วันน้ำหลาก ไม่ทันตั้งตัว ประสบการณ์ขนหัวลุก..ที่น้ำตกไพรสวรรค์ จ.ตรัง

วันป่าหลาก
วันป่าหลาก

อีกหนึ่งเรื่องหลอน ๆ สถานที่จริงจากพันทิป เหตุการณ์นี้ผ่านมา 13 ปี แล้ว แต่เมื่อได้อ่านอีกครั้ง ก็ขนลุกตลอดเลย ภาพของคนที่กำลังเล่นน้ำตกกันอย่างมีความสุขกับครอบครัว แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีน้ำป่าไหลหลากมาจากไหนไม่รู้ มันพรากชีวิตของนักท่องเที่ยวหลายคนไปโดนที่ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว และมีสมาชิกพันทิปท่านนึงได้มาแชร์เรื่องราวประสบการณ์หลอน ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นี้ด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองไปอ่านกันครับ

ทุกคนย่อมมีเพื่อน  และนี่คือเรื่องเล่าหลอน ๆ จากคนรอบตัวผม ที่นำมาเล่าสู่กันอ่าน ในสไตล์ของผม  ที่ขอนำเหตุการณ์หลอน  ที่มีที่มาชัดเจน  ของแต่ละคนที่เล่าสู่กันฟัง  มาให้อ่านกันพอเพลินๆ  อย่าถามว่ามีจริงหรือไม่  ผมให้คำตอบไม่ได้ แต่เหตุการณ์ด้านล่างนี้  ผมก็รอดตายมา อยากรู้ว่ามีจริงไหม  คุณต้องลองไปเอง

พี่โย (นามสมมุติ)   หนุ่มใหญ่ที่ทำงาน  พื้นเพเป็นคน  จ.ตรัง  เล่าให้ฟังว่า  ช่วงสงกรานต์ เม.ย.2550  พี่โยก็กลับบ้าน ไปเที่ยวสงกรานต์กับครอบครัวที่ตรังเหมือนทุกๆคน  บ้านพี่โยอยู่ไม่ไกลจากน้ำตก ไพรสวรรค์  ตอนแรกพี่โย  คิดจะพาครอบครัวไปเล่นน้ำดับร้อนที่น้ำตกไพรสวรรค์  ซึ่งคนใต้มักนิยมจะไปเล่นน้ำตกในช่วงสงกรานต์แทบทุกที่อยู่แล้ว   แต่ใครจะไปคิด  หน้าร้อนหน้าแล้งแท้ๆ  ดันมีน้ำป่าหลากลงมาคร่าชีวิตคนที่ไปในวันที่ 14 เม.ย.นั้น  รวมๆ 2 น้ำตกแล้วถึง 38 ชีวิต  หนักสุดคือน้ำตกสายรุ้ง ถึง31ศพ  ส่วนไพรสวรรค์  ที่ตอนแรกพี่โยคิดจะไป  ตายไป7

พี่โยบอกว่า  ตอนแรกพี่จะไปไพรสวรรค์วันที่เกิดเหตุแหล่ะ  แต่คืนก่อนจะไป  แกนอนแล้วฝันเห็นพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว  มาคุยด้วยในฝัน ในทำนองว่า แกเป็นห่วง   ” อย่าพาแม่ไปน้ำตกนะ  น้ำป่าจะพัดตายเอา ห้ามพาไปเด็ดขาด”

พี่โยตื่นมาตอนเช้า  ก็ไปเล่าเรื่องนี้ให้คนในครอบครัวฟัง ทุกคนต่างหัวเราะว่าพี่โย  คิดถึงพ่อเกินไป (พี่โยรักพ่อมาก)  เลยเก็บเอาไปฝัน เป็นตุเป็นต่ะ นี่กลางเดือนเมษา  หน้าแล้ง  จะมีน้ำป่าจากไหนมาหลากใส่

พี่โย แกก็เชื่อพ่อแกในฝัน  ยืนยันห้ามใครไปน้ำตกเด็ดขาด  จะพาไปทะเลแทน  มีแต่คนแอบบ่นว่าพี่โยเอาแต่ใจตัวเอง พี่โยบอกว่า  ดีที่วันนั้น  แกขัดใจทุกๆคน จนเกือบทะเลาะกับญาติๆ ที่หาว่าแกเพ้อเจ้อ แต่ในเมื่อพี่โยเป็นเจ้าของรถ  ทุกคนก็ต้องจำยอม

วันนั้นแกกลับมาจากหาดปากเมง  พอมาถึงบ้าน  น้าแถวบ้าน  แกก็รีบมาแจ้งข่าวร้าย  ตามประสาคนหาเพื่อนคุย

