ประสบการณ์หลอน ถนนศรีนครินทร์

ประสบการณ์หลอน กรุงเทพ
ประสบการณ์หลอน กรุงเทพ

หากพูดถึงถนนศรีนครินทร์เมื่อประมาณสัก 20 กว่าปีก่อน  สองข้างทางไม่ได้หนาแน่นไปด้วยตึกรามบ้านช่องห้างสรรพสินค้า ในแบบทุกวันนี้นะ ยิ่งโดยเฉพาะพอวิ่งเลยไปทางบางนาหรือเทพารักษ์ด้วยแล้ว  พอดึกๆ ถนนเส้นนี้นับว่าเปลี่ยวและน่ากลัวเลยทีเดียว

บางค่ำคืนก็มีพวกเด็กวัยรุ่นมาขับรถแข่งกัน บางรายประสบอุบัติเหตุรถตกข้างทางหรือไม่ก็ร่วงไปตรงเกาะกลางถนนซึ่งสมัยนั้นจะเป็นน้ำคลำ เสียชีวิตมาก็หลายต่อหลายรายแล้วเหมือนกัน

อย่างรายนึงซึ่งถือว่าดังอยู่เหมือนกัน คือนักร้องวัยรุ่นที่ขับรถตกเกาะกลางถนน แม้ไม่ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุแต่หลังจากนั้นก็ไปเสียชีวิตที่ รพ. ตามที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง  เกิดขึ้นบนถนนเส้นนี้เมื่อราว 20 ปีที่แล้ว  เป็นเหตุการณ์สยองขวัญที่ผม ยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ ตอนนั้นผมเป็นดีเจเปิดเเผ่นในร้านคาราโอเกะแห่งนึงแถวย่านหนามแดง เป็นธรรมดาที่ผมต้องเลิกงานดึกบางคืนกลับถึงบ้านตอนสว่างเลยก็มี

ระยะทางที่ต้องเดินทางไปกลับบ้าน  จากที่ทำงานคือแถวซอยหนามแดง เทพารักษ์ กับที่บ้าน ซึ่งสมัยนั้นผมพักอยู่แถว รามคำแหง24 เรียกว่าเส้นทางดังกล่าวพอตกดึกค่อนข้างเปลี่ยวและน่ากลัวพอดูเลย

จำได้ว่าคืนนั้นเป็นเวลาประมาณตีสองกว่าๆ  ได้เวลาผับปิด  ผมเปิดเพลงสุดท้ายและบอกลาแขกกลับบ้าน  จากนั้นก็รีบออกมาเรียกแท๊กซี่เพื่อกลับบ้าน ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ ผมไม่ได้ทำงานอาชีพดีเจเป็นหลักหรอกครับ  ผมแค่ทำเป็นงานพิเศษหลังเลิกจากงานประจำเท่านั้น  ผมทำแบบนี้มาเป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว

ยืนโบกเรียกสักพักก็มีแท๊กซี่คันนึงแวะจอดรับ  คนขับเท่าที่สังเกตเป็นชายวัยกลางคน  ผมนั่งรถเเท๊กซี่วิ่งมาเรื่อยๆ ตามถนนเส้นศรีนครินทร์  จนมาถึงช่วงตึกโมเดิร์นฟอร์ม 

ซึ่งไฟถนนช่วงนั้นมันจะเป็นสีส้มๆ สลัวๆ ไม่ได้สว่างแบบทุกวันนี้  ทำให้พอมองเห็นเป็นเงาคนหลายคน  กำลังยืนเกาะกลุ่มกันอยู่ที่เกาะกลางถนน

ต้องบอกก่อนว่าเมื่อยุคสมัยนั้น  เกาะกลางถนนแถวนั้นมันยังเป็นท้องร่องหญ้ารกๆ อยู่ แต่เท่าที่สังเกตจะมีสะพานไม้กระดานเล็กๆ ให้พอเดินข้ามถนนได้ด้วย  ผมเลยคิดว่าคนพวกนี้คงจะมายืนรอเพื่อข้ามถนน

พอรถขับมาถึงตรงที่เห็นเงาคน  อยู่ๆ เงาพวกนั้นก็ทำท่าวิ่งแล้วตรงมายังรถแท๊กซี่ที่ผมนั่ง  ด้วยความที่มันกระชั้นรถก็เลยชนเข้ากับเงาเหล่านั้น

