เรื่องนี้ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แถว ๆ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ตอนนั้นเราทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง พอดีว่าจะหาห้องเช่าใหม่กับพี่สาว แต่ตอนนั้นพี่สาวอยู่กับแฟน ให้เราออกไปหาก่อน จนมาเจออพาร์ตเมนต์นี้ ลักษณะเป็นตึก 2 สี ส้ม น้ำตาล เราเดินเข้าไปเพื่อสอบถามห้องว่าง ก็เเจอกับป้าคนดูแลหอ ป้าเขาก็บอกว่า มีว่างอยู่ 2 ห้อง ห้องแรกเป็นห้อง 202 แต่พอเราเข้าไปดูห้องแล้ว รู้สึกไม่ถูกใจ ป้าก็เลยบอกว่ามีอีกห้องนึง อยู่ชั้น 3 เราก็บอกก็บอกว่าขอดูหน่อยละกัน
บรรยากาศตอนที่เดินเข้าไปครั้งแรก เรารู้สึกว่าชอบมาก เหมือนมีอะไรดลบันดาลใจให้เราตกลงเอาห้องนี้ เราบอกกับป้าคนดูแลหอว่า “ป้างั้นหนูขอวางมัดจำเลย” ป้าเขาก็บอกว่า “งั้นวางมัดจำมา 2,500 วันที่จะเข้ามาอยู่ค่อยมาจ่ายเพิ่ม” เราก็บอกกับป้าว่า “โอเคงั้นเดี๋ยวจ่ายวันนี้เลย แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะเข้ามาสายๆ”
ในวันเดียวกันนั้นเราก็กลับไปเก็บข้าวของที่ห้องพี่สาว วันรุ่งขึ้นเขาก็ขนของย้ายเข้ามาตามปกติ ซึ่งของเรามีไม่มาก มีแค่กระเป๋า 1 ใบกับตะกร้าผ้าอีก 1 ใบ เราเรียกแท็กซี่มา ขณะที่ขนของขึ้นรถ คนขับแท็กซี่ก็มองหน้าเราแปลกๆ พอมาถึงอพาร์ตเมนต์ คนขับแท็กซี่ก็ช่วยเราขนลงจากรถด้วย แล้วก็มองหน้าเราแปลกๆอีก เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอจ่ายตังค์เสร็จ พี่คนขับแท็กซี่ก็บอกเราว่า “น้อง โชคดีนะ” เราก็ทำหน้างง โชคดีไร? แต่ก็ตอบไปว่า “ขอบคุณนะครับพี่” แล้วก็ขนของขึ้นห้อง แต่เชื่อไหม ป้าคนดูแลหอ มาถึงก็ยื่นกุญแจให้เรา แล้วก็เดินกลับไปเลย ไม่มีถามไถ่ หรือแม้แต่เดินนำไปส่งที่ห้องเลย
พอเดินขึ้นมาถึงห้อง ลืมบอกไป เราได้ห้อง 305 ห้อง 305 จะเป็นห้องริมสุด ตรงข้ามห้อง 305 ก็จะเป็นห้อง 306 ถัดจากห้อง 306 ไปจะเป็นบันไดขึ้นมา ตรงช่วงนั้น จะมีคนเช่าอยู่ทุกห้อง ยกเว้นห้อง 305 และห้อง 306
เราไขกุญแจ บิดลูกบิด เปิดประตูเข้าไป ขวามือจะเป็นเตียง เตียงนั้นเป็นเตียงเปล่าๆ ไม่มีผ้าปูที่นอน และท้ายเตียงจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ที่หันหน้ามาทางเราพอดี ซึ่งอยู่ตรงปลายเตียงพอดี หลังจากย้ายของขึ้นของเสร็จหมดแล้ว ด้วยความเหนื่อยล้า เลยทิ้งตัวลงนอนบนเตียง เราเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีก็ช่วง 1-2 ทุ่ม วันแรกเหตุการณ์ปกติดี
