ผมมีประสบการณ์ที่ไม่รู้ว่าเกิดได้อย่างไรมาเล่าให้ฟัง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันเกิดขึ้นกับเพื่อนผมครับ เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ผมมีเพื่อนที่ชื่อว่าแป้งครับ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แป้งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับผมแต่เราสองคนเรียนคนละโรงเรียนกัน ครอบครัวเขาเป็นพวกคนมีฐานะดี แป้งเลยได้เรียนโรงเรียนเอกชน
แป้งก็มีเพื่อนสนิทอยู่คนนึงที่โรงเรียนชื่อว่าแนน เขาสองคนสนิทกันมากไปไหนต้องมีแป้งและแนนตัวติดกันตลอดเลย สองคนนี้รักกันมากเลยทีเดียว พอเรียนจบ ม.3 กลุ่มของแป้งที่โรงเรียนเค้ามีทริปที่จะไปเที่ยวกัน เพราะแต่ละคนต่างก็จะแยกย้ายกันไปเรียนในสิ่งที่ตัวเองถนัด บางคนก็ไปเรียนต่อที่เมืองนอก บางคนก็ไปเรียนสายอาชีพ พวกเขาก็เลยคิดกันว่าจะไปเที่ยวไหนกันดีเพื่อเป็นการอำลา
มายเป็นเพื่อนในกลุ่มของแป้งก็เสนอมาว่าให้ไปที่หัวหิน เพราะพ่อของมายเขามีบ้านพักตากอากาศที่นั่น ส่วนเรื่องการเดินทาง อาหาร มายเขาอาสาเป็นคนดูแลเอง พอทุกคนตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยก็นัดวันที่จะเดินทางกัน เขาตกลงกันว่าจะไปประมาณ 4 วัน 3 คืน พอถึงวันที่จะเดินทางเพื่อนของเขาทุกคนก็ไปเจอกันที่บ้านของมาย ก็นั่งรถตู้ของบ้านมายไป กลุ่มเพื่อนของแป้งที่ไปกันก็มีประมาณ 8 คนมีทั้งหญิงและชาย มาถึงที่หมายทุกคนต่างก็นำข้าวของไปเก็บในห้องแล้วก็ออกไปเดินเที่ยวในชายทะเล
ผ่านไป 2 วันทุกคนก็ได้เล่นน้ำ ได้กินอาหารทะเลกันอย่างสนุกสนาน เช้าวันที่ 3 แม่ของแป้งโทรมาบอกว่าพ่อของแป้งไม่สบาย อยู่โรงพยาบาลให้แป้งกลับไปหาพ่อ เดี๋ยวแม่ของแป้งจะมารับ
แป้งเป็นลูกคนเดียว พ่อของแป้งมีโรคประจำตัวและพอโรคประจำตัวของพ่อแป้งกำเริบเลยต้องเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าอย่าให้คนไข้ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจเดี๋ยวโรคที่เป็นจะยิ่งหนัก
พ่อของแป้งอยากเจอแป้ง อยากให้แป้งไปเฝ้าไข้ตามประสาคนที่มีลูกคนเดียวครับ แม่ของแป้งไม่อยากให้พ่อเป็นหนักเลยต้องพาแป้งกลับกรุงเทพไปเฝ้าพ่อ แป้งเข้าใจและบอกเพื่อนๆ แต่แนนไม่อยากให้แป้งกลับแนนเลยขอกลับด้วย แต่แป้งบอกว่าให้แนนอยู่กับเพื่อนๆไป ไม่ต้องเป็นห่วง
พอเย็นวันนั้นแม่ของแป้งก็มาพาแป้งกลับกรุงเทพ แป้งก็ไปเฝ้าพ่อที่โรงพยาบาล เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่าแนนก็โทรมาหาแป้ง คุยกันจนถึงประมาณเที่ยงคืนกว่า แนนพูดแต่ว่าหายใจไม่ค่อยออก รู้สึกอึดอัด แล้วก็บอกว่าแป้งไม่น่ากลับเลย เพื่อนที่นี่ไม่มีใครรักและห่วงแนนเลยสักคน แป่งก็บอกกับแนนไปว่า “แนนคิดไปเองหรือเปล่า เพื่อนก็รักแนนทุกคนแหละ” ก่อนที่แนนจะวางสายนั้นก็บอกว่า “แนนรักแป้งมาก เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป” แป้งก็งงนิดๆแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคงเป็นเพราะแนนไม่มีแป้งอยู่ด้วยเลยพูดอะไรแบบนี้
พอเช้าของอีกวันเป็นวันที่เป็นเพื่อนของแป้งจะกลับจากทะเล แป้งก็กลับบ้านและให้แม่มาเฝ้าพ่อแทน พอถึงบ้านแป้งก็ไปนอนพัก หลังจากที่ไม่ค่อยได้นอนจากเมื่อคืน แป้งกะว่าพอเย็นจะไปรอรับเพื่อนที่บ้านของมาย