ผมรู้สึกเลยว่าเป็นการชนอย่างแรง  เสียงดังปัง!! แรงชนขนาดผมที่นั่งอยู่เบาะหลัง  ตัวกระเด็นกระดอนหัวสั่นหัวคลอนเลยทีเดียว

ตอนนั้นงงว่าเกิดอะไรขึ้น  คนขับรถแท๊กซี่ก็ไม่รอช้า  รีบเหยียบคันเเร่งไปเลยไม่ยอมเบรคและไม่ยอมจอดใดๆ ทั้งนั้น

พอได้สติผมหันหลังกลับไปมองด้านหลัง  เพราะอยากรู้ว่าสิ่งที่ชนคืออะไรกันแน่  แล้วก็ต้องขนลุกซู่เพราะเห็นเงาคนเหล่านั้น  กลับลุกขึ้นมาเดินอยู่กลางถนนเต็มไปหมด

จากนั้นคนขับเเท๊กซี่ก็ขับมาเรื่อยๆ จนมาจอดติดไฟแดงอยู่ตรงแยกพัฒนาการ  แล้วแกก็เปิดประตูลงจากรถไปก้มๆ เงยๆ ดูรถ พอเสร็จแล้วก็กลับเข้ามานั่งในรถ  ไม่พูดไม่จาอะไรทั้งนั้น

ผมเลยถามแกไปว่า”ชนอะไรมั้ย ?” เค้าบอกมาว่า “รถไม่มีรอยอะไรเลย” (ซึ่งเสียงชนดังมากจนตัวกระเด้งกระดอนเนี่ยนะ.. รถกลับไม่มีรอยอะไรเลย) ผมเลยถามแกอีกว่า “ใช่คนมั้ย ?” เค้าตอบกลับมาว่า “ไม่ใช่..ผมเลยไม่จอดไง”

เรานั่งเงียบกันมาสักพัก จากนั้นคนขับรถแท๊กซี่ก็เริ่มเล่าให้ฟังว่า  ตั้งแต่แกขับรถช่วงกลางคืนมา  แกเจอเหตุการณ์แปลกๆ แบบนี้อยู่บ่อยๆ  อย่างช่วงที่รถเเก๊สระเบิดใหม่ๆ แกก็เคยเจอประจำ  เห็นมายืนโบกรถบ้าง  เคยรับขึ้นมาแล้วหายไปต่อหน้าต่อตาก็ยังมีเลย !!

พอแกเล่าจบ  ก็หันหน้ามากำชับผมว่า “พรุ่งนี้คุณอย่าลืมไปทำบุญนะครับ”

และนั่นคงเป็นคืนสุดท้ายที่ผมไปทำงานรับจ็อบเปิดแผ่นให้ร้านคาราโอเกะแห่งนั้น  จากเหตุการณ์หลอนคราวนั้นทำให้ผมไม่กล้าผ่านถนนเส้นศรีนครินทร์ในช่วงเวลากลางคืนไปสักพักเลย  เพราะภาพในคืนนั้นยังคงติดตาผมอยู่  จนถึงทุกวันนี้..

อีกหนึ่งประสบการณ์หลอนคือ อาถรรพ์ สะพานข้ามแยกคลองตัน สองวันก่อนมีข่าวดังที่น่าสลดใจอยู่ข่าวนึง เกี่ยวกับคนขับรถบิ๊กไบค์แล้วไปประสบอุบัติเหตุบนสะพานข้ามแยกคลองตัน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นอกจากจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนใช้รถใช้ถนนแล้ว มันยังทำให้แอดมินเกิดนึกถึงเรื่องเล่าที่เคยเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้นมาเล่าต่อให้เพื่อนๆได้ฟังกันคือ

