เริ่มจากร้านพิซซ่าร้านหนึ่ง เป็นร้านสาขาย่อยที่เป็นร้านสำหรับการส่งเดลิเวอร์รี่ตามบ้านเท่านั้น บอยเป็นพนักงานส่งพิซซ่าใหม่เพิ่งเริ่มทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ วันที่เกิดเรื่องบอยก็มาทำงานตามปกติเป็นรอบเย็นจนถึงร้านปิด
บอยก็รับส่งของไปจนถึงกระทั่งเวลาโพล้เพล้ บอยก็ได้รับคำสั่งจากรุ่นพี่ให้ไปส่งพิซซ่าตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าเจ้าประจำได้เข้ามาสั่งและจ่ายเงินค่าพิซซ่าเรียบร้อยแล้ว โดยที่บอยก็รู้ว่าลูกค้าคนนี้ไม่ใช่คิวของบอย แต่รุ่นพี่ก็ย้ำว่าบอยเพิ่งมาทำงานใหม่ไปส่งให้เจ้าประจำนี้ซะจะได้รู้จักที่ทาง เพราะลูกค้าคนนี้สั่งพิซซ่าที่ร้านบ่อย บอยจึงจำใจหยิบพิซซ่าขึ้นรถแล้วก็ขับมอเตอร์ไซต์ไปตามสถานที่ที่ลูกค้าได้แจ้งเอาไว้
สถานที่ส่งที่บอยได้รับนั้นเป็นหมู้บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง แต่บอยไม่พบรปภ.ที่ป้อมยามหน้าหมู่บ้านจึงได้ขับรถวนไปหาเลขที่บ้านเอง เวลาตอนนั้นประมาณ 1 ทุ่มเศษๆ ฟ้าก็เริ่มจะมืดแล้ว บอยขับรถอยู่ซักพักก็เห็นป้ายเลขที่บ้านเรียงๆ กับเป็นซอยๆ จึงค่อยๆ ขับรถเข้าไปในซอยเพื่อหาบ้านที่สั่งพิซซ่า
ขับรถไปจนสุดซอยก็ยังไม่พบบ้านที่สั่ง บอยก็ไม่รู้จะทำยังไง จนพบชายวัยกลางคนคนหนึ่ง เดินออกมาหน้าบ้านพร้อมกับคีบบุหรี่มาด้วย บอยจึงเข้าไปถามชายคนนั้นว่าบ้านที่เขากำลังจะมาส่งพิซซ่าอยู่หลังไหน ชายคนนั้นมองหน้าบอยแล้วหันไปมองรถที่ส่งพิซซ่าจากนั้นตอบมาว่า “หลังนั้นไง ถัดออกไปสี่หลัง เพิ่งมาส่งล่ะสิ บ้านนั้นเค้าสั่งประจำ” พร้อมกับชี้มือไปที่บ้านหลังนั้น บอยขอบคุณชายคนนั้นแล้วเดินกลับไปหยิบพิซซ่าจากรถ ซึ่งให้บังเอิญว่ารถมอเตอร์ไซต์ของบอยนั้นจอดอยู่หน้าบ้านที่สั่งพิซซ่าพอดี
บอยพยายามมองเข้าไปในตัวบ้าน บ้านหลังนั้นมีหญ้าและต้นไม้รกครึ้มรั้วหน้าบ้าน มีต้นไม้ออกมาบังบ้านเลขที่บ้านไว้ ทำให้บอยหาไม่เจอในตอนแรก ในโรงจอดรถมีรถเก่าๆ คันหนึ่งจอดอยู่ ภายในบ้านปิดไฟมืดสนิท บอยหยิบพิซซ่าลงจากรถแล้วเดินไปที่หน้าประตูบ้าน แต่เมื่อกดกริ่งก็พบว่ากริ่งหน้าบ้านนั้นเสีย ทำให้ไม่มีเสียงใดๆ บอยพยายามกดกริ่งซ้ำๆอีกหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล
ระหว่างนั้นก็ยังคงเห้นชายวัยกลางคนนั้นยืนสูบบุหรี่อยู่ แต่มองมาทางบอยเหมืนจะดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เมื่อบอยพยายามมองเข้าไปในตัวบ้านก็เห็นมีเงาของผู้ชายคนหนึ่งเดินวนไมาในบ้าน บอยไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยเดินกลับไปหาชายวัยกลางคนอีกครั้งแล้วก็ถามว่า
“น้าๆ ผมเห็นมีคนเดินอยู่ในบ้านแต่กดกริ่งแล้วเค้าไม่ได้ยินหรือไง” ชายคนนั้นมองหน้าบอยแบบเรียบๆ แล้วก็ตอบว่า”เอางี้ไอ้น้อง แกเปิดถาดพิซซ่าแล้วก็วางลอดใต้รั้วเข้าไปเลย แกลองเดินกลับไปดูที่พื้นบ้านอีกทีสิ” บอยได้รับคำตอบแบบนั้นก็งงแต่ก็เดินกลับไป มองไปที่พื้นที่มีรถเก่าๆ จอดอยู่แล้วก็ต้องตกใจ เพราะมันมีถาพพิซซ่าวางอยู่หลายสิบกล่อง แต่ละกล่องก็เปิดฝาเอาไว้ทั้ง แต่ตอนแรกบอยไม่ได้สังเกตเพราะบ้านนั้นปิดไฟมือมองแทบไม่เห็น
