เรื่องนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดระยอง บริษัทที่คุณอ้อทำจะมีสหกรณ์ออมทรัพย์ บริษัทได้มีการจัดการสัมมนา เราและคณะได้ไปพักกันที่รีสอร์ทแหล่งหนึ่งแถวหาดแม่รำพึง จังหวัดระยอง ขอไม่บอกชื่อรีสอร์ทและกัน บอกแค่ว่าเป็นรีสอร์ทที่ใครไปก็มักจะเจอผีกันเกือบทุกราย แต่คนที่พบเจอเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ตัวคุณอ้อมเอง แต่เป็นพี่ผู้ชายอีกคนนึงที่เป็นกรรมการ
รีสอร์ทแห่งนี้จะมีบ้านพักสองชั้นหลังใหญ่อยู่หลังนึงที่สามารถอยู่กันเป็นครอบครัวได้ คือหลังที่พี่กรรมการคนนี้ไปอยู่ ตอนเช้าไปถึงเราก็มีกิจกรรมสันทนาการ สัมมนา ตอนเย็นก็มีจัดเลี้ยงปกติ
ตอนที่สัมมนา คุณอ้อกะว่าจะลงไปเล่นที่หน้าหาด ก็เห็นแล้วว่าทางรีสอร์ทได้ปักธงแดง เป็นสัญญาณบอกว่าห้ามลงเล่นน้ำเด็ดขาด หลังจากที่สัมมนากันเสร็จ จะมีการจัดเวรกรรมการเพื่อดูแลสมาชิก เรากับพี่กรรมการได้อยู่เวรคู่กัน คุณอ้อและพี่กรรมการก็ได้ลงไปเดินดูตามชาดหาดว่ามีสมาชิกลงไปเล่นน้ำไหม
พอทุกคนแยกย้ายเข้าห้องกันหมดแล้ว ก็จะมีกิจกรรมบันเทิงของสมาชิก นั่งเล่นไพ่กันบ้าง ดื่มกินกันต่อบ้าง คุณอ้อกับพี่กรรมการหมดเวรกันตอนเที่ยงคืน คุณอ้อก็บอกว่าเดี๋ยวขอตัวเข้าไปนอนเลย ซึ่งคุณอ้อนั้นจะนอนบ้านอีกหลังนึง ส่วนพี่กรรมการนั้นจะขอเข้าไปเล่นกับสมาชิกก่อน
คุณอ้อเดินกลับมาที่ห้องพัก ภายในห้องก็จะมีเพื่อนๆนั่งกินกันอยู่ คุณออกก็บอกเพื่อนๆว่า เพลียมากๆขอตัวเข้านอนก่อน สักพักนึงก็ได้ยินเหมือนเสียงคนโวยวาย คุณอ้อเลยวิ่งไปดู ปรากฏว่ามันคือเสียงของพี่กรรมมการคนที่เป็นเวรคู่กับคุณอ้อ พี่เขาบอกว่า โดนผีหลอก คือหลังจากที่เล่นไพ่เสร็จแล้ว ก็เดินกลับไปนอนที่บ้านพัก ซึ่งพี่เขาพาเมียและลูกมาด้วย ลูกของพี่เขาอายุประมาณ 4 ขวบ
พี่เขาบอกว่า ตอนที่เปิดประตูเข้าไป ภายในห้องปิดไฟไว้มืดสนิท มีเพียงแสงไฟจากทางเดินที่ส่องเข้ามาในห้องเล็กน้อย แล้วพี่เขามองไปในห้อง เห็นลูกยืนอยู่ปลายเตียง พี่เขาก็เลยเรียกชื่อลูกเขา แล้วบอกว่า ลงมายืนทำไมลูก ดึกแล้วทำไมไม่นอน แล้วก็อุ้มลูกขึ้นมา แล้วหันหลังกลับไปที่เตียงนอน ปรากฏว่าเห็นลูกชายของตัวเองนอนอยู่บนเตียง แล้วที่อุ้มอยู่คือใคร หลังจากนั้นสติหลุด ร้องโวยวายลั่นรีสอร์ทตามที่คุณอ้อได้ยิน
คณุ่นึงก็มีพี่อีกคนที่มาด้วยกันวิ่งมาดู พี่คนนี้เขาชอบห้อยพระและพกเครื่องรางของขลังติดตัวตลอด พี่เขาได้นำพระมาคล้องคอพี่คนที่โดน และแนะนำให้เปิดไฟนอน หลังจากคุยกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องของตัวเอง