แป้งกำลังจะเข้านอนมีโทรศัพท์โทรเข้ามา แป้งก็ไปดูว่าใครโทรมา คิดว่าน่าจะเป็นแนน พอรับสายแนนก็โทรมาจริงๆครับ แป้งก็เลยถามแนนว่า “เป็นยังไงเที่ยวสนุกไหม เดี๋ยวเย็นๆแป้งจะไปรอที่บ้านมายนะ” แนนเงียบ ไม่พูดอะไร แป้งก็ถามแนนว่า “เป็นอะไร” แนนก็พูดขึ้นว่า “แป้ง ถ้ามีใครโทรมาหาไม่ต้องรับสายนะ ห้ามรับเด็ดขาด”
แป้งก็ถามด้วยอาการงงว่า “ทำไมล่ะ มีอะไรหรือเปล่าแนน”แนนก็บอกแต่ว่า “ถ้าเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ ถ้าแป้งยังรักแนนอยู่ ห้ามรับสายใครเด็ดขาด” แล้วสายก็ตัดไป
แป้งก็งงและกำลังจะโทรกลับไปหานแนนแต่มายโทรมาซะก่อน แป้งกำลังจะรับสายแต่พอนึกถึงคำพูดของแนนแป้งก็สองจิตสองใจจะรับดีหรือไม่รับดี แต่แล้วแป้งก็รับโทรศัพท์ด้วยความอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแนน พอแป้งรับมายก็พูดว่า “แป้งฟังมายให้ดีนะ” แป้งก็ถามว่ามีอะไร มายก็พูดว่า “เมื่อคืนแนนจมน้ำตาย ตอนนี้ศพถูกย้ายมาที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพ” พอแป้งได้ฟังมายพูดแบบนี้ก็เข้าใจที่แนนบอก
ว่าไม่ให้รับโทรศัพท์คงเป็นเพราะรู้ว่าเพื่อนจะโทรมาแกล้งบอกว่าตัวเองจมน้ำตาย แป้งก็พูดไปว่า “มาย มายมีปัญหาอะไรกับแนนถึงต้องแกล้งกันแรงขนาดนี้”
มายบอกว่า “มายไม่ได้แกล้ง แต่แนนจมน้ำตายจริงๆ เมื่อคืนเพื่อนไปสังสรรค์กันที่ริมหาดตอนหกโมงเย็น จนถึงเวลา 2 ทุ่มก็สังเกตว่าแนนไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ทุกคนก็สงสัยว่าแนนไปไหน ก็ตอนเวลาทุ่มกว่าๆยังเห็นเล่นน้ำอยู่เลย ทุกคนก็ลงทะเลไปช่วยกันหาแต่ก็ไม่เจอ พ่อของมายเลยให้หน่วยกู้ชีพไปช่วยกันหา งมจนพบศพในอยู่ในทะเล”
แป้งก็บอกว่า “เป็นไปไม่ได้ เพราะแป้งเพิ่งจะวางสายจากแนนไปเมื่อกี้นี้เอง แล้วมายก็โทรมา” มายเงียบ ไม่พูดอะไรแล้ว มายก็บอกว่า “เย็นนี้ไปหามายที่บ้าน มายจะพาไปหาแนนที่โรงพยาบาล” พอมายมาถึงเพื่อนๆทุกคนก็ไปหาแนนที่โรงพยาบาล มาถึงห้องเก็บศพแป้งกับช๊อคเลย เมมื่อได้เห็นศพแนน นอนนิ่งอยู่ มือของแนนกำสร้อยที่แป้งซื้อให้ตอนวันเกิด แป้งเสียใจมากร้องไห้จนหมดสติ แต่เรื่องมันยังไม่จบเพียงแค่นั้น
หลังจากงานศพของแนนสิ้นสุดลง แป้งเข้ามาในห้องของตัวเองเอาแต่ร้องไห้ หยิบรูปที่เคยถ่ายคู่กับแนนมาดู สักพักมีคนโทรมาหา แป้งหยิบโทรศัพท์มาดูถึงกับช็อคเลย หน้าจอโทรศัพท์ขึ้นชื่อว่าแนน แป้งตกใจมาก แต่อีกใจก็คิดว่าอาจจะเป็นแม่ของแนนโทรมาหาก็ได้ เลยตัดสินใจรับโทรศัพท์ครับ พอแป้งรับโทรศัพท์ก็มีเสียงของแนนพูดมาด้วยความโมโหว่า “แนนบอกแป้งแล้วว่าอย่ารับโทรศัพท์!! แล้วแป้งรับทำไม!! แนนถามว่าแป้งรับทำไม!!” ทันทีที่แนนพูดจบประโยคนี้แป้งถึงกับปาโทรศัพท์ทิ้งเลยครับ แล้วกรี๊ดจนกลายเป็นคนเสียสติ สติไม่อยู่กับร่องกับรอยไปเลย
ลืมบอกไปครับ ผมย้ายบ้านมาตอน ม.2 เลยพึ่งจะมารู้เรื่องนี้ ตอนที่กลับไปหมู่บ้านนั้นผมก็จะแวะไปหาแป้งนี่ล่ะครับ หลังจากผ่านเหตุการณ์มาได้ 2-3 ปี แป้งเขาก็หายเป็นปกติแล้วก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง ครั้งแรกผมขนหัวลุกเลยครับ เพื่อนตายตอน 2 ทุ่มแต่กลับมาโทรหาตอน 4 ทุ่มน่ากลัวดีครับ
แป้งบอกกับผมว่าที่แนนบอกว่ารู้สึกอึดอัด หายใจไม่ค่อยออก คงเป็นเพราะแนนบอกถึงอาการตอนที่ตัวเองจมน้ำตาย และที่แนนบอกว่าไม่มีเพื่อนรักและห่วงแนนคงเป็นเพราะตอนที่แนนจมน้ำนั้นไม่มีเพื่อนคนไหนเห็นและเข้าไปช่วยเลย อาจเป็นเพราะเพื่อนๆคงกำลังสนุกกับการสังสรรค์ เลยไม่ได้สังเกตเห็นว่าแนนจมน้ำ
ขอบคุณที่มาเดอะช็อค ถอดความโดย สมาชิกพันทิปท่านนึง แต่แอดจำไม่ได้