ถ้านับย้อนหลังไปประมาณ10-20 ปีก่อน ก็เคยคุ้นเคยกับถนนสายนั้นพอสมควร เนื่องจากส่วนตัวเคยทำงานอยู่ย่านรามคำแหงและมีเพื่อนฝูงอยู่ในละแวกนั้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่รวมไปถึงพัฒนาการคลองตัน โดยจำได้ว่าเพื่อนก็เคยเจอบางสิ่งแปลกๆ และเกือบจะประสบอุบัติเหตุบนสะพานแห่งนั้นด้วยเช่นกันแต่ยังพอโชคดีที่รอดมาได้ ดังเหตุการณ์นึงที่เพื่อนจะเล่าให้ฟัง

คือเพื่อนเล่าว่ามีอยู่วันนึงขี่รถมอไซค์มาจากแถวเส้นเพชรบุรีตัดใหม่ จะกลับบ้านแถวศรีนครินทร์ เนื่องจากวันนั้นกลับจากบ้านแฟนมาเป็นเวลาใกล้จะสี่ทุ่ม ถนนจึงว่างมาก ต้องเล่าให้ฟังก่อนเผื่อใครไม่เคยไปย่านนั้น คือโดยปกติบนสะพานแห่งนี้มันจะวิ่งข้ามแยกคลองตัน ซึ่งถ้าวิ่งข้างล่างรถจะเยอะรวมไปถึงบางครั้งต้องรอสัญญาณไฟ คนส่วนใหญ่จึงมักข้ามสะพานเพราะมันง่าย แต่สะพานจะอนุญาตให้เฉพาะรถใหญ่ข้ามเท่านั้นส่วนมอไซค์นี่ห้ามเด็ดขาด (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ไหม) แต่ก็ธรรมดานะที่มักมีรถมอไซค์แอบขึ้นกันเป็นประจำถึงขนาดตำรวจต้องไปดักอีกฟากนึงเพื่อรอจับ โดนปรับกันระนาวเลยคนแถวนั้นทราบดี

คืนนั้นด้วยความที่เพื่อนมันเห็นว่าดึกจึงคิดว่าไม่น่ามีตำรวจ ทีนี้เลยขับขึ้นสะพานมาเลย วิ่งด้วยความเร็วประมาณร้อยนิดๆเห็นจะได้ ระหว่างอยู่บนสะพานเพื่อนมันรู้สึกเห็นเหมือนมีร่างๆนึงนั่งอยู่ตรงขอบเหล็กฝั่งซ้ายมือ เป็นลักษณะคนที่ไม่ใส่เสื้อมีรอยสักเต็มตัว ใส่กางเกงขายาว นั่งแกว่งขาอยู่ตรงนั้น

เพื่อนยังเล่าว่า แว๊บแรกที่ไฟส่องไปเห็นมันใจหายวาบเลย เพราะตรงจุดนั้นมันเป็นทางโค้งนิดนึง พอรถขี่เข้าไปใกล้ร่างๆนั้นก็เหมือนจะเลือนลางและค่อยๆหายไป เวลานั้นเพื่อนมันบอกว่ากลัวมาก พยายามมีสติไม่หันไปมองเพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ ยังคงประครองรถทั้งที่มือก็สั่นด้วยความกล้วจนรถวิ่งลงสะพานไปได้ เรียกว่าเล่นเอามันหลอนอยู่พักใหญ่เลย ก่อนที่จะเอาเรื่องที่เจอมาเล่าให้พวกเพื่อนๆฟังในเวลาต่อมา

จริงๆบนสะพานข้ามแยกคลองตันนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ใครจะเคยเจออะไรประมาณนี้ เพราะจากที่คนแถวนั้นเคยเล่ากันปากต่อปากก็มีมากมายหลายเรื่อง บางคนเคยเล่าว่าขับรถมอไซค์ขึ้นไปบนสะพานกลางดึกรถโล่งๆแบบนี้เหมือนกัน แต่พอใกล้ช่วงโค้งมันจะรู้สึกแปลกๆคือเหมือนรถมันจะคอยเบี่ยงเข้าขอบรั้วเหล็กข้างทางตลอด เหมือนมีบางสิ่งพยายามจะดึงเข้าไปแบบนั้น…

ขอขอบคุณพันทิป

ถ่ายทอดขัดเกลาและเรียบเรียงโดยลุงเชิงโกดังหลอน

Previous articleห้องพักหลอนที่เชียงใหม่
Next articleฝังรูปฝังรอย คุณไสยจากประเทศเพื่อนบ้าน