พอวันที่ 2 ในวันนี้เองมันเริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆ เรากลับมาจากเลิกงาน มาถึงก็ทำการจุดธูป บอกกล่าวเจ้าที่ คืนนั้น เวลาประมาณเที่ยงคืน เราสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะก็ได้ยินเสียงฝักบัวในห้องน้ำ เสียงเหมือนมีคนกำลังอาบน้ำอยู่ เราก็คิดว่าเสียงดังมาจากห้องข้างๆหรือเปล่า จึนไม่ได้สนใจอะไร เลยนอนต่อ
จนเวลาตี 4 เราลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นว่าพื้นห้องน้ำมันเปียกอยู่ เหมือนคนพึ่งอาบน้ำใหม่ๆ แถมยังมีไอน้ำเกาะที่กระจกอีกด้วย แต่เราก็ยังคิดว่าอาจเป็นน้ำค้างฝักบัว เลยไม่ได้เอะใจอะไร
วันต่อมา ก็เหมือนเดิม เรานอนหลับอยู่ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก และต้องตกใจสุดขีด เมื่อเราลืมตาขึ้นมาเห็นผู้หญิงคนนึง นั่งหันหลังให้เราอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง เธอนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว และกำลังหวีผมอยู่ ตอนนั้นเราคิดว่าเราหลอนไปเอง จึงล้มตัวลงไปนอน กั้นใจ นับ 1-3 ลุกขึ้นมาดูอีกครั้ง ก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว เราเลยตั้งจิตอธิษฐานว่า “ถ้าคุณมีตัวตนจริงๆ ให้มาเข้าฝันก็ได้ ไม่ต้องมาให้เห็นเป็นตัวเป็นตนแบบนี้”
เรานอนหลับไปได้สักพักนึงก็ฝันว่า มีผู้หญิงคนนึงมาบอกว่าอยากได้ดอกกุหลาบ ไม่อยากได้ดอกมะลิที่เราเอามาไหว้เมื่อเเย็น และยังบอกอีกว่า ให้นำดอกกุหลาบใส่แจกัน ที่อยู่ในห้องน้ำอีกด้วย ซึ่งภายในห้องน้ำนั้นเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะมี อ่างล้างมือ มีกระจก และมีชั้นวางของหน้ากระจก
พอวันรุ่งขึ้นเราตื่นมา ตัดสินใจลางาน และไปตลาดเลย ไปซื้อดอกกุหลาบ มาใส่ไว้ในแจกันในห้องน้ำตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอก แล้วก็โทรไปบอกกับพี่สาวว่า ให้มานอนด้วยกันเร็วๆเถอะ พี่สาวเราก็ตอบตกลงและมานอนกับเราในคืนนั้นเลย
เชื่อไหมพี่สาวเรามาวันแรกก็เจอเลย คืนนั้นขณะที่พี่สาวเรากำลังนอนอยู่ จู่ๆก็ลุกขึ้นมากรีดร้องว่า “โอ๊ยยย เจ็บ!” เราก็ตกใจตื่นขึ้นมาถามพี่สาวว่า “พี่นา ๆ เป็นอะไร” พี่สาวก็บอกว่า “หยิกพี่ทำไม พี่เจ็บ” เราก็บอกว่า “หนูไม่ได้หยิก…พี่ หนูก็นอนอยู่อย่างนี้จะไปหยิกพี่ตอนไหน” พี่สาวเราก็บอกว่า “ไม่ใช่และ ๆ เองหยิกพี่” ด้วยความที่เรากลัวว่าพี่สาวจะไม่มานอนเป็นเพื่อน เราก็เลยบอกไปว่า “เออ..ใช่หนูหยิก” แล้วเราก็นอนกันต่อ
