คนเรียกไม่เห็น แต่คนเห็นมันหลอน

คนเรียกไม่เห็น
คนเรียกไม่เห็น

เรื่องนี้ผมฟังจากเพื่อนรักเล่ามา ฟังแล้วหสนุกดีหลอนดี เพื่อนว่า พลาดไปได้ยังไงที่จะไม่เล่าให้ผมฟังในช่วงที่เกิดเรื่อง เพราะช่วงเดือนนั้น พูดได้คำเดียวว่ามันก็หลอนยาวเลย ผมไม่เกริ่นมากนะครับ เล่าเลยดีกว่า 

เพื่อนเล่าว่า เพื่อนของสามีฆ่าตัวตาย เครียดเรื่องส่วนตัว เพื่อนสามีคนนี้ มาที่บ้านเป็นประจำมานั่งกินดื่มที่บ้านบ่อยมาก แล้วตำแหน่งที่ชอบนั่งที่สุด คือ ตรงชิงช้า จะอยู่นอกตัวบ้าน เปิดประตูครัวออกมาปุ๊บก็เจอชิงช้าเลย  (ผมยังเคยไปนั่งเล่นตรงนั้นเลย) เพื่อนสามีคนที่ตายสนิทและนับถือ สามีเพื่อนมาก ๆ  ยิ่งรู้สาเหตุการตายก็ยิ่งสลดใจครับ (ไม่ขอเล่าถึง)

หลังจากผ่านเรื่องงานศพมา เพื่อนผมก็พบกับเรื่องแปลก ๆ ภายในบ้านของตนเอง เช่น มีเสียงคนเรียกเพื่อน เพื่อนเข้าใจว่าเป็นสามี พอถามสามี ๆ ก็บอกว่าผมเพิ่งเดินเข้ามาเอง ไม่ได้เรียกคุณเลย …. บางครั้งเงียบ ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อเพื่อนผมเลย

ซึ่งตัวเพื่อนเองกลางวันจะอยู่บ้านคนเดียว บางครั้งหางตาเห็นเป็นคนเดินผ่านไปมาในบ้าน รับรู้ได้ถึงว่าเดินผ่านจากตรงนี้ไปอีกที่หนึ่ง แว๊บ ๆ ๆ ๆ ตลอด แล้วที่สำคัญ หมาในบ้าน 5-6 ตัวก็จะเห่า แต่จะมีพระเอกอยู่ 1 ตัว ตัวนี้เพื่อนผมว่า เป็นหมามีเซ้นส์สำหรับสแกนวิญญาณ โดยเฉพาะ  (จากสถิติแล้วตรงไหนมีสิ่งนี้ (ผี) ไอ้หมาตัวนี้จะเห่าจุดนั้นไม่หยุด เห่าแบบประจันหน้าด้วย)  

เพื่อนว่าเป็นแบบนี้มาหลายวัน มันก็ไม่ไหวเหมือนกันรู้สึกหลอน แล้วก็เหมือนมีคนอยู่ในบ้านด้วย (ซึ่งระหว่างวันสามีไปทำงานส่วนลูกไปเรียน ตัวมันเองอยู่บ้านคนเดียว กับหมา 5-6 ตัว)  เพื่อนว่ากลัวมากนะ มันมีอะไรแปลก ๆ ในบ้านเนี่ย เช้าก็มีเสียงเรียกปลุก  กลางวันก็เหมือนมีคนอยู่ในบ้านเพิ่ม ระหว่างวันหรือตกเย็นไอ้หมาสแกนวิญญาณก็เห่า (ผมเรียกหมาว่าจุงนะครับ) มันอะไรกัน !!!

เช้าวันนี้เพื่อนก็เตรียมไปส่งลูกที่โรงเรียนตามปกติ คือนำรถมาจอดรั้วหน้าบ้าน กดรีโมทประตูปิด แล้วรอลูกลงมาจากข้างบนบ้าน แต่เพื่อนว่าทำไมลูกทำอะไรนานจัง ตาก็มองไปที่ต้นไม้ข้าง ๆ รั้ว ห่างจากรถแค่สองก้าว ใจมันคิดว่า ต้นไม้นี้ยิ่งโตทั้งใบทั้งดอกมันแผ่ ๆ ไม่สวยเลย เมื่อไหร่สามีจะเอาไปทิ้งซักทีนะ ไอ้สองกระถางนี่ !!!   แค่คิดจบ มีเงาขาว ๆ จากหน้ารถลอยผ่านข้างรถแล้วหายไปในต้นไม้นั้นทันที