“นี่ๆ รู้ไม๊  วันนี้ที่น้ำตก  มีน้ำป่าหลาก  คนตายลุยแหม็ด (หมายถึงเยอะ) “

ทุกคนต่างมองหน้ากัน  และมองพี่โย  พากันขนลุก จนเห็นผิวหนังเป็นตุ่มๆขึ้นมาเลย

“นี่เห็นพวกกู้ภัยขึ้นไป  ช่วยกันงมศพอยู่เหลย”

พี่โยบอกว่า  แม่น้ำตาไหลเลย  ไม่ใช่เพราะสงสารคนตาย  แต่คิดถึงพ่อพี่โย  ที่ตายแล้วก็ยังอุส่าห์มาเตือนลูกหลาน  ยังห่วงแม่  แม่บังคับให้ลูกๆญาติๆทุกคน  เข้าไปในบ้าน จุดธูปกล่าวขอบคุณหน้ารูปพ่อพี่โยทุกคน  

ตามข่าวบอกว่า  หลังเกิดเหตุ มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหน่วยกู้ภัย  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภอ.ย่านตาขาว และสภอ.ใกล้เคียง ร่วม 300 คน ออกช่วยเหลือนักท่องเที่ยวลงมาจากน้ำตกได้ส่วนหนึ่ง และต้องออกค้นหาผู้สูญหาย และจากการค้นหาล่าสุด พบผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย รายล่าสุดเป็นเด็กชายอายุ 10 ขวบ และยังมีคนสูญหายอีกไม่ต่ำกว่า 30 คน (ณ. เวลา 18.00 น.)

ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้น จุดที่เล่นน้ำเห็นมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ราว 40-50 คน ลงเล่นน้ำที่น้ำตก ก็ได้มีน้ำป่า พร้อมดินโคลน หลากลงมาอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีสัญญาณใดมาก่อน  ทำให้คนที่เล่นน้ำตก ต่างหนีตาย แต่เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยว และมีโคลนพัดมาด้วย ทำให้หลายคนถูกกระแสน้ำพัดกระแทกกับโขดหิน

ในขณะเดียวกันมีรายงานว่า ที่น้ำตกไพรสวรรค์ ม.4 บ้านโคกทราย อ.ย่านตาขาว ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกสายรุ้งประมาณ 4 กิโลเมตร มีน้ำป่าไหลหลาก และโคลนถล่มเช่นกัน เจ้าหน้าที่ค้นหาศพผู้เสียชีวิตเจอแล้ว 4 ศพ  สภาพศพที่เจอนั้น ติดอยู่ตามโขดหิน ลงไปตามแก่ง หรือโขดหินก็เจอ ลงไปตรงไหนก็เจอ

รูปนี้นำมาจากคลิป ที่มีคนถ่ายไว้ได้  โดยที่ได้แต่ยืนมองพวกเค้าค่อยๆตายไปทีละคน  เพราะช่วยอะไรไม่ได้  คาดว่าคงตายทั้งหมด

ภาพเหตุการณ์จริง

พี่โยบอกแกสะเทือนใจมาก  หลังเหตุการณ์นี้ผ่านไป  น้ำตกที่เคยมีคนพลุกพล่าน  ก็กลายเป็นน้ำตกร้าง  แม้จะเปิดให้เข้าได้แล้ว  คนก็ยังจำฝังใจ และยังมีภาพติดตา  อีกอย่างคือกลัววิญญาณคนตาย

พี่โยบอก  มีแต่เสียงลือให้แกได้ยิน  ว่ามีคนละแวกนั้นเจอผีคนที่ตายในเหตุการณ์  มาปรากฏให้เห็น  จากคนโน้นคนนี้ที่ขึ้นไปเล่นน้ำตก บางคนว่าเล่นๆน้ำอยู่  ก็รู้สึกเหมือนมีใครจับข้อเท้า  จนต้องรีบขึ้น บางคนได้ยินเสียงคนร้องไห้  แบบแว่วเข้าหู แต่หาที่มาไม่ได้  เป็นเสียงร้องที่น่าเวทนามากจนน่าขนลุก

ที่น่ากลัวขึ้นอีกคือ  มีลูกหลานพ่อค้าแม่ค้าของกิน ที่เคยค้าขายที่น้ำตก  ขับมอไซค์ 3 ล้อพ่วง ขึ้นไปเก็บของ  เพราะไม่มีคนกล้าเข้าไปเที่ยว พอโพล้เพล้ ก็จะขับรถกลับ  ด้วยเพราะมือและเท้าเปื้อน และรู้สึกร้อนเหงื่อไหล เลยเดินลงธารน้ำ  ก้มหน้าวักน้ำล้างหน้าล้างมือ   ก็เห็นเงาตัวเองในน้ำ  กลายเป็นหน้าผู้หญิงซีดๆ เหมือนกำลังร้องไห้  ตกใจจนร้องลั่นน้ำตก  จนคนที่อยู่บนฝั่งที่มาเป็นเพื่อนต้องเดินมาดู   ตัวเองตกใจนั่งตูดจ้ำเบ้าไป