ขณะที่นอนอยู่นั้น พี่สาวเราก็ฝันว่า มีผู้หญิงมายืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผู้หญิงคนนั้นนับ 1…2…3…4 แล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็เปิดประตูออกมา นับต่อ 5…6…7…8…9… เชื่อไหมวันรุ่งขึ้นเป็นวันที่หวยออกพอดี ปรากฏว่าพี่สาวเราถูกหวย
พี่สาวเราจึงบอกว่า ถ้าถูกหวยอยากได้อะไรให้มาเข้าฝันมาบอก ปรากฏว่าในคืนนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็มาเข้าฝันพี่สาวเรา และบอกว่า อยากได้ชุดสวยๆ กับดอกกุหลาบช่อใหญ่ๆ เอามาให้ด้วยในห้องน้ำ เชื่อไหมว่า งวดนั้น พี่สาวเราถูกทั้งเบอร์ทอง หวยใต้ดิน และลอตเตอรี่ พี่สาวเราจึงไปซื้อของตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอก แล้วก็บอกเราว่า กูไม่อยู่แล้วนะ
พอ 1 อาทิตย์หลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ ก็มีเพื่อนที่ทำงานกำลังหาที่พักใหม่อยู่พอดี เราเลยชวนมาอยู่ด้วย เพราะเห็นว่าห้องฝั่งตรงข้าม คือห้อง 306 นั้นว่างอยู่พอดี พอเพื่อนเข้ามาอยู่ เราก็คลายความกลัวไปได้นิดนึง เพราะว่าออกไปทำงานพร้อมกัน เลิกงานพร้อมกัน กินข้าวพร้อมกัน
คืนนั้นมีเพื่อนคนนึงมาขอนอนห้องเรา มาถึงก็มานั่งกินขนม ดูทีวีอยู่บนเตียง และวันนั้นเพิ้อนห้อง 306 ไม่สบายพอดี เราและเพื่อนเลยชวนกันไปเยี่ยมเพื่อนกัน เราเปิดประตูออกไป แต่เราไม่เปิดประตูห้องเรานะ กะว่าไปแปปเดียว แล้ว จู่ ๆ ประตูห้องก็ปิดดังปัง! และยังได้ยินเสียงล็อคประตูจากด้านในด้วย จนเรากับเพื่อนไม่สามารถเข้าห้อง ในห้องเราหุงข้าวแล้วต้มมาม่าไปด้วย เรากลัวว่าไฟจะไหม้ห้อง เราจึงพนมมือแล้วบอกว่า “พี่หนูขอเถอะ ถ้าพี่ไม่เปิดให้พวกหนู ไฟไหม้ตึกแน่” สิ้นคำพูดเราเท่านั้นแหละ ได้ยินเสียงปลดล็อคประตู เสียงลูกบิด ทันที จนทำให้วันนั้นไม่มีเรากับเพื่อนเข้าไปนอนในห้องเลย ต้องเอาศัยนอนห้องเพื่อนฝั่งตรงข้ามเอา
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้มา ก่อนที่เพื่อนทุกคนจะเข้าห้อง ต้องพูดเหมือนกันทุกคนว่า ขออนุญาตเข้าห้องนะคะ ถึงตอนนั้นเราก็สงสัยว่าทำไมเพื่อนพูดแบบนี้ เพื่อนอาจจะรู้ประวัติของห้องแต่ไม่ยอมบอกเรา และเพื่อนแต่ละคนก็เป็นคนพื้นที่ทั้งนั้นเลย
ช่วงนั้นเราต้องเดินทางจากรังสิตไปชลบุรีอยู่บ่อยครั้ง โดยจะไปขึ้นรถตู้ที่ซอยพรและไปต่อรถตู้ที่เมเจอร์รรังสิตอีกที เวลาเราเดินทางไปขึ้นรถตู้ เราก็จะขึ้นวินที่หน้าหอ เป็นพี่วินเบอร์ 49 ประจำ จนได้เบอร์ติดต่อกัน พอเราเดินทางกลับจากชลบุรี เราก็จะโทรให้พี่วินเบอร์ 49 มาครับ