เพื่อนว่าเห็นเต็มตาเลยเหมือนคน  นั่งนิ่งคิดไปคิดมา ต้นไม้ 2 ต้นนั้น มันเป็นของเพื่อนสามีที่ตายเค้าเอามาให้นี่หว่า เรื่องของเรื่องคือ ต้นไม้สองต้นนี้เพื่อนสามีที่ตายเค้าเอามาให้ เนื่องจากแม่ของคนตายบอกว่าชื่อต้นไม้นี้ มันไม่เป็นมงคลให้เอาไปทิ้งซะ  แต่คนตายเค้าเสียตายเลยเอามาให้สามีเพื่อน ซึ่งสามีเพื่อนก็ไม่ได้ถืออะไรเรื่องนี้

พอคิดออกเพื่อนว่ารีบตอบกลับในใจทันทีว่า “ไม่ทิ้งละ ไม่ทิ้งละ”  (เพื่อนผมเริ่มจับประเด็นนี้เป็นตัวเริ่มต้นเลยครับ) ซักพักลูกลงมา ขึ้นรถก็บึ่งไปส่งลูกทันที ระหว่างทางก็มีพูดคุยกับลูกไปด้วย แล้วลูกชายก็พูดขึ้นว่า …. “แม่ ๆ เมื่อคืนเกือบทั้งคืนเลยได้ยืนเสียงชิงช้าเหมือนมันโยกอ่ะ เพราะมันเป็น เสียงเอี๊ยดอ๊าด ๆ ลมแรงขนาดพัดชิงช้าโยกเลยเหรอแม่ ?” เพื่อนฟังแล้วเก็บข้อมูล… คงงั้นมั้งลูก  แต่ในใจคิดถ้ากลับจากส่งลูกแล้ว อยู่ในบ้านคนเดียว มันจะมีอะไรอีกไม๊นะ !

กลับเข้าบ้านทำโน่นนี่เพลิน ๆ จนมานั่งหน้าคอมฯ เพื่อท่องโลกออกไลน์ แล้วหางตาก็เจอกับสิ่งหนึ่งที่ เพื่อนเลยค่อย ๆ หันไปมอง ปรากฏว่า..

ไม่มีอะไร !  แต่ความรู้สึกมันเหมือนมีพลังงานหรืออะไรบางอย่าง ซักครู่หมาจุงสแกนวิญญาณ ก็เห่าทันที แล้วก็วิ่งไปตรงจุดนั้น ยืนเห่า ๆ ๆ ๆ ถอยหน้าถอยหลัง  เพื่อนผมมองแบบไม่กระพริบตา ใจสั่น เฮ้ย ๆ ๆ ๆ มันต้องมีอะไร ต้องมีดิ ไม่งั้น จุงไม่วิ่งไปเห่าจุดนั้นหรอก …. 

เพื่อนผมว่ามันพยายามข่มใจและทำทุกอย่างเป็นปกติ จนเย็นออกไปรับลูกกลับมา ค่ำหน่อยสามีกลับมา เลยบอกสามีว่าให้ช่วยย้ายชิงช้าไปในส่วนหน้าบ้านให้หน่อย สามีก็จัดการให้คนงานมาช่วยกันย้ายชิงช้าไปตั้งยังจุดที่กำหนด

เหตุการณ์เป็นแบบนี้ได้ซักสองสัปดาห์แล้ว ทั้งเสียงชิงช้าตอนกลางคืน จุงเห่า ความอึดอัดภายในบ้านต่าง ๆ  จนมาถึงคืนหนึ่งที่เพื่อนผมว่าโครตกลัวเลย คือ วันนั้นประมาณ 2 ทุ่ม ลูกขึ้นไปบนห้องแล้ว ตัวเองยังคงนั่งเล่นคอมฯ อ่านโน่นนี่อยู่ ได้ยินเสียงคนเดินมาที่ประตูครัว

ปกตินี้บ้านนี้เค้าชอบใช้ประตูครัวด้านข้างเป็นทางเข้าออกบ้านครับ ส่วนประตูกระจกหน้าบ้านจะปิดไว้และปิดม่าน 

เพื่อนว่าคงเป็นสามีกลับมา แต่…ทำไมเสียงรถเงียบจัง คงจอดไว้ข้างรั้วมั้ง อาจจะมาเอาของแล้วจะออกไปข้างนอกต่อ  เพื่อนเลยเรียกชื่อสามีแล้วบอกว่า ไม่ได้ล็อค ๆ แต่ก็เงียบ เพื่อนว่า ทำไมไม่เข้ามาซักที    อ๋อ ๆ สงสัยสูบบุหรี่อยู่ ซักแป๊บได้ยินเสียงลูกบิดประตูกุกกัก ๆ แต่ไม่เปิดเข้ามา เพื่อนหันไปมองเฮ้ยอะไรว๊ะ ? ใครว๊ะ ขโมยเหรอ !  คิดในใจ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ วิ่งไปที่ประตู แต่จริง ๆ แล้วประตูล็อค แล้วเสียงลูกบิดก็เงียบลง

