ผมมีเรื่องจากประสบการณ์ของตัวผมเองจะมาเล่าให้ฟังครับ เรื่องมันเริ่มจากเมื่อผมเรียนจบ ม.6 แล้วผมก็เตรียมตัวจะเข้ามหาวิทยาลัย ตัวผมเองสอบได้ที่มหาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พะเยา และได้เข้าไปเริ่มศึกษาในปี 2551
เรื่องมันเกิดที่หอพักของ นศ.ปี 1 ทุกคนต้องมารวมตัวกันอยู่ภายในมหาลัย หอหญิงส่วนใหญ่จะได้หอใหม่ที่เป็นตึกสูงประมาณ 5-6 ชั้น ส่วนของผู้ชายนั้นมีตึกใหม่ให้แค่ 2 ตึก ผมก็ได้หอเก่าซึ่งเป็นหอพักชั้นเดียว เป็นห้องยาวติดๆกัน และจะมีโซนรับรองอยู่ช่วงกลางอาคาร จะเป็นที่สำหรับนั่งดูทีวี กินข้าวกัน และผมก็จะชอบเอางานมานั่งทำอยู่บริเวณนี้คนเดียวดึกๆ ผมเรียนออกแบบผลิตภัณฑ์ ต้องมีการเขียนแบบที่ใช้ไฟเยอะๆ ผมจึงไม่ทำในห้อง เพราะไฟจะไปรบกวนเพื่อนที่นอนอยู่
ปกติผมนั่งทำงานอยู่ก็ไม่ค่อยจะเจออะไร แต่มีอยู่คืนหนึ่ง คืนนั้นงานผมเยอะและผมไม่ค่อยได้นอน ได้นอนวันนึงประมาณ 3 ชม. เท่านั้น ในขณะที่ผมนั่งทำงานอยู่ช่วงหัวค่ำเพื่อนๆ ก็มานั่งคุย นั่งเล่น ดูทีวีเป็นเพื่อน พอเริ่มดึกเพื่อนๆก็ทิ้งผมไปเข้านอนกันหมด เหลือผมคนเดียว
ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนช่วงประมาณตี 2 ผมรู้สึกง่วงๆ ปวดตามากๆ ผมจึงพักสายตา ก้มหน้าลงไปหลับที่โต๊ะทำงาน แต่ผมไม่ได้ฟุบลงไปกับโต๊ะทั้งตัว ผมหลับไปได้ประมาณ 10 นาที ก็รู้สึกตัวแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น มองไปที่ใต้โต๊ะ
ผมเห็นเด็กตัวดำๆ แบบว่าดำสนิทเลยครับ นั่งมองหน้าผมอยู่ใต้โต๊ะ พอเห็นแบบนั้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นมานั่งมองอีกที แต่ก็ไม่มีแล้ว ในขณะที่ผมกำลังคิดอยู่ว่าฝันอะไรรึเปล่า ก็มีเสียงฝีเท้า หนักๆ เหมือนเป็นเสียงเท้าของ รปภ.ในมหาลัย
ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมากว่า เมื่อมีคนเดินมา ผมก็ยังคงนั่งทำงานต่อ และฝีเท้านั้นเดินเข้ามาใกล้ หางตาผมสังเกตุเห็นแล้วว่าเขากำลังเดินมาที่หอ ผมกำลังจะหันหน้าไปทักทายกลับไม่เห็นใครเลย เลยลุกดูบริเวณรอบๆ ว่าพี่เขาเดินไปไหน ใกล้แถวนี้หรือเปล่า ผมไม่เห็นมีใคร ในจังหวะนั้นผมเลยรีบเก็บของเข้าห้อง เปิดไฟนั่งทำงานในห้องจนเช้า
พอเช้าผมทำงานเสร็จ อาบน้ำแต่งตัวไปเรียน กลับมาที่ห้องเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็ไม่มีใครเชื่อ หาว่าผมหลอนไปเอง มองเป็นเรื่องสนุกสนานไป มันก็ล้อผมแกล้งผมเรื่อยๆ
จนมีอยู่คืนหนึ่ง เพื่อนที่ชอบแกล้งผม มันเอาโทรศัพท์ผมไปซ่อนในตู้เสื้อผ้า แกล้งผมตอนจะนอน มันเปิดเสียงผู้หญิงพูดว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย” แกล้งผมตลอด ความจริงผมก็รู้ว่ามันแกล้ง แต่ก็เฉยๆ นอนไป ก็ไม่ได้สนใจ
ในขณะเพื่อนๆ แกล้งอยู่นั้น เพื่อนอีกคนก็เดินมาบอกว่า “พอแล้ว ปิดได้แล้ว” ไอ้คนเปิดมันก็สวนกลับไปว่า “ปิดไปตั้งนานแล้ว” เท่านั้นแหละครับ
เสียงพัดลมที่ไม่เคยดังอยู่ดีๆก็ดัง วิ้ววว วิ้วว.. เสียงแหลมขึ้นมา จังหวะนี้เองผมลุกเลยครับ พวกเรา 4 คนในห้องก็ออกมาพร้อมกัน มานั่งอยู่กับเพื่อนๆที่นั่งดูทีวีอยู่ แต่ละคนก็เอะอะโวยวายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังคงหัวเราะสนุกสนานกันอยู่