วันนั้นพี่วินมองเรา และถามว่า “น้องพี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม น้องอยู่ตึกนี้ อยู่ชั้นไหน” เราก็ถามว่าทำไมหรอพี่ พี่วินก็บอกว่า “เปล่าไม่มีอะไรพี่ถามเฉยๆ” เราก็เลยชี้ไปที่ห้องเราและบอกพี่วินว่า นั่นไงห้องหนู (ห้องเรานั้นอยู่ติดถนน ซึ่งระเบียงหลังห้องจะอยู่ฝั่งถนน และอยู่ตรงหน้าวินพอดี) พี่วินก็ทำสีหน้าตกใจแล้วอุทานว่า “ห๊ะ” เราก็ถามพี่วินว่า “ห๊ะ อะไรพี่” พี่วินก็บอกว่า “น้องอยู่ห้อง 305 ใช่ไหม” เราก็บอกว่า ใช่ “พี่รู้ได้ไง” พี่วินก็ทำท่าทางเงิก ๆ งั๊ก ๆ บอกว่า “เปล่าๆไม่มีอะไร”
มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นเรานั่งวินจะไปลงที่ท่ารถตู้ตรงเมเจอร์รังสิต ด้วยความคาใจ เราเลยถามกับพี่วินว่า “พี่เอาจริงๆนะ หนูไม่ไหวจริงๆ หนูถามพี่หน่อยก็แล้วกัน ว่าห้อง 305 เนี่ยมันมีอะไรหรือเปล่า พี่บอกมาเลยหนูไม่กลัว เพราะว่าหนูเจอมาหมดแล้ว หนูแค่อยากรู้ว่าที่พี่พูดมามันจะตรงกับที่หนูเจอหรือเปล่า”
พี่วินก็เลยบอกว่า “อ่า พี่จะบอกละกันว่า ห้องนั้นมีผู้หญิงตายในห้องน้ำ” นั่นทำให้เราคิดย้อนไปว่า ทั้งๆที่เรามีคนผมสั้น แต่ทำไมในห้องน้ำมีเส้นผมยาว ๆ หลายเส้นอยู่ในห้องน้ำด้วย เราพูดกับพี่วินต่อว่า “พี่อย่ามาอำหนูนะ” พี่วินเขาก็บอกว่า “พี่ไม่ได้อำ พี่ขึ้นไปเห็นกับตาเลยน้อง” เราก็ถามพี่วินว่า “เรื่องราวมันเป็นมายังไงหรอพี่” พี่วินเขาก็บอกว่า “พี่ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะกลัวว่าตึกเขาจะเสียหาย น้องลองไปถามแม่บ้านดูสิ”
คำพูดของพี่วินทำให้เราคิดย้อนกลับไปว่า ทำไมเดือนแรกป้าเขาถึงให้อยู่ฟรี ไหนจะไม่นำเราขึ้นไปบนห้องอีก ตอนนั้นเราก็รู้สึกโกรธป้าคนดูแลหอ ว่าทำไมไม่บอกเราแต่แรกว่าห้องนี้มันมีอะไร
หลังจากกลับจากชลบุรี มาถึงเราก็มาถามป้าคนดูแลหอว่า “เอาจริงๆนะป้าห้องที่หนูอยู่มันมีอะไร” ป้าเขาก็บอกว่า “ถ้าป้าบอกแล้วหนูจะย้ายออกไหม” เราก็บอกว่า ไม่ย้ายออกหรอก ถ้าป้าบอกความจริง หนูรับได้” ป้าเลยยอมรับความจริงให้เราฟังว่า
เรื่องมันมีอยู่ว่า มีหญิงชายคู่หนึ่งอยู่ด้วยกัน ผู้หญิงนั้นทำงานออฟฟิศ ทั้งคู่วางแผนไว้ว่าจะแต่งงานกัน ซึ่งคนในตึกก็รู้ดีว่าสองคนนี้เป็นแฟนกัน แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ทางบ้านผู้ชายได้โทรมาบอกว่าให้กลับไปบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ที่บ้านต่างจังหวัด ทั้งคู่ก็ได้ให้สัญญากันไว้ว่า หลังจากสึกแล้วจะให้พ่อแม่มาสู่ขอ