เพื่อนตัดสินใจเปิดประตูผั๊วะออกไปเลย ไม่มีอะไรครับ เดินออกไปรั้วบ้านปิด หน้าบ้านไม่มีรถสามีจอด เฮ้ยอะไรวะ เหลือบตามองไปที่ชิงช้าก็ไม่มีอะไร รีบเดินเข้าบ้านปิดประตูครัวล็อคเลย ขึ้นบ้าน ๆ พอจะก้าวขึ้นบันได หมาจุง วิ่งไปเห่าที่ประตูครัว เพื่อนว่าใจเต้นจะหลุดออกจากอก ปากจะตะโกนเรียกลูกก็ไม่กล้า มองดูจุงซิว่าจะไปไหนต่อ จุงวิ่งไปที่ประตูกระจกหน้าบ้าน เห่าเสียงดังมาก ๆ ขาก็ตะกุยผ้าม่าน 

เพื่อนว่ากลัวฉิบ แต่ก็กลัวม่านพังเหมือนกัน เลยวิ่งไปอุ้มจุงแล้วถอยกลับมา จะเปิดม่านดีไม๊ว๊ะ?  ถ้าเปิดไปแล้วจะเห็นอะไรหรือปล่าว  

ยืนจ้องม่าน….. มีเสียงเรียกจากด้านหลัง  “แม่ ๆ ๆ จุงเห่าอะไรอ่ะ เห็นผีเหรอ?” ลูกชายเดินลงบันไดมา เท่านั้นแหละ เพื่อนผมมันเลยเดินไปเปิดม่าน ซึ่งจะเห็นชิงช้าพอดี แต่ก็ไม่มีอะไร  !!! พอลูกหยิบของทำอะไรเสร็จ เลยชวนกันขึ้นชั้นสองดีกว่า

ซัก 10 นาที ซึ่งเพื่อนยังนอนไม่หลับ สามีเพื่อนก็กลับมา เพื่อนเดินลงมาอีกครั้ง เพราะมีเสียงรถยนต์ เสียงเปิดประตู สามีเปิดประตูครัวเข้ามา จุงก็เห่าทันที เห่าไม่ยอมหยุดด้วย จนสามีเพื่อนเดินมาที่โซฟา แต่จุงยังคงยืนเห่าอยู่ตรงครัว เพื่อนว่า มันต้องมีอะไรผิดปกติแล้วหล่ะ ไม่งั้นจุงไม่เห่านานแบบนี้   

เพื่อนเลยถามสามีตรง ๆ ว่า เคยเรียกเพื่อนที่ตายเข้ามาที่บ้านไหม สามีเพื่อนตอบว่า เรียกซิ ! ผมเรียกมันทุกวันแหละ ว่าถ้าไม่รู้จะอยู่ที่ไหนก็มาอยู่ที่บ้านกับกรูก็ได้ … เออให้มันได้ยังนี้ซิ !

ไอ้สิ่งที่เพื่อนผมคาใจ และหลอนมาหลายสัปดาห์ ได้ถูกเฉลยด้วยคำตอบสามีละ พอขึ้นนอนเพื่อนผมเลยเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้สามีฟัง ว่ามันมีผลตามมายังไรบ้าง ปรากฏว่า สามีเพื่อนว่า คิดมาก ไม่มีอะไรหรอก คนมันเคยมา มันมาเดี๋ยวมันก็ไป … เหรอออออออ เพื่อนผมบอกสามีว่า ไม่ได้โดนเองนิ เลยไม่รู้ฤทธิ์หลอนว่ามันเป็นยังไง เพื่อนผมนอนคิดจนไปนึกถึงพี่คนหนึ่งเค้าเคยเป็นร่างทรงแถว ๆ วัดแขก พี่คนนี้ค่อนข้างเก่งครับ แต่ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว

เช้าวันพรุ่ง ทำภารกิจส่งลูกเสร็จจนกลับเข้าบ้าน ทีนี้รู้เต็มอกแล้วนิ ว่าไอ้ที่แว๊บไปแว๊บมาในบ้าน เค้าคือใคร จุงเห่าตรงไหนคงอยู่ตรงนั้นใช่ไหม