พอตั้งสติได้  ก็รีบตะกายขึ้นฝั่ง  จับรถได้ก็บิดลงเขามาไม่ยอมเหลียวหลัง   ส่วนไอ้เพื่อนที่ไปด้วย มันดันหันไปมอง  มันร้องทักว่า “เห้ย  ใครมายืนตรงทางเล่นน้ำวะนั่น ตะกี้ไม่เห็นมีเลย”  ไอ้คนขับก็ขับแบบไม่กล้วตกเขาตายลงมาตัวสั่น  

ตัวพี่โยเอง  แกก็เคยขึ้นไป  แต่แกขึ้นไปครั้งนั้น  แกก็ไม่ขึ้นไปอีกเลยจนเดี๋ยวนี้ แกบอกวันนั้นแกนึกครึ้มอกครึ้มใจ   และเห็นว่า  มีแต่คนลือและคนกลัวที่จะขึ้นไปเล่นน้ำอีก แกก็ว่า  เป็นโอกาสดีที่แกจะได้ขึ้นไปเดินเล่นแบบสงบๆ

ก็ชวนหลานชายที่เป็นเด็ก  ขึ้นไปอีกคน   เด็กมันก็ไม่รู้เรื่องราวผีสางอะไร  มันก็ไป  ไม่มีกลัว แกบอก แกก็เลือกมุมนั่งอ่านหนังสือแหละ  แล้วปล่อยหลานอายุ 8 ขวบเล่นน้ำไป เล่นไปสักพัก  หลานก็เรียก “ลุงๆ นู่นมีคนมาเล่นเหมือนเราด้วยฝั่งนู้น” แกก็แปลกใจ  ใครมันจะมา  เพราะถ้ามาต้องจอดรถฝั่งนี้  แกต้องเห็น  แกก็ชะโงกไปดูแล้วถามหลาน

“ไหน ไอ่บ่าว ใครอยู่ไหน”

“นั้นๆตะกี้ นุ้ยเห็นนั่งตรงโขดหินใกล้ดงไม้นั้น โดดลงน้ำหายไปแล้ว”

พี่โยแกก็ขนหัวลุกเลย  เด็กมันไม่รู้เรื่องอะไร  แม้กระทั่งตอนมีคนตาย  แกก็ว่าในใจตอนนั้นคือคิดว่า กลางวันก็หลอกกันเนอะ  แกรีบเรียกหลานแกขึ้นฝั่งจะกลับเลย  ไม่ทันใจแกก็ลากขึ้นจากน้ำเลย  พอเดินขึ้นฝั่งมา หันหลังได้  เสียงร้องไห้ ฮือ  ฮึด ฮือ  ลอยตามหลังมาเลย หลานชายแกก็ได้ยิน  ไม่ใช่แกได้ยินคนเดียว  หลานถามแกว่า  “ลุงๆเสียงใครร้องไห้นั้น” แกไม่ตอบ  แต่รีบพาหลานขึ้นรถได้ ก็บิดรถเลย   พอลงมาได้ แกก็เป่าปากฟู่  แต่ขนหัวขนแขกลุกตลอดทาง 

ตั้งแต่ครั้งนั้นจนปีนี้  แกไม่เคยขึ้นไปเที่ยวน้ำตกใกล้บ้านอีกเลย  แกบอกเสียงร้องไห้ มันยังติดอยู่ในหัวอยู่เลย  เห็นว่าเค้าเอาพระไปสวดบนน้ำตกแล้ว  แต่แกก็ยังไม่กล้าไปอยู่ดี

ทุกวันนี้เห็นว่าคนก็เริ่มกล้ากลับมาเที่ยวแล้ว  ตั้งแต่มีการทำพิธีเอาพระไปสวดปลดปล่อยอัญเชิญดวงวิญญาณบนน้ำตก แต่คนที่เคยเจอเสียงสะอื้นหรือเคยเห็น  ก็กล้าๆกลัวๆที่จะขึ้นไปเที่ยวบนนั้น….กลัวเล่นๆน้ำๆอยู่  มีมือใครมาดึงขาให้ทำไง  ไปไหนแล้วหรือยังก็ไม่รู้  เกิดยังอยู่ล่ะทำไง………….

สมาชิกหมายเลข 2876380 

Previous articleเส้นทางลัด เจอรถดับอยู่บนถนนที่ทั้งมืดและเปลี่ยว
Next articleผี หัว แหว่ง เรื่องขนลุกของห้องตรงข้ามที่โรงแรมแห่งหนึ่ง!!