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่นิสัยดีมาก ทุกวันหลังจากเลิกงาน เธอจะซื้อขนมและน้ำเต้าหู้มาฝากป้าทุกวัน ๆ แต่ 3 วันให้หลัง คือวันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันเสาร์ ผู้หญิงคนนี้ไม่ออกจากห้องเลย เมื่อไปดูกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าออกจากห้องจริงๆ
วันนั้นป้าไปทำความสะอาดที่โถงทางเดินปกติ ก็ได้เสียงทีวีเปิดดังมาจากในห้อง 305 ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ตั้งแต่ค่ำยันเช้า เสียงน้ำในห้องน้ำไหลตลอด พอเคาะประตูก็ไม่มีใครเปิด จนเวลาผ่านไป 3 วัน จึงได้ให้คนไปงัดห้อง ซึ่งคนที่ไปงัดห้องก็เป็นพี่วินคนนั้นนั่นเอง
พองัดประตูเข้าไปได้แล้ว เปิดประตูเข้าไป ภายในห้องเป็นห้องโล่งๆ ได้ยินเสียงน้ำไหล ดังมาจากในห้องน้ำ เลยตัดสินใจพากันเดินไปดูที่ห้องน้ำ แต่ปรากฏว่าประตูห้องน้ำล็อคอยู่ จึงได้ใช้เหล็กงัดเข้าไป แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นนอนเปลือยอยู่ น้ำจากฝักบัวไหลใส่ตัวเธอ จนตัวขาวซีด (ถึงว่าทำไมลูกบิดประตูห้องน้ำเราถึงใช้ไม่ได้) เมื่อเห็นอย่างนั้นป้าจึงรีบโทรแจ้งตำรวจ
พอตำรวจมาถึงก็ได้เข้าไปตรวจสอบในห้อง จนพบจดหมายฉบับหนึ่ง ภายในเป็นการ์ดงานแต่งของผู้ชาย แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ถูกส่งมาให้เธอ เธอคงทำใจไม่ได้ เลยกินยาเกินขนาด เพื่อจบชีวิตตัวเอง
หลังจากที่รถมูลนิธินำส่งไป ก็ไม่มีญาติติดต่อมาเอาของในห้องเลย จนของภายในห้องถูกโยนทิ้งไว้หลังอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งเป็นป่า
ผู้หญิงคนนี้เสียชีวิตมาแล้วปีนึงก่อนที่เราจะเข้ามาพัก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีคนมาติดต่อดูห้องหลายคนแล้ว แต่ก็ไม่มีใครถูกใจ หรือเปิดให้ใครพักเลย จนหนูนี่แหละ หลังจากที่เกิดเหตุ เวลาป้าไปทำความสะอาด หน้าาห้อง 305 ก็มักจะได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยเจอแบบหนูเลย
เมื่อเราได้ฟังอย่างนั้น เราก็ทนอยู่ไม่ไหว ย้ายออกในวันนั้นเลย ซึ่งป้าคนดูแลหอบอกให้อยู่ฟรี แถมยังให้มาเอาเงินมัดจำ 2,500 คืน แต่เราบอกกับป้าว่าเราไม่เอา
หลังจากนั้นเจ้าของหอก็โทรมาหาเราเพื่อขอโทษ และให้มาเอาเงินมัดจำคืน เราก็บอกว่าไม่เอา และวานให้เจ้าของหอนำเงินมัดจำนำไปทำบุญให้กับพี่ผู้หญิงคนนั้นแทน
หลังจากที่เราย้ายกลับมาอยู่ชลบุรีใหม่ๆ คืนนั้นเราหลับอยู่ ผู้หญิงคนนั้นยังตามมาเข้าฝันเราอยู่ ในฝันเธอบอกว่า “อย่าลืมกลับมาเอาชุดแซกในห้องน้ำ” ซึ่งคราวที่แล้วเราได้นำชุดนั้นไปยัดไว้ที่หลังกระจกในห้องน้ำ เราไม่กล้ากลับไปเอา จึงบอกให้พี่ชายกลับไปเอาให้แทน ซึ่งตอนนั้นพี่ชายเราพักอยู่แถวรามคำแหง ซึ่งเราได้เอาคีย์การ์ดและะกุญแจจากพี่สาวให้พี่ชายไว้ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้เล่าเรื่องที่เจอพี่ชายให้พี่ชายฟัง พี่ชายก็ตกลงจะไปเป็นธุระให้