บอยหันหลังไปมองหน้าชายวัยกลางคนคนนั้น ชายคนนั้นพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า ทำตามที่บอกสิ บอยจึงค่อยเปิดฝาถาดพิซซ่าแล้วก้มวางถาดพิซซ่าลอดเข้าไปใต้รั้ว หลังจากนั้นก็มองกลับไปที่ชายวัยกลางคนคนนั้นแต่เขารีบเดินเข้าบ้านตัวเองไปแล้ว บอยก็เลยคิดว่าลูกค้าก็จ่ายเงินแล้วและเราก็ส่งตามที่น้าคนนั้นบอก รีบกลับร้านเลยน่าจะดีกว่า
บอยจึงลุกไปขึ้นมอเตอร์ไซต์ที่อยู่หน้าบ้านหลังนั้นพอดีเตรียมตัวจะกลับร้าน แต่เมื่อบอยบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ บอยก็ต้องตกใจทันที ไฟจากรถของบอยก็สาดเข้าไปในบ้านหลังที่บอยเพิ่งจะส่งพิซซ่ามา มองเห็นชายคนหนึ่งกำลังนั่งยองๆ หยิบพิซซ่าจากกล่องขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย บ้านยังคงปิดไฟมืด ประตูยังคงปิดสนิท แล้วชายคนนี้มาจากไหน บอยรู้สึกไม่ดีแล้วจึงรีบขับรถกลับร้านทันที
เมื่อมาถึงร้านก็เห็นรุ่นพี่หลายคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ บอยยังไม่ทันจะปริปากพูด รุ่นพี่ก็ทักขึ้นมาก่อน “เป็นไง ลูกค้าขาประจำ” แล้วต่างคนก็ต่างหัวเราะ บอยพอจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น บอยก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้รุ่นพี่พวกนั้นฟัง พอเล่าจบ รุ่นพี่คนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “เจอแค่นี้ยังน้อยไป แกรู้มั้ยตอนไปส่งครั้งแรก ข้าเจอยังไง” แล้วแกก็เล่าว่า
วันที่แกไปส่งนั้นก็เวลาใกล้เคียงกับบอยนี่แหละ มีคนเข้ามาสั่งพร้อมจ่ายเงิน บอกให้มาส่งที่บ้านหลังนั้น พอแกไปส่งก็เจอน้าผู้ชายสูบบุหรี่คนเดียวกับที่บอยเจอเหมือนกัน รุ่นพี่กดกริ่งเรียกคนในบ้านแต่พบว่ากริ่งเสีย พอมองเข้าไปในบ้านก็เห็นมีเงาคนเดินไปๆมาๆ แกก็เลยตะโกนเข้าไปว่า “พี่ๆ มารับของหน่อยครับ” ชายวัยรุ่นคนหนึ่งใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ผลักประตูออกมาแล้วยืนที่หน้าบ้าน
รุ่นพี่ของบอยจึงบอกว่าเอาพิซ่ามาส่ง ชายคนนั้นพูดว่า”เปิดฝา แล้วเอาลอดใต้ประตูรั้วมา” รุ่นพี่งงแตกแล้วทวนคำของชายคนนั้นอีกครั้ง “เปิดฝา แล้วลอดใต้ประตูเนี่ยนะ” ชายคนนั้นก็ยังคงตอบว่าให้เปิดฝาแล้วก็ลอดใต้รั้วเข้ามา ระหว่างที่รุ่นพี่กำลังจะถามชายคนนั้น น้าข้างบ้านก็ตะโกนบอกมาว่า “ทำตามที่เค้าบอกเถอะ” รุ่นพี่ก็เลยเปิดฝาแล้ววางลอดเข้าไป ชายวัยรุ่นคนนั้น ก็ค่อยๆนั่งลงกินพิซซ่า ทีละชิ้นๆ รุ่นพี่รีบกระโดดขึ้นรถแล้วขี่ออกมาทันที จนมาพบน้าคนที่สูบบุหรี่กำลังจะเดินเข้าบ้าน
รุ่นพี่รีบเรียกน้าคนนั้นไว้แล้วขับรถไปจอดหน้าบ้านของน้าคนนั้น “น้าๆ ทำไมเข้าให้ส่งแบบนั้นหล่ะ นั่นของกินนะ แล้วทำไมนั่งกินหน้าบ้าน ไม่เอาเข้าไปกินในบ้าน” น้าคนนั้นเดินเข้าไปพูดในบ้านตัวเอง “บ้านหลังนั้นหน่ะ ไม่มีคนอยู่หรอก เจ้าของบ้านย้ายออกไปนานแล้ว ลูกชายเค้าชอบกินพิซซ่ามากแต่ว่าประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปแล้ว พ่อแม่ของแกชอบสั่งพิซซ่าให้ลูกแบบนี้เป็นประจำ แต่ว่าเฮี้ยน อยู่กันไม่ได้ น้าเห็นมาหลายคนแล้วหล่ะ” แล้วก็เดินเข้าบ้านไป นี่เป็นเหตุการณ์ที่รุ่นพี่ได้เจอ ไม่ต้องถามเลยว่าบอยจะทำงานที่นี่อยู่หรือไม่เพราะลูกค้าคนนี้ เป็นลูกค้าประจำ
ที่มาสมาชิกพันทิปหมายเลข 1431915