่างๆที่พวกมันนำมาด้วย เช่นวิทยุหรือเกมกดอะไรพวกนั้น ผมจึงต้องจำยอมเฝ้ากระท่อมไปก่อน
ไม่นานนักพวกมันก็วิ่งกลับมา แล้วบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่หันหน้ามาหาเลย แถมยังไม่พูดคุยอะไรด้วย พอจะวิ่งไปดูหน้าก็วิ่งไม่ทัน ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเดินช้า ๆ ก็ตาม และก็มีเพื่อนอีกคนหนึ่งสังเกตว่า ตัวเธอจะเปียกปอนมาก ผิวหนังซีดเหมือนไม่มีเลือด เส้นผมของเธอนั้นยาวขึ้นเรื่อยๆในพริบตา จากความยาวถึงแค่หลัง ก็ค่อยๆยาวมาถึงก้น ยิ่งพูดพวกมันก็ยิ่งกว่ากันเข้าไปใหญ่ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นผี เพราะโดยปกติจะไม่มีผู้หญิงมันเดินตามลำพังในริมน้ำแถวนี้
ส่วนตัวผมเองก็ยังไม่เชื่อพวกมันเท่าไหร่นะ กลัวว่าพวกมันจะมาอำผมเล่น เพราะมีผมคนเดียวที่ไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเองในรอบนี้ อีกอย่างคือผู้หญิงคนนี้ก็มีหน้าตาปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไป เดี๋ยวจะเป็นผีไปได้อย่างไง จากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยแต่ละคนยังมีอาการงงและสงสัยอยู่ ปะปนกับความหวาดกลัว บางคนก็อยากจะมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ แต่บางคนก็ขอตัวไม่มาเพราะกลัวว่าจะโดนผีหลอก สรุปก็คือ พวกเราตกลงกันว่าจะไม่มาในวันพรุ่งนี้
ผมกับเพื่อนเดินเล่นเรื่อยๆจนถึงบ้าน เมื่อผมถึงหัวบันไดและกำลังใช้ขันตักน้ำล้างเท้าอยู่ ก็รู้สึกเหมือนว่ามีใครผมยาวๆตามหลังมา จึงหันหลังไปดู ก็ไม่เห็นใคร จึงไม่ได้คิดอะไร แล้วขึ้นไปนอนตามปกติ
คืนที่ 2 นี้ผมก็ฝันอีกแล้วครับ ฝันว่าเธอมาหาถึงที่บ้าน และได้ชวนผมไปที่ริมน้ำ คราวนี้เราก็มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันเอง ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเช่นเคย เหงื่อไหลท่วมตัว แต่คราวนี้ก็รู้สึกอ่อนแรงมาก มันเหนื่อยผิดปกติมากกว่าเมื่อวานด้วยซ้ำ จนกระทั่งถึงเช้าวันต่อมา ถึงกับมีอาการไข้ขึ้น รู้สึกหนาวๆร้อนๆ ได้แต่กินยาแล้วก็นอนพักผ่อนตลอดวัน แล้วก็มีเพื่อนๆมาเยี่ยม
ผมเล่าเรื่องความฝันให้เพื่อนๆฟัง พวกมันหัวเราะกันยกใหญ่ บอกว่าผมหื่น อาจจะคิดไม่ดีกับผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า เลยเก็บเอามาฝัน ผมก็แย้งไปว่าไม่ได้คิดไม่ดีนะ แต่แค่นึกถึงเท่านั้น อาจเป็นจิตใต้สำนึกที่เราคิดว่าเราชอบเขาก็ได้ เลยทำให้ฝันออกมารูปแบบนี้ ประกอบกับฮอร์โมนของวัยรุ่นที่อาจทำให้เกิดฝันแปลกๆแบบนี้ได้ แต่ก็มีเพื่อนบางคนที่พูดแปลกๆว่า
มันเคยได้ยินมาว่า หากมีหญิงสาวมาร่วมหลับนอนด้วย จะค่อยๆดูดกลืนวิญญาณของผู้ชายไป ทำให้ผู้ชายคนนั้นค่อยๆอ่อนแรงและตายลงในที่สุด อาจจะนำเอาไปทำเป็นสามีในโลกวิญญาณ หรือเอาไปเป็นตัวตายตัวแทนก็ได้ เมื่อหลายคนได้ยินสิ่งที่มันเล่า ทำให้ต่างขนลุกกัน แต่ผมก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี แค่ฝันจะทำให้ผมตายได้ยังไง
ตกดึกคืนที่ 3 ซึ่งเป็นคืนวันโกน ผมนอนหลับไปด้วยฤทธิ์ยา แล้วก็ฝันอีกว่าเธอมาหาผมที่บ้าน ได้ยินเสียงเพราะๆของเธออยู่ตรงหน้าบันไดบ้าน ผมก็เดินลงไป แล้วเธอก็บอกให้ผมเดินตามเธอไป ผมเดินตามไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงริมน้ำ คราวนี้เธอจูงมือผมเดินลงไปในน้ำ เป็นความเย็นของน้ำนั่นเอง ทำให้ผมรู้สึกตัวขึ้นทันที และได้เห็นว่า ตัวเองนั้นได้ละเมอมาที่แม่น้ำจริงๆ แล้วผู้หญิงที่เห็นในฝันนั้นหายไปไหนก็ไม่ทราบ มีแต่ความมืดและกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ตอนนี้น้ำมันลึกถึงตรงหน้าอกผมแล้ว ผมตกใจมาก ไม่คิดว่าความฝันนั้นจะทำให้ผมละเมอและเดินมาได้ไกลถึงขนาดนี้ อีกอย่างน้ำก็ลึกมาก ผมจึงหาทางขึ้นฝั่ง ในใจก็นึกว่ากลัวตลอดเวลา และคิดว่าผู้หญิงที่เห็นนั้นคงไม่ใช่คนแล้วล่ะ