เพื่อนรีบติดต่อ พี่ร่างทรงที่พูดถึงข้างต้น ทั้งหาเบอร์โทร หาจากเพื่อนใน FB จนเจอครับ แซตเฟตบุ๊คไม่ทันใจแล้วครับ โทรเลยดีกว่า เตรียมสมุดปากกาพร้อม … เล่าให้พี่เค้าฟังกับเรื่องที่เกิดขึ้น พี่ร่างทรงบอกว่า ถ้าสามีเรียก…เค้าเข้าบ้าน เค้าก็เข้าได้ซิ ไม่ว่าจะเรียกใครทั้งนั้นแหละ….อ้าวแล้วเจ้าบ้านเจ้าเรือน พระภูมิเจ้าที่ เค้าให้เข้าเหรอ ? …ทำไมจะเข้าไม่ได้ล่ะ ในเมื่อเจ้าบ้านคือสามีคุณอนุญาตเค้าแล้ว ท่านเจ้าที่เจ้าทางก็ต้องเปิดทางให้เข้ามาซิ  

แล้วพี่ร่างทรงก็ให้จดคำพูดเค้า และให้เพื่อนผมจุดธูปบอกกับเจ้าบ้าน พระภูมิเจ้าที่ ว่าไม่ให้คนนี้เข้ามาในบ้านอีก  พอเพื่อนได้รับคำแนะนำจากพี่ร่างทรง ก็ปฎิบัติตามทันที  ความรู้สึกอย่างแรกที่เพื่อนได้รับคือ บรรยากาศในบ้านกลับมาเป็นเหมือนเดิม  มองไปรอบ ๆ บ้าน รู้สึกไม่เหมือนเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว 

บ่ายวันนั้นเพื่อนว่ามันก็ยังคงทำอะไรเป็นปกติในบ้าน แต่ความรู้สึกแตกต่างจริง ๆ  แอบคิดในใจถึงเพื่อนสามีที่ตายว่า โทษทีนะพี่ ที่ให้อยู่ที่นี่ไม่ได้ …

เย็นนั้นออกไปรับลูกชาย ระหว่างทางก็คุยกัน ลูกชายว่า ทุกคืนได้ยินเสียงชิงช้าตลอดเลย ย้ำว่าทุกคืนครับ หมาบ้านอื่นก็หอนด้วยนะแม่ กลัวก็กลัว แต่ง่วงมากกว่า … เพื่อนผมเลยว่า เดี๋ยวลองดูคืนนี้ซิ จะได้ยินเสียงชิงช้าอีกหรือเปล่า .. ลูกชายเลยหันมาพูดว่า เอาแค่ว่า จุงเห่าตรงไหนใครกล้าไปยืนตรงนั้นดีกว่าไม๊แม่ 555 จากเรื่องหลอนกลายเป็นเรื่องฮาไปครับ 

เพื่อนว่า หลังจากที่จุดธูปบอกพระภูมิเจ้าที่ว่าไม่ให้สิ่งอื่นเข้ามาในบ้าน ที่บ้านก็สงบสุขดี แต่จะมีก็แต่เรื่องเดิม ๆ ที่เพื่อนผมสัมผัสได้ครับ เช่น เจ้าที่ ๆ บ้าน เทพที่ดูแลที่บ้าน ประมาณนี้ครับ (เรื่องเทพที่ดูแลเพื่อน เรื่องนี้ก็น่ากลัวครับ) ส่วนเรื่องชิงช้า หลังจากวันนั้นดึก ๆ ก็ไม่ได้ยินเสียงเลย ทั้งที่ก็ไม่ได้มีใครไปหยอดน้ำมันให้มันลื่น

เพื่อนเล่าว่า บางครั้ง ถ้าตกดึกแล้วอยู่ดี ๆ จุงเห่า เพื่อนผมกับลูกจะมองหน้ากันแล้วรู้อัตโนมัติทันทีว่า มันต้องมีอะไรตรงนั้นซินะ เผ่นขึ้นข้างบนดีกว่า  ผมถามมันว่า แค่ขึ้นข้างบนจะหนีพ้นเหรอ เพื่อนตอบว่า ก็แค่รู้สึกสบายใจขึ้นเว้ยยย…เรื่องก็จบเพียงเท่านี้ เป็นไงกันบ้างครับ

ขอบคุณที่มาพันทิป

ติดตามอ่านเรื่องเล่าผีต่อได้ที่ คลังหลอน

Previous articleยุติการเผยแพร่
Next articleอยู่ไม่ไหว หอพักใหม่ หน้าเมืองเอก