พี่ชายเราได้กลับไปเอาของที่อพาร์ตเมนต์นั้น ซึ่งจะมีมอเตอร์ไซค์เราอีกคันด้วย ตอนที่พี่ชายเปิดประตูเข้าไปในห้อง พี่ชายเราเห็นผู้หญิงคนนึงนั่งอยู่ที่ปลายเตียง พี่ชายพูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า ขอโทษนะครับพอดีฟิวส์ให้มาเอาของในห้องน้ำ แล้วพี่ชายเราผ่านเธอไป เพื่อเข้าไปเอาชุดแซกในห้องน้ำ ผู้หญิงคนนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายด้วย พอพี่ชายเดินออกมาจากห้อง ปิดประตูเสร็จ ก็โทรมาหาเรา
“เพื่อนเอง เหมือนจะรอเองอยู่ในห้องหรือเปล่า พี่เห็นเขานั่งอยู่ที่ปลายเตียง” เมื่อเราได้ยินพี่ชายพูดอย่างนั้น เราถึงตัวสั่นนั่งขนลุกไปทั้งตัว เราถามพี่ชายว่าลักษณะผู้หญิงคนนั้น เป็นผู้หญิงผมยาว ผิวขาว หน้าหมวยๆ สวย ๆ หน่อยใช่ไหม” พี่ชายแล้วก็บอกว่า เออใช่ ๆ เขานั่งรอมึงอยู่ เราก็อึ้งไปเลย แต่ยังไม่บอกนะว่าเจออะไร กลัวพี่ชายจะกลัว และกะว่าให้ถึงที่พักก่อนค่อยบอก
ด้วยความที่ผู้ชายเราเป็นตุ๊ดๆหน่อย พอถึงที่พักก็ไปเอาชุดแซกมาใส่ ตี 2 คืนนั้นพี่ชายก็โทรมาหาเราเลยว่า “เนี่ยยยย เขาตามมา เขามาเคาะห้องกู แล้วบอกว่าให้เอาชุดไปให้มึง” เราก็บอกกับพี่ชายว่า กูจะบอกอะไรมึงให้นะ มึงไม่ต้องเอามาให้กูหรอก มึงเอาไปเผาแล้วก็ทำบุญให้เขาเถอะ” พี่เราก็พูดด้วยเสียงสั่นๆว่าทำไม เราก็บอกกับพี่ว่า “ฟังดี ๆ นะ ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ใช่คน เขาเป็นผี” วันนั้นพี่ชายเราสติแตกไปวันนึงเต็มๆเลย เรายังคงสงสัยว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นจึงต้องตามเรา
หลังจากวันนั้นมาเราก็ไปทำบุญถวายสังฆทานให้กับผู้หญิงคนนั้นและบอกเธอว่า “พี่…พี่ไม่ต้องมาแล้วนะ ครั้งนี้ขอเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ” หลังจากนั้นมาก็ไม่เจอผู้หญิงคนนี้อีกเลย
อีกนิดนึง ส่วนห้องข้างๆ ห้อง 304 ซึ่งอยู่มาก่อนแล้ว แล้วพี่เขารู้จักกับผู้หญิงคนนี้ ก็ได้เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ที่พี่เขาอยู่มา ก็ได้ยินแค่เสียง ไม่เคยเจอแบบจริงๆจังๆแบบเรา น้องเป็นคนแรก โชคดีมากเลยนะที่ได้เห็นเขา
ทุกวันนี้อพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมาแล้ว 4 ปี แต่เราก็ยังไม่เคยลืมวันนั้นเลย
ขอบคุณที่มาเดอะช็อค คุณฟิวส์