คุณอ้อนั้นขอตัวเข้าไปนอนก่อน ส่วนเพื่อนของคุณอ้อก็ยังนั่งกินกันอยู่ คุณอ้อนอนหลับไปได้สักพักหนึ่ง ประมาณตี 2 ก็ต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้น เมื่อได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาก ในใจตอนนั้นคิดว่าทำไมเพื่อนยังไม่เข้ามานอนอีก เพราะว่าพรุ่งนี้มีกิจกรรมเช้า ก็กะว่าจะเปิดประตูออกไปดูเพื่อนเต็มที่ แต่พอคุณอ้อลุกจากที่นอน ก็เห็นว่าเพื่อนเข้ามานอนกันหมดแล้ว แต่ก็ยังคิดว่าเป็นเพราะว่าเราเหมารีสอร์ทหมดแล้ว อาจจะยังมีคนอื่นที่ยังไม่เข้านอนหรือเปล่า จึงเปิดประตูออกไป แล้วก็มองรอบๆ แต่กลับไม่มีใครอยู่เลย จึงกลับเข้ามาในห้อง สวดมนต์แล้วท่องคาถาหลวงปู่ทวด แล้วก็นอนต่อ
แต่นอนลงไปยังไม่ทันถึง 5 นาที ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้น เมื่อได้ยินเสียงพี่กรรมการคนนั้นโวยวายอีกแล้ว คุณอ้อจึงปลุกเพื่อนๆ ชวนกันไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีก ปรากฏว่าทุกคนก็มารวมกันที่กลางห้องโถงของบ้านพี่กรรมการ เพราะว่าบ้านนี้เป็นบ้าน 2 ชั้น ด้านบนมี 2 ห้อง พี่คนนี้นอนข้างล่าง
พอพวกเราไปถึงก็เห็นลูกเมียของพี่เขาตื่นกันหมดเลย พี่คนที่เอาพระมาให้ ก็ถามว่าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นอีก พี่กรรมการก็เล่าให้ฟังว่า ขณะที่นอนเปิดไฟได้สักพัก ภรรยารู้สึกว่าไฟแยงตานอนไม่หลับก็เลยเดินมาปิด พอปิดไฟลงเท่านั้นแหละ พี่เขานอนอยู่บนที่นอน แล้วมองขึ้นไปบนเพดาน ก็เห็นว่ามีเงาผู้ชายร่างใหญ่ ๆ ใส่เสื้อลายสก๊อตแขนกุด ใส่กางเกงเจๆ นอนอยู่บนเพดาน ขนานกับเขาอยู่ กำลังจ้องมองลงมาที่เขา พี่เขานอนตัวสั่น ตัวแข็งทำอะไรไม่ถูก แล้วสายตาก็เหลือบไปมองที่ปลายเตียง ก็เห็นว่าเด็กคนนั้นยังยืนอยู่ที่เดิม คืนนั้นทั้งคืนก็ไม่มีใครได้นอนกันเลย
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่สันทนาการกันเสร็จ ก็ได้เดินทางกลับมาที่บริษัท ก็มีเรื่องเล่าต่อว่า เพื่อนทุกคนที่ไปเกือบทุกคน จะได้ยินเสียงเหมือนคุณอ้อเลย คือได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมา เสียงคนคุยกัน เสียงหัวเราะทั้งคืน และและพี่กรรมการคนนี้เหมือนกับว่าเขาจิตหลุดไปเลย
ด้วยความที่คุณอ้ออยากรู้ว่าที่พี่เขาเจอมันคืออะไร จึงโทรกลับไปถามที่รีสอร์ท รีสอร์ทเล่าให้ฟังว่า ที่นี่เคยมีประวัติคนที่มาพัก เป็นครอบครัว ลงไปเล่นกันที่หน้าหาด ลูกของเขาอายุประมาณ 10 ขวบ ตอนแรกเหมือนกับว่าลูกเขาโดนน้ำชัดลงไปในแอ่งกระทะ แล้วพ่อเขาก็ตามไปช่วย สุดท้ายคือโดนน้ำดูดหายลงทะเลไปทั้งคู่ ตามหากันอยู่หลายวัน จนมาพบศพอีกทีก็ 2 อาทิตย์ต่อมา
ถอดความจากอังคารคุมโปง