ขณะที่ผมเดินลุยกับกระแสน้ำอยู่นั้น ผมก็รู้สึกว่ามีมือยาวๆนิ่มๆมาดึงขาข้างซ้ายของผมไว้ ผมตกใจมากทั้งตะโกนร้องให้คนช่วย พร้อมกับร้องขอชีวิตว่าอย่าทำอะไรผมเลย ผมพยายามสลัดข้อเท้าออก แต่ก็ไม่สามารถทนแรงของมือนั้นได้ไหว ร่างของผมค่อยๆจมไปกับน้ำ มือปริศนาก็ค่อยๆดึงขาของผมลงไปเรื่อยๆ ให้เข้าไปถึงระดับน้ำที่ลึกที่สุด
เพียงเสี้ยววินาทีที่น้ำเริ่มมิดหัว ความทุรนทุรายเอาชีวิตรอด ทั้งหายใจไม่ออก ทั้งสำลักน้ำ แขนขาก็ดิ้นไปดิ้นมา จนในที่สุดสติของผมก็นึกได้ว่า ต้องนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผมจึงนึกอธิษฐานจิตเพื่อขอบารมีของพระคู่บ้านคู่เมือง ให้ปกป้องรักษาผม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ มือใหญ่ยาวที่กำขาผมไหมเนี่ย ก็รีบปล่อยออกทันที และมีเหมือนบางอย่างที่ผลักผมขึ้นมาให้ลอยอยู่เหนือน้ำ และมีเหมือนกระแสน้ำแรงๆที่พักตัวผมขึ้นมาถึงฝั่ง ซึ่งแปลกมากๆ ผมตะเกียดตะกายขึ้นมา จังหวะที่ลุกขึ้นนะ ได้ยินเสียงของผู้หญิงเรียกปะปนมากับสายน้ำ ผมจึงหันหลังไปมอง ก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่เจอในฝัน และเป็นคนเดียวที่เจอที่ริมน้ำนั่นแหละครับ เธอยืนอยู่กลางแม่น้ำ ระดับน้ำลึกถึงกลางต้นคอของเธอ หน้าของเธอนี่ขาวมาก แม้โดยรอบจะมืด แต่ก็ยังเห็นใบหน้าสีขาวของเธอที่โดดเด่นมาก
เธอเรียกชื่อผมแล้วกวักมือให้ไปหา เธอพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่เย็นยะเยือกอีกว่า ไหนบอกว่าจะอยู่ด้วยกันไง แต่ผมคงไม่อยู่หรอกความตาย รีบวิ่งยังไม่คิดชีวิตเข้าบ้านทันที แล้วรีบคุมผ้าห่มขณะที่ร่างกายยังเปียกอยู่อย่างนั้น
จนกระทั่งถึงเช้าผมยังไม่หลับไม่นอน ปวดหัวมาก แม่เข้ามาปลุกในห้องก็แทบช็อคเหมือนกัน ที่เห็นสภาพผมตัวเปียกปอน ตัวซีด ปากซีด แม่จึงรีบพาผมไปส่งโรงพยาบาล ผมนอนให้น้ำเกลืออยู่หลายวัน ในขณะที่นอนโรงพยาบาลก็ฝันเห็นผีสาวตอนนั้นด้วย แต่เนื่องจากผมอาราธนาบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา ทำให้การฝันถึงผีสาวตอนนี้ลดลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอหายไปในที่สุด แล้วผมก็หายป่วย
เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ที่ผมนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพราะผมเล่าให้เพื่อนฟัง ก็มีเพื่อนผมอีกคนไปเล่าให้ปู่ของมันฟัง ซึงปู่ของมันเป็นคนที่มีวิชาอาคม รอบรู้เรื่องไสยศาสตร์อยู่แล้ว มันมาเล่าให้ผมฟังอีกทีว่า ปู่ของมันบอกว่า
ที่ผมเจอนั่นคือผีพรายน้ำ มันมาร่วมเสพสมกับผมในฝัน เพื่อให้ร่างกายผมอ่อนแอลงเรื่อยๆ เป็นวิธีการดูดกลืนวิญญาณอย่างหนึ่ง แล้วถ้าผมไม่แก้ไขหรือติดใจในการเสพกาม ผมก็อาจจะต้องตาย เพราะผีมันชอบผมมาก มันอยากให้ผมเป็นสามี แต่มันคงรอไม่ไหว สุดท้ายมันจริงมาเข้าฝันทำให้ผมละเมอ แล้วเดินลงไปที่แม่น้ำ เพื่อให้ผมตายไวๆ เพราะถ้าจะมาเข้าฝันบ่อยๆ ก็คงต้องรออีกสักพักใหญ่ๆ ร่างกายผมจะอ่อนแอลงจนกระทั่งไม่มีอารมณ์หายใจ แต่ที่ผมรอดมาได้เพราะตัวผมเองยังไม่ถึงคาด และถือว่าดวงแข็งพอสมควร และยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยปกปักรักษา นี่แหละครับคือเรื่องราวของผมที่เกือบเอาตัวไม่นอน