จนดึกมากแล้ว เพื่อนคนที่เปิดโทรศัพท์ก็รู้สึกง่วงนอน มันบอกว่า “ไปละ ไม่สน ขอนอนก่อน ง่วง จะนอน” พวกผมก็เลยไปนอนกัน เพราะอยู่กันเยอะเลยไม่มีความรู้สึกกลัวเท่าไหร่ ก็เลยกลับเข้าไปนอนกัน ก่อนนอนก็ยังหยอกล้อคุยกันอยู่
พอพวกเราเริ่มหลับความเงียบก็เข้ามาเยือน สักพักเพื่อนที่เปิดโทรศัพท์แกล้งผมก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วเอามืออุดหู เพื่อนผมอีกคนนึงเห็นเหตุการณ์ในตอนนั้นก็เลยปลุกพวกผมขึ้นมา แล้วถามเพื่อนว่าเป็นอะไร มันบอกว่าแสบแก้วหู มันบอกว่าเสียงวี๊ดๆแหลมเข้าหูตลอดเวลา
แล้วมันทำท่าจะลงจากเตียงมันบอกว่าลุกไม่ขึ้น เหมือนมีคนมาถีบอกมันอยู่ พอมันลุกขึ้นได้มันก็มาขอนอนกับเพื่อนอีกคนที่อยู่อีกเตียงนึง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพราะไอ้คนที่มันไปนอนด้วยนี่มีพระ มีของดี
พอเช้าผมตื่นขึ้นมา เพื่อนคนที่แกล้งผมก็เก็บของกลับบ้านเลย กลับบ้านหายไป 1 วัน เช้าวันใหม่มันกลับมาอีกที คราวนี้เอาผ้ายันต์ มาแปะกลางห้องนอน พร้อมกับเอาพระมาวางที่หัวเตียงของเพื่อนในห้องทั้ง 4 เตียงเลย หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก
จนช่วงใกล้ปิดเทอม หลายๆคนก็มีที่อยู่ใหม่ ย้ายออกไปอยู่หอนอกมหาลัยบ้างแล้ว เพื่อนผมบางคนก็ออกไปอยู่กับแฟนบ้าง แต่ผมเองยังคงอยู่หอเดิม ไม่ได้ย้ายออกไป เพราะว่าค่าห้องที่นี่ถูก และไม่ได้เก็บค่าน้ำค่าไฟ เลยประหยัดเงินดี ผมก็อยู่กับเพื่อนเหมือนเดิม
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นที่หอนอก เป็นหอของเพื่อนในคณะ คราวนี้ผมไปกับเพื่อนที่คณะคนหนึ่ง มันชวนผมไปเอาของกับเพื่อนที่อยู่หอนอก ผมก็ไปเป็นเพื่อนมัน พอไปถึงผมก็ยืนคุยกันหน้าห้องไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะเกรงใจแฟนเพื่อน
ลักษณะห้องของเพื่อนจะมีห้องน้ำอยู่หน้าห้อง พอเดินเข้าไปอีกหน่อยก็จะเห็นเตียงนอน แต่จากจุดที่ผมยืนจะเห็นเตียงแค่ครึ่งเดียว บนเตียงผมเห็นขาแฟนเพื่อนผมยื่นมา ผมรู้เลยว่าเป็นเฟนเขา แต่ผมเห็นผู้หญิงอีกคนนึงนั่งอยู่ตรงเข่าของแฟนเพื่อนผม มองหน้าเห็นไม่ค่อยชัดแต่รู้ว่าเขาเป็นผู้หญิงผมยาว
พอผมมองเข้าไปเขาก็ขยับเข้าไปด้านในหลบสายตาผม ผมก็ไม่ได้คิดอะไร จนคุยกันเสร็จ พอกลับผมก็คุยกับเพื่อนที่มาด้วยว่า “เห็นผู้หญิงบนเตียงป่ะ น่ารักดี” เพื่อนผมก็ด่าเลย “แฟนเพื่อน มึงคิดอะไรเนี่ย”
ผมก็บอกไปว่า “ไม่ใช่แฟนมัน กูรู้จักแฟนมันดี ก็แฟนมันอ่ะนอนอยู่บนเตียง ยังเห็นขายื่นออกมาอยู่เลย คนที่นั่งอยู่ตรงหัวเข่าแฟนมันอ่ะ” เพื่อนผมก็บอกว่า “ไม่เห็นมีใครเลย” เดินเถียงกันมาตลอดทาง ผมจึงตัดสินใจโทรถามเพื่อนทันทีเลยว่าตอนนี้อยู่กับใคร เพื่อนก็บอกว่าอยู่กับแฟนแค่ 2 คน ผมก็เลยรู้ว่าสิ่งที่ผมเห็นนั้นไม่ใช่แฟนเพื่อนผมแน่นอน
แล้วผู้หญิงคนนั้นคือใคร และนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดทั้งหมดตอนที่ผมไปเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใจ จ.พะเยา เชื่อไหมครับตั้งแต่นั้นมา ผมต้องคล้องพระนอนอยู่ตลอดเวลาจนผมย้ายออกมาอยู่หอนอก และเช่าบ้านอยู่ข้างนอกก็ไม่เจอเหตุการณ์อะไรอีกเลย
ที่มาเดอะช็อค คุณต้น ถอดความโดยพันทิป